ตอนที่ 19ไม่อนุญาตให้คนอื่นทำร้ายเขา   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 19ไม่อนุญาตให้คนอื่นทำร้ายเขา
ต๭นที่ 19ไม่อนุญาตให้คนอื่นทำร้ายเขา นินัทธ์ยังคงมองจอโทรทัศน์อย่างไม่กระพริบตาเหมือนเก่า ทำเหมือนเธอเป็นอากาศธาตุ จันทรชาก็ไม่ยอมท้อถอย กลับยิ้มและถามกลับ “คุณชายคะ คุณเป็นผู้สืบสกุลเพียงคนเดียวของตระกูลวรวงศ์คุณากร คุณคงรู้สึกกดดันแน่เลยใช่มั้ยคะ” นินัทธ์เปลี่ยนอิริยาบถให้ตัวเองนั่งสบายมากขึ้น น้าลิลลี่ก็รีบหยิบหมอนอิงมาหนุนหลังให้เขาทันที พอนินัทธ์นั่งพิงหมอน แล้วหรี่ตามองหน้าจอโทรทัศน์ต่อไป จันทรชามองไปที่ชายคนนี้ทีหนึ่ง แล้วเงยหน้ามองเศวยากับธนเทพ เพื่อบอกให้พวกเขารู้ด้วยสีหน้าท่าทางว่าถ้าเป็นแบบนี้คงสัมภาษณ์ต่อไปไม่ได้ ในตอนนั้นธนเทพก็เอ่ยขึ้นมา “กิจกรรมการดูรายการโทรทัศน์เป็นวิธีคลายเครียดและลดความกดดันในจิตใจของคุณชายนินัทธ์น่ะ” จันทรชารีบถามต่อทันที “คุณชายนินัทธ์เป็นเก็บตัวอยู่กับบ้านไม่ค่อยออกไปไหน ไม่เคยปรากฏตัวให้สาธารณะชนเห็นมาก่อน และไม่เคยมีโอกาสได้ร่วมกิจกรรมใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตระกูลวรวงศ์คุณากรเลย ไม่ทราบว่า นี่คือสิ่งที่ท่านประธานเดชชาตรีตั้งใจที่จะทำเพื่อปกป้องคุณนินัทธ์ใช่มั้ยคะ” ธนเทพแสยะยิ้มมุมปากเล็กน้อย “กิจการของวรวงศ์คุณากรเป็นบริษัทใหญ่ ก็เลยต้องรักษาภาพลักษณ์ให้มากเข้าไว้น่ะครับ” อีกด้านหนึ่ง ใบหน้าของเศวยาก็เย็นชาขึ้นมาทันที ธนเทพพูดออกมาได้อย่างเต็มปากว่านินัทธ์ทำให้ภาพลักษณ์ของตระกูลวรวงศ์คุณากรเสื่อมเสีย! เธอกวาดสายตาไปมองธนเทพด้วยความไม่พอใจเล็กน้อย เธอเริ่มไม่ชอบอากัปกิริยาในตอนที่ธนเทพพูดถึงนินัทธ์! พอจันทรชาได้ฟังก็เข้าใจความหมายทันที แล้วเธอก็หันไปมองนินัทธ์ที่ไม่สะทกสะท้านกับสิ่งรอบตัวเลยแม้แต่น้อย ราวกับว่าสิ่งที่พวกเขาคุยกันอยู่ไม่ได้พูดถึงเขาเลย สำหรับเขาแล้วไม่มีอะไรที่น่าสนใจไปมากกว่าทอมกับเจอร์รี่ที่อยู่ในโทรทัศน์ ไม่ว่าจะมองยังไงทายาทผู้ดูแลกิจการเพียงคนเดียวของตระกูลก็ไม่ควรจะมีสภาพที่ตกต่ำขนาดนี้ แม้ว่าจันทรชาจะไม่รู้ฐานะที่แน่นอนของธนเทพ แต่เขาพาพวกเธอมาที่นี่ได้ราวกับเข้าออกสวนดอกไม้หลังบ้านของตัวเอง แล้วยังตอบคำถามของเธอแทนนินัทธ์อีก ดูเหมือนว่าเขาน่าจะมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งเป็ยอย่างมากกับตระกูลวรวงศ์คุณากรเป็นแน่ จันทรชาตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ปล่อยโอกาสนี้ไปง่ายๆ เธอเปิดประเด็นทันที “ได้ข่าวมาว่า อีกไม่นานต่อจากนี้จะมีการเรียกประชุมคณะกรรมการบริหารกิจการในเครือของตระกูลวรวงศ์คุณากรประจำปี และในการประชุมในครั้งนี้เป็นไปได้ว่าจะตัดสินใจเลือกผู้คุมหางเสือของกิจการของตระกูลในอนาคต” เธอหยุดไปพักหนึ่งและถามต่อ “คุณชายนินัทธ์คือทายาทเพียงคนเดียวใช่รึเปล่าคะ” เธอได้ข่าวมาบางอย่าง ตระกูลวรวงศ์คุณากรไม่ได้อธิบายความผิดพลาดไว้ละเอียดมากนัก มีการขัดแย้งกันภายในที่รุนแรง เริ่มจากรุ่นพ่อของเดชชาตรี ทุกคนในตระกูลต่างจ้องจะเอาตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดของเดชชาตรี หลังจากเห็นสภาพที่เหมือนกับจะไร้ความสามารถของนินัทธ์ ถึงแม้ว่าเดชชาตรีจะอยากประคับประคองตำแหน่งนี้ต่อไปอีก แต่ถ้าหากผู้ถือหุ้นคนอื่นในตระกูลที่มีหุ้นกับกิจการของตระกูลนี้รวมตัวกันต่อต้าน เขาก็คงไม่มีทางจะสมดังปรารถนาได้! ธนเทพครุ่นคิดอยู่กับคำพูดของจันทรชา ‘ทายาทเพียงคนเดียวงั้นเหรอ...’ ธนเทพยิ้มพร้อมกับแววตาที่มีความมืดมิดลึกลับอยู่ภายใน “จะมีแค่คนเดียวรึเปล่าก็ไม่รู้หรอก ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของคุณลุงเดชชาตรีน่ะ” เศวยามองสายตาที่เต็มไปด้วยความเย็นชาที่อ่านได้ยากของเขา ธนเทพเป็นลูกบุญธรรมของเดชชาตรี สถานะของธนเทพยังไม่ได้เปิดเผยให้สาธารณะชนได้รับรู้ แต่ว่าเดชชาตรีชอบเขามากๆ ตรงกันข้ามกับนินัทธ์ที่เป็นลูกแท้ๆ ของเดชชาตรี เธอหันไปมองนินัทธ์ด้วยความสงสัย ริมฝีปากที่สวยงามของเขาสัมผัสได้ถึงความสุขจากการถากถาง จากนั้นเขาก็หดขาที่วางอยู่บนโต๊ะน้ำชากลับมา แล้วนั่งเอาขาชิดกับหน้าอก สองมือกุมเข่าไว้ เอนกายลงแล้วขดร่างสูงเอียงคอดูโทรทัศน์อย่างตั้งอกตั้งใจ เขาเป็นแบบนี้มาตลอดเขาจะไม่เอาสภาพจิตใจของตนมาสิ้นเปลืองกับสิ่งที่เขาไม่สนใจ ไม่ว่าฝ่ายตรงข้ามอยากจะทำร้ายจิตใจเขาหรือใส่ร้ายป้ายสีเขา! แต่ถ้าหากเขาสนใจ ถึงจะต้องการชีวิตเขา เขาก็จะเอามือเขาที่อ่อนโยนนี้เข้าไปในช่องอกด้วยตัวเอง และคว้านหัวใจที่ยังเต้นอยู่ออกมา… นี่แหละ...คือนินัทธ์ ความรัก ความอคติและการพูดจากำกวมที่เปี่ยมไปด้วยความหมายของเขาทำให้คนที่ไม่รักเขาลำบากใจ และยังทำให้คนที่รักเขา...เจ็บปวดหัวใจ เธอไม่มีทางที่จะอดทนอดกลั้นกับคนอย่างเขาได้ ไม่ว่าใครก็คงทนไม่ได้! เศวยาหันไปหาธนเทพที่เยือกเย็นและเต็มไปด้วยพลังอำนาจ “แน่นอน จะมีเพียงแค่คนเดียวหรือไม่ก็ตาม ท่านประธานเดชชาตรีบอกไว้แบบนั้น แต่คนนอกก็ไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาแทรกแซงเรื่องนี้นะคะ” เธอจงใจเน้นหนักคำว่า ‘คนนอก’ คำๆนี้ทำให้ธนเทพรู้สึกเสียดหูขึ้นมา เขาลืมตาที่ดูมืดมิดราวกับท้องฟ้ายามราตรี แล้วจ้องเขม็งไปที่เศวยา “หือ? ความหมายของคุณเศวยาก็คือ คุณลุงเดชชาตรียอมเสี่ยงที่จะผิดใจกับเหล่าผู้ถือหุ้น และจะมอบกิจการนี้ให้กับคนที่ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องธุรกิจน่ะเหรอครับ” เขาไม่ได้คำนึงเลยว่านินัทธ์ก็ยังอยู่ตรงนั้น พูดจาสองแง่สามง่ามจนทำให้จันทรชาบีบๆ ถูๆ คิ้วของตัวเอง ความจริงแล้วธนเทพคนนี้เกี่ยวข้องอะไรกับตระกูลวรวงศ์คุณากรกันแน่ น้ำเสียงแบบนี้ก็ดูสะเพร่าเกินไปรึเปล่า ถ้ากลับไปเมื่อไหร่เธอจะหาข้อมูลผู้ชายคนนี้อย่างละเอียดอย่างแน่นอน! “เหอะๆ แล้วไงคะ ธุรกิจล้มละลาย มันก็เป็นเรื่องของตระกูลวรวงศ์คุณากรด้วยเหรอคะ” เศวยายิ้มหน้าบานด้วยความเย่อหยิ่งและมั่นใจในตัวเองเหมือนกับดอกโบตั๋นที่บานสะพรั่งในเดือนเมษายน “ยกกิจการให้ลูกชายของตัวเอง ก็ยังดีกว่ายกให้คนนอกนี่ ถ้าเป็นคนที่มีประสบการณ์ด้านธุรกิจก็ยิ่งมีความคิดเอนเอียง ไม่ถูกต้อง ไม่มีมาตรฐาน ไม่อย่างนั้นก็ไม่รู้ว่ากิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากรจะมีชื่อเสียงอยู่ได้อีกนานเท่าไหร่” ทันใดนั้นก็เผยให้รอยยิ้มที่สวยงามอยู่บนใบหน้าของเธอ “อย่างเช่น ตระกูลศิริวัชรภัทร ตระกูลภัชรภิรมย์ หรือไม่ก็...บริษัทเค.ดี” พอได้ยินคำว่า ‘บริษัทเค.ดี’ สายตาของธนเทพก็เปลี่ยนไปจากนั้นเขาก็พูดเบาๆ ว่า “มุกนี้ไม่ขำนะครับ” เมื่อรู้สึกได้ว่าบรรยากาศเริ่มจะไม่ค่อยดี จันทรชาก็ไกล่เกลี่ยพอเป็นพิธี “เรื่องที่เศวยาเชี่ยวชาญที่สุดก็คือมุขแป้กน่ะค่ะ ถึงมุขจะไม่ฮา แต่เธอกลับชอบเล่นมุกแป้กตลอดโดยไม่เคยเบื่อเลย” ทันใดนั้นก็มีเสียงหัวเราะที่ทุ้มต่ำปนกับเสียงหัวเราะแบบผู้หญิงที่อ่อนโยนและดึงดูดผู้คนดังขึ้นมา 
已经是最新一章了
加载中