ตอนที่ 22 เข้าสู่สายตาของสาธารณะชน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 22 เข้าสู่สายตาของสาธารณะชน
ต๭นที่ 22 เข้าสู่สายตาของสาธารณะชน “เอาเรื่องของเธอกับธนเทพมาบอกฉันทำไมเหรอ” เศวยายิ้มเล็กน้อย และพูดอีกว่า “ไม่ต้องบอกฉันหรอกว่าเธอกับเขาไปถึงขั้นไหน ถึงแม้ว่า...เธอกับเขาถึงขั้นอะไรด้วยกันบนเตียง มันเกี่ยวอะไรกับฉันเหรอ” ในตอนที่ชวนีพูดอยู่ สายตาที่แหลมคมของเศวยาก็กวาดไปเห็นรอยดูดที่กระดูกไหปลาร้าและริมฝีปากที่บวมอิ่มเอิบของชวนี “ชวนี เธอรู้สึกระแวงเหรอ ถึงได้มาพูดแบบนี้กับฉันลับหลังเทพน่ะ” “ยา อย่าเข้าใจผิดนะ” ชวนีรีบอธิบาย “ฉันกับเทพก็แค่โตมาด้วยกันก็เท่านั้น ไม่ได้มีอะไรอย่างที่ยาคิดเลยนะ…” เธอยังอยากจะพูดต่ออีก แต่เศวยาก็ยกมือขึ้นมาขัดจังหวะ “ฉันไม่สนซะหน่อยว่าความสัมพันธ์ของเธอกับหมอนั่นจะเป็นยังไง” เธอลุกขึ้น รื้อหาชุดนอน แล้วเดินไปที่ห้องอาบน้ำ ในตอนที่ปิดประตู ก็มีน้ำเสียงที่เฉยเมยเหนื่อยหน่ายดังลอดออกมา “อ้ะ จริงสิ เธอช่วยไปบอกธนเทพให้หน่อย ว่าทีหลังไม่ต้องพูดว่าฉันเป็นหนึ่งเดียวของเขาอะไรพวกนี้ ฉันจะรู้สึกว่ามันยุ่งยากลำบากใจมาก” ชวนีกัดริมฝีปากจนซีด แล้วมองไปที่ประตูห้องอาบน้ำด้วยสายตาเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ การรายงานข่าวของจันทรชาดึงดูดความสนใจได้อย่างล้นหลาม ‘คนที่มีนิสัยชอบสันโดษ เอาแต่ใจตนเอง อารมณ์ร้าย ไม่มีเหตุมีผลจะมาเป็นผู้สืบทอดตระกูลวรวงศ์คุณากรได้หรือ เขามีคุณสมบัติและศักยภาพพอที่จะรับตำแหน่งผู้สืบทอดของตระกูลนี้ได้หรือ’ โลกภายนอกคาดเดากันไปต่างๆ นานา เดิมทีเหล่าบอร์ดบริหารของกิจการตระกูลวรวงศ์คุณากรที่ไม่ชื่นชมการที่นินัทธ์จะมาดำรงตำแหน่งท่านประธานอยู่แล้ว ก็ฉวยโอกาสนี้ในการลุกขึ้นมาต่อต้าน ในห้องทำงานของอาคารสำนักงานใหญ่ตระกูลวรวงศ์คุณากร เดชชาตรีมองไปที่หน้าต่าง โต๊ะที่อยู่ด้านหลังมีหนังสือพิมพ์ฉบับของวันนี้วางอยู่ ผ่านไปไม่นาน ประตูก็ถูกเปิดออก ธนเทพเดินเข้ามาจากข้างนอก สายตาของเขามองไปเห็นหนังสือพิมพ์ที่อยู่บนโต๊ะ สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “คุณลุงเดชชาตรี ต้องการพบผมเหรอครับ” เดชชาตรีไม่ได้หันมา แต่พูดด้วยน้ำเสียงที่ดังก้องกังวานสยบความนิ่งของธนเทพ “คุณลิลลี่บอกว่าแกพานักข่าวไปที่บ้านนั้น” “ก็...ใช่ครับ” ธนเทพยอมรับอย่างเจ็บปวดทรมาน “ทำไม” เดชชาตรีขมวดคิ้วแล้วค่อยๆ หันใบหน้าเหลี่ยมๆ ของเขามองธนเทพด้วยสายตาที่หนักแน่นมั่นคง ธนเทพยิ้มเล็กน้อย แล้วเงยหน้าจ้องคนตรงหน้าเขม็ง “ลุงเดช ลุงอยากจะซ่อนนินัทธ์ไปจนถึงเมื่อไหร่” เดชชาตรีคิ้วขมวด แล้วหยิบหนังสือพิมพ์บนโต๊ะขึ้นมา “เพราะแบบนี้แกถึงได้พานักข่าวนั่นไป เพื่อให้เห็นสภาพที่ย่ำแย่น่ารังเกียจของเด็กนั่นเหรอ น่าขายหน้าสิ้นดี!” เสียงทะเลาะวิวาทที่ดังลอดออกมาจากห้องทำงานของท่านประธานทำให้คนที่อยู่นอกห้องก้มหน้าก้มตาทำงานเอายกใหญ่ เพราะกลัวเจ้านายจะยังคงอารมณ์เสียอยู่ ไม่นานนัก ธนเทพก็เดินออกมาจากในห้อง ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขาเผยให้เห็นรอยยิ้มที่มั่นใจเล็กน้อย โทรศัพท์สายในที่โต๊ะของเลขาดังขึ้น จากนั้นเสียงของเดชชาตรีก็ดังลอดออกมา “เรียกจารุภาให้เข้ามา…” จารุภาคือผู้จัดการฝ่ายประชาสัมพันธ์ของบริษัทตระกูลวรวงศ์คุณากร อายุสามสิบแต่หน้าที่การงานโดดเด่น หน้าตาสะสวยดูสง่างาม เปี่ยมไปด้วยความสามารถ เธอก้มหัวแล้วผลักประตูเข้ามา “ท่านประธานเรียกพบดิฉันเหรอคะ” เดชชาตรียืนหันหลังให้เธอ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่ดูมืดมน “ไปแจ้งสื่อมวลชนซะ ว่าในงานครบรอบการจัดตั้งกิจการในเครือของตระกูลวรวงศ์คุณากรในปีนี้ นินัทธ์จะได้รับตำแหน่งประธานคนต่อไป” จารุภางงไปเล็กน้อย “ท่านประธาน…” เดชชาตรีรู้ว่าเธอจะพูดอะไร เขาจึงยกมือขึ้นมาเพื่อหยุดเธอก่อน “ตามนี้ละกัน เธอไปเตรียมตัวได้แล้ว” จารุภารู้อยู่ลึกๆ ว่าท่านประธานพูดคำไหนคำนั้น เธอจึงไม่พูดอะไรมากไปกว่านั้นอีก “ทราบแล้วค่ะท่าน” พอจันทรชารู้ข่าวว่านินัทธ์จะได้ตำแหน่งเป็นประธานใหญ่แห่งกิจการในเครือของตระกูลวรวงศ์คุณากรในวันครบรอบที่จะถึงนี้ ก็โทรไปหาเศวยา ในตอนนั้นเศวยากำลังอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ ทันทีที่เธอกดรับสายของจันทรชา เธอก็ตำหนิปลายสายทันที “จันทรชา ทำไมแกถึงเขียนข่าวของนินัทธ์แบบนั้น แกเขียนข่าวให้เขาดูดีหน่อยไม่ได้เหรอ” “คุณผู้หญิงคะ จะอวยก็ต้องอ้างตามหลักความจริงสิคะ! ฉันไม่ได้เขียนข่าวว่าเขาดูไม่เต็มบาตรซะหน่อย” จันทรชาขี้เกียจจะอธิบาย เลยพูดออกมาตรงๆ “ข่าวใหม่ ในวันฉลงครบรอบการก่อตั้งกิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากรในอีกสองวันข้างหน้า นินัทธ์จะได้รับตำแหน่งประธานใหญ่ของตระกูลอย่างเป็นทางการ” เศวยาวางหนังสือพิมพ์ลงอย่างลนลาน “ทำไมถึงได้เร็วขนาดนั้น!” พอได้ยินน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความสนใจ จันทรชาพูดออกมาพลางยิ้มแต่เหมือนไม่ยิ้ม “ยัยบ๊อง ถึงฉันไม่รู้ว่าเพราะอะไร แต่ฉันดูออกนะว่าแกสนใจตานั่นมาก อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ ในงานเลี้ยงของตระกูลวรวงศ์คุณากรจะต้องเชิญพวกพรรคการเมืองมาแน่นอนเลย แค่นี้นะ ฉันยังมีงานต้องทำ วางละนะ” เศวยาวางสาย และเก็บซ่อนสายตาที่เหมือนกับนกฟินิกส์ของเธอที่ยิ้มขึ้นเล็กน้อย ธนเทพพาจันทรชาไปสัมภาษณ์นินัทธ์เพราะอยากบอกให้คนทั้งโลกรู้ว่าที่จริงแล้วนินัทธ์เป็นคนที่มีแนวโน้มว่าจะเป็นโรคซึมเศร้า คนแบบนี้ไม่เหมาะสมที่จะเข้ามาดูแลกิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากรแต่แรกแล้ว ทำได้เพียงแค่ให้นินัทธ์มาปรากฏตัวอยู่ท่ามกลางสายตาของสาธารณชน บางทีอาจปลอบโยนพวกถือหุ้นของเขาไม่ได้ในเร็วๆ นี้ แต่ถ้าเป็นแบบนี้ ตอนนี้นินัทธ์จะเปิดเผยสู่โลกภายนอก การกระตุ้นเพียงเล็กน้อยก็จะทำให้นิสัยที่แท้จริงของเขาถูกเปิดเผย และท้ายที่สุดก็จะทำให้ถูกขับไล่ออกจากตระกูลวรวงศ์คุณากรไปตลอดการ สถานะลูกชายคนเดียวของเขาก็ยังช่วยอะไรเขาไม่ได้ ธนเทพ ในครั้งนี้นายเริ่มจะลงมืออย่างโหดร้ายมากเกินพอแล้ว เศวยากระตุ้นริมฝีปากสีแดงที่เปี่ยมล้นไปด้วยความเฉยเมย ในชาตินี้ มีเธออยู่ ก็คงจะไม่ง่ายแบบนั้นแล้ว เศวยาตื้อพ่อนานมาก สุดท้ายชิตวรก็ยอมพาเธอไปร่วมงานเลี้ยงครบรอบการก่อตั้งกิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากร การที่ชิตวรทำแบบนี้ ทำให้ดุสิดาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ งานนี้เป็นโอกาสของเธอที่จะออกไปปรากฏตัวอย่างเฉิดฉายในฐานะภริยาของนายอำเภอ แต่นึกไม่ถึงเลยว่าสามีของเธอจะพาลูกสาวตัวเองไปร่วมงาน! จนทำให้เธอไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน หลังจากชวนีได้รู้เข้า ก็ไม่ได้บอกธนเทพ เธอรู้สึกได้ถึงการใช้อำนาจคุกคามของเศวยา ชวนีไม่มีทางเปิดโอกาสให้ธนเทพอยู่กับเศวยากันสองต่อสองได้อีก! ในวันจัดงานเลี้ยงฉลองครบรอบการก่อตั้งกิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากร เศวยากับพ่อมาที่งานเลี้ยงกลางคืนที่จัดขึ้นในโรงแรมห้าดาว ทันทีที่เข้าไปในห้องจัดงานเลี้ยง ดวงตาของผู้ชายทุกคนในห้องนั้นต่างจับจ้องมาที่เธอ ในตอนนั้นเศวยาสวยมาก ชุดเดรสเปิดไหล่สีม่วงแดงอย่างแชมเปญที่ยาวลากคดเคี้ยวไปตามพื้น ผมยาวเป็นทาง ไม่มีเครื่องประดับสักชิ้น มีเพียงแค่ดอกท้อที่สวยงามทัดหูเธออยู่ ใบหน้าของเศวยาสวยงามกว่าดอกท้อสีแดงของเธอเสียอีก พอเห็นชิตวร เดชชาตรีก็เดินเข้ามาต้อนรับด้วยตัวเอง “ท่านนายอำเภอ ขอขอบพระคุณท่านมาก ที่สละเวลาอันมีค่ามาเข้าร่วมงานเลี้ยงฉลองครบรอบการก่อตั้งกิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากรนะครับ” ชิตวรยิ้มพลางพูดว่า “กิจการของตระกูลวรวงศ์คุณากรเป็นกิจการดาวเด่นในเมืองของพวกเรา ต่อให้ผมยุ่งมากแค่ไหน ก็ต้องมาร่วมงานให้ได้ครับ” “ฮะๆ ที่ตระกูลวรวงศ์คุณากรมีวันนี้ไม่ได้ถ้าไม่ได้รับการสนับสนุนที่มากมายล้นหลามจากรัฐบาล” ในขณะที่ทั้งสองกำลังทักทายปราศัยกัน สายตาของเศวยาก็มองไปรอบๆ อย่างผ่านๆ แต่กลับไม่พบนินัทธ์เลย พอเดชชาตรีสังเกตเห็นสาวสวยที่อยู่ข้างๆ นายอำเภอชิตวร เขาก็ถามออกมาอย่างแปลกใจ “ไม่ทราบว่า ท่านนี้คือ…” “อ้ะ เธอคือเศวยา ลูกสาวของผมครับ เธออ้อนผมขอตามมาให้ได้ ผมไม่มีทางเลือกเลยต้องพาเธอมาด้วยน่ะครับ” ชิตวรพูดจบก็หันไปคุยกับเศวยา “ยา สวัสดีลุงเดชชาตรีสิลูก” “สวัสดีค่ะ คุณลุงเดชชาตรี” เศวยามีมารยาทมาก ไม่ว่าจะโบกมือหรือก้าวเท้าเดินก็ล้วนแต่ทำให้คนเห็นได้ว่าเป็นบุตรสาวของครอบครัวที่มั่งมีที่มีกิริยาท่าทางสง่างาม มีมารยาท เดชชาตรีพยักหน้าไม่หยุด พลางกล่าวชื่นชม “ผมได้ยินชื่อเสียงของลูกสาวท่านนายอำเภอมานานแล้ว ที่แท้ก็ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นนี่เอง” เศวยายิ้มเป็นนัย เธอไม่ได้สนใจการพูดคุยกันแบบนี้เลยแม้แต่น้อย จึงหาข้ออ้างที่จะแยกตัวออกจางการสนทนา ในตอนที่เธอเดินมาถึงมุมตักอาหาร ก็มีใครบางคนสะกิดไหล่เธอเบาๆ พอหันไปเศวยาก็ได้พบกับรอยยิ้มที่สวยงามของจันทรชา “จันทรชา?” เศวยาเห็นเพื่อนของตนที่แต่งตัวดูต่างไปจากปกติ จันทรชาสวมชุดราตรีสีดำทั้งตัว มัดผมหางม้าพร้อมกับปล่อยหน้าม้าไว้ ในมือถือแก้วค้อกเทล กระพริบตาใส่เศวยารัวๆ “ฉันรู้อยู่แล้วว่าแกต้องมา” เศวยายิ้มแล้วหันไปมองรอบๆ “นินัทธ์ล่ะ” จันทรชายักไหล่ “ไม่รู้สิ แต่งานนี้เขาเป็นพระเอก เป้าหมายของสื่อมวลชนในวันนี้ก็คือเขานี่แหละ” เศวยาดูเหม่อลอยอย่างเห็นได้ชัด ‘คุณชิตวรจะต้องเตรียมพร้อมมาดีแล้วแน่ๆ วันนี้...คงจะไม่มีอะไรผิดพลาดล่ะมั้ง’ ในตอนนั้น จันทรชาจ้องไปที่ด้านหลังของเศวยา แล้วยิ้มมุมปากอย่างมีเลศนัย “เดี๋ยวฉันไปทักทายเพื่อนร่วมงานของฉันตรงนั้นก่อนนะ” “อื้ม” ในตอนที่เศวยาเงยหน้าขึ้น ก็เห็นว่าธนเทพกำลังเดินตรงมาหาเธอ ดวงตาที่ดำมืดเหมือนกับหมึกของเขามองมาที่เธอด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย เศวยาหันกลับ แล้วดึงจันทราเข้าหาตัว “ขอฉันไปกับแกนะ” จันทรชาเลิกคิ้วสูง แล้วพาเศวยาเดินไปหากลุ่มนักข่าวที่อยู่มุมห้องโดยที่ไม่ได้พูดอะไร ธนเทพยืนขมวดคิ้ว จ้องมองเธอจากด้านหลัง ทำไมเศวยาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้ ชวนีไม่ได้บอกอะไรเขาเลย พอเห็นว่าเศวยาใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว จันทรชาก็เข้ามากระซิบข้างหู “เหมือนกับว่าลูกบุญธรรมของตระกูลวรวงศ์คุณากรคนนี้จะจีบแกอยู่นะ” เศวยารู้ว่าไม่มีเรื่องอะไรที่จะปิดบังจันทรชาได้ แต่เธอก็ไม่ได้ปฏิเสธ “เห้ย อย่ามาขุดข้อมูลจากฉันสิ” จันทรชาหัวเราะ “จะขุดไม่ขุดก็ต้องดูเนื้อข่าวก่อนนะ” ทันใดนั้นก็มีเสียงเปิดประตูดังขึ้นมาเบาๆ ทุกคนต่างหันไปมองอย่างอดใจไม่ได้ ในตอนที่เห็นคนเดินเข้ามา เศวยาก็รู้สึกแข็งทื่อไปในทันที เหมือนว่าภาพตรงหน้าหยุดนิ่งไปหนึ่งวินาที “นั่น...นั่นคุณชายนินัทธ์รึเปล่า” กลุ่มคนต่างค่อยๆ ทยอยพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กัน นินัทธ์สวมชุดสูทสีดำอย่างง่าย รองเท้าหนังเงาเป็นมัน ผมที่ยุ่งเหยิงก็ถูกหวีจนเรียบ ใบหน้าที่สะอาดเกลี้ยงเกลาและหล่อเหลามีความเย็นชาอยู่ ริมฝีปากบางที่ดูมีเสน่ห์กระดกขึ้น แล้วเม้มปากอย่างโดดเดี่ยวเล็กน้อยเหมือนกระแสคลื่นซัดสาด รอยยิ้มของเขาดูเหมาะสมกับกาละเทศะ ไม่น้อยและไม่มากเกิน พอเขามาอยู่ในงานเลี้ยงที่คึกคัก ความเย่อหยิ่งก็ลดลง แต่กับดูปลอดโปร่งแจ่มใสมากขึ้นเล็กน้อย ท่าเดินของเขามั่นคง เผยให้เห็นถึงความแข็งแกร่งและความมั่นใจ จนทำให้คนรอบข้างรู้สึกเจียมตัว แต่ก็ไม่ถึงกับว่าดูมีบุคลิกที่ดีมากนัก ตั้งแต่ที่เขาก้าวเข้ามาในห้องจัดงานเลี้ยง ทุกคนต่างก็กลั้นลมหายใจอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง คุณชายนินัทธ์คนนี้ดูต่างไปจากการรายงานข่าวก่อนหน้านี้ทั้งหมดโดยสิ้นเชิง ไม่มีใครคาดถึงเลย ว่าคุณชายแห่งตระกูลวรวงศ์คุณากรจะเป็นคนที่ทำให้ผู้อื่นตกตะลึงได้ขนาดนี้ นินัทธ์เดินตรงไปหาเดชชาตรี เดชชาตรีก็ได้แนะนำลูกชายคนเดียวของตนให้สาธารณชนได้รู้จักอย่างเป็นทางการ เศวยาไม่ได้ฟังสิ่งที่เดชชาตรีพูดเลยแม้แต่น้อย สายตาของเธอมองไปที่นินัทธ์ เขายืนอยู่ข้างๆ พ่อของตนตั้งแต่เริ่มจนจบการปราศรัย เขาได้ปรากฏตัวขึ้นอยู่ในสายตาของสาธารณชนในฐานะที่เป็นนินัทธ์ ผู้เป็นลูกชายคนเดียวของท่านประธานเดชชาตรีอย่างเป็นทางการ เด็กสาววัยรุ่นที่อยู่ในงานต่างมองเขาพร้อมด้วยแก้มที่แดงระเรื่อ ธนเทพยืนอยู่ในมุมที่แสงไฟส่องมาไม่ถึง เขารู้ว่า จารุภาจะต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากเพื่อให้นินัทธ์ปรากฏตัวได้แบบคนปกติ มุมปากค่อยๆ กระตุกขึ้น แก้วในมือก็ถูกยกขึ้นมาถึงปาก แต่ธนเทพกลับหวังว่าถ้านินัทธ์เป็นปกติแบบนี้ได้ตลอดถึงจะดี หลังจากเสียงปรบมือชื่นชมแสดงความยินดีได้จบลง นายอำเภอชิตวรก็ขึ้นมากล่าวคำอวยพรและ งานเลี้ยงได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว จากนั้นก็มีพนักงานเข็นเค้กก้อนใหญ่เข้ามา บนเค้กมีเลข “18” ปักอยู่ ความหมายของเลข 18 นั่นก็คือการเฉลิมฉลองการก่อตั้งกิจการครบรอบ 18 ปีของตระกูลวรวงศ์คุณากร และรอบๆ เลข 18 ก็มีลูกสตรอเบอร์รี่สีสดงดงามจัดวางอยู่รอบๆ ทันใดนั้นไฟในห้องก็มืดลง แสงสว่างจากเทียนบนเค้กก็สว่างขึ้น จากนั้นเค้กก็ค่อยๆ ถูกคนเข็นเข้ามาอยู่ตรงหน้าของท่านประธานเดชชาตรี 
已经是最新一章了
加载中