ตอนที่ 25 ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดนัดอีก
1/
ตอนที่ 25 ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดนัดอีก
รักแค้นหรือรักแท้ คำถามจากหัวใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 25 ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดนัดอีก
ตนที่ 25 ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดนัดอีก เธอกุมมือที่เยือกเย็นของเขาไว้ ทั้งร่างของนินัทธ์เฉื่อยชาแข็งทื่อ เศวยาพูดเบาๆ “ฉันสัญญา ว่าต่อไปฉันจะไม่ผิดนัดอีก จะไม่หายไปอย่างดื้อๆ จะไม่ทิ้งนายไว้คนเดียวอีก” สายตาคู่นั้นที่ทำให้คนอ่านความรู้สึกได้ยาก ก็เหมือนเมฆหมอกที่ปกคลุมไว้จางลงอย่างช้า ๆ ตั้งใจจดจ้องไปที่เธอ เหมือนกำลังเลียนแบบท่าทางของเธอ ในตอนนั้น มีรถแท็กซี่คันหนึ่งจอดอยู่หน้าประตู บริวุตลงมาจากรถ ถือหนังสือลง ตอนที่จะวิ่งเข้าไป ก็เห็นสองคนยืนอยู่ที่ประตู ทันใดนั้นก็เรียกเสียงดัง “เศวยา เธอแอบหนีมา ฉันจะไปฟ้องนายอำเภอผู้ยิ่งใหญ่” เมื่อเห็นน้องชาย เศวยาก็ตระหนักตัวขึ้นมาทันที เธอลากนินัทธิ์เข้าไปข้างใน “นายตัวเปียกไปทั้งตัวเลย กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่บ้านฉันก่อน” ในขณะที่เดินนินัทธ์ก็จ้องมือตัวเองที่เธอลากไป รอยยิ้มจากมุมปากไม่ได้จางหายไปเลย “พี่ พี่ รอผมก่อนสิ”บริวุตตามไปทัน เขาชำเลืองมองนินัทธ์ไปทีหนึ่ง “พี่ หมอนั่นใครอ่ะ” “เพื่อนน่ะ” บริวุตอุทานออกมาเสียงดัง “พี่ พี่มีแฟนแล้วเหรอ?!” “อย่าพูดเพ้อเจ้อน่า รีบกลับได้แล้ว!”เศวยารีบดึงนินัทธ์วิ่งกลับเข้าบ้าน พอเดินเข้าประตูบ้าน น้าลดาวัลย์ก็ออกมาต้อนรับ “อุ้ยต๊าย คุณยา ฝนตกหนักขนาดนี้ออกไปไหนมาคะ ตัวคุณเปียกหมดแล้ว”น้าลิลลี่หันไปเห็นผู้ชายแปลกหน้าที่อยู่ข้างหลังเศวยา ก็อุทานออกมาเบาๆ “ตายแล้ว เด็กหนุ่มคนเมื่อกี้นั่นใครกันคะ!” นินัทธ์ไม่เหลียวมองน้าลิลลี่เลยแม้แต่น้อย เดิมทีนินัทธ์คนนี้ก็ไม่ค่อยจะมีมารยาทอยู่แล้ว เขามัวแต่จ้องมองไปที่เรือนร่างของเศวยา ใบหน้าของเศวยาเต็มไปด้วยหยดน้ำฝน เธอยิ้มและพูดว่า “เขาคือเพื่อนของหนูเองค่ะ จริงสิ น้าลดาวัลย์คะ รบกวนน้าช่วยต้มน้ำขิงร้อนๆ ให้เขาหน่อยได้มั้ยคะ เขาตัวเปียกจนตัวสั่นเป็นลูกนกหมดแล้ว” “อ้ะ ได้ค่ะ เดี๋ยวน้าไปทำให้เลยนะคะ” บริวุตที่เดินตามหลังมา พึมพำอยู่คนเดียวด้วยความไม่พอใจ “เศวยา เธอไม่เคยจะทำตัวเป็นพี่สาวที่ดีเลย!น้องชายตัวเองก็ตัวเปียกเหมือนกัน แต่ทำไมถึงไม่ห่วงกันเลยนะ” “วุต แกก็กินเองได้ นอนเองได้ ห่วงแกไปก็ไม่มีไรดีขึ้นสักหน่อย”เศวยาลากนินัทธ์เข้าไปในห้องตัวเองโดยไม่สนใจน้องชายของตน แล้ววิ่งเข้าไปหยิบผ้าขนหนูจากในห้องน้ำ “นินัทธ์ ไปเช็ดผมเร็วเข้า เดี๋ยวก็หนาวตายหรอก” นินัทธ์รับผ้าขนหูมา แล้วมองดอกเบญจมาศเล็กๆ ที่อยู่บนผ้าขนหนู ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่า ดอกไม้นี้... ‘สวยจัง’ เมื่อนึกได้แบบนี้ ผ้าขนหนู ผ้าเช็ดตัว แม้กระทั่งชุดคลุมอาบน้ำของนินัทธ์ ทุกอย่างล้วนแต่เป็นลายดอกเบจมาศดอกใหญ่ดอกเล็ก เขาไม่เคยคิดว่าจะมีคนใช้ของลายพวกนี้เหมือนกัน แต่แน่นอนว่า เรื่องนี้จะต้องค่อยคุยกันทีหลัง เมื่อเศวยาเห็นว่านินัทธ์จ้องผ้าขนหนูโดยไม่ขยับไปไหน ผมของเขายังมีหยดน้ำอยู่ เศวยาจึงพาเขาไปนั่งลงบนเก้าอี้เบาๆ แล้วเธอก็เช็ดผมให้กับนินัทธ์เอง ดุสิดาเพิ่งโทรคุยกับสามีของเธอเสร็จ พอได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวที่ดังลอดมาจากห้องของเศวยา ดุสิดาก็เกาะประตูฟัง ทันใดนั้นประตูถูกพิงจนผลักเข้าไปเอง แล้วก็พบว่าเศวยาอยู่กับผู้ชายแปลกหน้าในห้องสองต่อสอง แถมยังเช็ดผมให้กันอีก ท่าทางดูใกล้ชิดสนิทกันขนาดนั้นช่างไม่น่าดูเอาซะจริง เธอมองนินัทธ์หัวจรดเท้าอย่างละเอียด ใบหน้ารอยยิ้มเล็กน้อยที่ดูเป็นแม่คน “ยา ทำไมถึงไม่แนะนำพ่อหนุ่มคนนี้ให้แม่รู้จักสักหน่อยล่ะ” พอเห็นว่าลูกเลี้ยงของตนทำเป็นไม่ได้ยิน รอยยิ้มบนใบหน้าของเธอก็บิดเบี้ยว ทันใดนั้นเธอก็แสดงบทวางตัวเป็นแม่ จากนั้นก็ต่อว่าเธอ “ยา แม่เคยบอกแล้วนะ ว่าพ่อไม่ให้ลูกออกไปไหน ลูกไม่เข้าใจรึยังไง ไม่นึกเลยว่าลูกจะเป็นได้ถึงขนาดนี้นี้!ลูกยังไม่แต่งงานเลยนะ จะพาผู้ชายเข้าห้องแบบนี้ได้ยังไง ลูกเห็นที่นี่เป็นอะไร ยังเห็นหัวฉันกับพ่อของแกอยู่มั้ย!” “ผึ่บบบ” เศวยาเหวี่ยงผ้าขนหนูลงไปบนโต๊ะ แล้วหันกลับมามองดุสิดาด้วยสายตาที่เย็นชา “ข้อแรก พวกเราไม่ได้แก้ผ้า ข้อสอง พวกเราไม่ได้นอนด้วยกัน ฉันไม่ได้อยากขวางอะไร คุณไม่อยากทำเอง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับฉันด้วย” ดุสิดาโกรธหนักมาก ตั้งแต่รอบแรกหลังจากที่ถูกจำได้เรื่องการพนัน เธอโกรธลูกเลี้ยงคนนี้สุดๆ อยากที่จะไม่แสร้งทำเป็นแม่เลี้ยงที่ต้องคอยดูแลอีก ทันใดนั้นเธอก็พูดย้อนประชดประชัน “เฮอะ เธอทำเรื่องที่ขายหน้าแบบนี้ยังน้อยอีกเหรอ เรื่องที่พาดหัวข่าวอยู่บนหนังสือพิมพ์ ไหนจะยังมีเรื่องที่เป็นเพราะคนโรคจิตคนนึงอีก ไม่ว่ายังไงก็ตามพ่อของเธอก็เป็นนายอำเภอ เธอจะทำเรื่องไร้ยางอายขึ้นมา เธอคิดบ้างรึเปล่าว่าเขาก็ถูกคนนินทาน่ะ แววตาของเศวยาเปลี่ยนไป ในตอนนั้นเธอค่อยๆหรี่ตาแล้วเดินใกล้ไปยังแม้เลี้ยง ดุสิดาท่าทางแข็งท่อ และก้าวถอยไปข้างหลังอย่างไม่รู้สึกตัว “เธอ เธอคิดจะทำอะไร ฉันพูดผิดตรงไหน เธอก็ใช้เงินอย่างสุรุ่ยสุร่ายผ่านตำแหน่งของพ่อเธอ เพื่อเงิน เป็นผู้ชายเธอก็ไม่สน เธอมัน…” เศวยายังคงยิ้ม และยิ้มอย่างมีความสุขสบายใจ แต่แววตากลับเฉียบคมทำให้อีกฝ่ายกลัวขึ้นมา “ดุสิดา ถ้าคุณยังกล้าพูดถึงเขาอีกประโยคเดียว ถึงคุณจะไม่เชื่อ ฉันสามารถที่จะจัดการให้คุณซวยได้” ดุสิดาอ้าปากกว้าง จ้องมองเธออย่างไม่กล้าเชื่อ “แก แก แก…” ด้านหลังเศวยา นินัทธ์ยังอยู่ที่เดิมโดยไม่มีปฏิกริยาตอบกลับ เขาค่อยเงยหน้าเงยขึ้นมา แล้วมองร่างแผ่นหลังที่บ้างของเธอ เขายิ้มด้วยริมฝีปากอ่อนโยนขึ้นมา ในตอนนั้น มีทำเสียงที่โกรธของชิตวรลอดเข้ามาจากนอกประตู “วัลย์ ยัยยาล่ะ” “อ้อ คุณยาอยู่ในห้องค่ะ” เมื่อได้ยินสามีกลับมา ดุสิดาก็ร้องอย่างไม่ได้รับความเป็นธรรมวิ่งออกมา “วร บ้านหลังนี้ฉันคงอยู่ไม่ได้แล้ว...” เศวยาขี้เกียจฟัง เปิดประตูดังปัง หายใจเข้าออกลึกๆสองสามที พยายามควบคุมอารมณ์โกรธ และทำให้แน่ใจว่าตัวเองจะไม่ทำให้นินัทธ์ตกใจ ถึงจะหันกลับไปด้วยรอยยิ้ม ทันใดนั้นเธอก็ตกใจ แววตาดั่งตาหงส์เบิกกว้าง และมองไปที่ผู้ชายที่ไม่รู้ว่ามายืนข้างหลังตัวเองเมื่อไหร่ เขายื่นมือออกมาส่างผมปอยของเธอ ผมเธอผ่านตามซอกนิ้วของเขาอย่างช้าๆ เขาก้มลง แล้วจูบไปที่ปลายผมของเธอ ความรู้สึกที่เหมือนถูกไฟช็อต ส่งจากตั้งแต่ปลายผมจนถึงทั้งตัว วินาทีนั้น ในสายตาของเขา เธอเห็นแววตาที่เธอสำคัญต่อเขา ด้านนอกประตู ชิตวรได้ยินเสียงร้องห่มร้องไห้ของดุสิดา สีหน้านิ่งไป แล้วก็มาอยู่ตรงหน้าประตูห้องลูกสาว แล้วเคาะประตู “ยา ออกมาคุยกับพ่อหน่อยสิ” เศวยาก็รู้สึกตัว ละสายตาจากนินัทธ์ และขานรับพ่อ ตอนที่กำลังกุมลูกบิดไว้เพื่อที่จะเปิด ก็มีมือใหญ่มากุมทับมือเธอไว้ด้วย เธอตกใจจึงหันไป ริมฝีปากสีดอกกุหลาบของนินัทธ์ยกขึ้น พร้อมกับส่งรอยยิ้มที่ทำให้สะดุดตา “เดี๋ยวฉันจัดการเอง”เขาเปิดประตูแล้วเดินออกไป เมื่อเห็นนินัทธ์ ชิตวรก็ตกใจ “นินัทธ์เหรอ” ดุสิดาที่อยู่ข้างๆตกใจ “เขา เขาก็คือนินัทธ์เหรอ”เธอตกใจจนหน้าเขียวไปชั่วขณะ ถึงแม้ว่าพวกสื่อมวลชนเขียนข่าวเป็นนัยยะทางอ้อมว่าสภาพอารมณ์และจิตใจของนินัทธ์นั้นไม่ค่อยจะปกติ แต่คนอื่นจะพูดยังไงเขาก็เป็นเจ้าชายแห่งตระกูลวรวงศ์คุณากร เธอจะไปพูดทำให้เขาไม่พอใจได้ไงล่ะ นินัทธ์กวาดสายตามองเขาอย่างนิ่งๆ แล้วหันตัว “ไปคุยกันที่ห้องรับแขก” ถึงเขาจะตกอยู่ในที่นั่งลำบาก แต่ก็ยังมีกลิ่นอายที่พิเศษออกมาจากตัวเขา ทำให้สั่นสะเทือนถึงชิตวร ไม่เกี่ยวกับอายุ ไม่เกี่ยวกับการศึกษา นั่นเป็นสิ่งที่ฝังอยู่ในกระดูกมานานอยู่แล้ว อยากที่จะจินตนาการว่า คุณชายแห่งวงศ์ตระกูลวรวงศ์คุณากรคนนั้นที่จับมีดแล้วสับเค้กอย่างบ้าคลั่งในวันงานเลี้ยงครบรอบตระกูลวรวงศ์คุณากร จะเหมือนคนตรงหน้าที่ดูมีเอกลักษณ์เหนือคนอื่น ดุสิดาบ่นเสียงเบาข้างๆหูของสามี “พี่วร นี่เขากำลังจะทำอะไรน่ะ” “เธอเงียบไปซะ”แววตาชิตวรหนักแน่น แล้วตามนินัทธ์ไปที่ห้องรับแขก ดุสิดากระทืบเท้าอย่างแรง หมุนตัวเดินกลับห้อง เศวยายืนอยู่ที่ประตูห้องก็ยิ้มขึ้นมา นินัทธ์ควรที่จะวางตัวแบบนี้บ้าง ชิตวรกับนินัทธ์นั่งอยู่ในห้องรับแขก น้าลดาวัลย์ยกซุปขิงที่ต้มแล้วมา “พ่อหนุ่ม รีบกินตอนที่มันร้อนๆ ร่างกายจะได้อบอุ่นนะจ้ะ” นินัทธ์ไม่แม้แต่จะมอง น้าลดาวัลย์ทำดีด้วยก็ไม่สนใจ เธอเดินออกไปอย่างทำตัวไม่ถูก ในตอนนั้น เศวยาเดินมา มองซุปขิงนั่นแว๊ปหนึ่ง เธอยกเอามาส่งให้เขาแล้วยิ้ม “ต้องดื่มให้หมดเกลี้ยงเลยนะ” แววตาของนินัทธ์อ่อนโยนลง รับซุปจากเธอมาดื่มจนเกลี้ยงโดนไม่ลังเลแม้แต่น้อย ถึงแม่ว่าเขาจะเกลียดรสชาติของขิง เมื่อเห็นนินัทธ์ทำตามคำพูดของลูกสาว เหมือนเป็นพระราชโองการยังไงยังงั้น ชิตวรแอบตกใจ นินัทธ์รู้ว่าตัวเองควรวางตัวยังไง แต่ทว่าแม้แต่คนใหญ่คนโตในบ้านก็ยังไม่สนใจและไม่เห็นอยู่ในสายตา แล้วทำไมพออยู่ต่อหน้าเศวยากลับกลายเป็นแกะตัวน้อยๆไปได้ เขาพยายามเก็บสายตา แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่จริงจัง “ยา ลูกกลับเข้าห้องไปก่อน” เศวยาไม่วางใจนินัทธ์ “พ่อ เชิญคุยกันเลยค่ะ หนูนั่งตรงนี้จะไม่รบกวนการคุยระหว่างพ่อกับเขาค่ะ” ชิตวรทำหน้าเข้ม “ลูกไม่ฟังคำที่พ่อพูดใช่มั้ย” เศวยากัดริมฝีปาก ลุกแล้วเดินจากไปอย่างไม่เต็มใจ ตอนที่ผ่านข้างตัวเขา ก็พูดกำชับเบาๆ “ไม่อนุญาตให้พ่อรังแกเขานะคะ” ชิตวรขมวดคิ้ว ลูกสาวปกป้องเขาขนาดนี้ คงไม่ใช่ว่าชอบเจ้าหมอนี่จริงๆนะ ถึงแม้ว่าตระกูลวรวงศ์คุณากรจะยิ่งใหญ่ขนาดไหน แต่เขาก็ไม่อยากให้ลูกสาวแต่งงานกับคนที่สภาพอารมณ์ไม่นิ่งแบบนี้ เศวยากลับถึงห้อง ก็เอาหูแนบประตูอยากฟังว่าสองคนนั้นกำลังคุยอะไรกัน แต่ข้อดีของห้องเก่าในบ้านหลังนี้แทบจะไม่มี แต่กลับเก็บเสียงได้อย่างดีเยี่ยม ช่วยไม่ได้ ก็ทำได้แค่นั่งอยู่ในห้องอย่างเชื่อฟัง ในห้องรับแขก บรรยากาศอึดอัดอย่างพูดไม่ออก ทั้งหมดนี่เป็นเพราะเด็กชายเย็นชาที่นั่งอยู่ตรงข้ามเขา “ฮะๆ”ชิตวรหัวเราะ ต้องการที่จะทำลายบรรยายกาศแข็งทื่อนี่ “เมื่อครั้งที่แล้วในงานเลี้ยงครบรอบปีของตระกูลวรวงศ์คุณากร เราไม่ได้เจอกันอย่างเป็นทางการ พูดไปพูดมา อากับพ่อของเราเป็นเพื่อนกันมานาน เรียกอาก็ได้นะ” สายตาของนินัทธ์ ไปตกอยู่บนร่างที่เฉื่อยเชื่องช้าของเขา เหมือนกับสายตาที่เป็นช่องโหว่ที่เดาไม่ออกจริงๆว่าเขาคิดอะไรอยู่ ในขณะที่มองแววตาคู่นั้น ชิตวรรู้สึกใจสั่นขึ้นมาทันที เป็นความรู้สึกที่หนาวเหน็บอย่างบอกไม่ถูก “ผมต้องการลูกสาวคุณ” ประโยคสั้นๆ จากตอนเริ่มถึงตอนจบที่ไม่ได้เกินหกพยางค์ แม้แต่ท่าทางก็ยังเรียบนิ่ง ไร้อารณ์ เหมือนกับกำลังบรรยายเรื่องหนึ่งนี่ธรรมดามาก เริ่มตั้งแต่วันนั้นวันที่เขาพบกับเศวยา เธอก็เป็นของเขาไปแล้ว เธอจะไม่ได้ตกเป็นของคุณพ่อ จะไม่ได้ตกเป็นของใคร เธอจะเป็นของเขา ของเขาเพียงคนเดียว ชิตวรตกใจไปพักหนึ่ง ดีที่ทำงานทางการเมืองมาสิบปี ก็เลยเคยชินกับการที่ต้องเก็บสีหน้าอารมณ์ไว้ มิเช่นนั้น ก็อาจจะเหมือนพ่อทั่วไปแล้วก็ได้ ที่ด่าโหวกเหวกโวยวาย ในแววตามีตะกอนของความโกรธ เขายิ้มจืดๆ และพูดออกมาอย่างไม่ช้าไม่เร็ว “นินัทธ์ นายรู้มั้ยว่าตัวเองกำลังพูดอะไรอยู่” นินัทธ์ละสายตาออก แต่ก็แค่บอกให้รับรู้แค่ประโยคหนึ่ง ที่จะทำให้เขาตอบกลับมายังไง นินัทธ์ก็ไม่ได้สนใจอยู่แล้ว ชิตวรเริ่มหายใจหนักและแรงขึ้น ไม่มีความสุขอย่างชัดเจน “นินัทธ์ นายอายุยังน้อย ตัวเองพูดอะไรออกมาอาจจะยังไม่เข้าใจความหมายของมันชัดเจนพอ ฉันจะคิดว่าฉันไม่ได้ยิน เอางี้ดีกว่า เรื่องนี้ ไว้อาจะคุยกับพ่อนายนะ”ชิตวรลุกขึ้น “อาเตรียมรถที่จะไปส่งเราที่บ้านแล้วนะ” “เธอเป็นของผม” ถึงชิตวรจะเป็นคนที่จัดการกับอารมณ์ตัวเองได้ดียังไง เขาก็สามารถที่จะโมโหออกมาได้ สิ่งที่เขากำลังเผชิญอยู่ไม่ใช่การที่เป็นนายอำเภอคนหนึ่ง แต่เป็นการที่ถูกคุกคามในฐานะพ่อ “นินัทธ์ นายทำเกินไปแล้วนะ! อาขอเตือนไว้เลยนะ อย่ามาใกล้ลูกสาวอาอีก!”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 25 ฉันสัญญาว่าจะไม่ผิดนัดอีก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A