ตอนที่ 29 ชอบก็เลยจูบ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 29 ชอบก็เลยจูบ
ต๭นที่ 29 ชอบก็เลยจูบ การกระทำของนินัทธ์นิ่งทื่อ เงยหน้ามองเอียงไปที่เธอ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้ม หัวคิ้วที่ดูดีก็ปรากฏขึ้นมา “ฉันต้องการเป็นหนึ่งเดียว จะใช่หรือไม่ใช่พ่อ ฉันไม่สน”เมื่อพูดจบ เขาก็ก้มลงไปจูบที่นิ้วของเธอ รู้สึกปลายนิ้วเย็นชา เศวยารีบเอามือกลับเข้าไป แล้วจับไปที่หัวใจของตัวเองที่เต้นไม่หยุด เธอรีบหันไปแล้วเดินตรงไปยังข้างหน้า ด้านหลังเป็นกลิ่นอายที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ค่อนข้างปลอดภัย แต่ก็ยังมีความรู้สึกเหมือนอาจจะมีอะไรเข้ามาบุกรุกแต่ก็รู้สึกได้ยากถึงมันเข้าใกล้เธอที่ละน้อย เศวยาไม่อย่างที่จะอึดอัดต้องคิดไปเองต่อไป จึงถามออกไปตามใจปาก “ตอนนี้นายควรบอกฉันว่าที่แท้จริงแล้วนายกับเรวัตมีอะไรต่อกันใช่มั้ย” เสียงที่แลดูไม่สนใจของนินัทธ์ลอดเข้ามา “ฉันกำลังทำเรื่องที่เธอหวังให้ฉันทำ” เศวยาหยุดฝีท้าว ผู้ชายที่อยู่ด้านหลังกลับเข้ามาใกล้ติดกับหลังของเธอ ทำให้สายตาอ่อนหวานนุ่มนวลลง “ไม่ว่าเธอจะคิดยังไง ขอแค่เธอหวังอะไรหรือให้มันเป็นยังไง ฉันก็จะทำ” ขอแค่เธอหวัง...ขอแค่เธอชอบ...ขอแค่เธออยากจะได้... หัวใจหดเล็กลงอย่างรวดเร็ว รู้สึกเจ็บปวดอย่างสุดขีด ทันใดนั้นเศวยาก็หันตัวมาอย่างรวดเร็ว เงยเผยดวงตานกฟินิกส์ที่แดงขึ้นมา กัดริมฝีปาก เธอหายใจเข้าลึกๆ เพื่อที่จะกดอารมณ์ที่โกรธพลุ่งพล่านไว้ เธอเขย่งปลายเท้า สองมือจับคอเสื้อของเขาไว้แน่น แล้วพูดทีละคำอย่างชัดเจน “นินัทธ์ นายฟังฉันไว้ให้ดีนะ ฉันอยากให้นายใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัย ไม่ว่าจะที่ไหนเมื่อไหร่ ห้ามทำให้ตัวเองเป็นอะไรไป อย่างอื่น ให้ฉันจัดการเอง ฉันจะช่วยนาย ฉันจะไม่ให้คนอื่นมาแย่งทุกอย่างที่ควรจะตกเป็นของนาย!” นินัทธ์มองเธออย่างตกใจ ทั้งดูหล่อและหน้าซีดอย่างเห็นได้ชัด ดูผิดปกติไป ยังไม่ทันได้อ้าปากพูด อยู่ดีๆ นินัทธ์ก็ใช้มือสองข้างจับใบหน้าของเธอไว้ แล้วโน้มลงไปประทับรอยจูบที่ริมฝีปากของเธอ... *** จูบของเขากะทันหันมาก เศวยาไม่ได้คิดเลยว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น เธอจึงเบิกตาโตด้วยความตกใจ เธอไม่ได้ผละเขาออกไปตั้งแต่ทีแรก แต่พอรู้สึกได้ถึงความชาที่เหมือนกับถูกไฟดูดที่ริมฝีปาก เธอก็ลนลานที่จะผลักเขาออกไป ที่ที่ทั้งสองอยู่ด้วยกันค่อนข้างแคบ นินัทธ์จับใบหน้าของเศวยาให้มั่นคงมากกว่าเก่า ทั้งที่เดิมทีเธอก็ขยับไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว เธอจึงทำได้เพียงแค่ใจเต้นรัวอย่างบ้าคลั่งในตอนที่ถูกเขาจูบอยู่ จูบของนินัทธ์เต็มไปด้วยความเผด็จการตั้งแต่เริ่ม เขากอดรัดเธอ พลิกไปมาบนเรือนร่างของเธอ เขาไม่รีบร้อนที่จะจู่โจม แต่กลับดูดดื่มริมฝีปากบนล่างของเธออย่างอดทน แล้วใช้ลมหายใจอันเหนื่อยหอบของเขา กลบกลิ่นหอมหวานของเศวยา เศวยาค่อยๆ รู้สึกหายใจติดขัด ในตอนที่จิตใต้สำนึกสั่งให้เธอเอ้าปาก ลิ้นของเขาก็สอดเข้าไปในปากอันหอมหวานของเธออย่างเอาเป็นเอาตาย เหลือไว้แต่เพียงรสชาติและกลิ่นลมหายใจของนินัทธ์ ดวงตาที่ลึกซึ้งของนินัทธ์ค่อยๆ ถูกปิดลง ในตอนที่เห็นความเปล่งประกายของคริสตัลระยิบระยับดึงดูดความสนใจของเธอ ดวงตาที่เหมือนกับตาของนกฟินิกส์ของเธอก็เบิกกว้าง เธออยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่ปากของเธอก็ถูกเขาอุดไว้อยู่ ใบหน้าที่สวยงามจนใครเห็นก็หลงใหลของเธอกลายเป็นสีแดงระเรื่อ นี่คือ...นี่คือครั้งแรกที่นินัทธ์จูบเธอ พอรู้ตัวว่าใบหน้าของเธอแดงขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกับหยดเลือด แต่ว่าจะสวยงามมาก แต่เขาก็ยังอาลัยอาวรณ์ที่จะปล่อยเธอไปจากอ้อมกอด พอได้สูดอากาศเข้าไป สมองของเธอก็เริ่มปลอดโปร่งขึ้นมาชั่วขณะ เศวยารีบถอยไปสองสามก้าว แล้วจ้องตาของเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ แต่กลับทำให้หน้าของเธอแดงยิ่งกว่าเดิม เป็นการโกรธที่ยังดูมีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัด “นินัทธ์ นี่นายทำบ้าอะไร...อยู่ดีๆ มาจูบฉันทำไม” นินัทธ์ควบคุมตัวเองได้ดี ต่างจากเธอที่ยังหายใจไม่เป็นจับงหวะ เขาเดินเข้ามาใกล้เธอมากขึ้น “ฉันชอบ ก็เลยจูบ” เขาตอบเธออย่างจริงจัง เวลาอยู่ตรงหน้าเศวยา เขาก็พูดความจริงมาตลอดอยู่แล้ว พอเขาเหลือบไปมองริมฝีปากที่บวมแดงเพราะโดนเขาจูบ ลูกกระเดือกของเขาก็ขยับเนื่องมาจากการกลืนน้ำลายลงไปอึกใหญ่โดยที่เขาไม่รู้ตัว จูบในครั้งนี้ทำให้เขารับรู้ถึงสัญชาตญาณดิบที่เหมือนกับสัตว์ แววตาที่สวยงามของเขาค่อยๆ ปรากฏจุดสีแดงๆ เล็กๆให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ เขาเป็นผู้ชาย นี่เป็นการเชื้อเชิญยั่วยวนเขาชัดๆ สายตาของเศวยามีแสงวาบ เธอยื่นมือออกมาปิดตาของนินัทธ์ด้วยความวิตกกังวล แล้วค่อยๆ เปิดปากพูดออกมาว่า “นินัทธ์ ไม่ได้นะ...อย่าทำเรื่องที่ฉันไม่ชอบนะ…” พอรู้สึกได้ถึงขนตาหนาที่กระพริบอยู่ภายใต้ฝ่ามือ เศวยาก็รู้สึกลังเลอยู่ในใจ เธอกลัวว่าสิ่งที่เธอพูดไป จะทำให้เขาเข้าใจผิด เธออยากจะอธิบาย แต่ก็ไม่รู้ว่าจะพูดออกมายังไง เกิดใหม่ชาตินี้ เศวยาได้สำรวจชีวิตของตัวเองใหม่อย่างจริงจัง และได้เริ่มต้นการรู้จักกับนินัทธ์ใหม่อีกครั้ง แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าเธอสจะไม่รู้สึกแสลงใจที่จะกระโจนเข้าไปในอ้อมกอดของผู้ชายที่รักเธอสุดหัวใจ!เธอเคยเจ็บปวด เธอเคยทรมาน เธอก็ไม่คิดจะหนีไปไหน แต่ว่าตอนนี้นินัทธ์ก็แสดงให้รู้อยู่เป็นนัยๆ ว่าเขาไม่มีความสามารถในการเข้าใจเหตุผล เธอกำลังทำร้ายเขาอยู่ เธอไม่ยอมให้ตัวเองทำแบบนั้นกับเขาแน่! ในชาตินี้ คนที่เศวยาไม่อยากทำให้เสียใจและเจ็บปวดมากที่สุดก็คือนินัทธ์ เหมือนกับว่าเวลาหยุดอยู่ตรงนั้น ทั้งสองไม่เปิดปากพูดอะไรออกมาอีก ผ่านไปนาน นินัทธ์จึงจะค่อยๆ เอามือของเศวยาที่ปิดตาเขาอยู่มาจับไว้ แล้วเขาก็ลืมตา ยิ้มให้เธออย่างอ่อนโยน จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่น่าดึงดูดว่า “ผมจะรอ” เศวยาตัวสั่นเล็กน้อย นินัทธ์มองต่ำลง ยิ้มมุมปากที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ “คุณเป็นของผม ผมรอได้” เธอเป็นของเขาตลอดกาล ทั้งหมดเป็นของเขา รวมถึงจูบของเธอ ร่างกายของเธอ และใจของเธอ เขาดูมั่นอกมั่นใจมาก ดังนั้น เขาจึงรอได้อย่างไม่มีขีดจำกัด เศวยามองเขาอย่างสงสัย ทันใดนั้นก็หมุนตัว “...บ้า” แล้วก็จงใจมองขึ้นไปบนฟ้า เพื่อไม่ให้น้ำตาไหลลงมา นินัทธ์ที่อยู่ด้านหลังของเธอก้าวขึ้นมา ยื่นมือมากอดเอวของเธอไว้แน่น เขาเอาคางวางไว้บนไหล่ของเธอ แล้วพูดเบาๆ ว่า “ให้ยัยโง่อย่างเธออยู่คนเดียว พอเห็นว่านินัทธ์กับเศวยาเดินออกมาจากซอยเก่า คนขับรถก็รีบวิ่งไปดักหน้า “คุณชาย คุณท่านโทรมาเร่ง ให้ผมพาคุณชายรีบกลับบ้านทันทีครับ” นินัทธ์ทำหูทวนลม หันไปถามเศวยาด้วยสายตาที่จริงจัง “หิวมั้ย” เศวยาเห็นสายตาที่อ้อนวอนของคนขับรถ จึงส่ายหัวและยิ้ม “นินัทธ์ นายกลับบ้านไปก่อนเถอะ ถ้าเกิดมีเรื่องอะไร ฉันจะไปหานายเอง” คิ้วที่สวยงามของนินัทธ์ขมวดจนชิดกัน เศวยายิ้มให้เขาทีหนึ่ง เธอยื่นมือออกมา ใช้นิ้วมือแตะคิ้วทั้งสองของเขาแล้วออกแรงลากนิ้วขึ้นไปเฉียงๆ เพื่อให้เขาเลิกขมวดคิ้ว นินัทธ์จ้องมองผู้หญิงที่ทำให้คนสดใส มีชีวิตชีวาที่อยู่ตรงหน้าของเขา รู้ตัวอีกที เขาก็ผ่อนคลายอารมณ์เกรี้ยวกราดก่อนหน้านี้ไปแล้ว “กลับเถอะ เดี๋ยวฉันโทรหา” นินัทธ์คิดอยู่พักหนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดออกมาว่า “รอผมอยู่ตรงนี้นะ” จากนั้นเขาก็ก้าวเท้ายาววิ่งจากไป “อ้ะ คุณชาย คุณจะไปไหนน่ะ คุณชายยย” “นินัทธ์?” เศวยาวิ่งตามไปอย่างอดกังวลไม่ได้ พอเขาวิ่งข้ามถนนไป เธอก็ไม่เห็นเงาของเขาแล้ว นินัทธ์วิ่งตรงไปที่ร้านขายโทรศัพท์มือถือที่อยู่ใกล้ๆ เขาผลักประตูเข้าไปแล้วก็หันมองรอบๆ ร้านอย่างละเอียด ทันใดนั้นเขาก็สะดุดตากับมือถือสองรุ่นที่จัดวางอยู่ในตู้โชว์ เครื่องหนึ่งสีขาว อีกเครื่องหนึ่งสีดำ ทั้งสองรุ่นถูกผลิตออกมาให้มีสไตล์ที่แปลกใหม่และโดดเด่น ไม่ว่าใครก็ดูออกว่าเป็นมือถือสำหรับคู่รักโดยเฉพาะ เขาฉีกยิ้มมุมปาก แล้วยื่นบัตรเครดิตให้กับพนักงานที่ขายมือถือ “เอาสองเครื่องนี้” พนักงานรีบหยิบโทรศัพท์มือถือที่อยู่ในตู้โชว์ออกมาทันที ดูก็รู้ทันทีว่านินัทธ์จะซื้อไปให้แฟนสาว พนักงานจึงใช้โอกาสนี้เพื่อโปรโมตเบอร์คู่รักของร้านอย่างรวดเร็ว พอได้ยินคำว่า “คู่รัก” นินัทธ์ก็ฉีกยิ้มออกมาอย่างดีใจ ในตอนที่นินัทธ์วิ่งกลับมาแล้วเอามือถือยัดใส่เข้าไปในอกขอบเศวยา เศวยาก็เงยหน้าขึ้นมามองอย่างงุนงง “ฉันมีมือถือแล้ว” คนขับรถเข้ามาใกล้อย่างประหลาดใจ “อ้ะ คุณชายครับ แต่ไหนแต่ไรมา คุณชายไม่ใช้มือถือนี่…” นินัทธ์หันไปมองเขาด้วยสายตาเย็นชาโดยไม่รอให้เขาพูดจบก่อน พอเห็นมือถือในมือของนินัทธ์ แล้วหันมามองมือถือที่นินัทธ์เพิ่งมอบให้กับเธอ เศวยาจะมองไม่ออกได้ยังไง ว่ามันเป็นมือถือของคู่รัก เธอไม่รู้จะทำยังไงดี ไม่รู้ว่าจะปฏิเสธเขาดีมั้ย แต่อาจเป็นไปได้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่เขามอบของขวัญให้กับคนอื่น เธอเลยรับของจากเขามาอย่างรู้สึกไม่เป็นอิสระ “ขอบคุณนะ…” นินัทธ์ชี้ไปที่มือถือเครื่องสีขาวของเธอ “เมมเบอร์ผมไว้ด้วยนะ” “อื้อ”เศวยาพยักหน้า เธอไม่คิดจะให้นินัทธ์ไปส่งเธอ เธอยืนกรานจะให้เขากลับก่อนให้ได้ นินัทธ์เข้าไปนั่งในรถ จากนั้นก็ลดกระจกหน้าต่างลง แล้วกำชับเธออีกทีอย่างวางใจไม่ได้เหมือนกับเด็ก “1314 เบอร์ผมนะ ผมไม่อนุญาตให้ลืมนะ” เศวยางงไปสักพัก ‘1314 เหรอ’ทันใดนั้นเธอก็หัวเราะออกมาอย่างไม่รู้ตัว แค่คิดก็รู้ได้ทันที ว่าเขาเลือกเบอร์นี้มาเพราะโดนคนในร้านขายมือถือจะต้องหลอกให้เขาซื้อแน่ๆ แต่เห็นเขายืนกรานขนาดนั้น เธอจึงยิ้มและพยักหน้าให้เขา “อื้อ ฉันจะจำไว้นะ” รถค่อยๆ เคลื่อนจากไป นินัทธ์กลับไปที่เทือกเขาตะนาวศรี ตอนที่เพิ่งถึงประตูหน้าบ้าน เขาก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลอดออกมาจากข้างใน “ฮะๆ ภา ภาไม่รู้หรอก ว่าตอนที่ภาไม่อยู่ ลูกชายตัวดีของภาเป็นแม่ศรีเรือนมากกว่าภาอีก ไม่ให้ฉันมันกินเหล้า ไม่ให้ฉันนสูบบุหรี่เลย! พอฉันว่าง ก็ไม่ยอมให้ไปเล่นกอล์ฟ” เสียงหัวเราะที่ทุ้มต่ำของธนเทพดังลอดบานประตูออกมา “แม่ จะไม่ให้เทพดูแลได้ยังไง ลุงฟ้องแม่แบบนี้ แม่ต้องรับผิดชอบนะ” เสียงผู้หญิงที่นุ่มนวลอ่อนหวานอีกคนก็ดังลอดออกมา “เดชละก็ อย่าดุเทพสิ ภาบอกให้เทพทำแบบนี้เอง เดชเนี่ย ไม่รู้เลยรึไงว่าทำให้หัวใจของตัวเองต้องเหนื่อย ทำงานจนลืมวันลืมคืนมาตั้งแต่ยังหนุ่มแล้ว เดชคิดว่าเดชยังหนุ่มยังแน่นอยู่รึไงฮะ ภาเตือนไว้เลยนะ ถ้าเดชออกความเห็นอะไรละก็ ภาจะแต่งงานใหม่ทันทีเลย” เดชชาตรีหัวเราะเสียงดัง “ฮะๆ ที่จะพูดก็คือลูกชายของพวกเราทำแบบนี้ถูกแล้วสินะ จากนี้ไปเดชจะแบ่งเวลาให้ดีละกันนะ” ด้านนอกของประตู นินัทธ์ที่ยืนอยู่เริ่มค่อยๆ คลายมือออก... กลางดึก ขณะที่เศวยากำลังหลับลึก เสียงมือถือของเธอก็ดังขึ้นมา เธอกดรับสายอย่างสะลึมสะลือ เสียงที่จนตรอกของบริวุตดังออกมาจากปลายสาย “พี่...พี่ยังไม่นอนใช่มั้ย” เศวยาพลิกตัว แล้วมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ที่กำแพง จากนั้นเธอก็คิ้วขมวดแล้วลุกขึ้นมาจากเตียง “ดึกขนาดนี้แล้วโทรมาทำไม อยากให้พี่ไปอาละวาดที่โรงเรียนตอนแกหลับมั้ย” “พี่...พี่ว่างออกมาข้างนอกมั้ย”บริวุตทำเสียงเล็กเสียงน้อย”พอดีว่า...ที่ที่วุตอยู่ตอนนี้ เกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยน่ะ” พอเศวยาได้ยิน ก็ลงจากเตียงทันที “แกอยู่ไหน” หลังจากนั้นครึ่งชั่วโมง เศวยาก็ปรากฏตัวขึ้นที่หน้าประตูของบาร์แห่งหนึ่ง ซึ่งมีคนยืนรอเธออยู่นานแล้ว “คุณเศวยาเหรอ” เศวยาหลับตาลง พักหนึ่ง เธอก็ลืมตามองคนตรงหน้าด้วยความระแวดระวัง “ น้องชายของฉันล่ะ” “ตามผมมา” เศวยาถูกคนพาเข้าไปในบาร์ที่มีเสืยงดังอึกทึก เขาพาเธอเดินไปถึงชั้นสอง แล้วผลักประตูไม้เข้าไป ในห้องนั้นระเกะระกะยุ่งเหยิงไปหมด เธอมองไปปราดเดียวก็เห็นว่าบริวุตที่มีใบหน้าเต็มไปด้วยรอยฟกช้ำ เสื้อผ้าเต็มไปด้วยคราบเลือดถูกใครบางคนกดให้นอนอยู่บนพื้น “วุต!”เศวยาอยากจะเดินไปหา แต่กลับถูกคนขวางเอาไว้ บริวุตเงยหน้ามองอย่างดุร้าย แล้วโบกมือให้เศวยา “พี่ ผม...ผมไม่เป็นไร” พอเห็นว่าในห้องเต็มไปด้วยคนมากมาย เศวยาก็พยายามสะกดความโกรธเคืองในใจของตนไว้ และพูดออกมาอย่างเย็นชา “ที่นี่ใครคุม” ในตอนนั้นเอง ผู้ชายวัยกลางคนที่ใส่สูทสวมรองเท้าหนังก็เดินเข้ามา “คุณเศวยา ผมขอแนะนำตัวหน่อยนะ ผมคือผู้จัดการของที่นี่ โรจนาครับ” เศวยาพูดออกมาตรงๆ “ผู้จัดการโรจนา ฉันก็มาแล้ว อยากจะได้อะไรก็พูดออกมาเลยเถอะค่ะ” ผู้จัดการโรจนาหัวเราะ และพูดว่า “ผมรู้เบื้องหลังของพวกคุณ แต่ว่า น้องชายของคุณทำที่นี่วุ่นไปหมด ผมคงปล่อยเขาไปเพราะเขาเป็นลูกชายของนายอำเภอไม่ได้หรอก ไม่อย่างนั้นผมจะทำธุรกิจต่อไปได้ยังไง” บริวุตพูดออกมาอย่างคับแค้นใจ “แกมันชั่วช้า! ที่พี่มาที่นี่ก็เพราะถูกหลอก ไม่ได้มาเพราะสมัครใจมาซะหน่อย!” เศวยาหันไปมองน้องชายของตัวเองอย่างดุดัน “หุบปากไปเลย ไอ้วุต!” พอถูกพี่สาวตวาดใส่ บริวุตก็ก้มหน้าก้มตา แล้วทำตาปริบๆ มองพี่สาวของตน ผู้จัดการโรจนาฉีกยิ้มจนตาตี่ “คุณเศวยา น้องชายของคุณพังบาร์ของผมจนเละเทะ ทำลูกน้องของผมได้รับบาดเจ็บ แถมยังทำให้ลูกค้าหวาดผวาจนหนีหายไปหมด คุณจะให้ผมคิดบัญชีกับคุณแทนน้องสุดที่รักคนนี้ หรือถ้าจะให้ผมรอถึงพรุ่งนี้ ผมก็จะไปคิดบัญชีกับท่านนายอำเภอด้วยตัวเองเลยดีมั้ย” บริวุตพูดออกมาด้วยความโกรธเคือง “ให้ตายสิ ก็เห็นอยู่ว่าคนของงแกลงมือก่อนน่ะ…” เศวยาสูดหายใจเข้าไปลึกๆ “เท่าไหร่” ผู้จัดการโรจนายิ้มอย่างชั่วร้าย “ผมจะลดราคาให้คุณเศวยายี่สิบเปอร์เซ็น...จ่ายไม่เยอะหรอก สิบห้าล้านเอง” เขายังคงยิ้มเยาะด้วยรอยยิ้มที่สุภาพเหมือนเดิม แล้วพูดอีกว่า “ได้ยินมาว่าช่วงนี้ท่านนายอำเภอยุ่งมาก เรื่องเล็กน้อยแบบนี้ ผมคงไม่ต้องไปรบกวนท่านหรอกเนอะ” เศวยา ทันใดนั้นบริวุตก็เบิกตากว้าง “สะ...สิบห้าล้านเหรอ นี่มันขูดเลือดขูดเนื้อกันชัดๆ! พี่ อย่าไปฟังไอ้สารเลวนี่นะ...แจ้งความ! พี่รีบไปแจ้งความเร็วเข้า!” เศวยาหันมามองบริวุตด้วยแววตาที่เหมือนกับนกฟินิกส์ที่มีท่าท่างดุร้าย จนเขาตัวสั่นไปหมด แล้วเธอก็พูดออกมาว่า“วุต ถ้าแกยังอ้าปากพูดอีก ฉันนี่แหละจะฉีกแกเป็นชิ้นเอง!” “เอื้อกกก” บริวุตกลืนน้ำลายเข้าไปอึกใหญ่ เขาส่ายหัวไปมาโดยไม่กล้าส่งเสียงอะไรออกมาอีก ‘พี่สาวน่ากลัวจัง!’ ในตอนนั้นเอง ประตูก็ถูกใครบางคนเปิดเข้ามา พอเศวยาเห็นว่าเป็นใคร เธอก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ “ไอ้หยา ที่แท้ก็คุณชายธนเทพนี่เอง” พอเห็นคนเดินเข้ามา ผู้จัดการโรจนาก็รีบยิ้มต้อนรับ ธนเทพยืนล้วงกระเป๋าพิงประตูอย่างขี้เกียจ เขาสวมเสื้อนอกที่มีแผ่นรองไหล่ พร้อมกับเสื้อเชิร์ตที่เปิดกระดุมสองเม็ด เผยให้เห็นผิวสีน้ำผึ้งที่อยู่ภายในเสื้อ ธนเทพเต็มไปด้วยรังสีอันตรายที่ดูยั่วยวนดึงดูดใจ จนทำให้เศวยารู้สึกสับสนไปหมด ทันใดนั้นเบนสายตาไปทางอื่น เธอไม่อยากจะมองเขาอีก ธนเทพมองไปรอบๆ “ผู้จัดการโรจนา เกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอ” “เรื่องเล็กๆ น้อยๆ น่ะครับ คุณชายธนเทพไม่ต้องลำบากมากังวลเรื่องนี้หรอกครับ” ธนเทพเดินเข้ามา กวาดสายตาไปเห็นบริวุตที่จมูกบวมแดงมีเลือดไหลเป็นทาง พอเขาหันไปเห็นเศวยาก็ยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ จากนั้นก็เดินเข้าไปหา เขาจ้องเศวยาและยื่นมือไปสัมผัสที่ไหล่ของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมอก ธนเทพหันไปหาผู้จัดการโรจนาและเลิกคิ้วสูง “ทำคนของฉันบาดเจ็บคือเรื่องเล็กงั้นเหรอ” ทันใดนั้นผู้จัดการโรจนาก็นิ่งไป “นี่เธอ...เธอเป็นคนของคุณธนเทพงั้นเหรอ” เศวยาอยากจะปลีกตัวออกจากอ้อมกอดของเขา แต่ตอนนั้นธนเทพก็ยื่นหน้ามาข้างหู ของเธอ แล้วพูดออกมาเสียงเบาๆ พร้อมลมร้อนที่ออกมาจากปากของเขา “ถ้าอยากพาน้องชายของเธอออกไปจากที่นี่ ก็ช่วยให้ความร่วมมือด้วย” เศวยาตัวสั่นไปหมด เธอมองไปที่บริวุต หลังจากที่เธอลองชั่งใจดูแล้ว เธอก็อดทนอยู่ข้างกายของธนเทพอย่างเงียบๆ ดวงตาสีดำของธนเทพเต็มไปด้วยความพึงพอใจ เขาโอบกอดเธอไว้ แล้วลูบคลำเธอประหนึ่งว่าเศวยาเป็นลูกแมวปลาที่เขาจับมาได้ ทำแบบนี้เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยเลย จากนั้นเขาก็กวาดสายตาไปมองผู้จัดการโรจนาด้วยสายตาที่เฉียบคม “ผู้จัดการโรจนา คุณเข้าใจที่ผมพูดชัดเจนดีใช่มั้ย” สีหน้าของผู้จัดการโรจนาเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง “เอ่อ คุณชายธนเทพ ผมไม่รู้ว่าหล่อนเป็นผู้หญิงของคุณ เรื่องนี้แค่เข้าใจผิด ผมจะขอโทษคุณเศวยาเดี๋ยวนี้แหละ” เขาพูดพลางผายมือและขยิบตาให้คนของเขาปล่อยตัวบริวุต 
已经是最新一章了
加载中