ตอนที่32 รูปถ่าย
1/
ตอนที่32 รูปถ่าย
รักแค้นหรือรักแท้ คำถามจากหัวใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่32 รูปถ่าย
ตนที่32 รูปถ่าย หญิงสาวในอ้อมอกมีสีหน้าซีดเซียวเสียจนน่าตกใจ ดวงตาทั้งคู่ในจ้องมาที่เขา ในดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความว้าวุ่น ร่างกายสั่นเทา สภาพเธอดูอ่อนแรงเสียจนน่าสงสาร ต่อให้มีคำที่ต้องการพูดมากเพียงไร ก็ไม่สามารถปริมันออกมาได้ มือสองข้างของเขาที่กำหมัดแน่น ค่อยๆปล่อยออก ทั้งฝ่ามือนั้นชุ่มไปด้วยเหงื่อ ด้านหลังมีรถขับมาอย่างรวดเร็ว แสงสะท้อนลงบนเส้นผมของเธอ ไฟสาดเข้ามาในตา แล้วทุกอย่างก็ดับวูบลง เธอถูกชนจนตัวลอยขึ้น และตกลงมาอย่างแรง เสียงกรีดร้องทั้งไปทั่ว เลือด เต็มอยู่บนทางที่คดเคี้ยว ทันใดนั้น เขาหรี่สายตาลง แล้วจ้องไปที่น้ำตาบนใบหน้าของเธอ "เธอ..." เศวยาที่อยู่ตรงหน้าเขา เธอมีท่าทีเย่อหยิ่ง จองหอง และเย็นชามาโดยตลอด นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นเธออ่อนแอได้เพียงนี้ ราวกับเป็นตุ๊กตาเซลามิก ที่เพียงโดนเบาๆก็แตกสลาย น้ำตาบนใบหน้าของเธอ ใสเป็นประกาย ไหลลงมาตามผิวที่สั่นสะท้าน จนตกลงมา ราวกับไม่ได้ตั้งใจตกลงมาถูกใจของเขา สายตาของธนเทพเปลี่ยนไป แสดงท่าทีที่แม้แต่ตัวเองยังตกใจ เขาก้าวขึ้นมาก้าวหนึ่ง แล้วรับเธอเข้าสู่อ้อมกอด มือใหญ่เข้าประคองที่หลังเธอด้วยความนุ่มนวล แล้วกระซิบซ้ำไปมาข้างหู "หายแล้วหายแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว ไม่เป็นไรแล้ว..." เธอที่อยู่ในอ้อมกอด ร่างเล็กเสียจนพร้อมที่จะสลายตามกาลเวลาไปได้ทุกเมื่อ ทำให้เขากระชับอ้อมกอดเธอแน่นขึ้น จึงจะทำ ให้รู้สึกสบายใจว่าเธอยังอยู่ในอ้อมกอดเขา ไม่สนใจสายตาสงสัยที่ส่งจากรอบๆ ร่างสูงใหญ่ของเขา เฝ้าเธออยู่ข้างกาย เวลาทุกวินาที เศวยาลืมเวลาไปเลยว่ามันนานเท่าไหร่แล้ว ลืมไปเลยว่าตัวเองอยู่ที่ไหน ในสมองที่ตีกันมั่วไปหมด แสดงภาพที่ปิดผนึกอยู่ที่ก้นบึ้งแห่งความทรงจำของเธอ อ้อมกอดนี้ เคยทำให้เธอหลงใหล... รถแท็กซี่ที่อยู่ไม่ๆกลนัก ชวนีนั่งตัวปข็งทื่ออยู่ในนั้น ภาพที่ทั้งสองกอดกันอย่างแนบชิดนั้น ราวกับเป็นคมฟันของสัตว์ป่า ที่กัดเข้ามาที่คอของเธอ ปริดลมหายใจของเธอ เขาบอก ว่าเขาไม่รู้สึกอะไรกับเศวยา เขาแค่หลอกใช้เธอ เขาบอก ว่าเขารักเธอ เธอเป็นผู้หญิงคนเดียวบนโลกใบนี้ที่ควรคู่แก่เขารัก เขาบอก ว่าเขาจะแต่งงานกับเธอ... คำโกหก มันสวยงามกว่าความจริงอยู่เสมอ ที่จะทำร้ายเธอได้อย่างง่ายดาย ถึงแม้ว่าเธอจะเห็นเองกับตา แต่ก็ยังไม่เชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ! พวกเขาคบกันมาตั้งนาน อยู่เคียงข้างกันมานับคืนวัน เธอไม่เชื่อว่าเขาจะเปลี่ยนใจ ทุกอย่างนี้ ต้องเป็นเพราะเศวยาลงมือทั้งนั้น เธอทั้งอยากได้สมบัติของตระกูลวรวงศ์คุณากร ทั้งอยากได้ธนเทพ! เธอรู้ ว่าบนโลกนี้มีผู้หญิงอย่างเศวยาคนเดียว ที่ไม่รู้จักพอ! เล็บยาวๆ จิกลงไปในฝ่ามือ จนชา ความเจ็บปวดเพียงเท่านี้มิอาจสู้ภาพที่จำฝักลึกตรงหน้าได้หรอก แววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ ราวกับมีประกายไฟอยู่ในนั้น แทบจะแผดเผาเศวยาให้ไหม้เสียจนเป็นเถ้าถ่าน! ณ ตอนนั้น คนขับรถจึงถามขึ้นด้วยความทนไม่ไหว "คุณผู้หญิง จะให้รออีกนานเท่าไหร่? ที่นี่จอดนานไม่ได้นะครับ" ชวนีกัดฟันกรอด แล้วมองกลับมา "ไปได้!" เนิ่นนาน จนกระทั่งเศวยาสงบลง เธอจึงรู้สึกว่าตัวเองนั้นอยู่ในอ้อมกอดของธนเทพ เมื่อร็สึกตัวตื่นขึ้นมา เธอยื่นมือออกไปผลักเขาอย่างไม่ลังเล ธนเทพที่เตรียมตัวอยู่แล้ว จึงคว้าข้อมือของเธอเอาไว้ เพื่อป้องกันที่เธอทำเช่นเมื่อครู่แล้วจะเกิดอุบัติเหตุ "ทำไม ใช้เสร็จก็โยนทิ้งเลยเหรอ?" ธนเทพต้องไปที่เธอ กระหยิ่มยิ้มย่องพลางพูดว่า "เศวยา เธอนี่ช่างใสซื่อจริงๆ" เศวยารีบเก็บสีหน้า ก้มหน้าลง ไม่มองเขา แล้วพลิกตัวลงขั้นบันได พลางโทษตัวเองอยู่ในใจ ว่าเธอลืมเรื่องราวที่ผ่านมาไปได้อย่างไร จึงต้องการโหยหาอ้อมกอดของเขาอีก? เศวยา เธอไม่รู้จักอยู่นิ่งหรือยังไง? เธอยังไม่รู้คำว่า “ตาย” เขียนอย่างไรใช่ไหม ? เธอโมโหตัวเอง อยู่ในใจ พลางเดินตามหลังธนเทพดั่งเงา มุมปากยกขึ้นเบาๆ ในอ้อมกอดของเขา จนถึงตอนนี้ยังมีทั้งกลิ่นหอม ความอบอุ่น สัมผัสนุ่มนวล ราวกับส่วนผสมสามชนิดของเหล้าของเธอติดอยู่ ทำให้เขาเมามาย เดินมาแล้วถนนทั้งสองสาย เศวตาค่อยๆขัดขืน แล้วถอนหายใจออกมา เท้าที่ใส่รองเท้าส้นสูงอยู่นั้นรู้สึกเจ็บแปรบ เธอนั่งลงที่เก้าอี้รอรถที่ป้ายรถเมล์ แล้วยื่นสองเท้าออกไปข้างหน้า ที่ว่างด้านข้างถูกคนแย่งไปแล้ว “นี่” ธนเทพยื่นกาแฟเย็นให้เธอแก้วหนึ่ง เธอมองไปทีหนึ่ง แล้วรับแก้วมาไว้ในมือ ดูดน้ำขึ้นมาแรงๆ ความเย็นของเครื่องดื่มไหลผ่านลำคอ เธอหรี่ตาด้วยความรู้สึกสดชื่น ราวกับนกคีรีบูนที่แสนเกียจคร้านและเย่อหยิ่ง ที่มีลมหายใจแสนวิเศษณ์ที่ดึงดูดผู้คน ธนเทพมองไปยังปากที่ได้รูปของเธอ แล้วจึงแกล้งพูดเร่งขึ้น “ความเห็นเมื่อกี้ ก็สามารถแก้ไขได้อยู่” เศวยาหันมามองเขา ขมวดคิ้มแน่น เขาเดินเข้ามา มองใบหน้าขาวซีดที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มา “ให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเธอวันหนึ่ง” การเข้าใกล้ของเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว ทำให้เศวยาอึ้งไป เอรีบหลบตัวออก “ฉันยังไม่ได้ตกลง” “หึๆ เธอจะต้องตกลง เพราะว่า เศวยาผู้หญิงที่เฉลียวฉลาด คงไม่ต้องการให้ตัวเองแบกรับภาระที่หนักหนาขนาดนี้ ยิ่งไปกว่านั้น หนี้ก้อนนี้ยังใช้ไม่หมดวันใด เธอก็ยังต้องอยู่กับฉันอีกวัน” จ้องมองเธอ เขายิ้มร่าอย่างสบายใจ แววตาเป็นประกาย “นอกเสียจาก นี่เป็นสิ่งที่เธอต้องการจริงๆ” “ผั๊วะ” เศวยาบีบแก้วกาแฟในมือจนน้ำกระเด็นออกมา แล้วโยนลงถังขยะไป แล้วจึงหันไปยิ้มให้เขา “ฉันต้องการทนายเพื่อความยุติธรรมนี้” ธนเทพยิ้ม แล้วลากเธอเดินไปด้วยความดีเดือด “รอเดี๋ยว!” เศวยาจ้องที่เขา ออกแรงจะสะบัดแขนเขาออกอย่างแรง “ให้อยู่กับนายหนึ่งวัน แต่ไม่รวมสิ่งนี้!” เขาหันตัวกลับมา แววตานั้นทำให้เธอรู้สึกไม่คุ้นเคย “วางใจเถอะ ฉันยังไม่อยากพาเธอขึ้นเตียงในสภาพนี้” คำพูดของเขา ทั้งคลุมเครือทั้งยากที่จะเอาไปครุ่นคิด เศวยาขมวดคิ้ว แล้วเตือนตัวเองอยู่ตลอด ว่าผู้ชายคนนี้น่ารังเกียจ เขามีโอกาสพาเธอลงนรกได้ เธอจะวางใจไม่ได้! อยู่เป็นเพื่อนเขาแค่วันเดียวเท่านั้น เพื่อเงินห้าแสนบาทนั้น เมื่อคิดเช่นนั้น เธอจึงเลิกขัดขืน เขาอยากจะจูงก็ให้เขาจูงไป เธอเปลี่ยนเป็นเชื่อฟังอย่างง่ายดาย ทำให้ธนเทพรู้สึกแปลกใจจนต้องขมวดคิ้ว แต่ไม่นาน ก็ยิ้มขึ้นมา แล้วพาเธอค่อยๆเดินไปยังถนนเส้นหนึ่ง ธนเทพชินกับการนำทาง รวมถึงตอนที่อยู่กับแฟนสาวเช่นกัน เขาจะพาเธอไปร้านอาหารที่ดีที่สุดในเมืองเอ สั่งอาหารที่แพงที่สุด เศวยาไม่ได้กินอะไรมาแต่เช้า คงจะหิวแย่แล้ว ในเมื่อเขาเลี้ยง เธอจึงกินอย่างเต็มที่ กินจนเขาต้องจ่ายถึงห้าหลักไปเลย! ช้อนส้อมตรงหน้าของธนเทพยังไม่ทันขยับ เอาแต่มองเธอที่อยู่ตรงข้าม เมื่อก่อน ตอนที่เศวยาอยู่ต่อหน้าธนเทพ เธอระวังกริยาอาการท่าทีมาก ทานอาหารแค่สามคำก็อิ่มแล้ว แต่ตอนนี้ ไม่ต้องไปสนใจสิ่งเหล่านั้นแล้ว เธอกินอย่างสบายใจ สุดท้ายยังเรอออกมาเบาๆ ถือว่าเป็นอันเสร็จสิ้นสมบูรณ์ ธนเทพมองเธออย่างยิ้มๆ ครั้งก่อนที่ไปฟู้ดโซนกับเธอ เขารู้ว่าผู้หญิงคนนี้กินจุ ถือว่าวันนี้ได้เริ่มใหม่แล้วกัน มองไปที่หน้าท้องเล็กๆของเธอ ก็รู้สึกประหลาดใจ ว่าอาหารที่ถูกเธอกินไปจนหมดนั้น ไปอยู่ไหนหมด? ณ เขตตะวันตก ตระกูลวรวงศ์คุณากร น้าลิลลี่หยิบพัสดุเข้ามากล่องหนึ่ง หน้ากล่องจ่าถึงนินัทธ์ แต่บนกล่องกลับไม่มีชื่อผู้ส่ง “น้าลิลลี่ นั่นคืออะไร?” พิมลแขกำลังเดินลงมาจากด้านบน ถึงแม้ว่าเธอจะมีอายุถึงสี่สิบแล้ว แต่ผ่านการดูแลตัวเองอย่างดี ทำให้ไม่มีริ้วรอยเลยซักนิด ร่างสูงชะลูดของเธอ ท่าทางที่ดูสง่างาม มุมปากมีรอยยิ้มเปื้อนอยู่ ทำให้ดูเป็นกันเอง “ส่งมาให้คุณชายค่ะ” “นินัทธ์?” พิมลแขรับกล่องไปดู เป็นเพียงซองเอกสาร แววตาทอประกายแปลกไปอยู่ชั่ววูบ แล้วก็กลับมาเป็นเช่นเดิม พลางหัวเราะแล้วพูดขึ้น “น่าจะเป็นพวกโฆษณาประกาศแหละ พี่ลิลลี่ เอาขึ้นไปให้เขาเถอะ” ป้าลิลลี่ตอบรับ แล้วเดินขึ้นไป รอยยิ้มของพิมลแขค่อยๆจางหายไป แล้วขมวดคิ้มขึ้นมาด้วยความเคร่งเครียด ป้าลิลลี่เคาะประตู “คุณชายคะ?” ด้านในไม่มีเสียงตอบรับ เธอก็ชินเสียแล้ว จึงพูดเป็นเชิงให้สัญญาณ “ฉันเข้าไปนะคะ” แล้วจึงผลักประตูเข้าไป เห็นนินนัทธ์นั่งอยู่บนพื้น มีดทรศัพท์สีขาววางอยู่ด้านหน้า สายตาทอเป็นประกาย ราวกับเป็นทางช้างเผือกที่ทอแสง สดใสและสวยงาม ป้าลิลลี่มองโทรศัพท์ที่อยู่บนพื้น คิดว่าเป็นการเล่นใหม่ๆของคุณชาย ไม่ได้ใส่ใจ จึงยื่นซองเอกสารไปให้ “คุณชาย อันนี้ให้คุณค่ะ” ซองเอกสารบดบังการมองของเขา นินัทธ์จึงขมวดคิ้ว แล้วหันหน้าไป แล้วหันกลับมาจ้องที่โทรศัพท์อีกครั้ง ผ่านไปตั้งหลายสิบชั่วโมงแล้ว ทำไม ทำไมถึงไม่ดังซักที? ป้าลิลลี่หัวเราะขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ “คุณชาย ฉันเอาของวางไว้ตรงนี้นะคะ อ้อ ใช่แล้ว อย่าลืมทางยาที่อยู่บนโต๊ะนะคะ” นินัทธ์ไม่แม้แต่จะสนใจฟัง นั่งอยู่ตรงนั้นนิ่งเฉย ไม่แม้แต่จะขยับตัว จนกระทั่งป้าลิลลี่เดินออกไป จึงค่อนๆเลื่อนสายตา มองไปที่ซองเอกสารที่อยู่ข้างๆ ยื่นมือไปค่อยๆหยิบขึ้นมาอย่างระวัง ฉีกออก แล้วก็รูปหลนออกมาจากด้านใน เขากวาดสายตามอง เก็บรูปพวกนั้นขึ้นมา... หลังจากทานอาหารกลางวันเสร็จ ธนเทพก็พาเศวยาไปเดินช็อปปิ้ง ไปร้านที่เหล่าหญิงสาวชอบกัน เขาไม่วางใจ เศวยาจ้องสงสัยผู้ชายที่อยู่ด้านข้างอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขาจะมาไม้ไหน! แต่การมาออกเดทเช่นนี้ไม่เหมาะสมกับพวกเขาแน่ๆ “มีที่เธอชอบไหม?๑ ในร้านเครื่องประดับผู้หญิง เขาตั้งใจเลือกคอลเลคชั่นใหม่ของฤดูกาลขึ้นมา รูปลักษณ์ภายนอกที่ดูหล่อเหลาของเขา ท่าทางที่อ่อนโยน ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของหญิงสาวในร้าน และทุกคนล้วนอิจฉาที่เศวยามีแฟนที่ดีขนาดนี้ เศวยานั่งลงบนโซฟา แล้วเปิดนิตยสารอ่านอย่างไม่สนใจ “นายตัดสินใจเลย” ธนเทพกลับไม่สนใจท่าทีเย็นชาของเธอ เขาเลือกคอลเลคชั่นที่ถูกใจออกมา แล้วส่งให้พนักงาน “เอาทั้งหมดนี้” แล้วเอาทั้งถุงเล็กถุงน้อยไปไว้บนรถ จากนั้นเขาก็พาเศวยาไปร้านรองเท้าต่อ สุดท้าย เศวยาก็ดึงเขาไว้อย่างทนไม่ได้ “ธนเทพ นายอยากจะทำอะไรกันแน่? ถ้านายความจำไม่ดี งั้นฉันจะย้ำให้! คนที่ติดหนี้คือฉัน คือฉัน ไม่ใช่นาย!” “ฉันเป็นนักธุรกิจ คิดบัญชีเก่งกว่าเธอเยอะ” จ้องที่เธอ ตาดำขลับของเขาทอประกายออกมา ปะทะกับความเย็นชาที่มีอยู่ก่อนแล้ว “แล้วนี่นายหมายความว่ายังไง? อยากจะเพิ่มหนี้ให้ฉัน? งั้นขอโทษ ฉันไม่รับหนี้ก้อนนี้” จ้องมองปากที่เถียงไม่หยุดของเธอ ยากที่ธนเทพจะทำให้เธอโมโห แต่อย่างไรก็ตามเขาก็จะให้สิ่งที่ผู้หญิงอยากได้แก่เธอทั้งหมด เธอจะได้เลิกนิสัยอยากได้อยากมี ในตัวเองได้รู้ ว่าเธอเป็นเพียงหญิงสาวธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษ” แต่ว่า เธอไม่พอใจ เธอปฏิเสธ! เธอทำให้เขารู้สึกว่าตัวเองเป็นคนโง่! แววยตานั้นดูเย็นชาลง ราวกับกำลังถูกฟรีซด้วยสายตาของเธอ “ของที่ฉันให้ มันทำเธอลำบากมากเลยเหรอ? หรือว่า เธอรับแต่ของของนินัทธ์? เพราะว่าเขาเป็นทายาทตระกูลวรวงศ์คุณากร? เพราะว่าเขารวยกว่าฉัน?” เศวยายิ้มอย่างเย็นเยือก “ธนเทพ นายดูถูกตัวเองเหรอ?” “ดูถูกตัวเอง?” ทันใดนั้นธนเทพก็หัวเราะขึ้นมา นัยน์ตาของเขาทอประกายความดุดันขึ้นมา ผิดปกติอย่างเห็นได้ชัด “ถ้าหาก เธอได้รู้ว่านินัทธ์ตัวจริงนั้นมีสภาพอย่างไร เธอคงจะไม่กล้าพูดเช่นนี้” เศวยายกมุมปากขึ้นข้างหนึ่ง แล้วเดินก้าวขึ้นไปก้าวหนึ่ง แล้วแววตาที่มีเสน่ห์นั้นมองเขา “เกรงว่า ฉันจะรู้ มากกว่าที่นายคิดไว้นะ” นินัทธ์ที่ดื้อรั้น นินัทธ์ที่โดดเดี่ยว นินัทธ์ที่ว่างเปล่าดั่งอากาศ ไม่มีใครเข้าใจเขาไปมากกว่าเธอ “จริงเหรอ?” ธนเทพเลิกคิ้วขึ้น มองหน้าใสๆของเธอ แล้วก้มหน้าลง เข้าใกล้ริมฝีปากของเธอ “ฉันยิ่งรอคอยแล้วสิ ว่าเมื่อเธอมองเห็นเขาอย่างที่เขาเป็นมาตลอด ว่าเธอจะนิ่งได้ขนาดนี้อีกไหม” เศวยาใจแกว่ง เมื่อเทียบกับนินัทธ์แล้ว เธอเข้าใจในผู้ชายตรงหน้าคนนี้มากกว่า! เขายังรู้อะไรเกี่ยวกับนินัทธ์อีก? เขาเม้มริมฝีปาก คว้ามือเธอแล้วเดินออกไปด้านนอก “ในเมื่อเธอไม่ชอบช็อปปิ้ง งั้นก้ทำตามที่ฉันชอบแล้วกัน” “นาย...” เศวยาขัดขืนเขา แต่สุดท้ายก็ถูกลากขึ้นรถไป ธนเทพออกรถไปอย่างรวดเร็ว แล่นออกจากตัวเมือง มุ่งไปทางทะเล ริมทะเลเมืองเอ มีห้องอาบน้ำเล็กๆสำหรับแขก กลางดึกแบบนี้ คนไม่เยอะ คนส่วนมากก้เดินเล่นที่ริมหาดกันหมด ธนเทพล้วงสองมือเข้าในกระเป๋า ยืนอยู่ริมทะเล มองทอดไปทางทะเล ตาดำขลับนั้นค่อยๆหรี่ลง ผมสั้นๆนั้นถูกลมพัดจนยุ่งเหยิงไปหมด เศวยายืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบๆ ทั้งเงียบไม่ได้พูดอะไร ได้ยินเพียงเสียงลมพัด เดี๋ยวหมุน เดี๋ยวพัดผ่าน เวลาที่อยู่อยู่กับเขาแบบนี้ไม่มาก เงียบ สงบ ไม่มีการหลอกใช้ ไม่มีการฉวยโอกาส เธอก็ค่อยๆรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมา หันไปมองเขา เขาเม้มปากเบาๆ ดูผ่อนคลายเล็กน้อย ทำให้เขาดูมีเสน่ห์อย่างบอกไม่ถูก รับรู้ได้ถึงความสนใจของตัวเอง จึงเก็บสายตากลับมา ไม่หันไปมองคนที่ทำลายครึ่งชีวิตที่เหลือของเธออีก! ฟ้าค่อยๆมืดลง ชายหาดคนน้อยลงแล้ว ลมกลางคืนนั้นหนาวขึ้นเรื่อยๆ ผ่านไปอีกวันอย่างสงบ เศวยาค่อยๆถอนหายใจเบาๆ ณ ตอนนั้น ผู้ชายที่อยู่ข้างๆก็เริ่มเปิดปากขึ้นมา “ตอนเด็กๆ พ่อชอบพาฉันมาทะเลบ่อยๆ... เวลาไม่สบายใจ ก็จะมาที่นี่ ตากลม ให้สมองได้ผ่อนคลาย” เขาพุดด้วยคำที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น เศวยาขมวดคิ้ว นี่เป้นครั้งแรกที่เธอได้ยินเขาเล่าเกี่ยวกับพ่อ ผ่านไปซักพัก เขาก้หัวเราะขึ้นมา แล้วหันมามองเธอ “หากย้อนเวลากลับไปได้ ก็คงจะดีเนอะ” เศวยายิ้มเย้ย มองออกไปไกลๆ ถึงแม้ว่าจะไร้ที่สิ้นสุด ราวกับขอบฟ้าและขอบมหาสมุทรที่ไม่มีวันบรรจบ “แล้วถ้าเป็นราคาของชีวิตล่ะ?” ธนเทพจ้องเธอเขม็ง ถูกรอยยิ้มที่ยากจะเกิดขึ้นบนใบเธอนั้น กระชากวิญญาณหลุดจากร่างไป เขาผิดไปแล้ว วันเดียวไม่เพียงพอที่จะเปิดโปงผู้หญิงคนนี้ ความหลงใหลที่มีในตัวเธอ ด้ายที่พันจนเป็นดักแด้ ยิ่งเขารู้สึกอยากเข้าใกล้เธอมากเท่าไหร่ ยิ่งรู้สึกเหมือนมีอะไรมาขวางกั้นไว้ แต่เขาไม่ยอมปล่อยมือ! “เธอนี่มันเจ้าเล่ห์จริงๆเลย...” เขาบ่นด้วยความหงุดหงิด ฉุดเธอลงมา แล้วใช้สองมือประคองหน้าเธอไว้ แล้วทาบริมฝีปากลงที่ปากเธออย่างไม่ตั้งตัว
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่32 รูปถ่าย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A