ตอนที่ 40 ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 40 ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ
ต๭นที่ 40 ฉันไม่ได้ล้อเล่นกับเธอ “เพียงแค่ต้องการเหตุผลหนึ่ง” นินัทธ์จ้องเธอ แล้วพูดด้วยเสียงทุ้มต่ำ แววตาเดือดพล่าน จับหน้าเธอเอาไว้ รักโดยไม่สนใจสิ่งใด ทำตามจิตใจ เขาก้มลงไปจูบเธอ เศวยาที่เตรียมตัวไว้อยู่แล้ว จึงยื่นมือไปดันหน้าเขาเอาไว้ เรื่องที่คุยเมื่อสักครู่ อธิบายด้วยความตั้งใจ “นินัทธ์ ฉันไม่บางจะบังคับความคิดนาย ที่จริง แค่นายรู้สึกสบายดี มีความสุข ก็พอแล้ว สมบัติตระกูลอะไร ใครอยากได้ก็ให้เขาเอาไปเหอะ!” ในช่วงนี้ ทำให้เศวยาหมองใจ ไม่ว่าจะข่าวเล็กหรือใหญ่ก็เป็นธนเทพทั้งนั้น แม้กระทั่งจันทรชาโทรมา ยังอยากจัดเวลาไปสัมภาษณ์ธนเทพ เธอบอกว่า ตอนนี้ธนเทพเป็นคนดัง อยู่ใกล้จึงได้ประโยชน์ ไม่ว่าจะพูดอะไรก็ทำตาม เศวยาเบื่อที่จะอธิบาย นึกถึงนินัทธ์ที่ถูกไปไว้อีกฝั่ง ในใจรู้สึกเหมือนหนูถูกจับ ไม่สบายใจ! แต่ไม่ยอมเพียงไร เธอก็เข้าใจดี จนทุกวันนี้ ทุกอย่างที่นินัทธ์ทำ ก็เพื่อเธอทั้งนั้น “มีเธอก็พอแล้ว” เสียงของเขาทุ้มต่ำ ไม่ได้จูบเธอ จึงซุกเข้าไปที่ซอกคอแทน จมูกฟุดฟิด ดมกลิ่นหอมๆจากตัวเธอ ลมหายใจร้อนๆจากเขาแพร่เข้ามา ผิวที่ไวต่อความรู้สึกนั้นแดงขึ้น เศวยาจึงถอยออกมา แล้วพูดเบาๆ ”นินัทธ์ ปรึกษาหน่อยได้ไหม?” “อะไร?” เขาถาม เธอถอยเขาตาม ราวกับไม่ยอมปล่อยเธอไปง่ายๆ “รักษาระยะห่างเอาไว้!” เศวยายื่นความห่างขนาดหนึ่งช่วงแขน แล้วพูดอย่างพอใจ “ระยะเท่านี้ก็พอแล้ว” นินัทธ์ก้มลงมามอง เขาก็ไม่ปฏิเสธ หรือขัดขืน แต่ยิ้มอ่อนๆ กุมมือเธอเอาไว้ แล้วเล่นนิ้วของเธอต่อ เพียงแค่เป็นของเธอ เขาก็สนใจทั้งนั้น! เขาชอบที่จะอยู่ข้างๆเธอ ชอบหายใจใกล้ๆเธอ ชอบทุกตรงที่มีรอยที่เธอทิ้งไว้! หน้าผากของเศวยาเหงื่อออก เธอรีบดึงมือกลับมา แล้วพูดขึ้น “พอแล้ว ตามใจนาย” กฎที่ตั้งขึ้นใช้ไม่ได้กับนินัทธ์ในตอนนี้ เธอควรจะรู้ตั้งนาน ดังนั้น ก็ถือว่าเป็น... เลี้ยงสัตว์ตัวหนึ่งไว้ข้างกายละกัน เธอตั้งท่าจะอ้าปาก นินัทธ์ก็ดึงเธอเข้ามากอดเอาไว้ ใบหน้าหล่อเหลานั้นเผยรอยยิ้มที่สดใสออกมา พูดอย่างร่าเริง “งั้นพวกเราขึ้นเตียงกันเถอะ!” เศวยาเบิกตาโต ไม่อยากจะเชื่อ ว่าคำพูดแบบนี้จะออกมาจากปากของเขา ทำไมเขาถึงพูดขึ้นง่ายดายราวกับปลอกผ้านวมดูการ์ตูนแบบนั้น! และที่ยิ่งทำให้สงสัยคือ เขารู้ความหมายที่พูดออกมาไหม? เศวยาทำหน้าเข้มขึ้น แล้วฉีกยิ้มออกมา “นินัทธ์ นายรู้ว่านายกำลังพูดอะไรไหม?” นินัทธ์ยิ้ม แล้วบีบที่คางแหลมๆนั้น “ที่ฉันควรรู้ ฉันก็รู้ทั้งนั้นแหละ” “...” เศวยาชะงัก เธอรู้สึกว่า ในปัญหานี้ เธอสูญเสียเชิงรุกไปอย่างสิ้นเชิง ค่อยๆเดินเข้ามาในหลุมที่ขุดเอาไว้เรียบร้อยอย่างดี รอให้เธอกระโดดตามเข้ามา! บทสนทนาจึงเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนขึ้น ฝนดอกท้อที่โปรยปรายอยู่บนหัว ก็ไม่อาจมอดเปลวไฟแห่งความเร่าร้อนนี้ได้หมด! “นินัทธ์ ฉันหิวแล้ว” เธอพลันพูดขึ้นอย่างจริงจัง นินัทธ์ได้ยิน จึงลุกขึ้นมา “รอฉัน” เขารีบก้าวเข้าไปในห้องครัว เศวยาโล่งอก แผนนี้ทำให้ผ่านพ้นไปได้หลายครั้ง นินัทธ์ไปกลับมาเร็วมาก ราวกับเตรียมมาก่อน อาหารว่างที่สวยงามถูกยกมาเสิร์ฟ ทุกอย่างต่างเป็นของที่เธอชอบ อาหารที่สวยงามนั้นออกฤทธิ์ดีมาก เศวยารู้สึกสบายจนหลับตาพริ้ม เห็นนินัทธ์ทำตาหยีมาเข้าใกล้ ราวกับนึกได้ทันควัน รีบเอาอีกครึ่งชิ้นในมือยัดเข้าปาก กินจนหมด แล้วยิ้มอย่างเด็กได้ใจ “ฉันกินหมดแล้ว!” แววตาของนินัทธ์เผยความรู้สึกเอ็นดูออกมา มือใหญ่นั้นค่อยๆลูบไปตามเส้นผม “ฉันกินตรงนี้” เพิ่งจะพูดจบ ก็รู้สึกว่ามีอะไรเข้ามาใกล้ ลิ้นของเขาค่อยๆเลียครีมที่ติดอยู่ตรงมุมปากของเธอ ความรู้สึกชุ่มชื้นนั้น ทำให้เศวยาตัวสั่นเล็กน้อย หลบอย่างไม่ทันได้คิดอะไร ไม่มีต้นไม้ข้างหลังไว้ให้พิง ทั้งตัวจึงล้มลงไปกับพื้น ต่อมา คนที่ทำให้เธอหน้าแดงและใจเต้นแรงนั้น ก็เข้ามาประชิด ค่อมอยู่บนตัวเธอ มองไปที่เธอ แล้วใช้นิ้วไล้ไปตามหน้าแดงๆนั้น ราวกับไม่อยากจะปล่อยเธอไป จึงยิ้มแล้วพูดขึ้น “เธอหน้าแดงแล้ว” เศยาทั้งรนทั้งโมโห “นินัทธ์! นายรีบลุกขึ้นนะ!” “ไม่เอา” เขายั่วให้เธอคลั่ง นิ้วเรียวลูปผ่านริมฝีปากเธอครั้งแล้วครั้งเล่า “นอกจาก เธอจะบอกฉัน ว่าทำไมถึงหน้าแดง” เศวยาปั่นป่วน เธอมีหนทางต่อหน้าชายหนุ่มเสมอ ไม่คิดว่า วันนี้ถูกเขาล้อกันเล่นได้! จึงพูดขึ้นอย่างไม่ได้คิด “ฉันร้อน!” “อ่ะ งั้นถอดเสื้อผ้าสิ” นินัทธ์คั้งใจยื่นมือไปดึงเสื้อตัวนอกของเธอออก นิ้วเรียวนั้นเลื่อนผ่านหน้าอกเธออย่างจงใจ เศวยาหน้าแดงจนแทบลุกเป็นไฟ ในขณะที่เธอเอาแต่ขัดขืนนั้น “นินัทธ์! เลิกล้อเล่นได้แล้ว ลุกขึ้นเร็ว!” เงยหน้าขึ้นมาจากหน้าอกเธอ แล้วกระซิบ “ฉันไม่ล้อเธอเล่นหรอก” เมื่อรู้สึกอย่างไม่ทันตั้งตัว เศวยาใจเต้นแรง จ้องที่เขา จนลืมที่จะขัดขืน ชั่วพริบตา เขาก็ยิ้มออกมา “ที่บอกว่าขึ้นเตียงนั้น พูดจริง” เศวยา “...” “อุ้ย!” เสียงตกใจดังขึ้นจากด้านบน ทั้งสองเงยหน้าขึ้น เห็นเป็นน้าอ้อย เธอจึงรีบลุกไปอีกทาง “ดูสิ ฉันล่ะมาได้เวลาจริงๆ” เศวยาอายเสียจนแทบจะมุดรูต้นไม้! ผลักนินัทธ์ ให้เขารีบลุกขึ้น นินัทธ์ลุกขึ้นอย่างไม่ยินยอมเท่าไหร่นัก เขาไม่ได้ลุกขึ้น แต่ยังคงนั่งอยู่ที่พื้น จ้องน้าอ้อย มันช่างน่าเสียดาย น้าอ้อยที่เพิ่งเข้ามา เห็นคู่รักนี้ช่างเร่าร้อน จึงดีใจแทนคุณชาย เธอมองออกว่าเศวยาเป็นผู้หญิงที่ใช้ได้ จะต้องมีผู้หญิงซักคนที่เข้าใจคุณชาย เศวยาลุกขึ้น รีบจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่ หน้าแดงเสียจนน่าเอ็นดู ถามขึ้นอย่างรู้สึกเขินอาย “น้าอ้อยมีธุระอะไรเหรอคะ?” “ฮ่าๆ นายท่านโทรมา เรียนสายคุณชายค่ะ” นินัทธ์ทำราวกับไม่ได้ยิน ก้มหน้า ผูกเชือกรองเท้าให้เศวยา เศวยาหน้าแดงสลับม่วง แล้วตัดบทเขา “นินัทธ์ ไปรับสายสิ” นินัทธ์ไม่ฟัง ราวกับไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับคนที่โทรมาอย่างนั้น คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทำไมจะต้องไปสนใจ? น้าอ้อยกระแอม แล้วพูดอย่างตั้งใจ “คุณชาย นานๆทีที่นายท่านจะโทรมา โดยเฉพาะครั้งก่อนหลังจากเรื่องนั้น... เห้อ คุณชายจะเป็นอย่างนี้ไม่ได้นะคะ” รู้ว่าน้าอ้อยพูดถึงเรื่องงานแลองครบรอบตระกูลศิริวัชรภัทร เศวยาขมวดคิ้ว นั่งลง แล้วมองนินัทธ์ พูดเบาๆ “นินัทธ์ ไปรับสายเถอะ” ชนิดพอาจจะผิดไปบ้าง แต่เขาก็เป็นพ่อของเขา เศวยาไม่อยากให้ความสัมพันธ์แย่ลง โดยเฉพาะ ยิ่งมีคู่แม่ลูกคอยจ้องอยู่! นินัทธ์ไม่ได้พูดอะไร เห็นเพียงแต่ความขัดแย้งที่เขามีต่อชนิดพ เศวยาไม่ยอมให้เขาหนี จับหน้าเขาขึ้นมา แล้วมอง “นินัทธ์ ฉันต้องการให้นายทำอย่างนั้น” เขาเม้มปากสีสวย ไม่นานนัก ก็ลุกเดินไปที่ห้องรับแขก น้าอ้อยค่อยรู้สึกโล่งอก ค้อมหัวให้เศวยาเป็นเชิงขอบคุณ “ชอบคุณมากค่ะ คุณหนูเศวยา” “ไม่เป็นไรค่ะ” เศวยาก็เดินเข้าไปกับน้าอ้อย นินัทธ์ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วพูดเสียงต่ำ “มีธุระอะไร?” ชนิดพที่ปลายสายรอมานานแล้ว จนรู้สึกแทบจะทนไม่ไหว “ทำไมถึงนานอย่างนี้?” ไม่รอให้เขาตอบ ชนิดพรีบพูดต่อ “คืนนี้มีงานรวมครอบครัว ทุกคนในบ้าน เตรียมตัวหน่อย หนึ่งทุ่มฉันจะให้คนไปรับ” สีหน้าของนินัทธ์ไม่เปลี่ยน เขาไม่แม้แต่จะสนใจ เขามีหน้าที่แค่รับสาย ไม่ได้มีหน้าที่จะพูดอะไร เมื่อไม่ได้ยินเสียงเขาตอบรับ ชนิดพจึงโมโห “แกได้ฟังที่ฉันพูดไหมเนี่ย?” และเขาก็พูดต่ออย่างรวดเร็ว “ช่างเหอะ พูดกับแกก็เสียเปล่า! เอาโทรศัพท์ให้น้าอ้อย!” นินัทธ์ยื่นโทรศัพท์ให้น้าอ้อยที่อยู่ข้างๆ หาวครั้งหนึ่ง แล้วเดินกลับไปที่โซฟา น้าอ้อยฟังที่ชนิดพสั่ง พยักหน้าไม่หยุด “รู้แล้วค่ะ นายท่าน วางใจค่ะ ฉันจะเตือนคุณชายเอง” หลังจากวางสาย สีหน้าเขาเต็มไปด้วยความทุกข์ มองคุณชาย แล้วก็เศวยา ในที่สุดก็ตัดสินใจว่าขอร้องเธอ น้าอ้อยลากเศวยามาอีกฝั่ง แล้วกระซิบ “คุณหนูเศวยาคะ นายท่านวันนี้เชิญให้คุณชายไปทานอาหารกับคนในบ้าน คุณว่า... จะช่วยพูดกับคุณชายหน่อยได้ไหมคะ?” “คนในบ้าน?” เศวยารีบนึกถึงธนเทพและพิมลแข ถ้าทั้งสองคนนั้นเป็นคนในบ้าน อาหารมื้อนี้สำหรับนินัทธ์ก็คงไปเพื่อเป็นหน้าตาให้พวกนั้น ใครจะรู้ว่าน้าอ้อยจะพูดว่า “นอกจากคุณหญิงและคุณธนเทพแล้ว ยังมีผู้ใหญ่ในตระกูลอีก นายท่านอยากจะแนะนำสองแม่ลูกให้กับคนในบ้าน ตอนนี้ ถ้าคุณชายไม่อยู่ก็คงจะไม่ดีนัก” เศวยาเลิกคิ้วงามคู่นั้น “คือคนทั้งตระกูล?” “อืม ช่างเป็นผู้ใหญ่ตระกูลวรวงศ์คุณากรที่น่านับถือ” เศวยายิ้ม “น้าอ้อยคะ หนูจะเตือนนินัทธ์เองค่ะ” “จริงเหรอ? งั้นก็ดีไปเลย!” น้าอ้อยดีใจอย่างออกนอกหน้า รีบพูดขึ้น “งั้นฉันจะไปเตรียมชุดให้คุณหนูค่ะ” น้าอ้อยจากไป เศวยาก็เดินมายืนข้างๆนินัทธ์ เรื่องอาหารค่ำวันนี้ ไม่พูดอะไร แต่จะไปดูการ์ตูนเป็นเพื่อนเขา ไปที่ที่น่าสนุก แถมยังได้หัวเราะ ความอบอุ่นในห้อง ค่อยๆไหลเวียน ซักพัก นินัทธ์มองกลับมาจ้องที่เธอ พูดด้วยเสียงเรียบ “ถ้าเธอไปเป็นเพื่อนฉัน ฉันก็จะไป” เศวยาอึ้ง นัยน์ตาฉายแววที่น่าหลงใหล ไม่รอให้เธอพูด เขาก็รู้ดีว่าเธอจะทำอะไร แต่ว่า ไปงานรวมญาติเป็นเพื่อนเขาที่บ้านตระกูลวรวงศ์คุณากร... น้าอ้อยเดินลงจากบนบ้านพอดี เมื่อได้ยิน จึงรีบพูด “ใช่ๆๆค่ะ คุณเศวยาไปเป็นเพื่อนคุณนินัทธ์” ความคิดของน้าอ้อยง่ายมาก ถ้าหาก นินัทธ์สูญเสียการควบคุมแบบครั้งก่อน ถ้ามีเศวยาอยู่ ก็คงจะควบคุมได้ไม่ยาก เศวยายังคงลังเล พูดตามตรง ว่าให้นินัทธ์ไปเผชิญหน้าคนพวกนั้นโดยลำพัง เธอไม่วางใจซักเท่าไหร่ โดยเฉพาะ ธนเทพและพิมลแข ใครจะรู้ว่าพวกเขาจะใช้วธีอะไรอีก! น้าอ้อยพูดเตือนไม่หยุด ในที่สุด เศวยาก็พยักหน้า เมื่อเธอตกลง นินัทธ์จึงยิ้มขึ้น ท่าทีที่ดูผ่อนคลาย ทำให้รู้สึกตะลึง น้าอ้อยนั้นรู้ดีมาก เธอทำชุดพิธีการมาให้เศวยาชุดหนึ่ง ให้เธอเปลี่ยน มองไปมองมาก็รู้สึกพอใจ พูดตามตรงว่าใส่อะไรก็สวย หันมา ก็มาพูดชมอีกหลายประโยคแล้วบังคับให้นินัทธ์ใส่สูทเช่นกัน ทั้งเมื่อยืนอยู่ด้วยกัน ทำให้น้าอ้อยยิ้มจนตาหยี 
已经是最新一章了
加载中