ตอนที่45 ทริคเล็กๆน้อยๆ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่45 ทริคเล็กๆน้อยๆ
ต๭นที่45 ทริคเล็กๆน้อยๆ ชิตวรขมวดคิ้วขึ้น ลูกสาวของเขารู้สึกยังไงกับนินัทธ์ทำไมเขาถึงไม่รู้กันนะ? ถ้าพูดกันแบบแฟร์ๆเลย รากเหง้าของตระกูลนินัทธ์ พื้นฐานครอบครัวก็ดี หากว่าลูกสาวของเขาแต่งานเข้าไปก็ไม่ได้แย่ แต่อย่างไรก็ตาม สภาพจิตใจของเขาตอนนี้….. เขาลุกขึ้นมาอย่างเซ็งๆ เดินไปที่ประตูก่อนจะชะงักเท้าลง “เจ้าวุต….แกตอนนี้ยังดูแลผู้หญิงคนนั้นอยู่รึเปล่า?” บริวัตพยักหน้า ตอบกลับไปอย่างชัดเจน “ครับ มิ้นอยู่ในความดูแลของผมแล้ว ผมไม่สนใจเธอไม่ได้” ชิตวรมองลูกชายตัวเองด้วยแววตาลึกซึ้ง ไม่ได้พูดอะไร แล้วก็เปิดประตูเดินออกไป บริวุตมองดูเวลา ก่อนจะรีบดิ่งไปที่ห้องครัว เร่งชามา “น้าชามา ข้าวต้มได้ยังครับ?” “เสร็จแล้วค่ะเสร็จแล้ว จะเอาให้เดี๋ยวนี้เลย” ชามาหยิบกระปุกโจ๊กกันความร้อนส่งให้เขา “จำไว้นะ ต้องระบายอากาศก่อนถึงจะกินได้นะ” “ระบายอากาศ” บริวุตชะงักกึก ก่อนจะหัวเราะออกมา “น้าชามา น้าหมายถึงตดหรอ!” ชามาหัวเราะ ผลักหัวเขาแผ่วเบา “เจ้าเด็กคนนี้ คุยกับผู้หญิงใครเขาให้พูดตดเล่า เขาจะเขินเอา” “น่าน่า มิ้นไม่เขินชัวร์” บริวุตรับกระปุกโจ๊กมาถือไว้ก่อนจะหันไปโบกมือให้ชามา “ผมไปก่อนนะ!” ภายในห้องนอน เศวยาเอามือเท้าเอว จ้องมองชายที่ทำตัวเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เขาหรี่ตาลง แม้ว่ามันจะอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แต่หน้าของเธอก็ยังคงละเอียดละอ่อน สง่างาม ดูดีมากจริงๆ นินัทธ์มองหน้านั้น ก็อดไม่ได้ที่จะเอามือไปสัมผัสอย่างแผ่วเบา เศวยาขมวดคิ้วขึ้น ก่อนจะยกมือขึ้นที่ตีมือเขา “นินัทธ์ ทำไมคุณถึงไปพูดอะไรเหลวไหลแบบนั้นต่อหน้าพ่อกับน้องชายฉันด้วย” “ผมไม่ได้พูดเหลวไหลซะหน่อย” เขากะพริบตาปริบๆ ชี้ไปยังหลักฐานที่ยังไม่ได้เก็บกวาด “ก็พวกเรานอนด้วยกัน” เศวยาตีหน้าผากตัวเองอย่างอดไม่ได้ “ก็แค่เผลอหลับไปบนเตียงเดียวกัน มันไม่มีอะไร และเราก็ไม่ได้ทำอะไรกันด้วย!” นินัทธ์อยู่ๆก็เดินเข้าไปใกล้ๆเธอ สายตาเต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์น่าดึงดูด สายตาประกายระยิบระยับเหมือนสัตว์ร้ายที่เพิ่งตื่น “คุณไม่พอใจผมหรอ” อยู่ๆเขาก็เข้ามาใกล้ทำให้เศวยาตั้งตัวไม่ทัน ผง่ะไปในทันที“ ไม่พอใจอะไร?” ใช้นิ้วเรียวยาวของเขาเกี่ยวม้วนผมเธอขึ้นมาอย่างแผ่วเบา ก่อนจะพูด “ไม่พอใจที่ผม ไม่ได้ทำอะไรคุณเลย” “ใช่ที่ไหนกันล่ะ!” เศวยาถอยหลังไปหนึ่งก้าว เพื่อที่จะรักษาระยะห่างจากเขา แก้มค่อยๆแดงระเรื่อขึ้นมา “นินัทธ์ ฉันไม่อนุญาตให้ตุฯเอาอะไรแบบนี้มาอยู่ในหัวนะ! ” เขาเอียงศีรษะแล้วจิ้มลงไปที่หัวตัวเอง" ในนี้ก็มีแต่คุณเลยนะ" "นั่น… นั้นก็ไม่อนุญาต!" เศวยาพูดเสียงหนักแน่น ไม่ว่าจะพูดจาหว่านล้อมแค่ไหนก็ไม่อาจสู้กับความคิดของเขาได้ จึงผลักเข้าไปในห้องน้ำก่อนจะพูด"รีบล้างหน้าล้่งตาแล้วออกไปกินข้าวเช้า!" พอดันให้เขาเข้าห้องน้ำไป เศวยาก็ทำความสะอาดเก็บกวาดห้อง แต่ผ่านไปนานเขาก็ยังไม่ออกมาจากห้องน้ำซักที ได้ยินเพียงเสียงน้ำ เธอยืนอยู่หน้าห้องน้ำ ก่อนจะเคาะประตู “นินัทธ์?” ไม่ได้ยินเสียงตอบกลับจากคนข้างใน เศวยาขมวดคิ้วขึ้น “ฉันเข้าไปนะ!” ด้วยความที่เธอกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้น จึงเปิดประตูเข้าไป….. ภาพที่อยู่ตรงหน้าก็คือ ก๊อกน้ำยังไหลอยู่ ส่วนนินัทธ์ก็ยืนอยู่หน้ากระจก มือข้างหนึ่งจับผ้าขนหนูของเธอ เช็ดที่หน้า ตาพริ้มดูสบายๆ มองดูราวกับเจ้าแมวตัวน้อยๆ ที่โดนเจ้าของเกา เศวยาหยุดกึกลงในทันที ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้เธอรู้สึกตื่นเต้นมากจริงๆ ทั้งกลิ่นหอมและไอร้อนๆที่ทำให้คนจินตนาการไปได้ไกล ….ร่างที่ถูกปิดบังเพียงผ้าขนหนูหลวมๆ เธอไม่อยากที่จะให้เขาทำตัวร้ายๆกับเธออีก เศวยาเดินไปหนึ่งก้าว เอาผ้าขนของเธอคืนก่อนจะพูด “ยังไม่รีบอีก เดี๋ยวฉันก็ไปกินข้าวคนเดียวซะเลย!” นินัทธ์หันตัวกลับมา แก้มแดงผิดปกติ เขาเหลือบตาลง แววตาเป็นประกายวิบวับ เศวยาใจเต้นตึกๆ ถอยหลังออกมาอย่างแทบคุมสติไม่อยู่ “อาบไวๆหน่อย ” พอพูดจบก็เตรียมจะออกไป แต่นินัทธ์ก็ยื่นมือยาวๆของเขามาจับเอาของเธอเอาไว้ก่อน เอาจมูกมาไถที่หลังคอของเธอ พ่นลมหายใจร้อนๆออกมา “เศวยา ผมอึดอัดจัง” เศวยาเองก็ไม่ใช่เด็กน้อยอายุสิบกว่าที่ไม่ประสา ก็รู้ว่าอะไรเป็นอะไร เมื่อคืนนี้ ที่เขานอนกอดเธออยู่ข้างหลังแบบนั้นไม่ใช่ว่าเธอจะไม่รู้สึกอะไร เพียงแต่ทำเป็นแกล้งหลับไปแต่ตอนนี้เขาเปิดเผยความต้องการของตัวเองเสียชัดเจน เธอไม่มีโอกาสที่จะทำเป็นไม่รู้เรื่องอีกต่อไป “คุณ…..”เศวยากัดฟันแน่น พูดออกมาอย่างยากเย็นสี่คำ “ยับยั้งชั่งใจ!” นินัทธ์ได้กลิ่นหอมๆลอยออกมาจากตัวเธอ ไออุ่นร้อนๆทะลุออกมาจากตัวของเธอ เขาคิดถึงสิ่งที่เธอพูด ก่อนจะส่ายหน้า “มันก็ยังอึดอัดอยู่ดี” “ถ้าอย่างนั้น…….. ถ้างั้น…...” เศวยาพยายามเอรไปข้างหน้าที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ เพื่อที่จะไม่ได้ตัวชิดเขามากเกินไป ไม่อยู่ที่เธออยากจะปกป้องเขา ใช่อยู่ที่เธออยากจะชดเชยให้แก่เขา แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาดูแลร่างกายของเขาด้วย เวรกรรมจริง! เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พยายามหาเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ ผู้ชายมักจะมีปฏิกิริยาเป็นปกติทุกเช้า? นินัทธ์เองก็เป็นผู้ชาย ยังไงก็ต้องเป็นเหมือนกัน เข้าแค่อาจจะไม่รู้วิธีที่จะระบายมันออก ถ้าหากว่าเธอบอกทริคเล็กๆน้อยๆให้แก่เขา สถานการณ์แบบนี้ก็จะไม่เกิดขึ้นอีก แล้วจะบอกทริคกับเขายังไงดี? แก้มทั้งสองข้างของเธอร้อนผ่าวราวกับโดนไฟเผา เสตามองไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะพูดออกมาแบบลอยๆ “นินัทธ์...คุณ….คุณลอง…..ลองใช้มือขวา..เอ้อใช่สิมันก็แล้วแต่ถนัดหน่ะ ถ้าคุณคิดว่ามือขวาไม่สะดวก มือซ้ายก็ใช้ได้ หรือไม่ก็ใช้ทั้งสองมือนั่นล่ะ” พอพูดจบเธอก็อยากจะกัดลิ้นตัวเองให้ตายไปเลย ให้ตายเถอะ หัวใจของเศวยาเต้นระส่ำ ทำไมเธอต้องมาทำอะไรแบบนี้ด้วย! ในเวลานั้นเอง อยู่ๆมือขวาของเธอก็ถูกเขาดึงไปอยู่ที่ๆเขาบอกว่าอึดอัดนั่น มือของเธอสัมผัสกับบางสิ่งบางอย่างที่ทั้งร้อนและแข็ง นั่นทำให้เศวยาช็อกราวกับหินไปทั้งตัว ประสาททางหูก็ได้ยินเสียงอู้อี้ของเขา มันดูร้ายกาจและมีเสน่ห์มากทีเดียว ทำให้คนได้ยินถึงกับร้อนผ่าวไปทั้งหน้าและใจสั่นจนหยุดไม่ได้ เศวยาตอบกลับทันที “นินัทธ์!” อยากจะดึงมือกลับ แต่ก็ถูกเขาล็อกเอาไว้ ยิ่งพยายามจะต่อต้านก็กลายเป็นแรงเสียดทาน นินัทธ์หายใจหอบขึ้นเรื่อยๆ แกล้งเจาะจงมากระซิบที่ข้างหูของเธอ “ผมชอบมือขวา” เศวยารู้สึกว่าหัวของเธอกำลังจะระเบิด สิ่งที่อยู่ในฝ่ามือของเธอ มันค่อยๆแข็งขึ้นเรื่อยๆ เพื่อที่จะสู้ กับมือของเธอ นินัทธ์จับมือของเธอถูไปถูมา ถูขึ้นบนและกลับมาข้างล่าง ด้วยท่าทางที่ดู….ชำนาญ ไม่ต้องให้ใครมาสอนก็รู้ได้ด้วยสัญชาตญาณ เศวยาเหมือนกับโดนไฟเผาไปทั้งร่าง ทั้งเขินทั้งกังวลไปหมด “ไม่ใช่มือขวาของฉัน! ใช้มือของตัวเองสิ!” นินัทธ์กระซิบเสียงหัวเราะ เป็นเสียงที่ราวกับสัตว์ร้ายที่อันตราย ร่างกายของผม เป็นของคุณใช้มือของคุณเพื่อช่วยมัน ไม่ใช่เรื่องผิดนี่นา” ระหว่างที่พูด เขาก็ไม่ได้หยุดที่จะกดมือเธอไว้ทุกๆการขึ้นลงมันเหมือนกับจวนจะระเบิดออกมา มืออีกข้างนึงยึดที่เอวของเธอเอาไว้เพื่อที่จะเอาเธอมาไว้ใกล้ๆ ปกติแล้วเขามักจะเป็นคนที่อ่อนโยน แต่เมื่อทันทีที่กลายเป็นสัตว์ร้ายที่เข้ามาจู่โจม ทำให้เศวยาทำตัวแทบจะไม่ถูก เธอรู้สึกหวาดหวั่น ตะโกนขึ้นมาอย่างอับอาย “นินัทธ์ นี่ฉันโกรธจริงๆเลยนะ!” ได้ยินดังนั้น คนที่อยู่ข้างหลังของเธอก็หยุดทันทีดวงตาสีเคลือบหันมามองที่เธอ แม้ว่าความปรารถนาจะกำลังถึงจุดที่จะพรั่งพรู แต่เขาก็ไม่ขยับตัวเลยแม้แต่นิดเดียว เขาปล่อยมือเธอ สองแก้มมีกลิ่นอายความเขิน ทำเสียงงอแงขึ้นมา “ทำไมคุณไม่ชอบมัน มันเป็นของคุณนะ ” เศวยาแทบจะอยากวิ่งชนกำแพงหรือไม่ก็ขุดหลุมฝังตัวเองให้รู้แล้วรู้รอดไป เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆอย่างต่อเนื่องแล้วหันไปมองหน้าเขาและพยายามที่จะอธิบายด้วยรอยยิ้ม “นินัทธ์ เอ่อมันเป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ชายคุณไม่ต้องอายหรอกนะ ” เธออยากตาย จริงๆเลย นินัทธ์ส่ายหัว มองไปที่เธออย่างดื้อรั้น “ผมไม่ชอบตัวเองเลย” เศวยาตกใจ ไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี นินัทธ์ที่ยืนอยู่ข้างหน้าเหยียดมือของเขาบนไหล่ของเธอ และเอาคางของเขาเกยที่หัวของเธอได้อย่างง่ายดาย “ถ้าผมเป็นของคุณอย่างน้อยผมก็จะไม่รังเกียจตัวเองหรอก” มองเข้าไปในดวงตาที่มืดมิดของเขา นั่นทำให้หัวใจเธอเจ็บปวดขึ้นมา เธอเข้าไปกอดเขาทันทีเหมือนแม่ไก่หวงไข่ก็ไม่ปาน กอดผู้ชายที่ตัวสูงกว่าเธอ “อย่าพูดอะไรโง่ๆแบบนั้นสิ คุณจะเกลียดตัวเองไม่ได้นะ!ช่างมันเถอะ ของฉันก็ของฉัน ยังไงฉันก็ต้องการเพียงคุณคนเดียวเท่านั้นแล่ะนินัทธ์” ดวงตาของเขาพร่ามัวไปหมด คว้า เอาตัวของเธอเข้ามากอดไว้ในความอ่อนโยนของอ้อมกอด ที่แท้ ความรู้สึกที่ถูกรักจากใครซักคนมันเป็นอย่างนี้นี่เอง บังคับให้เขาอาบน้ำไวๆ เศวยาเองก็ไปยืนดูแลอยู่ใกล้ๆ สุดท้ายก็หยิบผ้าขนหนูขึ้นมาเช็ดใบหน้าที่เต็มไปด้วยน้ำของเขาให้ ก่อนจะเลือกเครื่องบำรุงผิวของตัวเอง ไม่ว่าจะครีมบำรุงผิวทาลบนหน้าของเขา นินัทธ์เลิกคิ้วขึ้น “ไม่เอาได้มั้ย?” “ไม่ได้” เศวยาทาไปพูดไป “ใบหน้าที่น่ารักขนาดนี้ จะไม่บำรุงได้ยังไงล่ะ?” เขาตอบกลับ “งั้นแล้วคุณชอบมั้ย?” “ชอบสิ...” พูดออกไปแค่นั้นเธอก็ชะงักค้างไป ก้มหน้าลงมาก็เห็นเขายิ้มแบบเปิดแก้ม ใบหน้าจึงแดงขึ้นมา “ไม่ต้องมาล้อฉันเลยนะ” ทั้งสองเดินออกจากห้องนอน ชามาก็จัดอาหารเช้าไว้บนเโต๊ะ ดุสิดากำลังนั่งอยู่คนเดียวที่นั่น มองมายังพวกเขายิ้มอย่างเย็นชา แต่แสร้งทำเสียงหวานอ่อนโยน “ทำไมอาบน้ำนานแบบนี้ล่ะจ้ะ? โจ๊กจะเย็นอยู่แล้ว จะพูดยังไงดี เจ้าวุตมันยังอายุไม่เยอะ เธอเป็นพี่ก็ควรจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้แก่แกนะ” เศวยาเหลือบมองริมฝีปากของเธอและยิ้มอย่างมีเสน่ห์ “เขาเป็นคู่หมั้นของฉัน การที่จะปิดประตูหรือว่าทำอะไรก็แล้วแต่มันก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ใช่หรอ อ้อแล้วคนจะหมั้นก็คงไม่ปล่อยให้คู่หมั้นเหงาอยู่ห้องคนเดียวหรอกว่าไหม ถ้าไม่รู้อะไรวันหลังก็ไม่ต้องพูดทันออกมาหรอกนะ” โดยไม่ต้องมองเธออีก เศวยาก็พานินัทธ์มานั่ง ก่อนจะเอาถ้วยโจ๊กให้เขา “กินให้หมดนะ” ดุสิดามองด้วยสายตาที่เปลี่ยนเป็นสับสน พอสงบลงได้เธอก็ยิ้มแบบหน้าเนื้อใจเสือ พูดอย่างสบายๆ “เศวยา อาหารหน่ะยังจะพอกินมั่วซั่วได้ แต่คำพูดจะพูดมั่วซั่วไม่ได้นะ อย่าพูดอะไรไม่เรื่อยอีกอย่างเธอควรจะคิดถึงพ่อของเธอ มีเมืองติฉินนินทาขึ้นมา ด้วยตำแหน่งที่เป็นเลขาของเขาแล้ว มันน่าอับอายจริงๆ ” เศวยาหันหน้าไปพลางยิ้ม “ สนงานไม่สนครอบครัวก็ถือว่าไม่ซื่อสัตย์กับภรรยาตน นี้เป็นตัวอย่างที่ดีของการทำงานอย่างหนักด้วยตำแหน่งของเลขา เสียหน้าแลกกับชื่อเสียง ก็คงไม่เสียหายอะไร” อัพเดทครั้งหน้า วันที่7 พ.ย. 2019 จะมาในเร็วๆนี้ โปรดอดใจรอก่อน 
已经是最新一章了
加载中