ตอนที่ 48 ซ้ายไปหาสวรรค์ ขวาไปหาความสุข
1/
ตอนที่ 48 ซ้ายไปหาสวรรค์ ขวาไปหาความสุข
รักแค้นหรือรักแท้ คำถามจากหัวใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 48 ซ้ายไปหาสวรรค์ ขวาไปหาความสุข
ตนที่ 48 ซ้ายไปหาสวรรค์ ขวาไปหาความสุข แต่ไม่รู้ว่าทำไม ยิ่งนินัทธ์บดจูบยิ่งลึกเท่าไหร่ ใจขอเศวยาก็ยิ่งเต้นรัวมากขึ้นเท่านั้น อย่างไม่ทันที่จะรู้ตัว ก็กลายเป็นถูกเขาดึงดูดจนตวบคุมตัวเองไม่ได้เข้าให้แล้ว ใบหน้าร้อนผ่าว หายใจหนักหน่วง ทั้งยังจิตใจสับสนไปหมด ในสายตาของเขาในตอนนี้ ทุกๆอย่างราวกับความฝัน เหมือนมีดาวปรากฏอยู่ในเวลากลางวัน มีแสงจันทร์ระยิบระยับ ราวกับว่าเธอเห็นพระอาทิตย์ทรงกลดก็ไม่ปาน เหมือนกับว่าเธอยังคงหลอกตัวเองอยู่ร่ำไป แล้วก็ไม่มีอะไรมาอธิบายได้ การที่เธอทำให้หัวใจนินัทธ์แตกสลาย ไม่ว่าจะเป็นเขาเมื่อสองปีที่แล้วหรือสองไปต่อจากนี้ ไม่ว่าเวลาไหนหรือว่าที่ไหน มันก็เป็นเรื่องที่เศร้าอยู่ในใจ บางทีก็เป็นที่เขามองมาที่เธอครั้งแรก บางทีก็เป็นที่เขายิ้มให้เธอครั้งแรก….เขามีครั้งแรกมากมายที่เกี่ยวกับเธอ ราวกับเป็นคนโง่คนหนึ่งที่ก็รู้ทั้งรู้ว่าเธอไม่รัก แต่ก็ยังเหมือนแมลงเม่าบินเข้ากองไฟ แล้วก็แผดเผาตัวของเขาเอง เธอค่อยๆหลับตาลง ยกมือขึ้นจับไปที่หัวไหล่ของเขา เธอเข้าใจหัวใจตัวเองอย่างชัดเจนจะไม่มีความคลุมเครือใดๆอีก จะไม่มีการเฉยเมยต่อเขาอีก…. จันทรชามีประสิทธิภาพสูงมากทีเดียว ในวันถัดมา หน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์ ก็ถูกนินัทธ์ยึดครองไป เลือดเนื้อเชื้อไขตระกูลวรวงศ์คุณากร ในวัยเด็กที่ไม่มีใครรู้จักของเขา ไม่มีข้อห้ามในการเปิดเผย ทั้งหมดถูกรวบรวมเอาไว้ให้ออกสู่สายตาของทุกคนในรวดเดียว โรงพยาบาลจิตเวช สูญเสียแม่ในวัยเด็ก ออทิสติก หดหู่ใจ เป็นคำหลักที่เกี่ยวข้องกับเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับภาพที่สวยงามที่คนรอบข้างต่างมองของเขา ภายใต้ดวงคาที่แสดงความรู้สึกออกมาอย่างไม่ซ้ำกัน ยังมีแววอารมณ์เศร้าโศก ทันทีที่คนย้ายไปด้านข้างของหัวใจที่ซ่อนอยู่ ที่จะทำให้คนต้องเจ็บปวดตามกันไปในชั่วพริบตา ในหนังสือพิมพ์นั้นจันทรชายังยกเอาเรื่องที่ชนิดพที่แต่งงานใหม่ขึ้นมาด้วย แม้ว่ามันจะเป็นแค่ตัวหนังสือที่นับตัวอักษรได้ก็ตาม แต่ก็ทำให้ธนเทพผู้ซึ่งเป็นลูกเลี้ยงที่เอาไว้ชูหน้าชูตา พอเทียบกับนินัทธ์แล้ว ก็ทำให้นินัทธ์ได้รับความสงสารและเห็นใจอย่างทวีคูณ วันที่ข่าวออก ก็ไ้นับความสนใจอย่างกว้างขวาง้ลยทีเดียว แม้แต่ป้าแม่บ้านที่ปกติไม่อ่านพวกข่าวเศรษฐกิจอะไรก็อ่านและเข้าข้างนินัทธ์ ด่าชนิดพที่ทิ้งขว้างลูกชายตัวเองอย่างไม่หยุด!ว่าๆเขาให้ลูกเลี้ยงมากกว่าให้ลูกชายของตัวเอง มีพ่อในโลกที่ไหนเขาทำกันอย่างนี้บ้าง!! พอได้รับสายจากจันทรชา เศวยาก็คิดอยากจะออกไปซื้อหนังสือพิมพ์ขึ้นมา แต่ก็เห็นว่าชิตวรกำลังถืออยู่ที่ห้องอาหารพอดิบพอดี “พ่อ, ขอฉันแปปนึง!” เธอวืง่ตรงไปเอาหนังสือพิมพ์จากมือพ่อเธอมาอย่างรวดเร็ว แล้วเอาไปอ่านอยู่ที่โซฟา เขาจ้องไปยังลูกสาวตัวเอง ชิตวรถามขึ้นอย่างครุ่นคิด “เศวยา ใช่ที่เธอไปหาจันทรชามาหรอ” “อื้อ” เศวยาตอบโดยที่ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา ในหนังสือพิมพ์ที่จันทรชาเป็นคนเขียนขึ้นมา พ่อเธอรู้ดีว่าหล่อนเป็นเพื่อนที่ค่อนข้างสนิทกับลูกสาวเขา เธอไม่อาจที่จะปฏิเสธเพื่อนได้ ชิตวรขมวดคิ้วขึ้น “ไม่ว่าเธอจะอยากช่วยเขายังไง แต่ว่าอย่าลืมนะคนที่คุณอาจจะทำให้ไม่พอใจ นั่นเป็นพ่อของเขา” นินัทธ์กับชนิดพยังไงเสียก็เป็นพ่อลูกกัน คงจะไม่มีความแค้นข้ามคืน ดังนั้นเมื่อเรื่องมันแดงออกมาหวยมันก็จะมาตกอยู่ที่เศวยา ไม่มีใครรู้จักชนิดพได้ดีกว่าเขา เขาสามารถเป็นประธานของตระกูลวรวงศ์คุณากรได้ ทั้งยังทำให้บริษัทเติบโตมาได้จนถึงทุกวันนี้ คนแบบนี้มักจะน่ากลัว เขาจะต้องโหดร้ายระดับที่เราไม่อาจคาดถึง เขาจึงไม่อยากให้ลูกสาวตัวเองเข้าไปพัวพันด้วย เศวยาวางหนังสือพิมพ์ลง แล้วหันไปยิ้มให้กับพ่อของเธอ “พ่อคะ ฉันรู้ดี คุณลุงอาจจะโกรธเกลียดฉันถึงขั้วกระดูกดำ เขาอาจจะจ้างมือปืนรับข้างมาฆ่าฉันก็ได้” พอพูดจบ เธอก็อดไม่ได้ที่จะขำกับตัวเอง ยิ่งอ่านบทความของจันทรชา เธอก็ยิ่งพอใจ มีทั้งความอ่อนโยนและเฉียบตรง ทั้งยังรักษาหน้าของนินัทธ์เอาไว้ด้วย อีกทั้งยังทำให้ชนิดพที่อยู่บนชั้นสามของบ้านสามารถจมดิ่งลงมาบนพื้นได้เลยทีเดียว จันทรชานี่น้า ร้ายกาจจริงๆ ชิตวรส่ายหน้า “เธออย่าคิดว่าเขาจะไม่กล้าทำ” เศวยาตะลึง “เป็นไปไม่ได้หรอกใช่มั้ย?” ชิตวรอดไม่ได้ที่จะมองลูกสาวของตัวเองอย่างตำหนิ “เธอนี่นะ สองสามวันนี้ไม่ต้องทำอะไรเลย อย่าสร้างปัญหาให้ฉันเพิ่มอีก แล้วก็เรื่องนินัทธ์….” เขาหยุดลงก่อนจะพูดต่อ “มันเป็นเรื่องของเขา ไม่ต้องให้เธอต้องไปชำระให้หรอก” สามารถเข้าถึงพรรคได้โดยง่าย ความสามารถแบบนี ไม่ใช่ทุกคนจะมีได้ ยิ่งเขาซ่อนตัวมากเท่าไหร่ ยิ่งน่ากลัวมากขึ้นเท่านั้น มันคงจะดีถ้าคุณจริงใจกับเศวยา เขาแค่กลัว….ว่านินัทธ์จะใช้เพื่อผลประโยชน์เท่านั้น นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้น ชิตวรจึง ตัดสินใจที่จะไปพบกับนินัทธ์ “เศวยา ช่วงนี้นินัทธ์เขาว่างมั้ยหน่ะ? เรื่องครั้งที่แล้ว มันเป็นความผิดฝ่ายเราเอง ฉันอยากจะเลี้ยงข้าวเขาซักมื้อนึง ” เศวยาแอบประหลาดใจนิดหน่อย ความรู้สึกของพ่อเธอที่มีต่อนินัทธ์ดูจะไม่ได้อะไรมากเลย ทำไมต้องเลี้ยงข้าวเขาด้วย? หากว่าพ่อของเธอจะมองนินัทธ์ในมุมใหม่ เธอก็จะยินดีมากทีเดียว เดี๋ยวฉันนัดเขาเอง“ เศวยาออกตัว “ถ้างั้นก็นัดเย็นนี้เลยนะ” ชิตวรบอก “เย็นนี้ฉันว่าง” “อื้อ” เศวยาโล่งใจ หลังจากที่พ่อของเธอไปทำงานแล้ว เธอก็โทรไปหานินัทธ์ ได้ยินเสียง ตู๊ดๆรอสาย หัวใจเธอก็สั่นๆรัวๆ เมื่อมีคนรับเเธอก็โพล่งออกไปทันที “นินัทธ์ พ่อฉันจะเลี้ยงข้าวคุณวันนี้” “อื้อ” เขาดูไม่ค่อยสนใจซักเท่าไหร่ หากว่าเขาไม่ใช่พ่อของเศวยาหล่ะก็ เขาก็คงจะไม่ไปแน่ๆ เธอไม่แปลกใจกับท่าทีของเขาสักเท่าไหร่เพราะไม่ได้กวนใจ พูดออกมาด้วยรอยยิ้ม “สองทุ่มคืนนี้นะ ที่ห้องครัวนาดาว อย่ามาสายหล่ะ” “อื้อ” เศวยานอนอยู่ที่เตียง ถามขึ้นอย่างลังเล “คุณอ่านหนังสือพิมพ์แล้วรึยัง?” “นอกจากเรื่องของคุณ เรื่องอื่นมันก็ไม่เกี่ยวอะไรกับผม” เขาตอบเบาๆราวกับว่ามันเป็นสิ่งที่ควรจะเป็น เศวยายิ้มออกมา จู่ๆก็รู้สึกว่าที่เขาเป็นแบบนี้ก็ดีเหมือนกัน จะได้ไม่ต้องไปรับรู้เรื่องอะไรมั่วซั่ว ก็จะได้สบายใจ นินัทธ์จะได้เป็นของเธอคนเดียว... พอคิดไปคิดมา ก็อายมาก ทำไมเธอทำตัวราวกับเด็กสาวเพิ่งมีความรักแบบนี้นะ ขายหน้าจริง! พอได้ยินเสียงหัวเราะของอีกฝ่าย เขาก็ถามเบาๆ “หัวเราะอะไรหน่ะ?” “อ้อ เปล่า พอดีคิดเรื่องอะไรตลกๆได้หน่ะ” เธอแกล้งทำเป็นเฉยๆไป เธอตัดสินใจแล้วว่า จะไม่เอาความรู้สึกขอตัวเองไปบอกให้ใครรู้ มันไม่ใช่เพราะเธอไม่แน่ใจ แต่เธออยากจะรักษาความสัมพันธ์ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ไว้ และลิ้มรสมันอย่างระมัดระวัง ดื่มด่ำทุกช่วง วินาทีไปกับเขา ไม่ว่าจะหัวใจ ที่กลายเป็นความรู้สึก จนสุดท้ายก็คือทั้งชีวิตนั่นไปเอง นั่นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้ลิ้มลอง มันคงจะ มีความสุขมากทีเดียวหล่ะ แม้ว่าเศวยาจะไม่พูด นินัทธ์ก็จะไม่ถาม รู้เพียงเธอมีความสุข เขาก็ยิ้มออกมาได้แล้ว “คุณทำอะไรอยู่หน่ะ ?” เธอถามขึ้นโดยไม่รอให้เขาตอบ เธอก็พูดขึ้นไปอีก “คงไม่ได้คิดถึงฉันอยู่ใช่มั้ย?” คนปลายสายเงียบไปพักนึง ก่อนจะตอบกลับมา “งั้นก็คงไม่มีอะไรให้ทำแล้วหล่ัะ” เธอหัวเราะออกมาเสียงดัง ใบหน้าเต็มไปด้วยประกายของความสุข มันเป็นคำพูดที่แต่ก่อนเธอไม่เคยสนใจมันมาก่อน แต่ในวันนี้มันกลับกันกับวันนี้มันช่างแตกต่าง ราวกับอยู่บนทางระหว่างความจริงกับความฝัน ทางซ้ายเป็นสววรค์ ทางขวาเป็นความสุข พอวางสายจากเศวยา ใบหน้าที่งดงามราวภาพวาดของนินัทธ์ก็ปรากฏรอยยิ้มที่สว่างไสวราวกับพระจันทร์ส่องแสง ทำให้คนที่อยู่หน้าคอมพิมวเตอร์ถึงขั้นทนไม่ไหว “นายน้อย เราจะคุยกันเรื่องธุรกิจกันต่อได้แล้วหรือยัง?” รอยยิ้มบนใบหน้านินัทธ์หายไปทันที แล้วก็แปรมาเป็นใบหน้านิ่งที่สุดแสนจะเย็นชาแทน เขามองไปที่วีดีโอในคอมพิวเตอร์ ในวีดีโอนั้น มีเด็กหนุ่มสวมผ้าพันคอสีเขียวอายุราวๆยี่สิบต้นๆ ติ้วดกหนา ที่ดูไปดูมาคิดว่าเป็นผู้หญิง พอรู้ว่าเริ่มไม่ชอบมาพากล ชนเทพก็ผลุดลุกขึ้นมานั่งยองๆ ตาเบอกโพลงสว่างไสว “นายน้อย หากมีคำสั่งใดๆ ก็บอกได้เลย” นินัทธ์ดูวีดีโอที่ถ่ายทอดออกมาจากที่ไกลๆ อย่างเงียบๆโดยไม่มีปฏิกริยาใดๆ เห็นว่าเขาไม่พูดอะไร ชนเทพเองก็ไม่กล้าไปเร่ง ทำได้เพียงรอเขาเงียบๆ ผ่านไปนานพอควร เขาก็พูดออกมา “ให้พวกเขากลับมา” ชนเทพเกรงนิดๆ ชั่วอึดใจก็ได้สติ “นายน้อย เรารอประโยคนี้อยู่เลยครับ!” ตอนที่เศวยากับพ่อของเธอไปถึงที่ห้องครัวนาดาวแล้วนั้น นินัทธ์ก็รออยู่ที่นั่นอยู่แล้ว “ฮ่าๆๆ นินัทธ์ ทำไมมาไวแบบนี้หล่ะ?” ชิตวรถามเสียงอ่อนโยน นินัทธ์ตอบ “เศวยาบอกว่า อย่ามาสาย” ดังนั้นเขาก็เลยมาก่อนหนึ่งชั่วโมง นินัทธ์โคตรจะเถรตรง เศวยาพยักหน้าอย่างพึงพอใจ “ดีมากๆ” เมื่อเห็นว่าเขาพูดคุยกับหญิงสาว ชิตวรก็รู้สึกอบอุ่นใจ พอกำลังจะนั่งลง เถ้าแก่ห้องครัวนาดาวก็เดินเข้ามา เพื่อที่จะมาทักทายด้วยตัวเอง หลังจากนั้นก็เอาอาหารเลิศรสมาจัดวางบนโต๊ะ ทั้งยังนำไวน์คลอเล็กชั่นของห้องครัวนาดาวมาให้ด้วย แม้ว่าเขาได้รับการต้อนรับอย่างสุภาพกับชิตวร และไม่ได้พูดคุยกับนินัทธ์เลยก็ตามแต่ชิตวรก็ดูออกว่า มันไม่ได้เป็นเพราะตำแหน่งเลขาพรรคของเขาเอง เพราะทุกคำที่เขาพูด พวกเขาจะเหลือบมองใบหน้าของชายหนุ่มผู้ไม่แยแส ด้วยเกรงว่าตัวเขาจะพูดอะไรผิดตลอด เขาระมัดระวังมาก จนทำให้ชิตวรอยากรู้อยากเห็นเรื่องเกี่ยวกับนินัทธ์มากขึ้นไปอีก เขาแอบไปสืบมาอย่างลับๆนอกจากข้อมูลที่ทุกคนก็รู้ มันก็ไม่มีอะไรเลย ชิตวรชื่อในการตัดสินใจของเขา นั่นคือสิ่งที่มันเป็น นินัทธ์แอบซ่อนไว้ดีกว่าเขาไปมากโข สิ่งที่เขาเห็น อาจเป็นเพียงปลายของภูเขาน้ำแข็งเท่านั้น งานหยกที่ประดับบนโต๊ะ ชิตวรรู้ดีว่าเป็นเพราะเถ้าแก่อยากจะเอาใจใครคนหนึ่ง แต่เป็นเพราะทักทายชิตวรก็แล้ว แต่นินัทธ์ก็ยังคงไม่พูดอะไรเลยแม้แต่ประโยคเดียว สนใจแต่การหยิบตะเกียบเพื่อที่จะคีบของที่เศวยาชอบเอาไปวางที่ชามของเธอทั้งยังระวังก้างปลาให้เธอด้วยอีกต่างหาก ชิตวรลองดูอย่างพินิจพิเคราะห์ ก่อนจะพูดหน้าตาย “เศวยา บุหรี่พ่อหดแล้ว ออกไปซื้อให้พ่อซองนึงหน่อยสิ” เศวยาทำปากเล็กปากน้อย “พ่อ ไม่ใช่ว่าบอกให้เพลาๆสูบหน่อยไม่ใช่หรอ?” “ฮ่าๆๆ จากนี้จะตั้งใจแล้ว” เศวยาลุกขึ้นยืนอย่างจำทน “ยี่ห้อเดิมใช่มั้ย?” ชิตวรพยักหน้า “อื้อ” พอเศวยาเดินจากไป บรรยากาศในห้องอาหารก็เปลี่ยนตาม ชิตวรมองไปที่นินัทธ์ที่ยังคงไม่หยุดเคี้ยว “นินัทธ์ไม่ว่าคุณกำลังทำเรื่องใหญ่โตขนาดไหนอยู่ก็ตามแต่ ผมของไม่ให้คุณใช้ประโยชน์จากลูกสาวของผม และไม่ทำให้เธอต้องได้รับบาดเจ็บอะไรแม้แต่น้อยด้วย ” นินัทธ์เบนสายตาจากประตู เขาตอบกลับด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “วางใจเถอะ เธออยู่ข้างๆผม ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่เธอจะปลอดภัย” พบพูดจบ เขาก็พริ้มตาลงเล็กน้อย จิบปากเบาๆ ไม่อยากจะพูดอะไรมากกว่านี้ ชิตวรขมวดคิ้วมองไปที่เขา คำพูดของนินัทธ์นี้ราวกับเป็นสัญญาของพวกเขาโดยไม่ต้องสงสัย ถึงแม้ว่าเขาจะยังเด็กแต่เขาก็ทำให้ชิตวรรู้สึกเชื่อมั่นได้โดยไม่มีข้อสงสัยใดๆ ความแข็งแกร่งของทุกอย่างจากการพูดคุยกับชายหนุ่มคนนี้มันทำให้เขารู้สึกเชื่อขึ้นมาอย่างช่วยไม่ได้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 48 ซ้ายไปหาสวรรค์ ขวาไปหาความสุข
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A