ตอนที่ 14 ผู้โชคร้าย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 14 ผู้โชคร้าย
ต๭นที่ 14 ผู้โชคร้าย ณ ตอนนี้ ไป๋หลี่รุ่ยไม่ได้ให้ความสนใจกับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้าต่อ และในหัวกำลังครุ่นคิดว่าข้างกายของตนนั้นจะมีหนอนหรือไม่ มิฉะนั้นเหตุใดเรื่องนี้ถึงหลุดไปได้กัน ท่านอ๋องคังเมื่อได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไป คนในตำหนักของเขาถูกซื่อจื่อฆ่า ย่อมไม่ใช่เรื่องใหญ่อันใด หากแต่นั่นมันฟังดูหยิ่งทะนงเกินไป แต่เมื่อนึกถึงสิ่งที่ได้ยินอยู่เป็นประจำ ท่านซื่อจื่อผู้นี้แม้รูปลักษณ์ภายนอกจะงดงาม แต่เรื่องพลังและเรื่องของความโหดเหี้ยม ต่างก็เป็นที่เลื่องลือนัก แม้แต่องค์รัชทายาทที่อยากจะต่อกร ยังต้องยอมรามือ สาวใช้เพียงคนเดียว ไม่คุ้มที่จะเอาลมหายใจไปทิ้งให้กับผู้ที่ฮ่องเต้ทรงโปรดปรานมาหลายปีอย่างซื่อจื่อ แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเสว่มี่ถึงไม่บอกเขา ว่าจี้ซื่อจื่อเองก็อยู่ที่นี่ สายตาท่านอ๋องคังผละมาจากร่างของเหยาเซิง และกล่าวเสียงผะแผ่ว “เป็นสาวใช้ของตำหนักที่ไประรานท่านจี้ซื่อจื่อ เช่นนั้นก็ไม่ใช่นางแล้ว วันนี้เป็นวันฉลองวันคล้ายวันเกิดของข้า กลับทำให้ท่านจี้ซื่อจื่อต้องมาเจอเรื่องอะไรเช่นนี้เสียได้ โปรดตามข้าไปที่ห้องโถงด้วยเถิด” เพียงคำพูดเดียว ก็กลับกลายเป็นความผิดของสี่เอ๋อร์เสีย เมื่อไม่ได้หาความผิดฐานฆ่าคนของเหยาเซิงต่อ แน่นอนว่าย่อมมีผู้ที่ไม่พอใจ เช่นชายารองติงและคังเสี้ยเหอเป็นต้น แต่พวกนางไม่อาจปะทะกับผู้ที่อยู่ราวกับสาย แต่ภายในกลับเต็มไปด้วยแรงกดดันอย่างจี้อี้ได้ จึงทำได้ยอมจำนนเท่านั้น ลอบขมกรามอยู่ในใจ ครั้งหน้าจะต้องกำจัดคังเสว่มี่ให้ได้ สายตาของพวกนางมองเหยาเซิงที่บริสุทธิ์อย่างเกลียดชัง ถึงแม้คำพูดเดียวจากคนโฉดผู้ยิ่งใหญ่อย่างจี้อี้จะทำให้เรื่องสงบไป แต่เหยาเซิงจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว ล้มเธอไม่ได้ก็คิดจะจากไปเสียดื้อๆ บัญชีนี้เธอยังไม่ได้เอาคืนเลย สองมือของเหยาเซิงกอดอก มองท่านอ๋องคังที่กำลังเชิญจี้อี้และไป๋หลี่รุ่ยไปยังห้องโถง นัยน์ตาฉายแววเย็นเยียบ แล้วตะโกนออกไปนิ่งๆ “ท่านชายารองติง น้องสาม เมื่อครู่พวกเจ้าบอกว่าข้าเป็นคนฆ่าใช่หรือไม่” เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ แต่ราวกับหินตกกระทบน้ำ ทุกคนที่ได้ยินต่างหยุดฝีเท้าลง ชายารองติงตวัดสายตามอง ก่อนจะกล่าวอย่างอ่อนโยน “เสว่มี่ เมื่อครู่ฝ่ายท่านจี้ซื่อจื่อก็ได้อธิบายหมดแล้ว แม่ได้รับรู้แล้วว่าไม่ใช่ความผิดของเจ้า” “คิกคิก...” เหยาเซิงมองนางอย่างอ่อนโยน อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ “ท่านชายารองติง หากท่านจี้ซื่อจื่อมีเหตุธุระจึงไม่อยู่ หรือมีเหตุอันใดที่ต้องให้ไปก่อน แล้วไม่มีใครอยู่เป็นพยานในที่นี้ ท้ายที่สุดก็จะตัดสินให้ข้าเป็นคนฆ่า ใช่อย่างนั้นหรือไม่” ชายารองติงไม่นึกฝันว่านางจะแว้งกัดมาในตอนนี้ เมื่อครู่นางคิดจะตัดสินความตายของคังเสว่มี่ แต่แล้วเรื่องก็จบลงเพียงเพราะจี้ซื่อจื่อ ขอเพียงแค่นางยังใช้ชีวิตอยู่ที่ตำหนักแห่งนี้ ชายารองติงก็หาได้กลัวไม่ว่าจะไร้โอกาส ดังนั้นนางจึงต้องคว้าโอกาส ด้วยการฟ้องท่านอ๋องคัง “ท่านอ๋องเจ้าคะ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ยามที่เห็นศพสาวใช้ผู้นั้น ข้าเห็นเสว่มี่แต่เพียงผู้เดียว จึงนึกคิดไปว่าเป็นนางที่ก่อเรื่องขึ้น ตอนนี้ก็กลายเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ข้าเองก็ไม่ได้กล่าวขึ้นอีกนะเจ้าคะ แต่เสว่มี่ยังคงแว้งกัดข้าไม่หยุด ตั้งแต่ที่พระชายาจากไป ข้าก็ดูแลเสว่มี่และวี่จิ่นไม่ต่างจากลูกแท้ๆ เลย ไม่ได้ต่างไปจากที่ดูแลเสี้ยเหอเลยแม้แต่น้อย...” เหยาเซิงคร้านที่จะดูนางแสดงต่อ ก้มมองไปยังปลายเท้า เมื่อเห็นสิ่งของที่อยู่ข้าง ก็ลอบยกยิ้มยินดี จี้อี้มองเหยาเซิงอย่างสนใจ นัยน์ตาสีนิลเปล่งประกายความสนุก เครื่องประดับหยกที่หน้าผากส่อประกายอย่างชัดเจน จ้องมองนางและรอคอยความสนุกอย่างเงียบๆ เด็กสาวผู้นี้คงไม่ลงมือทำอะไรที่ไร้ประโยชน์ ด้วยการคุกเข่าและสรรหาอะไรสักอย่าง ดูเหมือนจะมีผู้โชคร้ายอีกแล้ว ไป๋หลี่รุ่ยนึกถึงสายลับข้างกายของตน และจับจ้องการกระทำของจี้อี้ไปในเวลาเดียวกัน ก็เห็นว่าตาสีนิลของเขากำลังจับจ้องไปที่ร่างของเหยาเซิง นัยน์ตาล้ำลึกเองก็มองไปยังเหยาเซิง เมื่อเห็นนางคุกเข่าที่ข้างทะเลสาบ ก็คิ้วขมวดมุ่น แล้วกล่าวในใจว่า คนปัญญาอ่อนย่อมเป็นคนปัญญาอ่อนอยู่วันยังค่ำ แม้เมื่อครู่จะพูดได้อย่างชาญฉลาด แต่การกระทำยังคงเป็นเช่นเดิม เหยาเซิงไม่นำสายตาพวกเขามาใส่ใจอยู่แล้ว หลังจากนั้นเมื่อได้ของที่ถูกใจมาไว้ในมือแล้ว นัยน์ตาก็ฉายแววเย็นเยียบ ดีมาก เช่นนั้นเป็นเจ้าก็แล้วกัน 
已经是最新一章了
加载中