ตอนที่ 69 ต่ำต้อย   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 69 ต่ำต้อย
ต๭นที่ 69 ต่ำต้อย เมื่อก้มหน้าลงมองกระโปรงยาวของตัวเอง หางตาดุจซากุระก็ปรากฏความรังเกียจเดียดฉันท์ออกมา เมื่อผ่านไปชั่วครู่ ก็พยักหน้าแล้วพูดว่า : “เกมส์ในวันนี้ข้าเองก็เล่นอย่างเต็มที่่ และมีความสุขมาก แต่น่าเสียดายที่ต้องเร่งรีบ ข้าเองก็มีเรื่องที่ต้องจัดการ หวังว่าจะมีโอกาสได้ประลองฝีมือกับคุณหนูใหญ่คังอีกในครั้งต่อไปนะ” “แน่นอน” คังเสว่มี่ตอบกลับมาด้วยความเกรงใจ ก่อนจะยกเท้าเดินออกไปด้านนอก ไม่รู้ว่าเกมส์หมากรุกนี้ดำเนินไปเนิ่นนานแค่ไหน และไม่รู้ว่าคังวี่จิ่นจะคิดหนีไปหรือไม่ หากเขาคิดจะแอบหลบหนีไป นางต้องเสียเวลาในการตามหาตัวเขาอีกอย่างแน่นอน นางที่จดจำเรื่องอื่นไว้ในใจ จึงไม่ได้ยินคำว่า “คุณหนูใหญ่คัง” ในประโยคสุดท้ายของหั้นตั้น ในตอนที่นางสังเกตเห็นแผนหลังของนาง นัยน์ตาก็ฉายแววแห่งความไม่เข้าใจออกมา....... เมื่อกลับไปยังห้องยิ่งเยว่อีกครั้ง คังวี่จิ่นที่เดิมทีคิดว่าคงหนีรอดไปแล้วกลับยังอยู่ในบล็อกนี้ เมื่อเห็นนาง ในขณะที่กำลังแทะตีนหมูอยู่ในมือ จึงได้โก่งคิ้วขึ้น : “เป็นอย่างไร เถ้าแก่ไม่ตอบตกลงเจ้าใช่ไหม ข้าเป็นลูกค้ารายใหญ่ของร้านอาหารจุ้ยเซียน หึ!” คังเสว่มี่มองไปทางริมฝีปากที่เปรอะเปื้อนไปด้วยซอสมันหยาดเยิ้ม จึงได้ขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นก็ดึงกระดาษทิชชูออกมา 1 แผ่น โยนใส่หน้าของเขา ก่อนพูดอย่างไม่ใส่ใจว่า :“เช็ดปากของเจ้าซะ น่ารังเกียจเสียจริง ” คังวี่จิ่นไม่ได้เคืองโกรธแต่อย่างใด กลับดึงกระดาษขึ้นมาเช็ดปากพร้อมกับหัวเราะอย่างคิคะ ขาหมูที่เคี้ยวอยู่ในปาก จึงได้ส่งเสียงหัวเราะ หึหึ ออกมาไม่ชัดเจนนัก “โกรธขนาดนี้ ต้องไม่สำเร็จอย่างแน่นอน” “ท่านคงต้องผิดหวังแล้ว!เถ้าแก่บอกว่า ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป เจ้าอย่าได้คิดมาที่ร้านอาหารจุ้ยเซียนอีก ซ่องแห่งอื่น ก็ไม่ต้อนรับเจ้าอีก!” ไม่รู้ว่าทำไม ใบหน้าของคังวี่จิ่นถึงได้หล่อเหลามากถึงเพียงนี้ แต่นางมองเขา เปรียบเสมือนมองพี่ชายของตัวเอง จึงอดที่จะยั่วยุผสมโรงไม่ได้ ทั้งสองคนต้องทะเลาะกันถึงจะรู้สึกสบายใจ นี่คือสิงที่เรียกว่าเลือดข้นกว่าน้ำตามตำนาน คังวี่จิ่นใช้กระดาษที่อยู่ในมือเช็ดปากแล้วโยนลงไปบนโต๊ะ ก่อนจะอ้าปากสีแดงราวกับทาชาดแดง ก่อนจะพูดออกมาด้วยน้ำเสียงครวญคราง : “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปไม่ได้ ข้าไม่เชื่อ เรื่องต้องไม่เลวร้ายเช่นนี้ ข้าต้องไปถามเถ้าแก่......” เมื่อพูดจบ จึงได้วิ่งออกไปพร้อมกับถือขาหมู คังเสว่มี่เองไม่กลัวเขาวิ่งหนี เพราะหนีอย่างไรก็หนีไม่พ้นอยู่วันยังค่ำ หากไปถึงประตู ก็ยังมีชวนหลันรักษาการณ์อยู่ด้านล่าง ถึงแม้ว่าชวนหลันจะขวางคังวี่จิ่นไม่ได้ แต่เพียงแค่ตะโกนก็จบ หลังจากผ่านไปเพียงแค่ 1 ก้านธูป คังวี่จิ่นเปรียบเสมือนไก่ที่พ่ายแพ้จากการต่อสู้ แสดงอาการหมดอาลัยตายอยากอยู่หน้าประตู เมื่อชายหนังตาที่เซื่องซึมขึ้น ใบหน้าขาวดุจหยกแสดงออกถึงความเศร้าหมอง และเต็มไปด้วยความโกรธเคือง : “คังเสว่มี่ เจ้าเลว ! องค์ชายหก จะจัดการเจ้า เจ้าอดกลั้นได้ไม่นานหรอก !สวรรค์ ทำไมเจ้าถึงได้ปฏิบัติกับข้าเช่นนี้! ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป ซ่องนี้ ไม่ใช่สถานที่ที่ข้าจะมาอีก! ” คังเสว่มี่ไม่อยากสนใจเขา แต่กลับสนใจคำว่าองค์ชายหก ที่เขาพูดถึงแทน องค์ชายหกผู้นี้ คงเสว่มี่เคยได้ยินชวนหลันพูดมาก่อน เป็นหนึ่งในองค์ชายทั้งสาม องค์ชายห้าวฮวายวิ๋น ว่ากันองค์ชายหกมีส่วนคล้ายคลึงกับมารดาของเขามาก ใบหน้าที่งดงามราวกับดอกไหท๋าง นำพาให้แม่นางต่ำต้อย นิสัยของเขาเป็นคนรอบรู้แต่รักอิสระ ไม่เหมือนกับครอบครัวอื่น เขาไม่ชอบการเมือง ไม่ชอบกองกำลังทหารและเหล่าควันปืน แต่รักในศิลปะเล่นเกมส์ และสีสันสวยงาม ยิ่งกว่าสิ่งใด ดอกไม้ที่เบ่งบาน แม่นางที่ตกอยู่ภายใต้กางเกงทับทิมของเขามีนับไม่ถ้วน แต่เขากลับไม่ให้สัมผัสบนตัว ราวกับล่องลอยไปมา “องค์ชายห้าวฮวายวิ๋น” ชื่อเสียงนี้ ย่อมมีที่มา ดูเหมือนว่าสาวงามหั้นตั้นผู้นี้ เป็นคนรักผู้โปรดปรานข้างกายขององค์ชายหก ดูเหมือนว่าเป็นเมียน้อยนักธุรกิจที่ร่ำรวยที่สุดในปัจจุบันนี้ คอยช่วยจัดการธุรกิจค้าขายอยู่ด้านนอก 
已经是最新一章了
加载中