ตอนที่ 8 ความอ่อนโยนที่ต่างกัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 8 ความอ่อนโยนที่ต่างกัน
ตอนที่ 8 ความอ่อนโยนที่ต่างกัน นัชชาตื่นตระหนก เธออยากหันตัวกลับไปแต่ไม่ทันแล้ว คนนั้นเอื้อมมือจากข้างหลังไปจับหน้าอกที่นุ่มนวของเธอ “อ๊ะ ! คุณ .. คุณไม่กินข้าวหรอ ? ” “กินของหวานก่อน ” พูดเสร็จเตชิตก็จูบไปที่ต้นคอของเธอ ริมฝีปากบางเฉียบเย็นๆลงไปเรื่อยๆ มือใหญ่ของเขาถอดเสื้อผ้าของเธอออกไปอย่างรวดเร็ว ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเวลากลางคืนแล้ว แต่ไฟที่อยู่บนหัวยังคงให้ความสว่างแก่สายตา จนนัชชาไม่กล้าสบตาเขา ก่อนหน้านี้นัชชาไม่เคยผ่านเรื่องอย่างนี้มาก่อน มีเพียงสองครั้งแต่กเป็นแบบเร่งรีบ ตอนนี้มีเวลามากพอแล้ว เตชิตทำการเล้าโลมอย่างสมบูรณ์ เขาเป็นมืออาชีพไม่นานผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าก็ตัวสั่นขึ้นมาเล็กน้อย ความสุขค่อยๆ เพิ่มขึ้นภายในร่างกายทำให้นัชชารับมือไม่ไหว เธอร็สึกละอายใจมาก ไม่ทันระวังเธอก็ส่งเสียงร้องออดอ้อนออกมา ทันทีที่เธอรู้ตัว เธอก็ปิดปากป้องกันไม่ให้ตัวเองร้องอีกครั้ง แต่เตชิตไม่อนุญาต “ ร้องออกมา ” ความรู้สึกทั้งหมดของเธอล้วนถูกผลักออกมา เธอก็เหมือนเรือลำเล็กๆ ที่ถูกลมพายุพัดให้ลอยเคว้งคว้างอยู่กลางทะเล ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ เตชิตเห็นเธอปฏิเสธที่จะส่งเสียงออกมา ยิ่งทรมานเธอมากขึ้น นัชชาอดไม่ได้ที่จะส่งเสียง ร่างกายเธออ่อนเหมือนกับน้ำ “เสียงของคุณน่าฟังจริงๆ ” เตชิตค่อยๆนำเธอไป จับมือที่ปิดปากของเธอออกกดไว้อีกข้างหนึ่ง นัชชาค่อยๆ ปล่อยความรู้สึกให้ไปตามความต้องการ ครั้งนี้ ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจแล้วว่าทำไมดวิษถึงได้ชอบเรื่องแบบนี้ ....... เมื่อเสร็จแล้ว กับข้าวบนโต๊ะอาหารส่วนใหญ่ก็เย็นหมดแล้ว ความหิวที่เพียงเหลือเล็กน้อยของนัชชาก็กลายเป็นความเหนื่อยเพราะใช้พลังงานไปมาก พวกเขายืนทำ มือกับขาทั้งสองข้างของเธอล้วนเมื่อยไปหมด อย่าพูดถึงเรื่องกินข้าว แค่เคลื่อนไหนยังรู้สึกลำบาก เตชิตกลับดูผ่อนคลายอย่างมาก เมื่อจัดการกับตัวเองเสร็จก็ไม่ลืมที่จะไปล้างมือด้วย หลังจากนั้นก็นั่งบนโต๊ะกินข้าวท่านอาหารด้วยท่าทางสง่างาม พร้อมกับแสดงความคิดเห็นด้วย “ทีหลังอย่าใส่พริกไทยดำ ผมไม่ชอบ” นัชชาที่พึ่งออกมาจากห้องน้ำเมื่อได้ยินประโยคนี้ ทำให้เธอหมดความอดทน “ถ้าคุณไม่ชอบ ก็อย่ากิน ” มือของเตชิตถือตะเกียบอยู่ชะงักไปครู่หนึ่ง คิดไม่ถึงว่าเธอจะโต้แย้ง เขาเลยเงยหน้าขึนมามองเธอ นัชชารู้สึกหวาดผวาทันที หันหนาไปอีกด้นหนึ่ง “ฉันหมายความว่า คุณไม่กิน .. ฉันจะกินเอง” เตชิตตบเก้าอี้ข้างๆเขา “เข้ามา” เดิมนัชชาอยากจะขึ้นไปพักผ่อนที่ชั้นบน ครั้งนี้ไม่ไปคงไม่ไม่ได้แล้ว เธอทนกับความรู้สึกที่ปวดแสบปวดร้อบตรงกลางขา และนั่งลงไปด้วยท่าทีที่งุ่มง่าม มองไปอาหารที่อยู่ข้างหน้า เธอไม่ค่อยมีความอยากอาหาร เธอกินไปกี่คำก็วางตะเกียบลง ทันใดนั้นก็คิดอะไรสักอย่างขึ้นมาได้ เลยหยิบโทรศัพท์ออกมาจากกระเป๋า “ฉันมีอะไรให้คุณดู วันนี้ .. ” “กินข้าวก่อน ” เตชิตไม่ได้มองมาที่เขา “ผมไม่ชอบพูดคุยระหว่างกินข้าว” “....” สิ่งที่คุณไม่ชอบมีเยอะจริงๆ นัชชาแอบด่าในใจ แต่เธอยังคงเก็บโทรศัพท์ไปอย่างเชื่อฟัง ถึงแม้เธอไม่ได้กินอะไรอีก แต่ยังคงถูกเตชิตบังคับให้กินข้าวเป็นเพื่อนเขาจนเสร็จ หลังจากเก็บโต๊ะอาหารเสร็จ นัชชาก็ขึ้นไปหาเขาที่ห้องสมุดชั้นสาม หลังจากได้รับอนุญาตแล้ว เธอก็ผลักประตูเข้าไป เตชิตเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดนอนซาตินสีน้ำเงิน เปิดคอเล็กน้อย เผยให้เห็นกระดูกไหปลาร้าและผิวที่สีข้าวสาลี ถ้าไม่รู้ก็คงจะคิดว่าเขากำลังยั่วยวนอยู่ นัชชารู้สึกอึดอัด เธอลดสายตาลง และส่งโทรศัพท์ในมือให้เขา “อันนี้เป็นสิ่งที่ฉันถ่ายในวันนี้ คุณดูสิ” เตชิตรับมา เปิดดูวิดีโอ เขาดูด้วยใบหน้าที่ไม่แสดงอารมณ์อะไรออกมา “คัดลอกไปที่กล่องจดหมายของผม” นัชชารับโทรศัพท์กลับมารู้สึกแปลกใจกับความนิ่งสงบของเขา “แค่นี้หรอ ?” ชายคนนั้นถามกลับ “ไม่งั้น ?” …. เห็นเธอไม่พูดอะไร ชายคนนั้นก็พูดอีกครั้ง “ถ้าผมเป็นคุณ จะไปตรวจสอบบันทึกเปิดห้องของดวิษ ก่อนที่จะเขาซ่อนข้อมูลเอาไว้ ” นัชชาเข้าใจในทันที ทำไมก่อนหน้านี้เธอคิดไม่ถึงล่ะ “ฉันจะไปตรงสอบวันพรุ่งนี้” พูดเสร็จนัชชาก็รีบออกจาห้อง แต่กลับถูกเตชิตเรียกไว้ เธอนึกว่าอีกฝ่ายยังมีปัญหาที่จะพูดอีก แต่เขากลับถามว่า “ทำไมวิดีโอถึงจบลงแบบกะทันหัน ?” นัชชาหัวใจเต้นแรงทันที เธอก้มหน้าลงให้เปลือกตาปกปิดความหวาดผวาในตาของเธอ ฝืนทำสงบนิ่งและพูดว่า “ไม่มีอะไร มือถือตกลงพื้นเท่านั้น” เห็นได้ชัดว่าเตชิตไม่ได้เชื่อคำพูดห้วนๆของเธอ ใช้หัวคิดสักนิดก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น เมื่อมองไปที่ใบหน้าเล็กๆของเธอ ปรากฏมีรอยแดงอยู่ที่มุมปากของเธอ แต่โดนเธอปกปิดมันด้วยแป้งพัฟแล้ว สีหน้าเขามืดมนทันที “พวกเขาตบตีคุณหรอ ?” นัชชาไม่อยากให้ใครมาเห็น เธอเลยก้มหน้าลงแล้วเอาผมไปปกปิด “ไม่มี ใครจะมาตบตีฉัน ฉันแค่ถือโทรศัพท์ไม่ดีเอง” “นัชชา ผมไม่ชอบคนโกหก ” สีหน้าของเตชิตมืดครึ้มกว่าเดิม “ผมจะให้โอกาสคุณอีกหนึ่งครั้ง พูดความจริงกับผม รู้ไหม ?” ดวงตาชายคนนั้นมีความดุตาลอยู่ มองเห็นนัชชาก็รู้สึกตกใจ เธอกัดริมฝีปาก ในที่สุดเธอก็ไม่กล้าที่จะโกหกเขาอีก ก้มหน้าลงด้วยความอับอาย “ปณิตา เมียน้อยของสามีฉัน” “...” เตชิตครุ่นคิดไม่กี่นาที หลังจากนั้นก็ถอนหายใจออกมา พูดด้วยความผิดหวัง “เมื่อก่อนผมก็เคยรับคดีฟ้องหย่า ก็เจอเรื่องที่เมียน้อยตบตีเมียหลวงมาไม่น้อย แต่นี้เป็นครั้งแรกที่ผมเห็นคนที่เต็มใจโดนเมียน้อยทุบตีอย่างคุณ” นัชชารูสึกอายถึงไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมา ตอบกลับด้วยเสียงต่ำ “ฉันก็ตบดวิษไปนะ” เตชิตหัวเราะเยาะ “จะให้ผมบอกว่าคุณเก่งอย่างนี้หรอ ?” “... ไม่ต้อง” มองไปยังผู้หญิงที่ขี้กลัวตัวเล็กๆอยู่ข้างหน้า เตชิตรู้สึกหงุดหงิดเป็นครั้งแรก แต่เขาไม่พูดอะไร หันตัวออกจากห้องสมุดตอน ตอนที่นัชชากำลังคิดว่าตนเองมีตรงไหนทำให้เขาโกรธ ชายคนนี้ก็กลับมาอีก ในมือของเขามีกล่องปฐมพยาบาลมาหนึ่งกล่อง เขานั่งลงบนโซฟา แล้วหยิบขวดไอโอดีนออกมา “มานี่” นัชชาเข้าไปนั่งข้างๆเขาอย่างเชื่อฟัง แก้มด้านซ้ายของเธอถูกทาด้วยไอโอดีนหลังจากนั้นก็ทาครีมยา ความสัมผัสที่นุ่มนวลกับอุณหภูมิปลายนิ้วของชายคนนั้น ทำให้เธอรู้สึกอบอุ่นที่ผิดปกติ นัชชาอดแอบมองเขาไม่ได้ ชายคนนั้นได้แต่ก้มหัวเช็คดูบาดแผลตรงปากของเธออย่างตั้งใจ สภาพที่ตั้งใจและจริงจังของเขา เทียบกับสภาพที่มีแต่ความใคร่ในปกติดีไปตั้งเยอะ เขาช่วยเธอทายา แม้แต่ดวิษก็ยังไม่เคยทำแบบนี้ให้เธอเลย นัชชาใจเต้นเร็วอย่างไม่มีสาเหตุ ทันทีที่จะเปลี่ยนทิศทางมองแต่ก็โดนเตชิตจับได้เสียก่อน “มองพอรึยัง ?” เดิมนัชชาก็เป็นคนขี้อาย โดนเขาเยาะเย้ย แก้มก็กลายเป็นสีแดงเข้มขึนมาทันที ทำให้เตชิตไม่สามารถสงบนิ่งต่อไปได้ “ขอบคุณ .. ”หญิงน้อยพูดอย่างงุ่มง่าม เตชิตเลิกคิ้ว ทิ้งยาที่อยู่ในมือไป “ผมอยากให้คุณขอบคุณด้วยการกระทำที่แท้จริงซะมากกว่า ” “แท้จริงอะไร .. อู๊บ!” ยังไม่ทันจะพูดเสร็จ ทันใดนั้นนิ้วมือเรียวยาวของเขาก็ลูบไปที่ปากของเธอ นิ้วชี้และนิ้วนางจับไปที่ลิ้นของเธอ พลางเสียดไป เพดานปากของเธอ ความรู้สึกนั้น...นัชชาไม่พูดไม่ออก แค่รู้สึกแปลกๆ เธอจับไปที่ข้อมือของเขา พยายามดึงนิ้วมือของเขาออกมาแต่ก็ถูกเขาจับมือวางไว้ที่ขา ทำให้เธอไม่สามารถดิ้นรนได้
已经是最新一章了
加载中