ตอนที่39 งานเลี้ยงรอบกองไฟ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่39 งานเลี้ยงรอบกองไฟ
ต๭นที่39 งานเลี้ยงรอบกองไฟ ให้ตายเถอะ เขาค้นพบแล้ว ตอนนี้ไม่ว่ายังไงเขาก็ไม่สามารถต้านทานผู้หญิงคนนี้ได้เลย! “หยุดนะ! ผมรู้แล้ว ผมใส่เองได้ คุณไม่ต้องช่วยหรอก คุณรีบออกไปเถอะ!” ซือถิงเซวียนพูดแล้วใช้มือผลักปั๋ยหลิงออกไปจากห้องของตัวเองสองสามครั้ง การระทำของเขาหยาบกระด้างมาก ดูร้อนรนและเหมือนว่าต้องการจะซ่อนตัวจากปั๋ยหลิง ถึงแม้ว่าปั๋ยหลิงจะนึกสงสัยในใจ แต่ไม่มีทางเลือกที่จะต้องรีบออกไป แต่ซือถิงเซวียนก็เปิดประตูออกมาใหม่อย่างรวดเร็ว ปั๋ยหลิงมองดูเขาสวมชุดที่ผู้ชายชาวธิเบตมักจะสวมอยู่เป็นประจำ ทันใดนั้นก็หัวเราะขึ้นมา ต้องบอกว่าซือถิงเซวียนคนนี้เป็นผู้ชายที่ร้ายกาจจริงๆ! ถึงแม้ว่าจะสวมชุดชาวธิเบตเช่นนี้แล้ว แต่ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบถึงความองอาจของเขาเลย ตรงกันข้ามกลับทำให้เขามองดูหล่อเหลาและเก๋มากขึ้น! “เป็นอะไรไป หรือว่าผมใส่ออกมาแล้วดูดีมาก!” ซือถิงเซวียนมองดูสายตาประหลาดใจของปั๋ยหลิงแล้วก็รู้สึกดีมาก เขาไม่รู้สึกอึดอัดที่จะต้องใส่เสื้อผ้าที่ดูงี่เง่านี้แล้ว “รีบไปกินข้าวเย็นกันเถอะ อีกสักครู่เราต้องออกเดินทางแล้ว!” ปั๋ยหลิงไม่ตอบคำถามเขา เพียงแค่พูดเร่ง ซือถิงเซวียนไม่โกรธเธอเลย เพราะในใจรู้ว่าปั๋ยหลิงเพียงแค่อายเท่านั้น โดยที่ในใจเขาความสุขมาก! ตอนกลางคืนเมื่อใกล้จะถึงเวลาแล้ว ปั๋ยหลิงและซือถิงเซวียนก็ไปร่วมงานเลี้ยงรอบกองโดยการนำทางของเจ้าของบ้าน ที่นี่คับคั่งไปด้วยผู้คน สถานที่จัดดูมีชีวิตชีวามาก พื้นที่ตรงกลางมีกองไฟลุกโชนอย่างร้อนแรง เปลวไฟลุกสูงจนรอบๆสว่างจ้าราวกับเป็นช่วงกลางวัน คนจำนวนมากต่างรู้จักปั๋ยหลิง พอเห็นปั๋ยหลิงมา ต่างก็ทักทายอย่างอบอุ่น “คุณหมอปั๋ย! คุณมาแล้ว!” “วันนี้คุณหมอปั๋ยสวยจังเลย!” “คุณหมอปั๋ยอย่าไปเลยนะ อยู่ที่นี่กับหนุ่มๆเป็นลูกสะใภ้ของพวกเราเถอะนะ พวกเราที่นี่มีคนหนุ่มที่ยอดเยี่ยมมากมาย คุณหมอปั๋ยดูเลยว่าใครจะเป็นผู้โชคดี” มีคนพูดติดตลกกับหมอปั๋ย คนที่นี่มีจำนวนไม่มากนักที่รู้จักซือถิงเซวียน เป็นเพราะว่าเขามักจะมีสภาวะขาดออกซิเจนบนพื้นที่สูง เขาจึงอยู่แต่ในห้อง แต่เพราะซือถิงเซวียนมาที่จัดงานกับปั๋ยหลิง เมื่อมาถึงจึงเป็นที่สนใจของผู้คนมากมาย ปั๋ยหลิงปลื้มใจมากที่ได้ทักทายทุกคน จากนั้นจึงตามเจ้าของบ้านไปนั่งที่มุมหนึ่ง เพื่อรอให้งานเลี้ยงรอบกองไฟเริ่มต้นอย่างเป็นทางการ ในไม่ช้างานเลี้ยงก็เริ่มต้น รายการแรกคือฝ่ายชายหนุ่มแสดงความรักต่อหญิงสาวที่พวกเขาชื่นชอบ สามารถร้องเพลงกับหญิงสาวที่ชอบได้ ผู้สนับสนุนได้ประกาศเริ่ม ก็มีชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาและร่างกายสูงใหญ่แข็งแรงเดินออกมาจากฝูงชน ยืนอยู่ตรงกลางลานจัดงานและเริ่มเปล่งเสียงร้องเพลง ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงแต่หน้าตาหล่อ แต่ยังร้องเพลงเพราะมาก น้ำเสียงของเขากว้างและทุ้มลึก เพลงที่มีความยาว ฟังแล้วรู้สึกเพลิดเพลินจริงๆ! ปั๋ยหลิงตั้งใจฟังอย่างมาก และมีรอยยิ้มอย่างสุภาพบนหน้า เนื้อเพลงเป็นภาษาธิเบต คำเดียวปั๋ยหลิงก็ฟังไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ได้ทำให้ความหลงใหลในเสียงของชายคนนี้ต้องตกหล่นไปเลย แต่หลังจากฟังไปสักพัก เธอก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ทำไมสายตาของผู้ชมทั้งหมดมาอยู่บนตัวเธอมองดูรอยยิ้มของเธออย่างสนใจ ปั๋ยหลิงรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติแล้ว เธอมองดูผู้ชมทั้งหมด ดูเหมือนว่าซือถิงเซวียนจะทำหน้าเหม็นเบื่อด้วย “เฮ้ ซือถิงเซวียนผู้ชายคนนี้ร้องเพลงอะไรเนี่ย? มีความหมายว่ายังไง? ฉัน...ฉันฟังไม่เข้าใจเลย! แต่ทำไมพวกคนในงานถึงยิ้มให้ฉันล่ะ?” “ผู้คนต่างก็แสดงออกไปที่คุณแล้วนะ! ขนาดนี้คุณยังดูไม่ออกอีกเหรอ?” ซือถิงเซวียนพูดอย่างเย็นชา “อ๋า?” ปั๋ยหลิงตกใจเป็นอย่างมาก “พูดเล่นอะไรกัน? สารภาพกับฉันเนี่ยนะ? แต่ว่า แต่ฉันไม่เคย เอ้อ ไม่เคยรู้จักเขาเลยนะ?” ปั๋ยหลิงรู้สึกว่าตัวเองกำลังฟังนิทานพันหนึ่งราตรีอยู่แปลว่ามันเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้เลย! “คุณไม่รู้จักเขา?คุณไม่รู้จักเขาแล้วเขาจะมาสารภาพรักกับคุณงั้นเหรอ? คำพูดของซือถิงเซวียนนั้นมีอารมณ์ถากถาง ถ้าพูดว่าปั๋ยหลิงไม่สบายใจ เรื่องนี้จำเป็นต้องหลอกเขาอีกเหรอ? “แต่คุณหมอปั๋ยก็ช่างรวดเร็วจริงๆ แต่งงานยังไม่ทันจะหย่า ก็หาที่อยู่ใกล้มือได้ใหม่แล้ว? จะไม่ดูกังวลใจไปหน่อยเหรอ ดูเหมือนว่าคุณเองก็เร่งด่วนร้อนใจที่จะอยู่ที่นี่แทบไม่ไหวแล้ว…” ซือถิงเซวียนพูดต่อคำพูดสะท้อนถึงเรื่องที่เธอยังไม่ต้องการจากไปในวันนี้ ในความคิดของเขา เธอยังไม่ต้องการที่จะจากไป เพราะผู้ชายที่กำลังร้องเพลงอยู่ “ซือถิงเซวียน คุณอย่ามาพูดเหลวไหลนะ ฉันไม่เคยคิดเลย ฉัน…” ปั๋ยหลิงรีบอธิบายอย่างร้อนรน แต่เพิ่งจะอธิบายไป ทันใดเธอก็ได้สติว่า ตอนนี้ตัวเธอกำลังทำอะไรเนี่ย ทำไมจะต้องมานั่งอธิบายเรื่องพวกนี้ให้ซือถิงเซวียนฟังด้วย ถ้าเขาจะเข้าใจตัวเธอผิดแล้วมันจะเป็นยังไง ทีเรื่องของเขา จะเกี่ยวข้องอะไรกับเธอสักนิดก็ไม่มี หลังจากเพลงจบ เสียงตบมือและเสียงเชียร์จากคนในงานก็ดังขึ้น “คิดไม่ถึงเลยว่าที่แท้ผู่ปู้จะชอบคุณหมอปั๋ย” “คุณหมอปั๋ยยอดเยี่ยมขนาดนั้น และสวยมาก ผู่ปู้จะชอบก็ไม่มีอะไรที่แปลกประหลาดเลย!”คนที่อยู่ข้างๆพูดคุยกัน ปั๋ยหลิงรู้สึกอายมากจริงๆ ที่แท้ผู้ชายคนนี้มีชื่อว่า ผู่ปู้! ในเวลานี้มีทั้งผู้ชายผู้หญิงขึ้นไปร้องเพลงแล้ว ปั๋ยหลิงฟังเพลงด้วยความตื่นเต้น แต่ในสมองก็ยังไม่ลืมการที่ผู่ปู้ร้องเพลงรักให้กับตัวเธอเมื่อสักครู่นี้ เธอมองว่าเมื่อกี๊นี้ผู่ปู้แค่หยอกเธอเล่นเท่านั้น ท้ายที่สุดยังไงเธอก็ไม่ใช่คนที่นี่ วันนี้เธอกับซือถิงเซวียนก็เป็นแขกที่มาจากแดนไกล ดังนั้นผู่ปู้จึงแค่เพียงจัดเตรียมและทำตามที่ได้รับฟังมา ด้วยการร้องเพลงแสดงความต้อนรับและความกตัญญูต่อหน้าพวกเขาเท่านั้นเอง หลังจากช่วงการร้องเพลงรักจบลง เสียงเพลงที่ร่าเริงและสนุกสนานก็ดังขึ้น ถึงช่วงเวลาเต้นรำแล้ว “คุณหมอปั๋ย เรามาเต้นรำด้วยกันเถอะค่ะ!” เด็กสาวหลายคนที่แต่งชุดสีขาวเหมือนปั๋ยหลิงเข้ามาดึงปั๋ยหลิงลุกขึ้นอย่างกระตือรือล้น ชวนเธอไปเต้นรำด้วยกัน ปั๋ยหลิงไม่ได้เขินอายอะไรตามพวกเธอไปจนถึงลานรอบกองไฟและพากันเต้นรำรอบกองไฟ ถึงแม้ว่าในตอนแรกเธอยังเต้นไม่เป็น แต่การเคลื่อนไหวของการเต้นโดยรวมนั้นง่ายมาก อีกทั้งปั๋ยหลิงนั้นฉลาดมากจึงเรียนรู้ได้เร็ว จึงเต้นได้ตามแบบ อีกด้านซือถิงเซวียนถูกหนุ่มสาวสองสามคนลากเข้ามาในแถว ทุกคนเต้นรำด้วยกันอย่างมีชีวิตชีวาและมีความสุข เดิมที่ซือถิงเซวียนไม่อยากเต้นเลย จะพูดยังไงเขาก็เป็นท่านประธานใหญ่ จะมาทำตัวสุญเสียตัวตนกับคนเหล่านี้ได้อย่างไร แต่เมื่อมองไปเห็นใบหน้าเล็กๆของปั๋ยหลิงที่กำลังมีความสุขท่ามกลางฝูงชน ซือถิงเซวียนก็เหมือนติดเชื้อมา เขาค่อยๆผสมผสานเข้าร่วมในทีมแล้วเต้นกับทุกคน การเต้นรำที่มีความสุข และท่วงทำนองที่ไพเราะ ร้องเพลงไปด้วย เต้นรำไปด้วยล้อมรอบกองไฟ ปั๋ยหลิงและซือถิงเซวียนไม่รู้ว่าพวกเขาจะเต้นด้วยกันยังไง ทั้งสองจึงจับมือกันอย่างมีความสุข ในช่วงเวลานี้ ความไม่พอใจทั้งหลายก่อนหน้านี้ดูเหมือนจะเลือนหายไปอย่งาสมบูรณ์ ทั้งสองคนลดความตึงเครียดลง และเปลี่ยนเป็นเริ่มมีมิตรภาพต่อกัน **************************************************************** 
已经是最新一章了
加载中