ตอนที่40 การจลาจลงานเลี้ยงรอบกองไฟ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่40 การจลาจลงานเลี้ยงรอบกองไฟ
ต๭นที่40 การจลาจลงานเลี้ยงรอบกองไฟ “พวกเธอดูนั่น! ผ้ชายที่คุณหมอปั๋ยเต้นรำด้วยหล่อนจริงๆเลย!” “จริงด้วย เขามีเป็นอะไรกับคุณหมอปั๋ย? หรือว่าพวกเขาจะเป็นคนรักกัน?” “เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าเป็นคนรักกันดั่งว่าทำไมพวกเขาไม่อยู่ด้วยกันล่ะ ฉันได้ยินว่าคุณหมอปั๋ยยังโสดนะ” “แต่ว่าดูแล้วพวกเขาเหมาะสมกันมากนะ!” “จริงด้วย ผู้หญิงก็สวยขนาดนี้ ผู้ชายก็ดูดีหล่อเหลา หนุ่มหล่อสาวสวยสวรรค์ส่งมาให้เป็นคู่กันจริงๆ!” ผู้คนโดยรอบมองปั๋ยหลิงและซือถิงเซวียนต่างยิ้มและพูดคุยกัน เพียงแต่ว่าทั้งสองคนที่กำลังเต้นอย่งามีความสุขนั้นกลับไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังตกเป็นจุดสนใจของผู้คน หลังจากเต้นมาสักพัก ทุกคนก็เหนื่อยแล้ว ทุกคนจึงกลับไปที่เดิมเพื่อพักผ่อน ดื่มชานมและพูดคุยอย่างสนุกสนาน ผู่ปู้เดินไปข้างหน้าของปั๋ยหลิง และมอบสิ่งของให้กับเธอ “คุณหมอปั๋ย นี่คือของขวัญที่เตรียมมามอบให้กับคุณ โปรดรับไว้ด้วย!” ผู่ปู้กล่าวด้วยรอยยิ้ม ปั๋ยหลิงมองดู แล้วพบว่ามันน่าสนใจมาก จึงรับมา “ว้าว สิ่งนี้สวยจัง มันคืออะไรคะ?” ปั๋ยหลิงมองสิ่งของที่อยู่ในมือแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มเปล่งปลั่ง “นี่เป็นธรรมเนียมของพวกเราที่นี่ ถ้าหากผู้ชายมอบของขวัญให้กับผู้หญิงแล้วหญิงสาวเต็มใจรับไว้ อย่งานั้นแล้ว แสดงว่าฝ่ายหญิงยอมรับการขอวคามรักจากฝ่ายชาย!” บนหน้าของผู่ปู้ปรากฏรอยยิ้มที่มีความสุขอย่างมาก แล้วอธิบาย “เอ้อ นี่…นี่มัน…” ปั๋ยหลิงตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ขอความรัก? เรื่องตลกอะไรกัน? ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการทำต่อหน้าซือถิงเซวียน นี่ไม่ใช่การหักหน้าท่านประธานหรอกเหรอ? นอกจากนี้ ถึงแม้ว่าเธอกับซือถิงเซวียนจะไม่ได้มีความสัมพันธ์ฉันท์สามีภรรยากันจริงๆ แต่ว่าตามกฎหมายแล้วเธอก็เป็นภรรยาของซือถิงเซวียนอย่างไม่ต้องสงสัยเลย ตอนนี้เธอเพียงแค่รับของขวัญของผู่ปู้มาอย่างไม่รู้ กลัวว่าแรงมโนของซอถิงเซวียนจะปะทุแล้วบ้าคลั่งใส่ชายคนนี้ “นี่ ผู่ปู้ ขอโทษนะคะ ฉันไม่รู้ว่าที่นี่มีธรรมเนียมแบบนี้ ฉัน…” ปั๋ยหลิงต้องการคืนสิ่งของให้กับผู่ปู้ แต่ผุ่ปู้กลับวิ่งจากไปพร้อมรอยยิ้ม “ของที่ส่งออกไปแล้วไม่มีเหตุผลที่จะส่งกลับมาได้อีก! คุณหมอปั๋ย จากนี้คุณคือแฟนของผมแล้วนะ!” ผู่ปู้กล่าวพร้อมรอยยิ้มขณะที่วิ่งไป ผู้คนโดยรอบต่างได้ยินแล้ว ต่างปรบมือให้กับผู่ปู้ ชื่นชมที่เขาได้รับการตอบรับจากคุณหมอปั๋ย ช่างโชคดีจริงๆ! “โอ้ ดูเหมือนจะสามารถหาบ้านใหม่ได้จริงๆแล้ว ปั๋ยหลิง ตอนนี้คุณจะพูดอะไรอีก!” ซือถิงเซวียนมองเธอด้วยความโกรธเคือง มิตรภาพเมื่อสักครู่เลือนหายไปหมดแล้ว “ฉัน…ฉัน…” ปั๋ยหลิงต้องการที่จะคัดค้าน แต่เมื่อมองดูดวงตาของซือถิงเซวียนคู่นั้นเป็นดวงตาที่ไม่เชื่อใจเธอ สายตาที่เขาใช้มองเธอมันดูเหมือนสายตาที่ใช้มองผู้หญิงร่านชั้นต่ำ ในใจของเธอก็ขุ่นเคือง ตอนนี้เธอเองก็รู้สึกผิดไม่ใช่หรือไง! เธอแค่เข้าใจผิดว่ามันเป็นเพียงของขวัญจากผู้ชายคนหนึ่งเท่านั้น แต่ซือถิงเซวียนล่ะ? เขากับหยางเช่นเช่นเป็นอะไรกัน? มีลูกด้วยกัน คบชู้กัน เขามีคุณสมบัติอะไรที่จะมาสั่งสอนเธอได้! “ใช่ ฉันค้นพบบ้านหลังที่สองของฉันแล้ว เป็นยังไงบ้างล่ะ?” ปั๋ยหลิงเหมือนกับเป็นยัยตัวแสบเธอเงยหน้าขึ้นมอง จ้องตาซือถิงเซวียนอย่างยั่วยุ มีเพียงแค่เขาที่จะทำอะไรก็ได้ แล้วเธอไม่สามารถทำอะไรได้เลยงั้นสิ? เธอไม่เชื่อเรื่องชั่วร้ายแบบนี้! เขาไม่สามารถจะข่มขู่ให้เธอกลัวได้! “ถ้าอย่างนั้นผมก็จเตือนคุณนะ ปั๋ยหลิง ตอนนี้คุณได้ชือว่าเป็นภรรยาของผมซือถิงเซวียน ตราบใดที่คุณยังเป็นสมาชิกของตระกูลซือ อย่าคิดที่จะวางยาพิษใส่ตระกูลซือ! รักษาหน้าที่ของคุณ! ยังมีอีกข้อหนี่ง คุณฟังผมให้ดี ตระกูลซือเข้าง่ายแต่ออกยาก!” ดวงตาของซือถิงเซวียนเปลี่ยนเป็นเย็นเยือกหาใดเปรียบ ดูเหมือนว่าคืนวันเหล่านี้ที่พวกเขาอยู่ร่วมกันมาได้ย้อนกลับไปยังจุดกำเนิด โดยซือถิงเซวียนมีทัศนคติเหมือนที่มีกับเธอก่อนหน้านี้ ปั๋ยหลิงรู้สึกเย็นเยือกในใจ หมุนตัวเดินจากไป “ประสาท!” เธอพูดพึมพำเสียงเบา น้ำเสียงนั้นแทบจะสั่น ซือถิงเซวียนมองดูด้านหลังของเธอที่เดินจากไปเพียงลำพัง ไม่ได้ไล่ตามไป และนั่งอยู่ที่เดิมคนเดียวด้วยอารมณ์บึ้งตึง ปั๋ยหลิงเดินไปเดินมาอยู่คนดียว ตอนนี้เธอโกรธมาก ไม่อยากจะพูดอะไรกับใคร หรือทำอะไรเลย แต่ว่าความปรารถนาที่ต้องการจะเดินอยู่เงียบๆสงบๆนั้นยากที่จะเป็นจริงได้— “คุณหมอปั๋ย ทำไมมาอยู่ที่นี่คนเดียว?” ผู่ปู้ให้ความสนใจในทุกการเคลื่อนไหวของปั๋ยหลิง เห็นว่าเธอเดินจากมาคนเดียวก็ตามมาทันที “ไม่มีอะไร ฉันแค่อยากจะเดินคนเดียว!” ปั๋ยหลิงดึงมุมปากของตัวเอง บังคับตัวเองให้ยิ้มให้กับผู่ปู้ “เดินคนเดียวมันน่าเบื่อนะครับ ถ้าอย่างนั้นผมเดินเป็นเพื่อนคุณละกันนะ! ยังไงผมก็ว่างอยู่แล้ว!” ดูเหมือนว่าผู่ปู้จะกังวลใจว่าปั๋ยหลิงจะปฏิเสธเขา จึงรีบเอ่ยพร้อมหัวเราะทันที “ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณไปเที่ยวกับเพื่อนของคุณเถอะ!” สายตาของปั๋ยหลิงมองออกไปด้านข้างโดยไม่ตั้งใจ ก็มองเห็นชายหนุ่มชาวธิเบตสองคนมองดูพวกเขาอยู่ไม่ไกล ดูเหมือนจะให้วคามสนใจกับการกระทำของเธอและผู่ปู้ พวกเขามองดูและยหัวเราะไปด้วย ในเสียงหัวเราะนั้นมีความหมายลึกซึ้ง ในใจของปั๋ยหลิงรู้สึกไม่เป็นธรรมชาติเลย เธอหยิบของขวัญที่ผู่ปู้เพิ่งจะมอบให้กับเธอออกมา “ผู่ปู้ ฉันคืนให้คุณค่ะ ฉันเคยบอกคุณไปแล้ว ว่าฉันไม่อยากจะรับของขวัญชิ้นนี้จากคุณ! ฉันเพียงแค่ไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่ ดังนั้นจึงได้รับมา ขอโทษด้วยนะคะ!” ปั๋ยหลิงนำของขวัญนั้นส่งคืนให้ตรงหน้าผู่ปู้ สีหน้าของผู่ปู้ก็กลายเป็นแย่มาก “คุณหมอปั๋ย ธรรมเนียมของเราที่นี่ก็คือ ถ้าหญิงสาวยอมรับของขวัญจากชายหนุ่มก็แปลว่ายอมรับการขอความรัก ตอนนี้คุณคืนให้ผม ผมจะทำยังไงล่ะ คนมากมายต่างมองเห็นว่าคุณรับของขวัญจากผมแล้ว!” ผู่ปู้เอ่ยขึ้น น้ำเสียงไม่เต็มใจ “ขอโทษนะคะ ผู่ปู้ ฉันไม่รู้ธรรมเนียมของที่นี่ว่าเป็นเช่นนี้จริงๆ ถ้าเป็นอย่างนั้นหลังจากนี้ ฉันช่วยอธิบายให้คุณได้ค่ะ! ฉันไม่ได้…ชอบคุณจริงๆ!” ปั๋ยหลิงทนไม่ได้ที่จะทำร้ายผู้ชายคนนี้ แต่ว่ามันเป็นหลักการของปัญหา เธอไม่อาจที่จะไม่ทำเช่นนี้ได้ ดังนั้นเพื่อไม่ให้เป็นการทำร้ายผู่ปู้ เธอจึงต้องพูดคำพูดโหดร้ายนี้ “คุณหมอปั๋ย หรือว่าคุณกำลังล้อผมเล่น?” สีหน้าของผู่ปู้ดูแย่ลงกว่าเดิม และด๔เหมือนว่าจะยังมีความโกรธปนอยู่ “ขอโทษขจริงๆค่ะ ผู่ปู้ ฉันขอคืนสิ่งนี้ให้คุณค่ะ! ถ้าหากว่าคุณต้องการ เราก็ยังสามารถเป็นเพื่อนกันได้!” ปั๋ยหลิงเอาของขวัญกดลงในมือผู่ปู้อย่างบังคับฝืนใจ จากนั้นก็คิดจะเดินไป เมื่อหันหลังมาก็ได้ยินเสียงหัวเราะเยาะของเด็กหนุ่มกลุ่มนั้น— “อย่างที่ฉันพูดเลยไง คุณหมอปั๋ยจะมาชอบไอ้เด็กเวรแบบผู่ปู้ได้ยังไง!” “ใช่เลยคางคกอยากจะกินเนื้อหงส์ ช่างไม่ประมาณตนเอาซะเลย!” “ไอ้เด็กเวรผู่ปู้ชอบฝันกลางวัน ใช้ประโยชน์จากการที่ตัวเองรูปร่างหน้าตาดี เลยนึกเอาเองว่าผู้หญิงทุกคนจะต้องชอบเขา! นี่จะทำให้เขารู้สักทีว่ารสชาติของการถูกสลัดทิ้งมันเป็นยังไง!” …. ….. เสียงเย้ยหยันที่เย็นชาเหล่านั้นยังคงดำเนินต่อไป ปั๋ยหลิงรู้สึกลำบากใจมาก “พวกแกพูดพอหรือยัง!?” ผู่ปู้วิ่งออกไปพร้อมเสียงคำรามลั่น
已经是最新一章了
加载中