ตอนที่84เผชิญหน้ากับความเงียบงัน   1/    
已经是第一章了
ตอนที่84เผชิญหน้ากับความเงียบงัน
ตอนที่84เผชิญหน้ากับความเงียบงัน ในโลกนี้ถ้าแม้แต่นภนต์เธอยังเชื่อไม่ได้เลยแบบนี้แล้วเธอจะเชื่อใครได้อีกล่ะ? เพ็ญนีติ์ยืนสูดหายใจเข้าลึกๆอยู่ข้างๆหน้าต่างทอดสายตาไปยังไฟถนนที่ค่อยๆสว่างทีละดวงอุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟในยามค่ำคืนช่างสวยงามเหลือเกินช่วงบ่ายก็พาเด็กๆไปว่ายน้ำที่สระว่ายน้ำกันแล้วแต่ก็ยังไม่ได้เดินชมรอบๆอุทยานเลยพรุ่งนี้เธอจึงอยากจะพาเด็กๆไปเที่ยวเล่นอุทยานสักรอบ “มามี๊ชอบแด๊ดดี๊ไหมคะ?”เสียงเล็กเปล่งออกมาเป็นอ้อยที่เดินอย่างเบาๆมายืนข้างเขาพร้อมกับดึงชายเสื้อถาม อ้อยต้องได้ยินที่เธอคุยโทรศัพท์เมื่อกี้แน่ๆเธอก้มตัวลงไปมองตาของเด็กอ้อยอ้อนเธอจนรู้สึกปวดใจ“อ้อยเมื่อกี้ที่มามี๊โกรธมามี๊แค่ล้อเล่นนะคะหนูไม่ต้องคิดมากนะและห้ามเอาไปบอกแด๊ดดี๊กับส้มด้วยโอเคไหมคะ?”หลายเรื่องเก็บไว้ในใจของดีที่สุดดังนั้นตอนนี้เธอจะพยายามแก้ไขให้ได้มากที่สุด “บอกส้มก็ไม่ได้หรอคะ?”สองคนพี่น้องไม่เคยมีความลับต่อกันเลย “ใช่ค่ะบอกไม่ได้เรื่องนี้เป็นความลับระหว่างเราสองคนนะ” โอเคค่ะหนูจะเชื่อฟังมามี๊มามี๊คะแด๊ดดี๊ให้มาตามมามี๊ไปกินข้าวด้วยกันค่ะ” “โอเคเราไปกันเถอะอย่าให้แด๊ดดี๊กับส้มรอพวกเรานานเลย”เธอใช้มือข้างหนึ่งจูงอ้อยออกจากห้องส่วนอีกข้างก็หยิบมือถือโทรหานารา “เพ็ญนีติ์เธอตามหาฉันหรอ?” “ปุริมมาแล้วไปกินข้าวด้วยกันเถอะ” “เฮ้อ~ฉันอยู่ร้านอาหารอิ่มไม่ไหวแล้วเนี่ยวันอื่นเหอะ” “งั้นรอฉันรอแปบนึงฉันกับปุริมและลูกๆใกล้จะถึงแล้ว”พูดจบเธอก็ตัดสายและไปตามปุริม“ปุริมไปกันเร็ว” “มีอะไรหรอ?” “ฉันมีเรื่องเซอร์ไพร์นาย”เธอยิ้มและพูดตั้งแต่ที่ออกจากห้องมาก็มีแต่เรื่องที่ทำให้รู้สึกดีฉันก็รู้เรื่องของเขาทั้งหมดดังนั้นเงียบๆไปก็ดีแล้วทั้งหมดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องยาก “อะไร?” “ไปกันเถอะอย่าหงุดหงิดเลย”ยิ้มและพูดเธอรีบเดินไปหน้าสุดตั้งแต่เด็กๆจำความได้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่พวกเราทานอาหารร่วมกันพูดความจริงปุริมมีความเครียดอยู่นิดหน่อย ชั้น2ของร้านอาหารหรูหราและเงียบสงบช่วงเวลารับประทานอาหารภายในร้านอาหารคนนั่งเต็มไปหมดทำให้เธอไม่สามารถหานาราอยู่ตรงไหน "มามี๊ไม่ได้จะมาหาคุณน้าคนเมื่อตอนเช้าหรอคะ?คุณน้าเค้าอยู่ตรงนั้น"มือเล็กๆของส้มชี้ไปที่มุมห้องนาราอยู่ตรงนั้นจริงๆด้วย แต่ว่าอยู่ข้างหลังของปุริมและตรงข้ามของนาราก็มีคนนั่งอยู่ด้วยคนนึง มองไม่เห็นหน้าคนนั้นแต่ก็รู้ว่าคนนั้นเป็นผู้หญิง คอระหงขาวเด่นอยู่ท่ามกลางสายของทุกคนมันทำให้เกิดความรู้สึกที่คุ้ยเคย เมื่อเพ็ญนีติ์อยากจะก้าวไปเบี่ยงตัวขวาง"เพ็ญนีติ์เธอตั้งใจใช่ไหม?"ปุริมเอ่ยถาม เสียงเขาเย็นชามากเยือกเย็นราวกับสามารถทะลุกระดูกอย่างไรอย่างงั้นทำให้เธอรู้สึกเจ็บปวดพร้อมส่ายหัว“ปุริมนี่นายหมายความว่าไง?” ขาของเขาอ่อนแรงและไม่มั่นคงแต่ก้าวไปอีกก้าวเผชิญตรงหน้าเธอแล้ว“เพ็ญนีติ์เธอรู้อยู่แล้วใช่มั้ยพูดสิทำไมหล่ะ?” เสียงเขาไม่ดังและไม่เบาแต่การกระทำของเราดึงดูดสายตาของผู้คนรอบตัวสายตาหลายคู่จับจ้องมาที่เพ็ญนีติ์ทำให้หน้าเธอรู้สึกร้อนผ่าวจนไม่รู้จะเอาหน้าที่ไหนไปเจอปุริมแล้วเธอไม่เข้าใจว่าเขากำลังพูดอะไร“ปล่อยฉันฉันไม่ได้ทำ”เพ็ญนีติ์พยายามผลักปุริม "ทำไมเธอถึงอยู่ที่นี่?"เขาชี้นิ้วไปที่นาราพร้อมกับน้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธ “นาราหรอ?ฉันแค่เซอร์ไพร์เธอ”เธอไม่คิดว่าเป็นเรื่องที่ผิดที่จะทำแบบนี้นารายิ่งไม่ใช่พนินีแต่ไหนแต่ไรความสัมพันธ์ของเขากับนาราก็ไม่ได้ดีขนาดนั้น ภายในร้านอาหารสายตาของทุกคนจับจ้องมาที่เธอกับปุริมจนกระทั่งอ้อยที่นั่งติดหน้าต่างหันไปทางพวกเขาสายตากวาดผ่านเรื่องราวก็ดีผู้หญิงที่อยู่ข้างหลังเพ็ญนีติ์หันกลับมามองเพ็ญนีติ์หายใจเข้าลึกๆและเข้าใจทำไมปุริมถึงโมโหขนาดนั้นที่แท้ก็เพราะแบบนี้เอง(เสียงในความคิด)“ฉันไม่รู้ว่าเธออยู่ที่นี่”ปุริมไม่รู้จะบอกเรื่องนี้กับพนินีอ้อยและส้มยังไงแต่ว่าตอนนี้เขากลัวจะปิดบังต่อไปไม่ไหวแล้วพนินีต้องรู้เรื่องไม่ช้าก็เร็วแน่ๆ คิดไม่ถึงจริงๆว่าพนินีจะอยู่ที่นี่ เรื่องที่เกิดวันนี้ทั้งวันผ่านไปไวราวกับเป็นความฝันจนกระทั่งไม่สามารถเรียงลำดับเหตุการณ์ได้เพียงแค่รู้สึกว่ามันเร็วเร็วจนเกิดวุ่นวายๆไปหมด “แด๊ดดี๊ปล่อยมามี๊นะห้ามตะโกนใส่มามี๊ด้วย”ส้มพยายามดึงชายเสื้อของปุริมเธอตกใจกลัวเพราะสายตานับหลายคู่จ้องมองมาที่แด๊ดดี๊กับมามี๊ สีหน้าปุริมขาวซีดมือที่ดึงปกขอเสื้อเพ็ญนีติ์คลายลงอย่างช้าๆเรื่องราวของเด็กๆไม่ช้าก็เร็วเขาก็ต้องพูดเพียงแต่ยังไม่พร้อมพาอ้อยกับส้มเผชิญหน้ากับพนินีแต่ว่าตอนนี้พนินีเห็นแล้ว ผู้หญิงบอบบางจับโต๊ะลุกขึ้นยืนอย่างมั่นคงหน้าของเธอนั้นซีดเพ็ญนีติ์เห็นแขนเธอมีผ้าพันแผลที่แท้เธอบาดเจ็บอยู่เมื่อคืนเกิดไรขึ้นกันแน่? จิณณะพนินีและยังมีปุริมมีเรื่องทะเลาะกันแน่ๆยิ่งไปกว่านั้นไม่มีใครยอมใครด้วย “มามี๊~มามี๊กับคุณน้าคล้ายกันจัง”อ้อยพบความประหลาดเรื่องนี้ เธอรู้ทันทีว่าตั้งแต่แต่แรกที่ปุริมเลือกเธอเพราะว่าเธอกับพนินีมีความคล้ายกันมากตอนนั้นเธอปลอมตัวเป็นพนินีตอนนี้ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ดูออกเท่านั้นแม้แต่เด็กยังดูออก พนินีเดินเข้าไปหาพวกเขาอีกครั้งยิ่งก้าวเข้าไปเท่าไหร่ก็ทำให้คนรู้สึกเหมือนเธอเป็นดอกไม้ที่ปลิวไหวไปตามสายลมได้เหมือนแต่ก่อน ยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยสายตาปุริมกับเธอหันไปมองส้มกับอ้อยพนินีสยายยิ้มรอยยิ้มนั้นช่างอ่อนหวาน“สวัสดีเด็กๆ” “คุณน้า,สวัสดีค่ะ”ส้มตอบด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานยื่นมือออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉยยิ่งไปกว่านั้นพนินีไม่ได้คิดร้ายกับพวกเด็กๆ พนินีหันหลังกลับ“อ้อยเอาถุงของฉันออกมาทีสิจ๊ะ” ทำไมสวยขนาดนี้ทุกกริยาท่าทางและหน้าตาช่างเหมือนกุลสตรีสะกดทุกสายตาให้มาจับจ้อง “นี่ได้แล้วค่ะเจ้”อ้อยเอาถุงในมือให้พนินี“อ่ะค่ะ” พนินีพยายามหาของในถุงและในที่สุดก็เจอกระเป๋าหมีน้อยและลูกอมช็อคโกแลตหนึ่งกล่องอันหนึ่่งให้ส้มอันหนึ่งให้อ้อย“มาๆฉันให้พวกหนู” “ทำไมถึงให้ของขวัญหนูละคะ?หนูไม่รู้จักคุณด้วยคุณครูสอนว่าไม่ควรรับของคนแปลกหน้า” พนินียิ้ม“หนูมากับมามี๊ใช่ไหมคะ” “อื้มใช่ค่ะแล้วก็มีแด๊ดดี๊ด้วย” เด็กพูดดูไม่มีความประมาทความจริงแล้วใครก็รู้ว่าอ้อยและส้มเป็นลูกของเพ็ญนีติ์เพราะเด็กๆทั้งสองถอดแบบมาจากเพ็ญนีติ์เลยแต่ว่าไม่มีใครรู้ว่าเด็กทั้งสองเป็นลูกของปุริม “แด๊ดดี๊นั่นคือแด๊ดดี๊พวกหนูหรอ?”ชัดเจนพนินีตกหลุมรักเด็กทั้งสองคนดังนั้นจึงถามอย่างอ่อนโยนบางทีเธอเพียงแค่อยากรู้จักแต่ก็ไม่สามารถปกปิดได้ นิ้วชี้ไปที่ปุริมส้มพูด“เขาเป็นแด๊ดดี๊ของพวกเราค่ะ” พยักหน้าช้าๆค่อยๆมองปุริมใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม"ปุริมนายมีลูกตั้งแต่ตอนไหนทำไมไม่เห็นบอกฉันเลยฉันชอบมากพวกเธอน่ารักจริงๆ" “ฉัน…”ปุริมพูดคำเดียวแล้วก็หยุดชะงักกวาดสายตาไปที่เพ็ญนีติ์เรื่องนี้มันอธิบายยากหน่อยหน่ะ “หึๆฉันไม่ซีหรอกเด็กน้อยบอกฉันหน่อยเธอชื่ออะไร?” “อ้อยค่ะ” “แล้วเธอล่ะ?”หันไปหาส้มพนินีเอามือลูบหัวส้มด้วยความเอ็นดู “ส้มค่ะ” “ว้าว~เป็นชื่อที่น่ารักมากเลยมามี๊เป็นคนตั้งให้หรอ?” “อืมใช่ค่ะคุณน้า” “อย่าเรียกฉันว่าน้าฉันไม่อยากเป็นน้าของพวกเธอ”ก้มตัวลงไปอุ้มส้มพร้อมยิ้มให้ปุริม“เหมือนนายมากและก็มีบางมุมที่คล้ายฉันดังนั้นฉันอยากจะเป็นแม่ทูนหัวของพวกเด็กๆได้ไหม?” รอยยิ้มของพนินีไม่กระดากอายใบหน้าบริสุทธิ์ไม่ได้พูดอะไรราวกับว่าเธอต้องการให้เด็กๆเรียกเธอว่าเป็นแม่ทูนหัว แต่เพ็ญนีติ์ยังมีความลังเล ท่าทางปุริมดูเครียดเพียงแค่โบกมือส่งสัญญาณข้างพนินีไม่ให้เธอตอบแต่ว่าพนินีกับมีท่าทางยิ้มแย้มถ้าเธอไม่เห็นด้วย….. “เพ็ญนีติ์เธอคงจะเป็นเพ็ญนีติ์ฉันจำได้ว่าจิณณะเรียกเธอแบบนี้ฉันแค่ต้องการให้เด็กทั้งสองคนเรียกชั้นว่าแม่ทูนหัวเท่านั้นฉันเอ็นดูพวกแกมาก” “โอ…..เค….”เพ็ญนีติ์ตอบพอเห็นปุริมโบกมือเธอก็ยิ่งเห็นด้วยทำไมเข้าถึงปฏิเสธแบบนั้นนี่เป็นเรื่องคุยระหว่างผู้หญิงกับผู้หญิง “ส้มเรียกแม่ทูนหัวแล้วค่อยรับของขวัญจากแม่ทูนหัวมาแบบนี้ก็โอเคนะ”พนินียิ้มและมองส้มรับของขวัญ “ขอบคุณค่ะแม่ทูนหัว”เสียงหวานๆช่างน่าฟังพนินีจึงหอมแก้มส้ม“ดีเหลือเกินมาๆอ้อยให้ฉันกอดอีกทีฉันเอ็นดูเธอทั้งสองคนเลย” มือหนึ่งก็อุ้มอ้อยมองไปยังแขนของเพ็ญนีติ์ที่ใส่เฝือกเพ็ญนีติ์กังวลว่าเธอไม่สามารถอุ้มอ้อยได้พนินีก็อุ้มอ้อยอย่างรีบร้อนใบหน้าเล็กถูกโขมยหอมแก้ม"เพ็ญนีติ์ตั้งแต่เธอมีลูกทั้งสองเธอดูความสุขจริงวันหลังพาฉันไปเจอพวกเขาบ่อยๆนะ"
已经是最新一章了
加载中