ตอนที่ 36คำทำนายของคุณโจว
1/
ตอนที่ 36คำทำนายของคุณโจว
Hello คุณผีพรายของฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 36คำทำนายของคุณโจว
ตนที่ 36คำทำนายของคุณโจว ทำให้จมูกฉันเจ็บไปหมดแล้ว......... ฉันลูบสมูกด้วยความเศร้าแล้วกินบะหมี่ต่อ บางทีเขาอาจจะแค่ยกตัวอย่างเฉยๆก็ได้ ฉันกลับมาคิดเรื่องเจ้าลิงน้อยอีกครั้ง ถึงแม้ว่ามมันจะเป็นซื่อเอ่อร์มี๋โหว แต่มันก็ดูหมือนกับลิงตัวอื่นๆ ทั้งตัวเป็นขนสีเหลือง ที่หัวมีหูกลมๆเล็กๆอย่างละข้าง ไม่ได้มีสี่หู เจ้าลิงน้อยมองมาที่ฉันด้วยใบหน้าที่ตื่นเต้น แน่นอนว่ากำลังมองบะหมี่กึ่งสำเร็จในถ้วยของฉันอยู่ ท่าทางของมันอยากจะกินมากๆ หลังจากที่ฉันกินไปไม่กี่คำก็ไม่หิวแล้ว ฉันผลักถ้วยไปตรงหน้าเจ้าลิงน้อยแล้วถาม “อยากกินไหม?” “จี๊ดๆ” เจ้าลิงน้อยส่งเสียง รีบเอามือตักบะหมี่ในถ้วยกิน เมื่อเจ้าลิงน้อยกินบะหมี่ในถ้วยจนหมด เซียวเหย่ก็พูด “ตั้งชื่อให้มันสิ ตั้งแต่ตอนนี้เป็นต้นไป เธอคือเจ้านายของมัน” “อืม.......เหมาฉิว?” ฉันมองไปที่เจ้าลิงน้อยแล้วพูด ฉันไม่เก่งเรื่องตั้งชื่อเลยจริงๆ เจ้าลิงน้อยส่งเสียงจี๊ดๆ เสียงแหลมราวกับว่ากำลังปฏิเสธและว่าฉันอย่างไรอย่างนั้น เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบชื่อนี้ “เหมาต้าน?” “เหมาคู่?” “เหมาเซี่ยน?” …… ฉันเสนอชื่อไปหลายชื่อ แต่เจ้าลิงน้อยก็แยกเขี้ยวใส่ฉันหมดเลย เห็นได้ชัดว่าไม่ชอบให้คำว่าเหมาเป็นชื่อตัวแรก ฉันขี้เกียจจะตั้งชื่อแล้ว พูด“อย่างนั้นเรียกว่าลิ่วเอ่อร์ละกัน จะได้ฝึกฝนและกลายเป็นลิ่วเอ่อร์มี๋โหวเร็วๆ” ลิงน้อยฟังรู้เรื่อง รีบพยักหน้าให้ฉันและตบมือด้วยความดีใจ หลังจากได้ชื่อลิ่วเอ่อร์แล้ว ฉันก็จัดเก็บเถ้ากระดูกของลูกพี่ลูกน้องไว้ดีๆ เตรียมตัวพาลิ่วเอ่อร์ไปบ้าคุณน้าด้วยกัน ไม่คิดว่าเซียวเหย่จะไม่ให้ฉันพาลิ่วเอ่อร์ไปด้วย เขาบอกว่าฉันเพิ่งตั้งชื่อให้ลิ่วเอ่อร์ ระหว่างเรายังไม่คุ้นเคยกัน ยังไม่สามารถพาออกไปได้ เขาให้ลิงกับฉันก็ต้องทำตามวิธีการเลี้ยงเจ้าลิ่วเอ่อร์ รอให้พวกเราคุ้นเคยกันก่อนถึงพาไปด้วยกันได้ เอาล่ะ ถึงแม้ว่าฉันจะชอบลิ่วเอ่อร์มาก แต่เดี๋ยวเรากต้องไปทำธุระบ้านคุณน้า ฉันก็พาเจ้าลิงน้อยไปไม่ได้ด้วย ฉันให้เจ้าลิงน้อยกลับไปบนต้นไม้แล้วกอดหีบเถ้ากระดูกออกมา ตามเซียวเหย่ไปบ้านคุณน้า เพราะไม่รู้ว่าลูกพี่ลุกน้องของฉันเป็นตายร้ายดีอย่างไร พ่อแม่ของฉันเลยมาอยู่ที่บ้านของคุณน้าหลายวันแล้ว เมื่อพวกเราเข้าไปในบ้าน แม่ของฉันก็ยืนขึ้นถาม“มีข่าวอะไรไหม หาเจอรึยัง?” ฉันพยักหน้า หันไปทางคุณน้า ยื่นหีบเถ้ากระดูกในมือให้อย่างไม่สมัครใจ คุณน้าตกใจเมื่อเห็นพวกเราเข้ามา ยังไม่ได้เอ่ยปากถาม สายตตาก็เหลือบไปเห็นหีบเถ้ากระดูกในมือของฉัน ท่านรีบเดินมาหาจนเกือบจะล้ม “นี่คือ..........” เสียงของท่านเบามาก มีเพียงสองคำนี้ออกมา เธอไม่กล้าถามต่อ ฉันพยักหน้า ว่างหีบกระดูกไว้บนโต๊ะ ฉันเสียงต่ำเล่าสาเหตุการตายของลูกพี่ลูกน้อง สิ่งที่ฉันบอกทั้งหมดเป็นอีกเรื่องงหนึ่ง ตอนแรกฉันอยากจะบอกทุกอย่างที่ลูกพี่ลูกน้องของฉันเจอมาทั้งหมด แต่เมื่อมาคิดทบทวนดูแล้ว ฉันยังกลัวว่าคุณลุงคุณน้าจะไม่สามารถรับกับเรื่องราวเลวร้ายนี้ได้ ฉันเพียงพุดไปว่าลูกพี่ลูกน้องตายเพราะจมน้ำ อาจเป็นไปได้ว่าปัญหาทางสุขภาพจิตนั้นยังรักษาไม่หายขาด เพราะอย่างนั้นจึง....... บอกไปแบบนี้ พวกเขาน่าจะรับมันได้มากกว่า แม้การสูญเสียลูกสาวจะเป็นเรื่องที่เจ็บปวด แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่มีความเกลียดชังในใจ และไม่ตามหาแม่หม้ายหลี่เพื่อแก้แค้น ยิ่งไปกว่านั้นแม่หม้ายหลี่ไม่ใช่คนธรรมดา แม้ตำรวจเองก็ตามจับเธอไม่ได้ แล้วคุณลุงคุณน้าจะทำอย่างไรล่ะ? คุณน้าเชื่อในสิ่งที่ฉันพูด เมื่อรู้ว่าในหีบนั้นเป็นเถ้ากระดูกของลูกพี่ลูกน้องจริงๆ ก็เป็นลมล้มไปทันที คุณลุงน้ำตาไหล กอดเถ้ากระดูกของลูกสาวไว้เงียบๆ ผ่านมาไม่กี่วัน ฉันและเซียวเหย่พักที่บ้านคุณลุง คอยปลอบคุณน้าและช่วยเรื่องพิธีศพจนกว่าจะถึงเจ็ดวัน สถาพจิตใจของคุณน้าเองก็ค่อยๆดีขึ้น ทันใดนั้นมีโทรศัพท์สายหนึ่งโทรเข้ามาบอกว่าขอสายเซียวเหย่ เสียงนั้นไม่ใช่เสียงของเซียวเถิงหรือเซียวเซิ่ง ฉันอยากรู้จริงๆ ไม่ใช่คนของตระกูลเซียว บทโลกนี้ยังมีคนอื่นรู้จักเซียวเหย่ด้วยเหรอ? ฉันหันไปหาเซียวเหย่แล้วยื่นโทรศัพท์ให้เขา พูด“ขอสายนายน่ะ” พูดจบฉันไม่ได้เดินไปไหน รออยู่ข้างๆเขา เงี่ยหูฟัง อยากรู้ว่าอีกฝั่งเป็นใคร เซียวเหย่รับโทรศัพท์ เขาพูดว่านั้นเขาเอง พูดไม่กี่คำก็วางสายไป ฉันแปลกใจทันที ถามเซียวเหย่ว่าใครถามหาเขา?บนโลกนี้ยังมีคนอื่นรู้จักเขาด้วยเหรอ? หลังจากที่วางสายเซียวเหย่ดูอารมณ์ดีมากๆ เห็นฉันถาม เขาก็หัวเราะออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ พูด“ไม่รู้จัก แต่ว่าเขาจะมาส่งเงิน หลังจากฝังญาติของเธอแล้ว ตามฉันกลับไปที่บริษัทก็พอ พวกเราไปเจอเขากัน” พูดจบเขาก็ยื่นมือมาลูบผมฉัน ใจของฉันเต้นรัวตอนที่เขาลูบ ถึงแม้ว่าตอนนี้เขาจะอยู่ในใบหน้าของหลิวเฝิง แต่ความรู้สึกตอนเขาลูบหัวมันดีมากจริงๆ ราวกับว่าได้รับความรักมากมายอย่างไรอย่างนั้น แต่ที่ทำให้ฉันตื่นเต้นก็เพราะเขายอกว่าคนๆนั้นจะส่งเงินให้?เขายังไม่รู้จักครอบครัว ไม่รู้จักคนอื่น ทำไมถึงส่งเงินให้เขานะ? ฉันแปลกใจมากๆ แต่ถึงเวลาพิธีฝังศพลูกพี่ลูกน้องแล้ว ฉันเลยถามเซียวเหย่อีกไม่ได้ หลังจากที่เสร็จพิธีฝังแล้ว พวกเราก็พาพ่อแม่ของฉันและคุณลุงคุณน้ากลับบ้าน เวลาตอนนี้ก็ใกล้จะเที่ยวแล้ว เซียวเหย่ขับรถเร็วมาก เมื่อถึงทางเข้าบริษัทของเซียวเซิ่ง ก็เห็นผู้ชายอารุราวสี่สิบกว่ายืนอยู่ที่ทางเข้าบริษัท เขารูปร่างอ้วนและไม่สูงมากนัก สวมชุดสูทสีดำที่เต็มไปด้วยความหรูหรา แค่ดูก็รู้ว่าเป็นคนร่ำรวย แต่สีหน้าตอนนี้เขาดูอึดอัดใจ เมื่อเขาเห็นเซียวเหย่ก็ดูตกตะลึงอย่างเห็นได้ชัด เขายิ้มและถามว่า“คุณคือเซียวเหย่ใช่ไหม?” “อืม คุณโจวสินะ คุณคงรอนานแล้ว เอาอย่างนี้ดีไหม เราลงไปชั้นล่างกัน กินข้าวไปคุยกันไป” เซียวเหย่พูด จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปบอกเป็นนัยๆว่าให้คุณโจวเข้ามาในลิฟต์ ฉันวิ่งไปวิ่งมาตั้งแต่เช้าแล้ว หิวแล้วด้วย ได้ยินเซียวเหย่พูดถึงอาหารก็ดีใจขึ้นมาทันที คาดว่าหัวหน้าโจวก็น่าจะรอนานจริงๆ เขาพยักหน้า บอกว่าคิดสิ่งนี้ไว้แล้วและได้จองห้องอาหารส่วนตัวไว้ที่ร้านด้านล่าง เพียงแค่รอให้พวกเราตอบรับเท่านั้นเอง เขาพูดพลางเดินเข้ามาในลิฟต์ พาพวกเราลงไปชั้นล่าง ฉันอดที่จะมองคุณโจวไม่ได้ สมกับที่เป็นเส้นทางการทำธุรกิจหรือร่วมงานกันจริงๆ หลังจากมาถึงร้านอาหาร พนักงานรีบนำอาหารที่ประณีตออกมาเสิร์ฟ จากที่ได้คุยกับคุณโจวได้ไม่กี่ประโยค ในที่สุดฉันก็รู้สถานะของเขา เค้าชื่อโจวทง ทำธุรกิจเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ในเจียงเหมิน พ่อแม่และฉันมักจะไปซื้อของที่ซุปเปอร์มาเก็ตของเขา มีสาขามากกว่าสิบสาขาทั่วเจียงเหมินและธุรกิจเจริญรุ่งเรืองมาก แม่เมื่อเร็วๆนี้ซูเปอร์มาร์เก็ตของเขาเกิดระเบิด มีเจ้าหน้าที่ตายสามคนจากเหตุการณ์ไปไหม้ โชคดีที่เกิดเหตุระเบิดตอนกลางดึกจึงมีคนในร้านไม่มาก ไม่อย่างนั้นหากเกิดระเบิดในช่วงเช้า คาดว่าต้องมีผู้เสียชีวิตมากกว่าสามคนแน่นอน ช่วงนั้นเหตุการณ์นี้เป็นข่าวออกอากาศที่สถานีโทรทัศน์ของเจียงเหมินด้วย กลุ่มเพื่อนๆก็ส่งต่อกัน แต่ระหว่างนั้นฉันกำลังยุ่งกับการตามหาแม่หม้ายหลี่กับเซียวเหย่เลยไม่ได้สนใจ ไม่คิดว่าผ่านมาไม่กี่วัน ผู้บริหารจะมานั่งอยู่ตรงหน้าเราในตอนนี้ “คิดว่าเหตุระเบิดซุปเปอร์มาเก็ตของผมนั้นคุณคงก็ได้ยินมาบ้าง เรียนตามตรง ก่อนที่จะเกิดเหตุระเบิด ผมได้รับการแจ้งเตือนมาแล้ว แต่ตอนนั้นผมคิดว่ามีคนแค่หลอกผมเล่น ไม่จริงจังอะไร คาดไม่ถึงว่าจะระเบิดซุปเปอร์มาเก็ตจริงๆ” คุณโจวพูดด้วยรอยยิ้มที่ดูขมขื่น มันอดที่จะสับสนในคำพูดของเขาไม่ได้ ฉันขัดจังหวะพูด“ก่อนที่จะเกิดระเบิดมีคนเตือนคุณแล้วเหรอคะ?แสดงว่ามีคนจงใจวางระเบิดอย่างนั้นเหรอ?อย่างนั้นทำไมคุณถึงไม่แจ้งความล่ะ?มาหาพวกเราทำไม?” คุณโจวสังเกตเห็นฉัน เขามองที่เซียวเหย่อย่างลังเล พูด“เธอคือ.........” “ภรรยาของผมเอง” เซียวเหย่พูด “โอ้!เสียมารยาทจริงๆ” คุณโจวยิ้มให้กับฉัน จากนั้นก็กลับไปเป็นรอยยิ้มที่ขมขื่นนั้นอีกครั้ง พูด “แน่นอนว่าเรื่องราวมันไม่ง่ายอย่างนี้ โดยเฉพาะถ้าต้องการเจรจา มันต้องเริ่มคุยก่อนหน้าหนึ่งเดือน” ปรากฏว่าพ่อของคุณโจวเสียชีวิตได้เดือนกว่าด้วยโรคมะเร็ง เขารวยขนาดนั้น แน่นอนว่าเขาต้องหาซินแสมาเลือกที่ฝังที่ดีให้กับพ่อของเขา ยิ่งไม่ต้องพูดเลย ซินแสเลือกฝังพ่อของเขาที่หลุมหยก หลังจากนั้นก็จัดการพิธีจนเสร็จสิ้น เป็นสิริมงคลทุกอย่าง แต่หลังจากนั้นไม่กี่วันเข้ามักจะฝันเห็นพ่อของเขาตลอด ท่านบอกกับเขาว่าอยู่ที่นรกไม่ดีเลย ในนรกนี้ร้อนเกินไป มันแผดเผาท่านตลอดเวลา ขอให้คุณโจวพาท่านกลับบ้าน คุณโจวก็ไม่เคยตายมาก่อน อย่างนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าในนรกร้อนไม่ร้อน? แต่เขาถูกฝังไปแล้วนี่ อย่างนั้นจะกลับมาบ้านอีกได้อย่างไร? หลังจากที่ฝันเห็นพ่อหลายครั้งติดต่อกัน คุณโจวไม่รู้จะทำอย่างไรจริงๆ เขาไปที่ร้านผ้าคลุมศพ เขาซื้อกระดาษไหว้เจ้าที่เป็นชุดเครื่องใช้ไฟฟ้าพวกเครื่องปรับอากาศและตู้เย็นทั้งหมด เขากลัวอยู่ข้างล่างจะไม่มีเงินเลยซื้อเงินจำนวนมากและเผาทั้งหมดไปให้พ่อของเขา หลังจากที่มีเครื่องปรับอากาศแลพตู้เย็น พ่อของเขาก็ไม่มาหาเขาอีกเลย ดังนั้นเขาจึงคิดว่าพ่อของเขาได้ไปแล้ว ทันใดนั้นลูกชายของเขาก็ป่วย ร่างกายเต็มไปด้วยแผลตุ่มพองขนาดเล็กขนาดใหญ่ราวกับว่าถูกน้ำร้อนลวก เขาพาลูกชายไปตรวจที่โรงพยาบาลกับภรรยา ข้อสรุปที่ได้คือการติดเชื้อไวรัสโรคเริมงูสวัด ที่รู้จักกันทั่วไปว่าอีสุกอีใส แต่ลูกชายของเขาเคยเป็นอีสุกอีใสตอนเด็กๆแล้ว โรคนี้จะมีการคุ้มกันตลอดชีวิตจึงไม่ควรจะเป็นอีกครั้งถึงจะถูก เพราะการขอร้องที่หนักแน่นของคุณโจว หมอจึงจำเป็นต้องเจาะแผลตุ่มพองบนลูกชายของเขา หมอดำเนินการทดสอบใหม่อีกครั้ง และผลการทดสอบเป็นที่น่าตกใจ เพราะที่ร่างกายของลูกชายไม่มีไวรัสงูสวัดเริมในของเหลว ร่างกายและของเหลวทั้งหมดเป็นแบบเดียวกับที่ถูกเผา นั้นหมายความว่าแผลพุพองของลูกชายไม่ใช่อาการป่วยแต่มันถูกเผาจริงๆ มันแปลกมาก ลูกชายของเขาอยู่ที่บ้านเป็นเวลานาน เขาไม่เคยถูกไฟไหม้เลย ทำไมจู่ๆร่างกายเขาถึงเต็มไปด้วยตุ่มพอง? ลูกชายของเขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม แต่แผลตุ่มพองพวกนั้นแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว เริ่มแรกเป็นที่ขาและแขน จากที่ตรวจไปได้สองวัน ที่ท้อง หน้าอก และหลังก็ค่อยๆแพร่กระจายเพิ่มขึ้น ลูกชายเขาเจ็บมากจนนอนไม่หลับ แม้แต่นอนบนเตียงก็ยังเป็นปัญหา เพราะว่าทั่วทั้งร่างกายเต็มไปด้วยตุ่มพอง ไม่ว่าส่วนไหนที่สัมผัสกับเตียงมันทำให้แผลแตกและนั้นทำให้เกิดการติดเชื้อ เพราะอย่างนี้ทำให้ครอบครัวคุณโจวอยู่ด้วยความยากลำบาก คุณโจวเองก็ดูแลกิจการไม่ได้ เขาและภรรยาพาลูกชายไปหาหมอทุกที่เพื่อรับการรักษา หนึ่งคืนก่อนเกิดการระเบิดที่ร้านของเขา จู่ๆเขาก็ฝันถึงพ่อของเขาอีกครั้ง ตามที่คุณโจวอธิบาย ตอนนี้พ่อของเขาผอมมากจนผิวหนังติดกระดูก ท่านมาหาเขา และพูดกับเขาเพียงสองประโยค อย่างแรกคือซุปเปอร์มาเก็ตของเขาจะเกิดระเบิด กิจการล้มละลาย อย่างที่สองคือคนในครอบครัวจะต้องตายและลูกชายของเขาคือคนแรก พูดจบพ่อของเขาก็หายไป ผลเกิดขึ้นในเย็นวันนั้น ซุปเปอร์มาเก็ตของเขาเกิดระเบิด เมื่อคุณโจวรู้ข่าวในวันรุ่งขึ้น ทุกคนต่างก็สับสน ไม่ใช่เพราะซุปเปอร์มาเก็ตเกิดระเบิดแล้วประสบกับความสูญเสียย่อยยับ แต่เพราะคำพูดของพ่อเขากลายเป็นจริง เนื่องจากประโยคแรกเกิดขึ้นจริงแล้ว อย่างนั้นประโยคที่สองจะห่างกันมากไหม?
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 36คำทำนายของคุณโจว
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A