ตอนที่39ค้างคาวดูดเลือด
1/
ตอนที่39ค้างคาวดูดเลือด
Hello คุณผีพรายของฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่39ค้างคาวดูดเลือด
ตนที่39ค้างคาวดูดเลือด พูดจบเขายังคงร้องไห้ราวกับว่าเขากำลังจะแตกสลาย ฉันเองก็ตกใจ เขาบริจาคน่องไก่ที่หมดอายุแล้วให้กับผู้เสียหาย ยิ่งไปกว่านั้นเขายังบอกอีกด้วยว่านี่เป็นวิธีปกติในการทำธุรกิจ! เพื่อที่จะได้รับชื่อเสียงที่ดีต่อสาธารณะ แต่ไม่ต้องการใช้เงินจริงๆ แม้แต่ชีวิตของผู้ที่ตกเป็นเหยื่อก็ยังถูกเพิกเฉย? เดิมทีผู้ที่ตกเป็นเหยื่อได้รับความเดือดร้อนจากโคลนถล่มหนักก็สูญเสียมากพอแล้ว ทั้งยังไม่มีน้ำสะอาดหลังจากเกิดภัยพิบัติและการแพร่กระจายของโรคภัยไข้เจ็บนั้นก็ง่ายมากด้วย ยังต้องมาเจออาหารที่หมดอายุแล้วและอาการที่มีวัตถุเจือปนในอาหารเกินมาตรฐานอีก สำหรับเหตุการณ์ที่ผู้เคราะห์ร้ายเจอนั้นพูดได้ว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมาก! ที่น่ารังเกียจไปกว่านั้นก็คือหลังจากที่เรื่องราวเกิดขึ้น เขาไม่อยากชดใช้และยินดีที่จะใช้เงินเพื่อปกปิดเรื่องนี้และไม่ยอมจ่ายเงินค่ารักษาแก่ผุ้เคราะห์ร้ายอีกด้วย ไม่แปลกใจที่เขาปฏิเสธที่จะพูดเรื่องนี้ออกมาก่อนเพราะเขามาแย่กว่าหมูกว่าหมาสะอีก! ฉันโกรธเขาจนแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือด ตอนนี้ฉันมองดูเขาที่ทรุดตัวลงด้ายท่าทางที่ดูยากลำบากนั้นก็รู้สึกว่านั้นยังไม่พอด้วยซ้ำ ฉันอยากจะลากเซียวเหย่ไปจากตรงนี้ พวกเราไม่รับเงินนี่แล้ว! ปล่อยให้ครอบครัวพวกเขาตายไปเถอะ! แต่ท่าทางของเซียวเหย่ดูสงบมาก เขาเห็นว่าฉันโกรธก็เอื้อมมือมาวาไว้ด้านหลังของฉัน ทำให้มีลมเย็นค่อยๆห่อหุ้มฉันไว้จากด้านหลัง มันทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้น ด้วยความเยือกเย็นของ ในที่สุดความโกรธของฉันก็ค่อยๆทุเลาลงและสงบลงในไม่ช้า “ดังนั้นคนที่ทำก็คงเป็นคนในหมู่บ้านที่คุณส่งน่องไก่ไปเมื่อปีที่แล้ว คุณยังจำที่อยู่ของหมู่บ้านได้หรือไม่? พาผมไปที่นั้น”เซียวเหย่พูด ฉันตกใจกับเซียวเหย่เป็นครั้งที่สอง ถามเขาว่าทำไมต้องช่วยคนคดโกงอย่างคนตระกูลโจวด้วย เซียวเหย่มองมาที่ฉัน พูด“เรื่องนี้เขาทำคนเดียว ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับคนในครอบครัวเขา ความอยุติธรรมมีคนดูแลอยู่แล้วไม่ใช่รึไง เขาจะต้องได้รับการลงโทษ” ฉันมองเขาด้วยความตกใจ คาดไม่ถึงว่าเขาจะพูดอะไรที่ลึกซึ้งเช่นนี้ออกมา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนอารมณ์แปรปรวนจริงๆเลย แล้วทำไมตอนนี้กลับกลายเป็นฉันที่โกรธจนไม่มีเหตุผลแบบนี้นะ? คุณโจวเห็นว่าเซียวเหย่ยอมช่วยก็รีบลงขึ้นจากพื้น ปาดน้ำตาบนหน้าสองสามรอบ พูด“จำได้ครับ ผมจำทางได้” ระหว่างที่พูดคุยกันเขาก็เปลี่ยนเป็นสุภาพนอบน้อมขึ้นมา เขาเชิญให้เราขึ้นรถอย่างระมัดระวัง หลังจากนั้นก็ขับรถไปในภูเขาลึก ใช้เวลาไปไม่นาน หลังจากที่เลี้ยวไปตามเส้นทางของถนนภูเขาที่คดเคี้ยว รถก็จอดที่หน้าทางเข้าประตูหมู่บ้าน หมู่บ้านเพิ่งโดนโคลนถล่มเมื่อปีที่แล้วและหลายคนต้องเสียชีวิต ฉันคิดว่าสถานการณ์จะต้องน่าเศร้ามากแน่ๆ แต่เมื่อฉันยืนอยู่หน้าหมู่บ้านในตอนนี้ ความว่างเปล่าของที่นี่ทำให้ฉันตกใจ หมู่บ้านทั้งหมู่บ้านรกไปหมด บ้านโคลนที่ทรุดโทรมเต็มไปด้วยวัชพืช กวาดมองไปรอบๆไม่มีเห็นผู้คนเลย แม้ว่าฉันจะยังไม่ได้เข้าไปหมู่บ้าน ฉันก็ตัดสินไปแล้วว่าที่นี่เป็นหมู่บ้านร้าง “คือที่..........ข้างในหมู่บ้านจำไม่มีคนแล้ว...........” เห็นได้ฉันว่าคุณโจวเองก็ไม่คาดคิดว่าหมู่บ้านที่นี้จะเปลี่ยนไปเป็นแบบนี้ เสียงของเขาสั่นโดยไม่รู้ตัวราวกับว่าเขาสำนึกผิดด้วยตัวเอง เซียวเหย่หันกลับมามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย พูด“ทางที่ดีคุณควรสวดมนต์ให้กับคนในหมู่บ้าน ถ้าไม่เจอตัวคนทำ ก็จะไม่สามารถช่วยครอบครัวคุณได้” จากที่ฟังเซียวเหย่พูด คุณโจวก็หน้าซีดขึ้นมาทันที เมื่อครู่ยังบอกว่าที่นี่ไม่มีคนอยู่เลย มาตอนนี้รีบยกเท้าเข้าไปในหมู่บ้านทันที พูด“มีคน ที่นี่ต้องมีคนแน่!” พูดจบเขาก็เดินเข้าในบ้านที่ทำด้วยดินเริ่มตามหาคน เซียวเหย่หันกลับมามองฉัน เช่นเคยที่เขาจะดึงมือฉันไปจับแล้วเดินไปด้วยกัน ทันใดนั้นฉันก็ก้าวถอยหลังและพูดด้วยความอึดอัดว่า “นั้นไง ฉันเดินไปเองได้ นายอยู่ข้างหน้านำทางเถอะ” “ที่นี่ไม่ปลอดภัยย เหมือนหมู่บ้านร้าง มีหยินสะสมอยู่มาก ถ้าเจอผีดูดเลือดหรืออะไรก็ตาม เธอไม่กลัวเหรอ?” เซียวเหย่พูด ตอนนี้ใบหน้าของเขาจริงจัง ไม่เหมือนกำลังจงใจพูดล้อเล่นให้ฉันกลัว มือของเขาที่ยื่นออกมายังไม่หล่นลงไป กำลังรออยู่กลางอากาศให้มือของฉันเข้าไปหาจับมือของเขา ฉันมองใบหน้าที่จริงจังของเซียวเหย่มาพักหนึ่ง ในที่สุดฉันก็ยังอดกลั้นไว้ไม่ได้ ฉันจับมือเขาไว้แน่น เซียวเหย่ยิ้มออกมา เขาดึงมือฉันให้เดินตามคุณโจวเข้าไปตามหาคนในหมู่บ้าน ที่นี่เหมือนอย่างที่ฉันคิดไว้เลย เป็นหมู่บ้านร้างไปแล้วจริงๆ เราค้นหาบ้านเจ็ดแปดหลังอย่างต่อเนื่องก็ไม่พบคนในหมู่บ้าน แม้แต่หนูตัวหนึ่งก็ไม่เจอ สีหน้าของคุณโจวจากที่ขาวซีดตอนนี้มันกลายเป็นสีหน้าโกรธ แต่เขาไม่ได้เปล่งเสียงอะไรออกมา เขากัดฟันและตามหาต่อไป ไม่ยอมแพ้ต่อความหวัง เขาทำให้ฉันอดที่จะชื่นชมไม่ได้ ถ้าพ่อและแม่ของฉันกำลังตกอยู่ในอันตรายและฉันต้องอยุ่ที่หมู่บ้านร้างที่แม้แต่หวังก็หาไม่เจอแห่งนี้ เดาว่าฉันต้องยอมแพ้ไปแล้วแน่ๆ เขายังสามารถทำให้ธุรกิจเติบโตได้มากขนาดนั้น คุณโจวมีข้อได้เปรียบกว่าคนอื่นจริงๆ ตอนนี้ฉันกำลังคิดว่าอาจจะช่วยชีวิตครอบครัวของคุณโจวไว้ไม่ได้อยู่นั้น จู่ๆเซี่ยวเหย่ก็พุดเสียดัง“อย่าขยับ!” คุณโจวกำลังจะเปิดประตูไม้ที่แตกหัก เมื่อได้ยินเสียงของเซียวเหย่ทุกคนก็หยุดนิ่งทันที ขาที่ยกขึ้นแม้แต่จะวางลงยังไม่กล้า มองไปที่เซียวเหย่ด้วยความกลัว “ค่อยๆถอยกลับมา” เซียวเหย่พูดเสียงต่ำ เขากังวลอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ดูตื่นเต้น ฉันกังวลตามเซียวเหย่ขึ้นมา แม้แต่ถอนหายใจยังไม่กล้าเลย บ้านดินทรุดโทรมที่อยู่ตรงหน้านี้ไม่แตกต่างไปจากบ้านหลังอื่น แม้ว่าวัชพืชจะสูงเกือบเท่าเข่าแล้ว แต่เพราะเป็นคำพูดของเซียวเหย่ บ้านดินหลังนี้ก็ดูสงบมากๆ ตอนนี้คุณโจวเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาค่อยๆกลับมาอย่างระมัดระวังด้วยความเร็วเท่ากันกับการเล่นแบบสโลว์โมชั่น และไม่กล้าทำเสียงดัง ฉันถามเซียวเหย่“มีอะไรเหรอ?” “เธอเงยหน้ามองที่หลังคาสิ” เซียวเหย่พูดพลางเงยหน้าขึ้น ฉันกับคุณโจวมองไปทางที่เซียวเหย่บอก ทันใดนั้นเองก็พบบางสิ่งสีดำเกาะอยู่ใต้ชายคา ดูเหมือนหนังหมูดำตากแห้ง แต่เมื่อดูอย่างละเอียดอีกที ตอบไม่ยากสิ่งนั้นมักมากับชายคาบ้าน มีสองขา นั้นคือสิ่งมีชีวิต! ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อมองให้ละเอียดดูอีกที ฉันก็พบว่าสิ่งนั้นกำลังห้องหัวลงมา “นั้นค้างคาว!” คุณโจวพูดเสียงแห้ง ดูเหมือนว่าเขาจะตกใจกลัวมาก เขาค่อยๆถอยหลังออกมา เขาพยายามควบคุมเสียงไม่ให้ค้างคาวที่กำลังนอนอยู่ตื่นขึ้นมา “มันคือค้างคาวดูดเลือด คนที่มีพลังหยินหยางมักใช้มันเฝ้าประตูเพื่อเป็นสัญญาณเตือน บ้านหลังนี้แขวนสิ่งนี้ไว้ของนอก แสดงว่าคนที่ทำจะต้องอยู่ข้างในนี้แน่” เซียวเหย่อธิบาย พูดจบเขาก็กำมือฉันไว้แน่น ดูเหมือนว่าเขาเป็นห่วงความปลอดภัยของฉันและจงใจดึงฉันเข้าไปไว้ในอ้อมแขน “ทำอย่างไรต่อไปดี?” คุณโจวถามเซียวเหย่ เขาจ้องไปที่ค้างคาวดูดเลือดพวกนั้นและกลืนน้ำลายด้วยท่าทีที่ประหม่า ฉันคิดว่าเซียวเหย่จะพูดในสิ่งที่เราควรระวังสะอีก แต่เขากลับแบมือหันไปทางคุณโจว พูด“คุณต้องจ่ายเงิน คุณปิดบังความจริงของเรื่องนี้ทำให้ความเสี่ยงของงานเพิ่มมากขึ้น ผมต้องการเพิ่มราคา” ช่วงเวลาที่ตึงเครียดแบบนี้ ฉันไม่กล้าแม้แต่จะส่งเสียงออกไป ทำไมเขาต้องขอเพิ่มราคาตอนนี้ด้วยนะ? ถึงแม้ว่านี่จะเป็นสไตล์ของเซียวเหย่ แต่ฉันอึ้งนิดหน่อย คุณโจวมองเซียวเหย่อย่างประหลาดใจ แต่เขาดูไม่ลังเลที่จะตกลงรับปากต่อคำขอของเซียวเหย่ เขาบอกว่าจะให้เซียวเหย่หนึ่งล้าน เซียวเหย่ยังไม่พอใจ มือยังคงยื่นไปด้านหน้าคุณโจว พูด“ตอนนี้ผมต้องได้รับเงินแล้ว คุณจะโอนหรือจะออกใบเสร็จก็ได้ ตอนนี้พบหาตัวคนที่คุณตามหาให้แล้ว แก้ปัญหาเรื่องของคุณได้แล้ว ผมสัญญากับคุณว่าจะหาหลุมฝังศพที่ฮวงจุ้ยดีๆ ชีวิตลูกชายของคุณปลอดภัย” “นี่..........” คุณโจวมองเซียวเหย่อย่างไม่วางตา แต่ตอนนี้ลูกชายของเขายังอยู่ในภาวะเสี่ยง เขาไม่มีเวลาให้คิดนานนัก หลังจากที่คุกเข่าคร่ำครวญอยู่นั้นเขาก็พูด“ผมมีเช็คในรถ จะไปหยิบให้เดี๋ยวนี้ ” พูดจบเขาค่อยๆถอยกลับอย่างช้าๆ เขาถอยออกมาระยะหนึ่งก่อนที่จะวิ่งไปที่รถของเขา ฉันสงสัยว่าทำไมจู่ๆเซียวเหย่ถึงต้องการเงิน ในขณะที่คุณโจวไม่อยู่ ฉันถามเขาว่าเกิดอะไรขึ้น “สำหรับคนอย่างเขา ฉันจะไม่ฆ่าเขาอย่างโหดร้าย ต้องขอโทษผู้เคราะห์ที่ตายไปแล้วด้วย” เซียวเหย่พูด “นั้นมันก็ไม่เกี่ยวกับเงินที่จะรับในตอนนี้นี่ ตอนนี้พวกเราจัดการได้ถึงครึ่งหนึ่งของราคาเริ่มต้นแล้วนะ อย่างนี้ไม่นับว่าเป็นการฉวยโอกาสหรอกเหรอ?” ฉันกลืนน้ำลายแล้วถามเขา เซียวเหย่ดูเหมือนจะรำคาญที่ฉันถาม เขายิ้มเยาะเย้ย พูด“ฉันจะฉวยโอกาสจากเขาแล้วจะทำไม?เธอจะคัดค้านเหรอ?” “ไม่” ฉันตัดสินใจเด็ดขาด เขาทำผิดด้วยตัวของเขาเอง ถึงแม้จะถูกฉวยโอกาสในตอนนี้ก็นับว่าสมควรแล้ว ฉันไม่ใช่คนมีเมตตาขนาดนั้น นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันทำเรื่องแย่แบบนี้ ในความคลุมเครือนี้ยังมีความตื่นเต้นอยู่นิดหน่อยในนั้น คุณโจวนั้นเร็วมาก เพียงผ่านไปแค่ไม่กี่นาทีเขาก็กลับมา ตอนนี้ในมือของเขาถือเช็คเงินอยู่ บนเช็คนั้นเซ็นชื่อเรียบร้อย ทั้งหมดเป็นเงินหนึ่งล้านบาท เขียนไว้อย่างบรรจง เซียวเหย่ไม่รู้จักเช็คเงินในปัจจุบัน เขาส่งมาให้ฉันตรวจดู ถ้าไม่มีปัญหาก็ให้เก็บไว้ดีๆ ฉันโตมากแล้วก็จริง แต่ก็ไม่เคยเห็นเช็คเงินจริงๆว่าเป็นอย่างไร แต่กระดาษอยู่ในสภาพที่ดี ด้านบนประทับด้วยดอกไม้สีเข้มเหมือนเงินหยวน น่าจะเป็นของจริง ฉันดูอย่างคร่าวๆก็เก็บเช็คแล้วพยักหน้าให้เซียวเหย่ “ไปกันเถอะ” เซียวเหย่พูด เขาพูดพลางเดินออกไป แต่เมื่อครู่พวกเราเพิ่งยืนอยู่ที่ที่มียามเฝ้าเป็นค้างคาวดูดเลือด แค่เซียวเหย่ก้าวขาเดินเพียงสั้นๆ ค้างคาวดูดเลือดที่นอนหลับอยู่บนหลังคาก็ตื่นขึ้น มันร้องและโจมตีไปที่เซียวเหย่ ฉันตัวแข็งไปหมด ค้างคาวตัวใหญ่มากจนฉันสามารถเห็นกรงเล็บและฟันแหลมคมของมันได้เลย หากถูกมันกัดเข้าละก็คงจบไม่สวยแน่! “เซียวเหย่ระวัง!” ฉันดึงให้เซียวเหย่ไว้ เซียวเหย่ถอยกลับมา ฉันอยากทำให้เขากลับมาอยู่ในที่ที่ปลอดภัย แต่ที่ที่ปลอดภัยนี้มีไว้สำหรับค้างคาวดูดเลือดที่กำลังนอนหลับอยู่เท่านั้น ตอนนี้ค้างคาวดูดเลือดตื่นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงเซียวเหย่ แม้แต่ฉันและคุณโจวก็เป็นความอ่อนแอในอันตรายครั้งนี้ เซียวเหย่ยิ้มมองมาที่ฉันแล้วผลักฉันออก ทันทีที่เขายกมือขึ้นก็มีหยินดำบริสุทธิ์ยิงไปที่ค้างคาวดูดเลือด เมื่อมันไปถึงด้านข้างของค้างคาวดูดเลือดมันกลายเป็นเชือกสีดำมัดปีกของค้างคาวดูดเลือดไว้ เห็นได้ชัดว่าค้างคาวดูดเลือดไม่คิดว่าเซียวเหย่จะปลุกปั่นได้ขนาดนี้ มันร้องลั่นและยังคงดิ้นไม่หยุด แต่เชือกสีดำของเซียวเหย่เป็นเหมือนเชือกสีทองในเรื่องไซอิ๋ว ยิ่งค้างคาวดูดเลือดดิ้นมากเท่าไหร่ มันก็จะถูกเชือกรัดแน่นมากเท่านั้น ค้างคาวดูดเลือดถูกมันเป็นบ๊ะจ่างในพริบตา มันโดดไปไหนไม่ได้ “เซียวเหย่ ไม่คิดว่านายจะแข็งแกร่งขนาดนี้มาก่อนเลย!” ฉันวิ่งไปหาเขาด้วยความนับถือ ค้าวคาวที่ดุร้ายตัวนั้น ไม่คิดว่าแค่เซียวเหย่ยกมือก็สามารถจัดการกับมันได้แล้ว คุณโจวได้แต่มองดูอย่างงงๆ เดิมทีเขาไม่สามารถมองเห็นการรวมตัวของหยินจนเชือกสีดำได้อยู่แล้ว เห็นเพียงแค่เซียวเหย่ยกมือขึ้นและเจ้าค้างคาวดูดเลือดก็ล้มลง มันตัวสั่นที่แม้แต่จะกระพือปีกก็ไม่กล้า “ท่านอาจารย์เซียว!คุณคือท่านอาจารย์ที่แท้จริง!” คุณโจวพูดด้วยความตื่นเต้น เขาไม่สามารถหาคำคุณศัพท์ที่เหมาะสมมาอธิบายเซียวเหย่ได้ “มันเร็วเกินไปที่จะเรียกว่าท่านอาจารย์ ฉันต้องดูว่าแกเป็นใคร กล้าดียังไงมาทำร้ายค้างคาวดูดเลือดของฉัน !” ในขณะที่เราทุกคนกำลังตื่นเต้นอยู่นั้น จู่ๆก็มีเสียงดังออกมาจากในบ้าน ทันใดนั้นร่างผอมติดกระดูกก็ปรากฎขึ้นต่อหน้าพวกเราตอนนี้
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่39ค้างคาวดูดเลือด
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A