ตอนที่ 40ผู้มีอำนาจ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 40ผู้มีอำนาจ
ต๭นที่ 40ผู้มีอำนาจ ร่างเล็กและผอมมาก ดูเหมือนเป็นเด็กยังไม่บรรลุนิติภาวะ แต่เสียงของเขาต่ำมาก เมื่อฟังก็พอจะเดาอายุได้ ที่ยิ่งแปลกไปกว่านั้นคือทั่วร่างกายของเขาเต็มไปด้วยหยินที่แข็งแรง มันคลุมใบหน้าเขาเต็มไปหมด ฉันไม่สามารถดูไม่ได้ว่าเขาเป็นอย่างไรหรือแม้แต่เขาเป็นผู้หญิงหรือผู้ชายก็ยังดูไม่ถนัด คุณโจวตกใจเขา นี่เป็นครั้งแรกที่ซ่อนตัวอยู่ข้างหลังฉันและเซียวเหย่แล้วค่อยๆยื่นหัวออกมาอย่างระมักระวัง เขากระพริบตาแล้วถาม“ทำไมผมถึงเห็นเขาได้ไม่ชัดละ?” “คิดไม่ถึง แท้จริงก็เป็นปีศาจนี่เอง ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แกจะฝึกฝนจนกลายเป็นปีศาจ มาหาเรื่องฉันทำไม พวกเราต่างก็ต่างคนต่างอยู่ ไม่ยุ่งเกี่ยวกันและกัน” ชายคนนั้นจ้องมองที่เซียวเหย่อยู่พักหนึ่งและหลังจากได้เห็นตัวตนของเซียวเหย่ เสียงของเขาก็ผ่อนคลายลง “รับเงินจากคน แก้หายนะ” เซียวเหย่ยิ้มเยาะ เขากล่าวตอบเพียงแปดคำ ชายคนนั้นโกรธขึ้นมาทันที พูด“แกเป็นผีตายไปแล้ว หาเงินจากหยางเจียนไปทำไม ในเมื่อตายไปแล้วก็ควรจะหายไปในเระหว่างเวลาโลกและสวรรค์สิ ทำไมต้องทำให้วุ่นวาย!” เขาพูดตะคอกด้วยความโกรธ หยินที่ร่างของเขาเพิ่มมากขึ้นและมันกำลังตรงไปหาเซียวเหย่ด้วยความรวดเร็ว! เซียวเหย่ตกใจ เขาผลักฉันออก จากนั้นร่างกายเขาก็หุ้มไปด้วยหยินกลายเป็นเกราะหนึ่งชั้น เขากำลังต่อสู้กับผู้ชายคนนั้น เห็นได้ชัดว่าชายคนนั้นก็แข็งแกร่ง หยินของเขาทั้งสองปะทะเข้าหากัน เกิดเสียงระเบิดเป็นระยะๆ เหมือนกับประทัดในวันปีใหม่และทุกครั้งที่เกิดเสียงระเบิด หยินระหว่างพวกเขาจะแพร่กระจายออกไป ในขณะเดียวกันก็มีหมอกสีเลือดปะทุ หัวใจที่กระวนกระวายของฉันถูกบีบเข้าด้วยกัน ตาทั้งสองจับจ้องอย่างไม่คลาดสายตา ไม่กล้าแม้แต่จะหายใจออกมา คุณโจวที่อยู่ด้านข้างถามฉันด้วยความตกใจ “เมื่อครู่ชายคนนั้นบอกว่าท่านอาจารย์เซียวเป็นปีศาจอย่างนั้นเหรอ?เขาไม่ใช่สามีของคุณเหรอจะเป็นปีศาจได้อย่างไร?” “หุบปากซะ!” ฉันพูดเสียงแข็ง ตอนนี้ฉันเบื่อคุณโจวเต็มที อีกอย่างเงินก็ได้มาแล้ว ฉันไม่มีความจำเป็นจะต้องสุภาพกับเขาอีกต่อไป “เธอ!” คุณโจวไม่คาดคิดว่าฉันจะเป็นแบบนี้ เขาชะงักไปพักหนึ่ง แต่ตอนนี้เขาไม่กล้ากวนโมโหฉัน เพราะถ้าเซียวเหย่เป็นผีจริงๆ เขากวนฉันเขาก็ตายและถึงแม้เซียวเหย่จะไม่ใช่ผี เงาสีดำที่อยู่ตรงหน้านี้ถ้าไม่มีเซียวเหย่คอยปกป้อง เขาก็ตายอยู่ดี คุณโจวที่โดนฉันโวยใส่ก็เงียบไปพักหนึ่ง จากนั้นเขาก็ถามฉัน“อย่างนั้นแล้วท่านอาจารย์เซียวกับชายคนนั้นใครแข็งแกร่งกว่ากัน?เขาจะไม่แพ้ใช่ไหม?” “ไม่แพ้แน่นอน!” ฉันพูดด้วยความโกรธ ถึงแม้ว่าจริงๆแล้วฉันเองก็ไม่รู้ว่าระหว่างเซียวเหย่กับชายคนนั้นใครแข็งแกร่งกว่ากัน แต่ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเซียวเหย่มากๆ คุณซูยังคงร้องเสียงดังอยู่ข้างหูฉัน ตอนนี้ฉันโกรธแล้ว“ตอนนี้คุณควรจะหุบปาก ถ้าคุณยังพูดอีกประโยคเดียว ฉันกล้ารับรองเลยว่าคุณได้จบไม่สวนแน่!” “นี่เธอ ทำไมพุดจาแบบนี้ พวกเธอรับเงินไปแล้วนะ สามีเธอพูดแล้วว่าจะรับรองความปลอดภัยให้พวกเราแล้วนะ!” บางทีเพราะถูกฉันด่าว่าด้วยความเย็นชามากๆ คุณโจวก็พูดเสียงแข็งขึ้นมา ทันใดนั้นฉันก็หันไปมองเขาและพูดด้วยน้ำเสียงที่ฟังดูเยือกเย็น“คุณเชื่อในคำพูดของปีศาจอย่างนั้นเหรอ?” “……” คุณโจวแข็งทื่อ เขาอึ้งอยู่อย่างนั้น สายตาลึกซึ้งมองมาที่ฉัน ใช่! นี่แหละผลลัพธ์ที่ต้องการ! ฉันขี้เกียจจะสนใจเขาแล้ว ฉันหันหน้ามาดูการต่อสู้อย่างตั้งใจ ในใจคิดหาวิธีที่จะช่วยเซียวเหย่ได้ ร่างของชายคนนั้นก็เต็มไปด้วยหยินที่แข็งแกร่ง แต่เซียวเหย่ไม่ได้พูดว่าเขาเป็นผีนี่ ดังนั้นเขาก็ควรจะเป็นคนสินะ? ถ้าเป็นคนก็ต้องมีจุดอ่อน ฉันหันกลับมาแล้วมองหาไปรอบๆ ดูว่ามีอะไรที่พอจะใช้ได้บ้าง ถ้าหากเซียวเหย่ตกลงมา ฉันต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อช่วยเขา ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ในขณะที่ฉันกำลังมองหาของบางอย่างที่สามารถทำร้ายชายคนนั้นได้ คอของฉันก็ถูกบีบอย่างแรงด้วยแขนข้างหนึ่ง หูก็ได้ยินเสียงดุร้ายของคุณโจว“สุดท้ายแล้วพวกเธอช่วยฉันได้ไหม?ถ้าพวกเธอช่วยชีวิตคนในครอบครัวฉันไม่ได้ เธอก็ต้องตายไปพร้อมกับครอบครัวของฉัน ถูกฝังไปด้วยกัน!” พูดจบมือของเขาก็ยิ่งบีบฉันแรงมากขึ้น ทันใดนั้นฉันก็ไม่สามรถหายใจได้ ทำได้เพียงต่อสู้อย่างสิ้นหวัง คุณโจวเป็นผู้ชาย อีกทั้งยังอายุสี่สิบกว่า แรงเยอะเหมือนวัวตัวหนึ่ง ฉันจะสู้เขาได้อย่างไร? ถึงแม้ว่าฉันจะใช้กำลังทั้งหมดที่มีก็ไม่สามารถหนีออกจากแขนของเขาได้ แม้แต่หายใจก็แทบจะไม่มีแรงแล้ว! ฉันหวาดกลัวมาก ที่ฉันทำได้ในตอนนี้ก็คือส่งเสียงขอความช่วยเหลือ แต่เซียวเหย่ยังคงต่อสู้กับชายคนนั้นอยู่ ฉันดูไม่ออกเลยว่าตอนนี้ระหว่างพวกเขาใครเหนือกว่ากัน ถ้าฉันรีบขอความช่วยเหลือ มันต้องส่งผลกระทบต่อความสนใจของเขาแน่ๆ เมื่อคิดๆดูแล้ว การต่อสู้ในใจของฉันเจ็บปวดกว่าการที่ร่างกายขาดอากาศหายใจอีก ในไม่ช้า ร่างกายของฉันก็ขาดอ็อกซิเจน สมองฉันเริ่มสับสน ตอนนี้ร่างกายของฉันยิ่งอ่อนแอลงเรื่อยๆ เมื่อฉันส่งเสียงออกมา คุณโจวก็พูดขึ้น! เขาตะโกนเรียกเซียวเหย่ว่าท่านอาจารย์เซียวแล้วจ้องมองเขาด้วยความรังเกียจ ตอนนี้ตาทั้งสองข้างของฉันเบลอไปหมด มองสถานการณ์ของเซียวเหย่ไม่ชัด แต่ฉันได้ยินเสียงระเบิดจากการต่อสู้ของพวกเขาหยุดลง จากนั้นก็มีเสียงตะโกน มีคนโดนต่อยด้วย ใช่เซียวเหย่รึเปล่านะ? ใจของฉันบีบเข้าหากันอย่างรุนแรง ถ้าเป็นเพราะฉันที่ทำให้เซียวเหย่บาดเจ็บ ฉันก็บาปแย่สิ! แต่ตอนนี้ฉันก็ถูกควบคุมโดยคนอื่นและมันก็ไร้ประโยชน์ ตอนที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น ฉันเห็นเงาสีดำกำลังเดินตรงมาที่ฉัน ไม่รู้ว่าเป็นเซียวเหย่หรือคนอื่น แต่โชคดีจริงๆ ไม่ว่าคนที่เดินมาจะเป็นเซียวเหย่หรือคนอื่นก็ตาม พวกเขาเกลียวคุณโจวแน่ๆ เพราะหลังจากที่คนๆนั้นเดินเข้ามา เขาไม่ได้พูดอะไรแล้วก็ยกมือ ฉันมองไม่เห็นว่าเขาทำอะไร คุณโจวร้องลั่น ร่างของเขาบินไปด้านหลัง “ปัง!” มีเสียงดังอีกครั้ง คุณโจวเจ็บหนักอยู่ที่พื้น การเคลื่อนไหวนั้น เหมือนคนตกลงมาจากชั้นห้าอย่างไรอย่างนั้น ฉันหลุดพ้นจากคุณโจวมาได้ ขาทั้งสองข้างยังอ่อนแรงและลงไปนั่งกับพื้น หลังจากที่เห็นเงาสีดำนั้นต่อยคุณโจวจนบินด้านหลังฉันก็ไม่ได้สนใจเขาอีก แต่เขาตรงมาที่ฉันแล้วยกฉันขึ้น ทันใดนั้นสองริมฝีปากที่เยือกเย็นก็ตกลงมาบนริมฝีปากฉัน ลมหายใจกลิ่นหอมเย็นจากสมุนไพรส่งผ่านเข้ามาในปากของฉัน ลมหายใจนั้นทำให้ความรู้สึกที่ร่างกายขาดอากาศหายใจนั้นค่อยๆจางหายไป เวลาผ่านไปประมาณสองสามนาที ในที่สุดสมองที่ขาดออกซิเจนของฉันก็ฟื้นตัวและฉันก็มองเห็นภาพอีกครั้ง ใบหน้าที่งดงามของเซียวเหย่อยู่ตรงหน้าฉัน แทบอดใจไม่ไหวที่จะให้แนบไว้แบบนี้ แต่ริมฝีปากของเขากดทับริมฝีปากฉันและส่งออกซิเจนมายังปากของฉัน “เซียวเหย่.........” ฉันร้องขึ้น พยายามผลักเขาออกไป บอกกับเขาว่าฉันดีขึ้นมากแล้ว แต่ร่างกายที่ขาดออกซิเจนของฉันยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ มือและเท้าของฉันอ่อนแรงเหลือเกิน แม้ว่าฉันจะผลักเขา แต่มือกลับไม่มีแรงเลย ในดวงตาสีเข้มของเขานั้นลึกซึ้ง เขาเลิกคิ้วขึ้นหลังจากที่โดนฉันผลัก ในที่สุดเขาก็หยุดส่งออกซิเจนมาในปากของฉัน แต่เขาไม่ปล่อยให้ฉันไป ทั้งยังกอดฉันไว้แน่นในอ้อมแขนของเขา ลิ้นและหัวที่คล่องแคล่วก็เข้ามา........... ฉันมึนไปหมดแล้ว ในไม่ช้าฉันก็อยู่ในจูบของเขา เขาอ่อนโยนมาก ราวกับกวางตัวน้อยที่ค้นหาโลกใบใหม่ แต่เมื่อค้นหา เขาก็เริ่มคุ้นชินกับทุกๆอย่าง การเคลื่อนไหวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น รุนแรงมากขึ้น ไม่พอใจกับการจูบที่เรียบง่ายอีกต่อไป........ ฉันหายใจลำบาก พยายามดิ้นรนเพื่อออกจากอ้อมกอดของเขา แต่กลิ่นหอมสมุนไพรนั้นทำให้ฉันไม่อยากไปไหน อยากไปแค่ไหนก็ไปไม่ได้ เพียงพริบตาเดียวหน้าของฉันก็แดงไปหมดและเมื่อฉันถูกความรู้สึกขาดอากาศหายใจห้อมล้อมไว้อีกครั้ง เซียวเหย่ก็ปล่อยฉัน พูด“ดีขึ้นไหม?” “เอ่อ.....อืม.......”ฉันพยักหน้า ฉันอยากจะตอบว่าดีขึ้นแล้ว แต่เมื่อครู่เขาเพิ่งจูบฉัน ถ้าฉันตอบว่าดี นั้นก็แสดงว่าฉันชอบถูกเขาจูบน่ะสิ? แม้ว่าฉันจะชอบมันมาก แต่ฉันก็พูดออกไปไม่ได้ “อืมคืออะไร? ยังมึนอยู่รึเปล่า?”เซียวเหย่เห็นว่าฉันตอบคลุมเครือก็เป็นห่วงขึ้นมา มือสองข้างกอดหัวฉันไว้ มองฉันอย่างจริงจัง เขาเห็นแก้มสีแดงของฉันก็ตักสินว่าฉันยังอยู่ในสถานะที่ขาดออกซิเจนอยู่ พูดจบเขาก็ฝังหัวเข้ามาจะจูบฉัน ฉันรีบหลบ หน้าฉันแดงไปหมด บอกกับเขาว่าฉันไม่เป็นไรแล้ว พูดจบฉันกลัวว่าฉันจะควบคุมตัวเองไม่ได้ รีบเงยหน้ามองเซียวเหย่ เปลี่ยนเรื่องพูด“นายบาดเจ็บรึเปล่า?ชายคนนั้นก็แข็งแกร่งใช่ไหมละ?ฉันกลัวแทบตายเลย!” ฉันพูดพลางเอามือกดไปตามตัวของเซียวเหย่ เขาไม่ได้ตอบสนองอะไร ที่ร่างกายก็ไม่มีเลือดไหล ในที่สุดก็วางใจได้ “เธอเป็นห่วงฉันเหรอ?” เซียวเหย่ยิ้ม มองมาที่ฉันด้วยสายตาเป็นประกาย “เปล่าสะหน่อย” ฉันหลบตา ไม่กล้ามองตาของเขา ในขณะที่คุยกันอยู่นั้น ฉันเพิ่งค้นพบว่าคนที่ต่อสู้กับเซียวเหย่นั้นแท้จริงเป็นผู้หญิง เธอน่าจะอายุห้าสิบกว่าๆ ตามตัวเต็มไปด้วยรอยย่น เธอผมจนติดกระดูก ทั่วร่างกายมีแต่บาดแผล นอนอยู่ที่พื้น “สบายใจได้ แม้ว่าหยินหยางของเธอจะอยู่ในระดับอาจารย์ แต่ในแง่ของความแข็งแกร่ง เธออยู่ในระดับเดียวกับวิญญาณชั่วร้าย อยู่ต่ำกว่าระดับของฉัน ทำอะไรฉันไม่ได้หรอก” เซียวเหย่พูด ฉันพยักหน้า แต่ฉันเพิ่งเคยได้ยินคำว่าวิญญาณชั่วร้ายเป็นครั้งแรก ฉันถามเขาว่าวิญญาณชั่วร้ายอยู่ในระดับไหน ดูเหมือนว่าจะแข็งแกร่งว่าถงถงอีก เซียวเหย่พูด“แน่นอน ถงถงเป็นผีธรรมดา เพราะอย่างนั้นเวลาเจอฉันถึงได้กลัวอย่างนั้นไงละ ในการจัดอันดับความแข็งแกร่งของผี แบ่งออกเป็น ผีที่เพิ่งตายใหม่ๆ ผี วิญญาณชั่วร้าย ปีศาจ ยักษ์ ภูติ” “แต่นายยังมียักษ์กับภูติเหนือกว่านะ ถ้าเจอพวกเขา นายจะไม่เป็นอันตรายเหรอ?” ฉันพูดด้วยความเป็นห่วง เซียวเหย่เป็นปีศาจ เขามีพลังที่แข็งแกร่งอยู่แล้ว อย่างนั้นในตำนานพูดถึงยักษ์และภูติอย่างไรกันนะ? ฉันไม่เคยรู้มาก่อน ดังนั้นฉันจึงสบายใจมากๆเมื่ออยู่กับเซียวเหย่ ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าสองอันดับเหนือเซียวเหย่มียักษ์และภูติ ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกว่ายักษ์และภูติเป็นเหมือนภูเขาสองลูกที่ห้อยอยู่เหนือหัวของเซียวเหย่ เหมือนที่เซียวเหย่ทำกับบถงถงเหมือนเป็นมดตัวหนึ่ง ยักษ์และภูติทำกับเซียวเหย่เหมือนเป็นมดด้วยไหมนะ? เมื่อคิดได้อย่างนี้ ฉันก็เกิดกลัวขึ้นมา โชคดีที่ครั้งนี้ได้เจอกับวิญญาณชั่วร้าย ถ้าครั้งต่อไปโชคไม่ดีเจอกับยักษ์เข้าเดาว่าเซียวเหย่คงไม่ผ่อนคลายแบบนี้แน่ ดูเหมือนว่าธุรกิจนี้จะยังเป็นเพียงธุรกิจเล็กๆ ถึงแม้เซียวเหย่จะทำเงินได้ง่ายๆ แต่นี่เป็นการใช้ดวงชะตาเพื่อทำเงิน ถ้าเกิดดวงชะตาไม่ดีขึ้นมาละก็ ฉันอธิบายให้เซียวเหย่ถึงตรงนี้ เซียวเหย่เห็นฉันทำหน้าจริงจังก็ยิ้มออกมา เขาลูบหัวฉันและพูด“วางใจเถอะ ถึงแม้ว่าสามีของเธอจะไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด แต่ในยมโลกนั้นก็นับว่าน่าเกรงขามนะ ในความเป็นจริงมียักษ์น้อยมาก ฉันตายมาร้อยกว่าปี ยังไม่เคยเจอยักษ์มาก่อน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงราชาปีศาจ ในตำนานของยมโลกมีราชาปีศาจแค่ตนเดียวเท่านั้น นั้นก็คือราชาเหยียนโหลวแห่งยมโลก ” “อืม......เป็นอย่างนี้นี่เอง” ฉันพยักหน้า รู้สึกโล่งใจ เหยียนโหลวที่มีชื่อเสียงนั้นมีเพียงแค่ตนเดียว โดยธรรมชาติจะไม่มายมโลกเพื่อหาเรื่องเซียวเหย่ ส่วนระดับยักษ์ไม่ร่องรอยและหาเจอได้ยาก อย่างนั้นแล้วหมายความว่าพลังของของเซียวเหย่ก็ทำให้เขาจะไปไหนมาไหนในยมโลกได้อย่างนั้นเหรอ? 
已经是最新一章了
加载中