ตอนที่ 43 บาร์ผีดำ
1/
ตอนที่ 43 บาร์ผีดำ
Hello คุณผีพรายของฉัน
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 43 บาร์ผีดำ
ตนที่ 43 บาร์ผีดำ หลังจากที่งูดำได้รับคำมั่นสัญญาจากเสิ่นเหม่ยฉินแล้ว มันก็ไม่สนใจเรื่องที่เสิ่นเหม่ยฉินยังต้องการแก้แค้นอีก แล้วเลื้อยเข้าไปในถุง หลังจากเข้าไปเสร็จ ถุงเปื้อนดินที่อยู่บนหลุมฝั่งศพก็ถูกมันดันลอยขึ้น ทันใดนั้นข้างล่างก็ปรากฏลำตัวงูดำตัวหนึ่งยื่นตัวออกมา ฉันช็อกจนหุบปากไม่ลง เมื่อกี้ที่เห็นแค่หัวเล็กๆของมัน นึกไม่ถึงเลยว่าลำตัวของมันจะใหญ่มากขนาดนี้ หนาพอๆกับเท้าช้างเลย อีกอย่างมันเลื้อยออกมาตั้งนาน แต่ยังไม่เห็นหางเลย คาดว่าความยาวน่าจะประมาณสิบกว่าเมตรได้ รอสักพักใหญ่ เมื่อลำตัวมันเลื้อยออกมาจากพื้นดินเสร็จ ฉันพบว่าตัวเองประเมินค่ามันต่ำเกินไป เพราะลำตัวของมันมีความยาวสามสิบกว่าเมตรได้ แต่กลับสามารถหดลำตัวอยู่ในถุงเปื้อนดินเล็กๆนั้นได้ ก็ไม่รู้ว่าพื้นที่คับแคบข้างล่างมันมีอึดอัดขนาดไหน ฉันมีเซียวเหย่คอยปกป้องเคียงข้าง ถึงแม้จะกลัวงูดำตัวนี้ แต่ก็ยังรู้สึกปลอดภัย เทียบกับเถ้าแก่โฉ้วที่อยู่ข้างหลังพวกเรา พอเห็นฉากนี้กลับตกใจร้อง จนหมดสติไปแล้ว หลังจากเห็นงูดำตัวนั้นเลื้อยออกมาจากถุง มันก็ใช้หางปัดทีหนึ่ง กองพื้นดินบนหลุมฝั่งศพก็ถูกปัดออกกระจัดกระจาย ปรากฏโลงศพสีน้ำตาลแดงโล่งหนึ่งข้างล่าง "กระหังโหวยโกยถูกคลายออก ตอนนี้ก็สามารถยกขึ้นโล่งศพเมื่อไหร่ก็ได้แล้ว" งูสีดำพูดขึ้น ฉันอดใจไม่ได้ที่จะตกตะลึง กระหังโหวยโกวที่อยู่ในปากของเถ้าแก่โฉ้วถูกคลายออกง่ายดายอะไรขนาดนี้? งูดำก็ไม่ได้ทำอะไรมากมาย เพียงแค่ปัดหลุมฝั่งศพเท่านั้นเอง อีกอย่างเซียวเหย่เคยบอกว่ากระหังโหวยโกวนี้มีของกลิ่นอายปีศาจ แต่ฉันก็ไม่เห็นมีสิ่งของอะไรเลย? ในขณะที่ฉันยังไม่คลายข้อสงสัย จู่ๆงูดำก็เปลี่ยนทิศทาง ลำตัวขนาดใหญ่เลื้อยมาหาฉัน และพูดว่า : "ข้าคือของกลิ่นอายปีศาจ" "ท่าน ท่านรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่" ฉันถูกมันข่มขวัญ จนตกใจพูดออกมา "ช่างไร้เดียงสา ไร้ประสบการณ์" งูดำแลบลิ้น จนน้ำลายกระเด็นบนใบหน้าฉัน ฉันสัมผัสถึงน้ำเย็นเฉียบแปลกประหลาด และทำให้ฉันขนลุกซู่ทั่วร่างกาย แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่ามันสามารถรับรู้ความคิดความอ่านของฉันได้ ต่อให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน แต่ก็ไม่กล้าคิดไร้สาระแล้ว พยายามเบี่ยงเบนความสนใจไปทางอื่น โดยการให้ความสนใจทั้งหมดไว้ตรงที่ตัวของเซียวเหย่ คิดว่าหลังจากที่มนต์คลังถูกคลายออกแล้ว เขาจะตัดสินใจยังไงกับหลานชายของเสิ่นเหม่ยฉิน เป็นดังที่คิดไว้ เมื่องูสีดำมั่นใจว่าฉันไม่ตำหนิอะไรมันในใจแล้ว มันก็ไม่สนใจฉันอีก แต่ปัดหางเบาๆเพื่อประทับตรงหน้าผากของเสิ่นเหม่ยฉิน แล้วพูดว่า : "ฉันทั้งช่วยเธอร่ายกระหังโหวยโกวและคลายมันออก การค้าระหว่างเราก็ถือว่าลุล่วงแล้ว ตราประทับที่ฉันเหลือไว้บนหน้าผากเจ้าเพื่อเป็นคำมั่นสัญญา หลังจากเจ้าตายไป ดวงวิญญาณก็จะมาหาข้าอัตโนมัติ" "ท่านจะจากไปแล้วหรอ?" เสิ่นเหม่ยฉินผงกหัวรับโดยไม่มีข้อกังขาและถามขึ้น "อืม ข้าจะไปกับเจ้าเด็กคนนี้" งูดำพูดขึ้น ขณะที่พูดก็หันหน้ามา สายตาอันน่ากลัวมองตรงมาที่ฉัน! ฉันรีบหลบหน้าทันที แล้วแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เห็น ที่จริงภายในใจตกใจแทบตาย เพิ่งเป็นครั้งแรกที่ฉันเจองูเทพ ทำไหมถึงอยากจะไปกับฉันล่ะ? ฉันรีบหลบหน้าทันที แล้วแสร้งแกล้งทำเป็นไม่เห็น ที่จริงภายในใจตกใจแทบตาย งูเทพเพิ่งเจอฉันเป็นครั้งแรก แล้วทำไหมถึงอยากจะไปกับฉันล่ะ? ถ้าไม่ใช่ฉัน แล้วในรัศมีความกว้างห้าร้อยเมตรนี้ นอกจากฉันแล้ว ยังมีเด็กบื่อที่ไหนอีก? หรือว่าเจ้าเด็กบื่อที่มันพูดถึงหมายถึงเซียวเหย่หรอ? พอคิดถึงตรงนี้ ฉันเองก็อดไม่ได้ที่จะข่มยิ้ม ถ้ากล้าพูดว่าเซียวเหย่เป็นเด็กบื่อ เจ้างูดำตัวนี้คงตาบอดจนแยกแยะไม่ออกว่าเป็นชายหรือหญิง "เจ้าน่ะสิตาบอด ไม่ต้องแสร้งแกล้งทำแล้ว คนที่ข้าหมายถึงก็คือเจ้าไง" งูดำรับรู้ถึงความคิดของฉัน เพียงลำตัวตัวขยับเขยื้อน หัวของมันก็อยู่เบื้องหน้าฉัน โดยมีระยะห่างแค่หนึ่งเมตรเท่านั้น "ฉัน..." ฉันแทบจะร้องไห้ออกมา ตั้งแต่เกิดจนถึงตอนนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันอยู่ใกล้กับงูมากถึงขนาดนี้เลย! อีกอย่างก่อนหน้านี้ไม่กล้ามองดูมันอย่างละเอียดเลย แต่ตอนนี้พอมองดู ฉันกลับสังเกตเห็นว่ากลางหน้าผากสีดำของมันมีเนื้องอกนูนๆอยู่ เนื้องอกนี้ที่อยู่บนหัว มันมีลักษณะขรุขระ ราวกับเป็นมงกุฎของกษัตริย์มิปาน โอ้พระเจ้า มันเหมือนกับงูที่สวมใส่มงกุฎกษัตริย์เลย ฉันคิดในใจ ความคิดนี้เพิ่งผุดโผล่มา ฉันก็รู้สึกขยักแขยงแทบไม่ทันแล้ว ถุยถุยถุย! แต่เกรงกลัวว่าหลังจากงูดำอ่านใจฉันได้จะดุด่าฉันอีก การถูกคนอื่นอ่านความคิด มันน่าอึดอัดใจมาก ถึงจะไม่พอใจ แต่ฉันก็กลัวงู ต่อให้อึดอัดใจก็ทำอะไรมันไม่ได้ คนที่น่าจะโกรธเคืองมากกว่าใครก็คือเซียวเหย่ ความหวาดกลัวที่ฉันมีต่องูดำนั้นไม่สามารถปิดบังความรู้สึกได้แล้ว พอเซียวเหย่รู้ว่างูดำต้องการไปกับฉัน เขาไม่เพียงไม่กีดกั้นงูสีดำ แต่ยังแส้ยิ้มอีกต่างหาก ดูเหมือนกับเขาชอบงูตัวนี้ เขากอดฉันและเดินถึงข้างหลุมฝั่งศพ และใช้กำลังมือควบคุมกลุ่มพลังหยินชี่ยกโลงศพจากหลุมฝั่งศพขึ้นมา และย้ายมาวางไว้ด้านข้าง จากนั้นก็ชี้ไปที่เถ้าแก่โฉ้วที่เพิ่งได้สติเเล้วพูดกับเสิ่นเหม่ยฉินว่า : "ส่วนคนๆคนนี้ฉันยกให้คุณ จะฆ่าจะแกงแล้วแต่คุณเลย ตอนนี้พวกเรามาปรึกษากันเรื่องจะจัดการยังไงกับหลานชายคุณดีกว่า การฟื้นคืนชีพคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่คุณยังหวังที่จะให้เขาอยู่เคียงข้างคุณไหม?" ถึงแม้ว่าเสิ่นเหม่ยฉินจะเตรียมใจมาก่อนแล้ว แต่พอได้ยินหลานชายตัวเองหมดหวังฟื้นคืนชีพ สีหน้าก็ดูเศร้าหมอง แต่พอได้ยินข้อเสนอให้หลานชายของเขาสามารถอยู่เคียงข้างเธอไปตลอด แววตาก็เปล่งประกายความหวัง แล้วพูดว่า : "แน่นอนว่าพึ่งพาความสามารถของฉันเพียงคนเดียว ในการเก็บรักษาเขาให้อยู่โลกมนุษย์นานๆไม่ไหวหรอก อาจารย์อาท่านเป็นภูตผี ต้องมีวิธีการรักษาดวงวิญญาณของหลานชายฉันได้ ใช่ไหม?" ฉันนึกว่าเซียวเหย่ตอบว่าได้ แต่ใครจะไปรู้เขาพยักหน้าแล้วตอบว่า : "ดวงวิญญาณอาศัยอยู่บนโลกมนุษย์ ปกติก็ถือว่าฝ่าฝืนกฎธรรมชาติแล้ว ต่อให้ฉันมีฐานะเป็นภูตผี แต่ฉันก็ต้องแต่งงานกับภรรยาฉันถึงจะอยู่ได้ ดังนั้นวิธีที่จะให้หลานชายคุณอยู่ในโลกมนุษย์ได้ ฉันเองก็จนปัญญา แต่ภรรยาของฉันรู้จักคนๆหนึ่ง ไม่แน่เขาอาจจะช่วยได้" ขณะพูดเซียวเหย่ก็หันหน้ามามองฉัน ฉันสะดุ้งตกใจ คนที่ฉันรู้จักหรอ? ฉันรู้จักใครอ๋อ? หลังจากที่สมองมึนงงไม่กี่นาที ฉันถึงตอบสนองได้ว่าคนที่เซียวเหย่พูดถึงคือใคร เขาไม่ถูกกับถางเหย่วแบบนั้น แต่ยังกล้าไปหาถางเหย่วให้ช่วยเหลือ สิ่งนี้ทำให้ฉันรู้สึกประหลาดใจ โชคดีที่ฉันบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของถางเหย่วไว้ ฉันเลยหยิบโทรศัพท์มือถือออกมา และหาเบอร์ของถางเหย่วก่อนจะโทรไป สักพักใหญ่... ดูเหมือนสายจะไม่ว่าง ไม่มีคนรับสาย และผ่านไปสักพักใหญ่ๆ ตอนที่ฉันนึกว่าถางเหย่วทำโทรศัพท์หายนั้น ในที่สุดก็มีเสียงดังในสาย เพียงแต่สถานการณ์ในสายดูจะวุ่นวายมาก เสียงดังจนแก้วหูจะแตก ดูเหมือนว่าสถานที่นั้นน่าจะเป็นบาร์ "พี่จีฉาง" เสียงของโถงโถงดังขึ้น เสียงเหมือนกับคนหวาดระแวง "พวกคุณอยู่ไหนกัน ทำไหมถึงวุ่นวายขนาดนี้?" ฉันอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว ที่จริงฉันค่อนข้างชอบเด็กน้อยโถงโถง แต่เขาดูไร้เดียงสาเกินไป และยังขี้ขลาดตาขาวอีกด้วย ยกตัวอย่างเช่นถ้าฉันกับเขาอยู่ด้วยกันทุกอย่างจะดูปกติ แต่ถ้าเจอถางเหย่ว เด็กคนนี้ก็จะไม่เป็นตัวเอง "อยู่...บ้าน ฉันกำลังตั้งใจกินล่าเถียวอยู่" "ฟุว" ฉันแทบจะทนไม่ไหวแล้ว เจ้าเด็กขี้โกหกโถงโถง ถ้าเป็นบ้านฉันวุ่นวายถึงขนาดนี้ เพื่อนบ้านคงโทรแจ้งตำรวจตั้งนานแล้ว ใครจะไปรู้ว่าโถงโถงจะลังเลแล้วพูดว่า : "พี่ใหญ่ของฉันตอนนี้ไม่ว่าง" ห่ะ? ฉันอดไม่ได้ที่จะสบตาเซียวเหย่ทีหนึ่ง จากนั้นถามโถงโถงว่าถางเหย่วกำลังทำอะไรอยู่ แล้วเขาไม่สะดวกยังไง "เขากำลังบำเพ็ญเพียรอยู่" โถงโถงพยายามวางมาดเข้มขรึม ฉันแทบจะไม่เชื่อเลยสักอย่าง และบอกให้โถงโถงนำโทรศัพท์ให้ถางเหย่วอีกครั้ง ที่จริงโถงโถงเป็นผีเด็กของถางเหย่ว และซื่อสัตย์ภักดีต่อถางเหย่วมาก หลังจากบอกว่าถ่างเหย่วไม่ว่าง ไม่ว่าฉันจะข่มขู่ยังไง เขาก็ไม่ยอมเอาโทรศัพท์ไปให้ถางเหย่วอยู่ดี ฉันหมดสิ้นหนทางแล้ว เพียงแค่ขอที่อยู่ของพวกเขาเพื่อจะไปหา โถงโถงก็ยังดึงดันบอกว่าพวกเขาอยู่บ้าน แต่หลังจากฉันบอกว่าสามารถใช้ IP ค้นหาตำแหน่งที่อยู่องพวกเขาได้ สุดท้ายดูเหมือนโถงโถงจะถูกฉันข่มขู่สำเร็จ จึงบอกตรงๆมาว่า : อยู่บาร์ผีดำ ไปบาร์ดังที่คิดไว้จริงๆ แต่ฉันไม่เข้าใจว่า ถางเหย่วจะปิดบังทำไหม เขาเองก็เป็นผู้ใหญ่แล้ว จะไปสนุกสนานบาร์ผีดำก็ไม่เห็น เป็นอะไร แม้จะพาโถงโถงไปด้วยก็ตาม เพราะโถงโถงเป็นผีเด็กของเขา แต่ทำไหมตอนพูดกับฉันมีท่าทางผิดปกติ ดูเหมือนว่าถางเหย่วจะมีความลับที่ปกปิดไว้ แต่เขาก็ไม่เห็นจะต้องปิดบังฉันเลย? ฉีกยิ้มทำใจทีหนึ่ง คิดไม่ออกจริงๆว่าในใจของโถงโถงคิดอะไรอยู่ ตอนนี้ฉันทำได้เพียงบอกที่อยู่ของบาร์ผีดำกับเซียวเหย่ และถามเขาว่าจะเอายังไงต่อ ถางเหย่วไม่รับสาย และดูเหมือนเซียวเหย่ก็ไม่มีวิธีที่ดีด้วย นอกจากถามเสิ่นเหม่ยฉินว่าเธอจะยินยอมให้พาหลานของเธอไปที่อื่นสักพักจะได้ไหม? ในเวลานี้เสิ่นเหม่ยฉินดูจะสิ้นหวังแล้ว แต่พอเธอได้ยินว่าเซียวเหย่ยกเถ้าแก่โฉ้วให้เธอจัดการ ในที่สุดก็ทำให้เธอมีความเชื่อใจเล็กน้อย เธอผงกหัวรับ แต่ถึงอย่างไรเธอก็ต้องเป็นผู้ตาม ต่อให้หลานชายเธออยู่ที่ไหนเธอก็ต้องตามไปด้วยอยู่ดี เซียวเหย่ไม่มีข้อคัดค้านใดๆ และจะขับรถพาพวกเราเข้าไปในเมือง แต่ก่อนจะไปนั้น เสิ่นเหม่ยฉินบอกให้รอสักครู่ และรีบวิ่งไปข้างตัวของเถ้าแก่โฉ้ว แล้วผิวปากส่งเสียงอันแหลมคมออกมา กระหังที่ถูกเซียวเหย่ไล่ บินโถมตัวเข้ามากัดตัวเถ้าแก่โฉ้ว เถ้าแก่โฉ้วส่งเสียงร้องน่าเวทนาจากการหลับไหล กระหังที่อยู่ภายใต้การควบคุมจากเสิ่นเหม่ยฉิน แทบจะไม่ให้เวลาเถ้าแก่โฉ้วหายใจเลย ฟันและกรงเล็บอันแหลมคมก็ทั้งกัดและกระชากบนตัวเถ้าแก่โฉ้ว ไม่นาน ฉันก็เห็นกรงเล็บของกระหังติดสิ่งของกลมๆยาวๆเส้นหนึ่ง เลือดพุ่งสาด พอดูดีๆเหมือนกับลำไส้ของมนุษย์ ไม่ทันให้ฉันดูว่าตกลงเป็นอะไรกันแน่ เซียวเหย่ก็เข้ามาโอบกอดฉัน มือของเขาเตะบนหัวของฉัน และโอบหัวของฉันแนบพิงบนบ่าของเขา และพูดว่า : "อย่าดูเลย" "นั้นคือลำไส้ของเถ้าแก่โฉ้วหรือเปล่า?" เสียงของฉันสั่นๆ ต่อให้รู้มาก่อนว่าเวสิ่นเหม่ยสฉินจะฆ่าเถ้าแก่โฉ้ว แต่ก็คิดไม่ถึงว่าเธอจะใช้วิธีป่าเถื่อนแบบนี้ แม่แต่ลำไส้ก็ยังดึงออกมา" เซียวเหย่ไม่ตอบตอบคำถามฉันตรงๆ แต่บอกว่า : "เขาตายแล้ว" ภายในใจฉันรู้สึกโศกเคร้า ผงกหัวเบาๆ ไม่ใช่เพราะรู้สึกสงสารเถ้าแก่โฉ้ว แต่รู้สึกดีใจแทนเสิ่นเหม่ยฉินที่ในที่สุดก็สามารถแก้แค้นสำเร็จ รอเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง ในที่สุดเซียวเหย่ก็ปล่อยฉัน ฉันเห็นใบหน้าที่เผยรอยยิ้มแปลกประหลาดของเสิ่ยเหม่ยฉินตอนกลับขึ้นรถ ถึงแม้ว่าบนใบหน้าจะมีรอยยิ้มแห่งความปลื้มปิติ แต่กลับน้ำตาคลอเบ้า ต่อให้เธอใช้กระหังโหยวโกวช่วงชิงร่างของลูกชายเถ้าแก่โฉ้ว และยังใช้วิธีป่าเถื่อนแบบนั้นฆ่าเถ้าแก่โฉ้ว แต่จะว่าไปแล้ว เธอก็ถือเป็นผู้หญิงชาวเขาที่ซื่อตรงคนหนึ่ง การแก้แค้นครั้งนี้ เธอน่าจะพบว่าสงบในจิตใจสักที เถ้าแก่โฉ้วตายแล้ว ตอนแรกพวกเราตั้งใจว่าจะขับรถของเขาเข้าไปในเมือง แต่จู่ๆเซียวเหย่ก็บอกว่ารถคันนี้ขับไม่ได้แล้ว เพราะตอนนี้เถ้าแก่โฉ้วตายแล้ว ถ้าหากขับรถเถ้าแก่โฉ้วเข้าเมือง ฉันกับเสิ่นเหม่ยฉินจะเดือดร้อนไม่น้อยแน่ เพราะเราสองคนเป็นคน ส่วนเขาและเด็กน้อยเป็นผี รถขับไม่ได้ คราวนี้พวกเราคงลำบากแน่ ภูเขาลูกนี้อยู่ห่างจากในเมืองกว่าหนึ่งร้อยกิโลเมตร ขับรถต้องใช้เวลาสองชั่วโมง ถ้าหากพวกเราเดินกลับไป คงต้องใช้เวลาหลายวันแน่? ตอนที่ฉันกลุ้มใจแล้วเผลอคิดว่าสามารถเรียกรถได้หรือเปล่านั้น ใบหน้าของเซียวเหย่กลับยิ้มเยาะและบีบฉันให้เข้าใกล้งูดำตัวนั้น "คุณจะทำอะไร?" หัวของงูดำที่ชูคอสูงสง่า จู่ๆก็ร่อนลง ลูกตาสีเขียวของงูมองเซียวเหย่เพื่อเตือน "ท่านเป็นถึงงูทพ บินได้ไหม? ในเมื่ออยากไปกับภรรยาของผม งั้นก็บินพาพวกเราไป เป็นไง? เซียวเหย่หัวเราะและพูดขึ้น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 43 บาร์ผีดำ
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A