ตอนที่ 46 สงครามระหว่างงูกับลิง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 46 สงครามระหว่างงูกับลิง
ต๭นที่ 46 สงครามระหว่างงูกับลิง เป็นดังที่คิดไว้ ทันใดนั้นร่างของถ่างเหย่วก็หายแวบ เพื่อหลบหลีกจากการจู่โจมของเสิ่นเหม่ยสิน จากนั้นเขาก็จับมือของเสิ่น เหม่ยฉินไว้ และปัดมีดในมือของเธอร่วงตกลงมา "คุณรู้ไหมว่าเซียวเหย่ไปไหน" ถางเหย่วฉีกปากยิ้ม และถามอย่างไม่มีเหตุผลขึ้น "ไปไหนหรอ" เสิ่นเหม่ยฉินนิ่งอึ้ง และถามอย่างไม่รู้ตัว ฉันเองก็สงสัย แม้แต่ฉันก็ยังไม่รู้ว่าเซียวเหย่ไปไหน แล้วถางเหย่วที่นอนตลอดทั้งวันจะไปรู้ได้ยังไง "เขาไปนานขนาดนี้ ตอนนี้คงถึงที่หมายแล้วแหละ และคงฆ่าคนได้แล้วด้วย คุณก็เป็นเฟิ่งซุ่ยซื่อที่มีประสบการณ์ที่กว้างขว้างคนหนึ่ง แต่กลับทำสิ่งที่ต่ำช้าขนาดนี้ อาจารย์ของคุณไม่เคยสั่งสอนบ้างหรอ ว่าอย่าเชื่อคำพูดของผีนะ" ถางเหย่วพูดเสียดสีเสิ่นเหม่ยฉิน พร้อมมองหน้าเธอ โดยน้ำเสียงเฉื่อยช้า ดูเหมือนว่าเขาจะเตรียมกับเซียวเหย่เรียบร้อยแล้ว เป็นดังที่คาดไว้ เสิ่เหม่ยฉินนิ่งอึ้ง และถามอย่างจริงจังว่า "ฆ่าคนหรอ ฆ่าใคร" "คุณคิดว่าใครล่ะ" รอยยิ้มของถางเหย่วยิ่งเผยความเจ้าเล่ห์ และมองเสิ่นเหม่ยฉินอย่างมีนัยยะ "พวกคุณ" เสิ่นเหม่ยฉินมองถางเหย่วด้วยสายตาไม่อยากเชื่อ แต่ใบหน้าของถางเหย่วที่แขวนรอยยิ้มแสแสร้ง ทำให้คนยิ่งขาดความเชื่อมั่น จนแทบจะไม่สามารถคาดเดาว่าสิ่งที่เขาพูดจริงหรือเท็จได้ เป็นดั่งที่คาดไว้ เสิ่นเหม่ยฉินเชื่อในคำพูดของถางเหย่ว เธอร้อนใจดั่งไฟแผดเผา และพยายามจะรีบวิ่งออกไป โดยไม่สนใจจะจัดการถางเหย่วอีกแล้ว แต่ถางเหย่วจะปล่อยเธอไปได้ยังไง เขารีบดึงเสิ่นเหม่ยฉินกลับมาอีกครั้ง และบิดมือเธอคุมตัวเหมือนกับตำรวจจับโจร แล้วพูดว่า : "เหตุผลที่เซียวเหย่หลอกคุณก็คือฆ่าร่างทรงที่คุณหา ร่างทรงที่กลืนกินดวงวิญญาณของหลานชายคุณ แต่ที่ฉันทำไปก็เพื่อคุณจริงๆนะ" พูดจบถางเหย่วก็มองเสิ่นเหม่ยฉินอย่างจริงจัง และยังคลายมือออก โดยที่ไม่กังวลว่าเสิ่นเหม่ยฉินจะหนีไปอีกครั้ง เสิ่นเหม่ยฉินรู้ถึงความสามารถของถางเหย่วดี เธอมองถางเหย่วด้วยสีหน้าเคืองโกรธ โดยที่ไม่คิดจะหนี และถามว่า : "หมายความว่าอะไร พวกคุณไม่ใช่พวกเดียวกันหรอ แล้วจะบอกว่าทำเพื่อฉันได้ยังไง" ถางเหย่วยิ้มพร้อมทำไม้ทำมือ และพูดว่า : "คุณเคยเห็นไทกั่วหลงโผกับผีเป็นพวกเดียวหรอ ที่จริง มันก็เหมือนกับเด็กผีที่ฉันเลี้ยง คุณก็รู้ถึงความสามารถของเซียวเหย่ดี แล้วเด็กผีจะเป็นฉันเลี้ยงได้ยังไง ระหว่างฉันกับเซียวเหย่ เรามีเรื่องหนึ่งที่ยังปรับความเข้าใจกันไม่ได้ เขาเป็นผีที่ร้ายกาจ แย่งภรรยาฉันไป แถมยังกลั่นแกล้งน้องชายฉันอีก ดังนั้นฉันก็แค่คล้อยตามที่เขาแสดงก็เท่านั้นเอง ขณะที่พูด บนใบหน้าของถางเหย่วก็เผยสีหน้าเคียดแค้น และมองฉันด้วยสายตาขื่นขมแวบหนึ่ง จากนั้นพูดว่า : "ตอนนี้คุณมีแค่สองทางเลือก หนึ่งคือคุณต้องเรียกดวงวิญญาณของหลานชายคุณกลับมา ให้ฉันทำพิธีหลวมเป็นผีเด็ก เพื่อที่เขาจะได้อยู่ข้างกายคุณ สองคือถ่วงเวลาต่อไป ให้หลานชานคุณฟื้นคืนอีกครั้งจากการทำพิธีถ่ายโอนวิญญาณ แต่ว่ามีเซียวเหย่อยู่ข้างๆที่จ้องมองด้วยสายตาพร้อมตะครุบ หลังจากที่หลานชายคุณกลืนกินดวงวิญญาณของคนอื่นเสร็จ ก็เป็นเวลาที่เซียวเหย่จะกลืนกินดวงวิญญาณของหลานชายคุณต่อ คุณคิดดีๆนะ" พูดจบถางเหย่วก็ไม่สนใจเสิ่นเหม่ยฉินแล้ว จากนั้นเขาก็คว้ามือฉันกับโถงโถงลากไปจุดศูนย์กลางที่ต้นมะพร้าว และให้ฉันทำแผลให้ บาดแผลนี้มาจากถูกลิ่วเออร์ข่วน จากนั้นเป็นแผลจากถูกระเบิด ใบหน้าที่ขาวผ่องเปลี่ยนเป็นแมวขี้อ่อน ฉันรู้สึกกังวลใจเล็กน้อย กลัวว่าเสิ่นเหม่ยฉินจะหนีไปจริงๆ อีกทั้งถางเหย่วกับเซียวเหย่ไม่ถูกกันตั้งแต่ไหนแต่ไร เขาจะรู้แผนการนี้ได้ยังไง เซียวเหย่ต้องการกลืนกินดวงวิญญาณของหลานชายเสิ่นเหม่ยฉินจริงหรอ ฉันยุ่งอยู่กับการทำฆ่าเชื้อบนแผลของถางเหย่ว แต่ในใจฉันเหม่อลอยเอาแต่อยากรู้ถึงสถานการณ์ของเซียวเหย่ทางนั้น เขาไปตั้งหนึ่งวันแล้ว ถ้าหากไปฆ่าคนจริงๆ ก็น่าจะฆ่าเสร็จแล้วสิ อีกอย่างเขาเคยพูดเสมอว่าลูกของเถ้าแก่โฉ้วเป็นคนบริสุทธิ์ ยิ่งคิดในใจฉันก็ยิ่งร้อนร้นใจ ฉันไม่เชื่อว่าเซียวเหย่จะฆ่าคนบริสุทธิ์ได้ แต่ก็กลัวว่าสิ่งที่ถางเหย่วพูดจะเป็นเรื่องจริง เขาเป็นแค่ผี และยังเป็นภูตผี ต่อให้เขาจะดีต่อฉัน แต่กับคนอื่นๆล่ะ ฉันคิดไปคิดมาจนฉันทนไม่ดีที่จะถามถางเหย่ว แต่เสิ่นเหม่ยฉินกลับมาก่อน ในเวลานี้เธอดูสงบนิ่งลงมาก เธอมองฉันกับถางเหย่วด้วยสายตานิ่งๆ สักพักใหญ่ เธอถึงจะพูดว่า : "ในเมื่อคุณจะหลวมหลานชายฉันเป็นผีเด็กแล้ว ฉันขอให้หลวมเป็นผีเด็กระดับผีร้าย คุณสัญญาได้ไหม?" "ไม่ได้ คุณขอมากเกินไป" ถางเหย่วหัวเราะเบาๆ "ถ้าหากรวมกับกระดูกแก่ของฉันล่ะ" เสิ่นเหม่ยฉินถาม ขณะพูด เธอได้นั่งขัดสมาธิ ในปากท่องคาถา พอได้ยินก็รู้สึกคุ้นหู เธอคงไม่เรียกกระหังตาแดงมาหรอกใช่ไหม เป็นดั่งที่คิดไว้ หลังจากท่องคาถาราวๆสิบนาที ก็มีเสียงบางอย่างชนกระจกจากหน้าต่างขึ้น กระหังตาแดงปรากฏตัวอยู่นอกหน้าต่างจริงๆ แต่แค่มีกระจกบังอยู่ มันเลยเข้ามาไม่ได้ ทำให้นึกถึงเหตุการณ์เถ้าแก่โฉ้วที่ถูกกระหังตาแดงแยกอวัยวะ เธอเรียกกระหังตาแดงมาทำไหม "มีกระดูกแก่ของฉันกับกระหังตาแดงตัวหนึ่ง คงน่าจะพอทำให้คุณหลวมหลานชายฉันเป็นผีร้ายได้แล้วนะ" เสิ่นเหม่ยฉินพูดขึ้น คำสาบานนี้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ ทำให้มีผลกระทบที่รุนแรงกว่ากฎหมายความเป็นธรรมมอย่างมาก หากให้คำสาบานแล้ว พวกเขาก็ต้องทำให้ได้ ต่อให้ตาย พวกเขาก็ไม่สามารถทำผิดคำสาบานได้ ถางเหย่วยิ้มไม่ออก ขมวดคิ้วและพูดว่า : "คุณคิดจะทำอะไร แค่หลวมหลานชายคุณเป็นผีเด็ก เขาก็สามารถอยู่เคียงข้างคุณแล้ว ยังต้องขอร้องให้หลวมเป็นผีร้ายทำไหมกัน? เพราะถ้าฉันหลวมเขาเป็นผีร้ายจริงๆ แล้วคุณตายไป ผีก็จะไม่มีเจ้าของ ก็จะเป็นผีเร่รอนบนโลกนี้ แล้วทำไหมคุณต้องทุ่มเทขนาดนี้ด้วย?" "อย่ายุ่งให้มากนัก คุณแค่ตอบรับคำขอร้องของฉันก็พอแล้ว" เสิ่นเหม่ยฉินพูดขึ้น ก็ไม่รู้ว่าเธอไปเอาความมั่นใจมาจากไหน ถางเหย่วแค่ช่วยเหลือตามคำขอของฉัน แต่เธอกลับกล้าสั่งถางเหย่วซะงั้น ด้วยอุปนิสัยขี้โมโหของเขา ฉันกลัวถางเหย่วจะไม่พอใจ ก็เลยไม่ได้เข้าไปยุ่ง ใครจะไปรู้ว่าถางเหย่วจะยังมีอารมณ์ดีอยู่ เมื่อเห็นเสิ่นเหม่ยฉินดึงดันขอร้อง คิดไม่ถึงว่าเขากลับยื่นมือช่วยเหลือ เขาใช้มีดเล่มเล็กกรีดนิ้ว และเอาเลือดเตะที่ระหว่างคิ้ว ปากและริมฝีปากพร้อมพูดว่า : "ข้าถางเหย่วไท่กั่วหลงโผขอให้คำสาบานตรงนี้ว่า จะหลวมหลานชายของเสิ่นเหม่ยฉินเป็นผีร้าย หากข้าผิดคำสาบาน ขอให้ทั้งชีวิตนี้ไม่พบความสงบ ไม่เป็นสุขชั่วชีวิต!" พูดจบเขามีท่าทางโกรธเคือง และพูดว่า : "พอใจแล้วนะ" เสิ่นเหม่ยฉินไม่พูดอะไร แค่ผงกหัวรับ จากนั้นเธอควักผ้าสีขาวในตัวออกมา และพันเป็นเค้าโครงของคน เอาไปวางไว้เบื้องหน้า จากนั้นในปากก็เริ่มร้องเพลงเหมือนกลอนพื้นบ้านแปลกประหลาดประเภทหนึ่ง ที่มีเสียงของอารมณ์โศกเศร้า ดูเหมือนกำลังเล่าเรื่องบางอย่างอยู่ โทนเสียงมีความแปลก แค่ฟังสองประโยค ภายในใจก็รู้สึกเศร้าอาดูรเหมือนกับเรื่องทุกอย่างไม่เป็นดั่งใจ จนรู้สึกเหมือนกับมีชีวิตจะมีความหมายอะไรแล้ว และมีความรู้สึกอยากจะตายลางๆ เหมือนชีวิตสูญสิ้นทุกอย่าง ฉันหยิบกริชบนพื้นดินตามจิตสำนึก ขณะที่ฉันกำลังจะกรีดข้อมือตัวเอง ถางเหย่วก็ดึงฉันมากอดในอ้อมอกอย่างแน่ และเอามือปิดหูฉันอย่างแรง เพื่อป้องกันไม่ให้บทสวดเข้าไปในหูฉัน เหมือนกับโดนราดน้ำเย็นบนหัว เพียงชั่วพริบตาฉันก็ได้สติกลับมา แล้วทุกอย่างก็กลับมาชัดเจน "อย่าฟัง มันเป็นบทสวดกล่อมจิต เป็นคาถาเรียกดวงวิญญาณ" ถางเหย่วอธิบาย ระหว่างที่พูด ฉันก็เห็นที่ประตูปรากฏเงาสีเขียวจางๆกลุ่มหนึ่ง เป็นเงาของเด็กน้อยคนนั้น ในตอนนี้เขาดูเหมือนไม่ค่อยได้สติ ค่อยๆล่องลอยเข้ามา ดวงวิญญาณที่เป็นเศษส่วนเล็กไปของเขาค่อยๆรวมกับตัวเขา หลังจากที่ดวงวิญญาณทั้งหมดของเขารวมตัวกันเสร็จ ร่างที่เลื่อนลางก็เริ่มชัดเจนขึ้นมาก ถึงแม้ว่าจะชัดเจนไม่เท่าโถงโถง แต่ยังถือว่าชัดเจนอยู่ แต่รอบๆตัวก็เริ่มชัดเจนมากขึ้น พูดง่ายๆคือ เขาดูเป็นตัวเป็นตนมากขึ้นนั่นเอง หลังจากเสิ่นเหม่ยฉินร้องเพลงพื้นบ้านจบ ทันใดนั้นก็เกิดเสียงตูม ร่างเธอร่วงตกลงบนพื้น เหมือนกับว่าวที่สายขาด ส่วนบนร่างกายเธอ ก็ปรากฏเสิ่นเหม่ยฉินที่กระเสื่อนกระสนยืนขึ้นมา ! "ยายคนนี้ คิดไม่ถึงจริงๆว่าเธอจะยอมเสียสละเพื่อให้พลังแก่หลานชายตัวเอง แม้แต่ชีวิตก็ไม่คำนึง" ถางเหย่วเหลือบมองดวงวิญญาณของเสิ่นเหม่ยฉินและบ่นพึมพำ หลังจากเขาให้คำสาบานเสร็จ ก็รีบเดินผ่านเด็กคนนั้น และรื้อหาของใหม่กองหนึ่ง และยังเรียกให้โถงโถงปล่อยพลังหยินชี่ป้องกันไว้ จากนั่นก็เริ่มหลวมเด็กน้อยคนนั้น หลังจากที่ดวงวิญญาณของเสิ่นเหม่ยฉินออกจากร่าง คิดไม่ถึงว่าเธอจะเดินมาหาฉันด้วยสายตานิ่งๆ "คุณอย่าเข้ามา เขาได้ทำตามคำสาบานหลวมหลานชายคุณแล้ว คุณคิดจะทำอะไร?" ฉันตกใจจนค่อยๆถอยตัวไปข้างหลัง และพูดด้วยความหวาดระแวงขึ้น แต่เธอแทบจะไม่สนใจฉันเลย แต่ยังคงเดินมาหาฉัน และอ้างปากเหมือนกับจะพูดอะไร ฉันเพิ่งเรียกสติกลับมาได้ ตอนนี้เธอเป็นแค่ดวงวิญญาณ และมีพลังไม่เพียงพอ เลยไม่สามารถพูดคุยกับฉันได้ เวลานี้ทำให้ฉันยิ่งหวาดกลัว ถางเหย่วกับโถงโถงตอนนี้หลับตาหลวมเด็กคนนั้นอย่างใจจดใจจ่อ ไม่มีใครปกป้องฉัน ฉันเลยทำได้แค่วิ่งหนีเอาชีวิตรอด เสิ่นเหม่ยฉินตอนนี้เป็นดวงวิญญาณ ฉันไม่รู้ว่าตกลงเธอตายหรือยัง แต่ถึงอย่างไรความเร็วในการเคลื่อนที่ของเธอก็เร็วกว่า ฉันรู้สึกเหมือนลมเย็นเคลือบคลานเข้ามา คิดไม่ถึงว่าเธอจะอยู่ข้างหลังฉัน และยื่นมือจะจับบ่าฉันด้วย! "ช่วยด้วย! เซียวเหย่!" ฉันตกใจจนขาอ่อนแรงแล้ว ทั้งที่รู้อยู่ว่าเซียวเหย่ไม่อยู่ตอนนี้ แต่จิตใต้สำนึกเรียกหาชื่อเขาอยู่ แต่เซียวเหย่ก็ไม่มา พอเหลือบมองเสิ่นเหม่ยฉิน เธอก็จับบ่าฉันแล้ว มือที่เย็นเฉียบจับบ่าฉันอย่างแน่น และเลื่อนมือมาที่คอของฉัน ฉันรู้สึกได้เพียงทั้งตัวหนาวจนตัวเเข็ง ขณะที่ฉันเกิดวิกฤตอันตรายที่ใหญ่หลวงที่สุด จู่ๆข้างหลังตัวฉันก็มีเสียงแหลมคมร้องดังขึ้น มันเป็นเงาขนาดเล็กสีเหลืองเงาหนึ่ง และมันกระโจนผ่านดวงวิญญาณของเสิ่นเหม่ยฉินเกาะขนหลังฉัน จี๊กจี๊ก ลิ่วเออร์ คิดไม่ถึงมันจะออกตัวมาปกป้องฉัน มันใช้ฟันกัดเสิ่นเหม่ยฉินอย่างเต็มแรง ดูเหมือนว่าพอเธอยิ่งเข้าใกล้ฉันหนึ่งก้าว ลิ่วเออร์ก็จะกัดเธอทันที! แต่ในดวงตาของเสิ่นเหม่ยฉินเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น ดูเหมือนพร้อมสู้ตาย แทบจะไม่สนใจความน่าเกรงขามของลิ่วเออร์แม้สักนิด มือเย็นยังคงเคลื่อนตัวบนบ่าของฉัน ชั่วพริบตาร่างครึ่งตัวก็ปกคลุมหลังฉัน "จี๊ก!" ในเมื่อการคุกคามไม่ได้ผล ลิ่วเออร์ก็เริ่มโมโหแล้ว หลังจากส่งเสียงร้องฮึ เขี้ยวเล็กๆของลิ่วเออร์กัดบนร่างกายของเสิ่นเหม่ยฉิน กัดจนร่างเธอเริ่มสั่นเทา "หยุดเดี่ยวนี้! ไม่ใช่สิ! หยุดกัด เจ้าสัตว์เดรัจฉานกล้าคิดจะแย่งกินของฉันหรอ อยากตายแล้วใช่ไหม?" มีลำเสียงหนึ่งดังขึ้นจากก้นบึ้งหัวใจของฉัน ไม่รอให้ฉันสงสัย ลายงูดำบนข้อมือฉันก็ประกายแสงแวบหนึ่ง และกระโดดออกจากข้อมือฉัน ในเวลานี้งูดำที่ชูคอจ้องมองลิ่วเออร์ ดูเหมือนลิ่วเออร์ทำให้มันโกรธเคือง หัวของมันลอยกลางอากาศ ส่วนหางหนาสีดำตบอยู่บนกระเบื้องหินขนาดใหญ่ที่วางอยู่บนพื้น ชั่วพริบตาก็ถูกงูดำตบจนพื้นแตกร้าว "ท่านค่ะ...หยุดตบเถอะ..." ฉันกลัวงู แต่ไม่รู้เลยว่ามันสิงสถิตอยู่บนข้อมือฉัน แต่ยังเลือกที่จะเป็นข้าบริวารอีก ทั้งที่ตัวเองก็ยังไม่ค่อยเข้าใจสักเท่าไหร่ แต่ยังฟื้นใจกล้าพูดขึ้น ไม่ว่าใครสักตัวจากพวกมันอยากจะลงมือเสินเหม่ยฉิน ขอร้องให้เอาเธอไปจากฉันก่อน "เจ้าเด็กโง่ เจ้าอย่าได้กลัว มันเป็นแค่ลิงสิเออร์เท่านั้น เดี๋ยวข้าจะจัดการมันให้!" งูดำพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย ขณะที่พูด มันได้กวาดหางแล้วทีหนึ่ง แล้วปัดลิ่วเออร์ออกไป 
已经是最新一章了
加载中