ตอนที่ 60 บ้านลึกลับ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 60 บ้านลึกลับ
ต๭นที่ 60 บ้านลึกลับ ฉันตกใจจนปิดปากแทบไม่ทัน และรีบไปดึงเสื้อของเซียวเหย่เงียบๆ เพื่อแสดงให้เขาหยุดพูดได้แล้ว เขานอนอยู่ใต้พื้นดินมากว่าหนึ่งร้อยปีแล้ว เลยยังไม่เข้าใจสภาพสังคมในยุคปัจจุบันนี้สักเท่าไหร่ ราคาบ้านในปัจจุบันกับเมื่อหนึ่งร้อยปีก่อนไม่เหมือนกันเลย สามร้อยตารางเมตรหรอ เขายังกล้าปริปากพูดอีก! แน่นอนว่าใบหน้าของพนักงานสอบถามถึงกับนิ่งอึ้งไปเลย พร้อมกับจ้องมองเซียวเหย่ด้วยสายตาตกใจ แต่เขาแทบจะไม่สงสัยในกำลังความสามารถในการซื้อของเซียวเหย่เลย แต่ในทางกลับกันบนใบหน้าของเขาแสดงสีหน้าหวาดกลัว ไม่นาน เขาถึงจะดึงสติกลับมาจากความตกใจได้ และบนใบหน้าก็ฝืนยิ้มแห้งๆ แล้วพูดว่า : "คุณผู้ชายครับ คุณทราบได้ยังไงครับว่าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีบ้านอยู่หลังหนึ่ง? "เรื่องนี้คุณไม่ต้องสนใจหรอก เอาเป็นว่าพวกเราต้องการบ้านหลังนั้น ตอนนี้คุณช่วยพาพวกเราไปดูหน่อยได้ไหมครับ" เซียวเหย่พูดขึ้น ฉันถูกเซียวเหย่สร้างเรื่องจนมึนงงไปหมดแล้ว พวกเรามาด้วยกัน และเซียวเหย่ก็ไม่เคยมาที่นี้มาก่อนด้วย แต่ทำไหมเขาถึงรู้ว่าทางทิศตะวันตกเฉียงใต้มีบ้านขนาดสามร้อยตารางหลังหนึ่งอยู่? อีกอย่างเมื่อดูสีหน้าของพนักงานสอบถามที่ผิดปกติแล้ว บ้านหลังนั้นจะต้องมีเรื่องราวแน่ เป็นดังที่คิดไว้เลยจริงๆ พนักงานขายเงียบสักพัก และจ้องมองพวกเราด้วยสายตาเคร่งขรึม จากนั้นก็พูดด้วยความเคารพต่อเซียวเหย่ว่า : "อยากดูห้องได้ครับ แต่บ้านหลังนั้น ผมต้องขออนุญาตจากผู้จัดการก่อนะครับ" เซียวเหย่โบกมือ เพื่อแสดงให้ไปได้ หลังจากพนักงานขายจากไป ฉันก็อดกลั้นความสงสัยไม่ได้แล้ว เลยถามเซียวเหย่ว่าเขารู้ว่ามีบ้านหลังนั้นได้ยังไง อีกอย่างตกลงว่าบ้านหลังนั้นมีอะไรหรอ แค่ดูบ้านทำไหมต้องขออนุญาตจากผู้จัดการด้วย "ตอนนี้บอกคุณไม่ได้" เซียวเหย่ยิ้มอย่างลึกลับ เหมือนตั้งใจอยากให้ฉันร้อนรนใจ ฉันแทบสงสัยจนจะขาดใจตายแล้ว เลยจับแขนของเซียวเหย่และอ้อนวอนเขาให้บอกฉัน ถามเขาว่าบ้านตอนนี้ในเครือเฟิ่งต้าส่วนใหญ่ล้วนมีขนาดสองร้อยตารางเมตร พนักงานสอบถามรู้อยู่แล้วว่าเรามีเงินแค่หนึ่งล้านเอง ทำไหมเขาถึงจะพาเราไปดูบ้านขนาดสามร้อยตารางเมตรนั่นด้วย "อยากรู้จริงๆหรอ? งั้นคุณก็จูบผมครั้งหนึ่งสิ" เซียวเหย่วพูดขึ้น ขณะพูดก็ยังชี้นิ้วมาตรงปากและริมฝีปากตัวเองด้วย ฉันหน้าแดงก่ำทันที จะให้ฉันจูบกับอาจารย์ใหญ่คนนี้ แน่นอนว่าฉันยินยอม เพราะปาก ริมฝีปากของเขานุ่มละมุนลิ้นมาก แต่ที่นี้เป็นแผนกขายบ้านนะ จะให้ทำกันต่อหน้าคนในห้องได้ยังไง หน้าของฉันไม่ได้หนาขนาดนั้นสักหน่อย "เขินอายหรอ? กลัวคนอื่นเห็นหรอ? ผมสามารถใช้พลังหยินชี่บดบังดวงตาของพวกเขาได้" เซียวเหย่ยิ่งยิ้มกว้างขึ้น ขณะพูดเขาก็ได้ยกมือขึ้นแล้ว และปล่อยพลังหยินชี่ทั่วทิศกลายเป็นกำแพงหยินชี่หนึ่ง เพื่อขจัดผู้คนออกไปอยู่โลกภายนอก แม้แต่เจิ้งเล่อก็ถูกสกัดให้อยู่ข้างนอกแล้ว เห็นท่าทางจริงจังของเซียวเหย่ ฉันก็ปฏิเสธไม่ลงแล้ว เลยเงยหน้าตรงใบหน้าของเขา และประกบปากเบาๆหนึ่งที ใครจะไปรู้ว่าเขาจะไม่พอใจ และยกมือโอบเอวของฉันไว้ และดึงฉันเข้าใกล้ในอ้อมอกของเขา แล้วก็พูดปากฉันอย่างดื่มด่ำ เหมือนกับเวลาและทุกอย่างหยุดลงในชั่ววินาที กระแสไฟฟ้าอ่อนๆจากปากของเขาสัมผัสเข้าในร่างกายของฉัน ช็อตจนทั่วทั้งร่างกายของฉันรู้สึกเฉื่อยชา และหัวก็ถูกกระไฟฟ้าลัดวงจรแล้วด้วย เขาจูบฉันต่อเนื่องไม่กี่ครั้ง สุดท้ายเขาก็เผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ออกมา และคลายตัวฉันอย่างพึงพอใจ ฉันเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าพนักงานสอบถามที่จากไปเมื่อกี้ได้กลับมาแล้ว และข้างหลังเขาก็มีผู้ชายหัวล้านวัยกลางคนคนหนึ่งอยู่ด้วย ดูแล้วน่าจะเป็นผู้จัดการ ในเวลานี้พวกเขาทั้งสองคนต่างมองพวกฉันตาไม่กระพริบ และแสดงสีหน้าประหลาดใจ "คุณ...เห็นพวกฉันหรอ?" ฉันสะดุ้งตกใจ และมองพวกเขาด้วยสีหน้าเก้อเขิน และสอบถามขึ้น "อ๊าก...ไม่เห็นครับ พวกคุณสามารถทำต่อได้เลยครับ" พนักงานสอบถามคนนั้นมีปฏิกิริยาตอบสนองเร็วมาก เมื่อเห็นฉันถามก็รีบหลับตามันที และใบหน้าก็มีรอยยิ้มคลุมเครือ จากนั้นก็หันหลังอย่างรวดเร็ว ยิ่งเป็นแบบนี้ ฉันก็ยิ่งเขินอาย เขาเห็นชัดๆ! ฉันหน้ามองเซียวเหย่ด้วยสีหน้าเคียดแค้น แต่เซียวเหย่ยังคงเผยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อยู่ เมื่อเห็นฉันมองเขาอยู่ ก็พูดออกมาทันทีว่า : "เมื่อกี้จูบจนเคลิ้มเกินไป เลยไม่ทันระวังทำกำแพงหายไปแล้ว" เห็นได้ชัดเจนว่าเขาตั้งใจ! ฉันมองหน้าเขาด้วยสีหน้าโกรธแค้น ถึงยังไงตอนนี้คนอื่นๆก็เห็นหมดแล้ว ต่อให้ดุด่าเขายังไงก็ดูไม่เหมาะสมแล้ว เลยทำได้เพียงหลบอยู่ข้างหลังเซียวเหย่อย่างนิ่งเงียบ เมื่อเห็นพวกฉันไม่ได้จูบกันแล้ว ผู้จัดการหัวล้านคนนั้นก็ยิ้มพร้อมส่งเสียงอึมอึมเดินเข้ามา หลังจากจับมือทักทายกับเซียวเหย่เสร็จก็พูดว่า : "สวัสดีครับ ผมคือผู้จัดการของบริษัทเฟิ่งต้า ได้ยินว่าคุณถูกใจบ้านที่อยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้หรือครับ?" "ครับ" เซียวเหย่ตอบกลับ หลังจากได้รับคำตอบของเซียวเหย่ บนใบหน้าของผู้จัดการก็เผยรอยยิ้มแอบมีนัยยะขึ้น และโบกมือให้กับพนักงานสอบถามข้างหลัง เพื่อให้พนักงานสอบถามกลับไปทำงานอย่างอื่นต่อ และยังพูดว่าเขาจะเป็นคนพาพวกเราไปดูบ้านเอง ในใจของฉันยิ่งแปลกประหลาดใจ ตกลงว่าบ้านหลังนั้นมีที่มายังไงกันแน่ คิดไม่ถึงว่าจะสามารถทำให้ผู้จัดการออกหน้ารับเองอย่างนี้? ขณะที่คิดอยู่นั้น ก็ได้มีคนส่งแผนที่ฉบับหนึ่ง เขายื่นให้ในมือของเซียวเหย่ เป็นคู่มือบ้านของบ้านทางทิศตะวันตกเฉียงใต้นั่นเอง เมื่อได้รับคู่มือแล้ว ฉันก็ตกใจอีกครั้ง ถึงแม้รู้ว่าบ้านหลังนั้นมีขนาดสามร้อยตารางเมตรพอดี แต่บ้านในคู่มือนั้น เป็นคฤหาสน์เล็กที่งดงามหลังหนึ่งชัดๆ! ถึงแม้จะไม่สู้กับบ้านตระกูลเซียวที่มีพื้นที่ใหญ่กว่า แต่บ้านออกแบบและตกแต่งได้ประณีตมาก เหมือนกับแบบบ้านที่สวยงามในนิตยสาร แค่มองดูจากคู่มือ ฉันถึงกับรู้สึกหลงรักที่นี้เลย แต่ที่นี้กลับยิ่งทำให้ฉันสงสัยมากขึ้น บ้านที่สวยงดงามขนาดนี้ และยังเป็นบ้านในเครือของบริษัทเฟิ่งต้าอีกด้วย ในเมืองเจียงเหมินราคาต้องมากกว่าสิบกว่าล้านแน่ เงินในมือฉันน่าจะไม่พอในการตกแต่งปรับปรุงแน่เลย ผู้จัดการถือคู่มืออยู่ เขานำพาพวกฉันเดินไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ และระหว่างทางก็อธิบายบ้านหลังๆอื่นไปด้วย ฉันฟังบ้างไม่ฟังบ้าง แต่ในหัวสมองมีแต่รูปภาพของบ้านจนอดไม่ไหวที่จะดูบ้านหลังนั้นเร็วๆ บ้านหลังนั้นสวยงามจริงๆ นอกจากเรื่องราคาแล้ว ฉันคิดว่าไม่ว่าผู้หญิงคนไหนเห็นแล้วก็ต้องอดใจไม่ไหวเหมือนกัน แปลงที่ดินของบ้านหลังนั้นก็มีทำเลที่ดีด้วย และอยู่ห่างจากแผนกขายบ้านไม่ไกล เมื่อเดินได้ประมาณสิบกว่านาที พวกเราก็เดินผ่านพื้นที่ของเฟิ่งต้ามาถึงหน้าประตูใหญ่ ประตูหน้าอยู่ติดกับสวน และหลังสวนก็คือคฤหาสน์เล็กหลังหนึ่ง! "คุณดูสิ คฤหาสน์หลังนี้ได้ตกแต่งครบวงจรเสร็จสมบูรณ์หมดแล้ว และยังมีโรงจอดรถสองคันพร้อมกับเส้นแบ่งช่องรถยนต์ด้วย ในสวนมีน้ำพุและสระว่ายน้ำครบครัน แม้แต่เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ไฟฟ้าล้วนเป็นยี่ห้อระดับต้นๆของโลก ตอนแรกบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่สร้างให้กับประธานเชียนจินของพวกเราโดยเฉพาะ เลยไม่ได้จำหน่ายไว้ แต่น่าเสียดายที่ประธานเชียนจินไม่ชอบที่นี้ ดังนั้นมันเลยว่าง หากคุณได้ยินชื่อเสียงบ้านนี้มาก่อน แสดงว่าคูณไม่ธรรมดา ดังนั้นถ้าหากชอบบ้านหลังนี้ ก็สามารถยืนยันได้เลย บ้านหลังนี้ราคาคุ้มค่าแน่นอน ของประดับตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ทั้งหมดเราส่งให้คุณฟรีๆเลย" "จริงหรือ? ที่ว่าของตกแต่งประดับ เฟอร์นิเจอร์เเละเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างส่งให้ฟรีเลย แล้วบ้านหลังนี้ราคากี่บาทค่ะ?" ฉันเบิกตากว้าง เจียงเหมินถือเป็นเมืองที่น่าอยู่ ราคาบ้านส่วนใหญ่ก็แพง อีกอย่างในใจกลางเมืองแทบจะไม่มีพื้นที่คฤหาสน์เลยด้วยซ้ำ แต่บ้านหลังนี้อยู่ใจกลางเมือง และยังมีการตกแต่งที่หรูหรา แน่นอนว่าต้องขายในราคาสูงลิ่ว ฉันคิดว่าที่คิดไว้สิบกว่าล้านก็น้อยไปแล้วแหละ ใครจะไปรู้ว่าผู้จัดการยื่นมือออกมาห้านิ้ว และพูดว่า : "ห้าล้าน" "ห้าล้าน!" ฉันอุทานด้วยความตกใจ บ้านหลังนี้ ขายในราคาห้าล้าน สำหรับในเจียงเหมินนับว่าราคาถูกมากๆ!" แต่ไม่นานฉันก็ได้สติกลับมา ต่อให้ราคาถูกมาก แต่ห้าล้านสำหรับฉันนับว่าเป็นราคาสูงลิ่วอยู่ "เป็นยังไงบ้างครับ ชอบไหมครับ?" ดูเหมือนเซียวเหย่แทบจะไม่กังวลเรื่องเงินเลย ดวงตากวาดตามองคฤหาสน์รอบหนึ่งอย่างสบายใจ ยิ้มและถามฉัน "อึ...ไม่ชอบ" ฉันคิดอยู่สักพัก แล้วพูดอย่างกล้ำกลืนออกมา พูดว่าไม่ชอบเป็นเรื่องโกหก บ้านหลังใหญ่โตงดงามขนาดนี้ ใครจะไม่อยากได้บ้าง แต่บนตัวฉันมีเงินไม่พอ โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าผู้จัดการคนนี้ ฉันไม่อยากทำให้เซียวเหย่ลำบากใจ เมื่อพูดกับผู้จัดการว่าพวกเราต้องการไปดูรอบบริเวณเสร็จ ฉันก็ดึงเดินออกห่างจากผู้จัดการ และพูดด้วยเสียงโทนต่ำว่า : "เซียวเหย่ หรือว่าพวกเราไปดีกว่า" "เป็นอะไรไป?" คุณชอบที่นี้ชัดๆ แล้วทำไหมเมื่อกี้ถึงพูดว่าไม่ชอบด้วยล่ะ?" เซียวเหย่ขมวดคิ้วและถามฉัน "ที่นี้แพงเกินไป" ฉันตอบอย่างเร็ว พูดจบฉันก็ดึงเซียวเหย่จากไป แต่ที่จริงที่นี้สวยงดงามจริงๆ ฉันกลัวว่าหากอยู่ต่อ ฉันคงทำใจไปจากที่นี้ไม่ได้ "เสวนเสวน เรื่องเงินเธอไม่ต้องรีบร้อน คุณแค่บอกผมมาว่า คุณอยากอยู่ที่นี้กับผมไหม?" เซียวเหย่ดึงมือออก และวางมือบนใบหน้าของฉัน พร้อมถามอย่างจริงจังขึ้น ฉันพยักหน้าสุดกำลัง แน่นอนว่าอยาก ขอเพียงอยู่กับเซียวเหย่ ต่อให้ต้องอยู่ในพื้นที่ตารางยี่สิบสามสิบฉันก็ยินดี แต่บ้านหลังนี้สวยงดงามมาก ถ้าหากสามารถอยู่ที่นี้ได้จริงๆ ฉันคงยิ้มระหว่างฝันแน่เลย "ถ้างั้นก็อยู่ที่นี้แหละ" เซียวเหย่เผยรอยยิ้มบางๆ และเขาก็ก้มหน้าจูบบนหน้าผากฉัน จากนั้นให้ฉันเดินชมดูด้วยตัวเองสักรอบ ส่วนเขาจะไปคุยเรื่องราคาบ้านกับผู้จัดการ เมื่อพูดคุยเรื่องราคาบ้าน จู่ๆฉันก็นึกขึ้นได้เรื่องหนึ่ง และถามเซียวเหย่อย่างกังวลว่า : "คุณคงไม่ทำให้หลอนประสาทเขา เพื่อให้เขาขายบ้านให้เราในราคาหนึ่งล้านหรอกใช่ไหม?" ผีมีความสามารถหลอนประสาทคน โดยเฉพาะภูตผีที่เก่งกาจอย่างเซียวเหย่ เขาสามารถควบคุมความคิดของคนได้ มิน่าเขาถึงได้ใจเย็นสุขุม และแทบจะไม่เอาปัญหาเรื่องเงินไว้ในสายตาเลย ที่แท้จริงการหลอกคนนี่เอง! เมื่อเห็นท่าทางกังวลใจของฉัน เซียวเหย่ก็ยิ้มทันที เขาลูบผมฉันจนยุ่งเหยิง และพูดว่า : "เพ้อเจ้ออะไรของคุณ ถ้าหากผมจะทำแบบนั้น ทำไหมต้องจ่ายเงินด้วยแหละ ทำให้เขาให้บ้านฟรีๆไม่ดีกว่าหรอ? วางใจเถอะ ผลกำไรของบ้านมีเยอะมาก ผมแค่ต้องการลดราคาเท่านั้น" ขณะที่พูด เขาก็ผลักฉันให้ไปทางคฤหาสน์ เพื่อให้ฉันเดินชมรอบสวน ฉันอดไม่ได้ที่จะแบะปากใส่ คำพูดของเซียวเหย่กับคำโกหกพอๆกันเลย ผลกำไรบ้านสูง คงไม่ขายพวกเราในราคาแปดสิบเปอร์เซ็นหรอก เขาต้องทำเรื่องไม่ดีต่อผู้จัดการแน่ แค่ไม่อยากให้ฉันอยู่ด้วยเท่านั้น เมื่อคิดถึงตรงนี้ ฉันก็ไม่สนใจเซียวเหย่แล้วเหมือนกัน เพราะถึงยังไงเขาคงไม่ทำร้ายผู้จัดการจนถึงขั้นเสียชีวิตหรอก ส่วนบ้าน... ถ้าหากว่าสามารถขายในราคาหนึ่งล้าน ฉันคงดีใจแทบตายแน่ ฉันเดินเล่นในสวนเพียงลำพัง จากนั้นก็เพิ่งนึกถึงเจิ้งเล่อ แต่เขาไม่อยู่แล้ว เลยร้องเรียกหาเขา เมื่อเจิ้งเล่อเห็นฉันเรียกหา หัวเล็กๆก็ชะเงยมองจากหลังต้นไม่ใหญ่ต้นหนึ่ง ใบหน้าเล็กๆมองมาที่ฉันพร้อมโบกมือ เขาทำอะไรอยู่นะ? ฉันอดไม่ได้ที่จะสงสัย เลยเดินไปหาอย่างระมัดระวัง เมื่อเดินไปถึงก็พบว่า เจิ้งเล่อกำลังฟังคนอื่นพูดคุยกันอยู่เงียบๆ คนที่พูดคุยกันอยู่ก็คือน้าสองคนที่สวมชุดพนักงานทำความสะอาดอยู่ พวกเธอน่าจะอยู่แผนกดูแลรับผิดชอบทำความสะอาดสวน ในเวลานี้พวกเธอสองคนน่าจะอยู่ข้างนอกรั้วของคฤหาสน์อยู่ พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกัน และหันหน้ามองมาที่คฤหาสน์นี้ แล้วพูดว่า : "มาดูบ้านครั้งนี้เป็นคู่รักหรอ? ได้ยินว่าอายุก็ยังไม่มากใช่ไหม?" "ประมาณนั้น เมื่อกี้ที่พวกเขาเข้ามา ฉันก็เหลือบเห็นแล้วแวบหนึ่ง ผู้ชายคนนั้นหน้าตาหล่อเหลามาก เหมือนกันคนที่ออกในทีวีเลย ส่วนผู้หญิงที่มากับเขาก็น่ารัก คู่รักน่ารักคู่นี้ คิดไม่ถึงว่าจะถูกใจบ้านหลังนั้น เวรกรรมจริงๆ" เวรกรรมหรอ? ฉันสะดุ้ง ตอนที่พวกเธอชมฉันกับถางเหย่ว่าหน้าตาดีนั้น ฉันยังรู้สึกดีใจอยู่ลึกๆ แต่หลังจากได้ยินพวกเธอพูดว่าเวรกรรม ฉันก็มึนงงทันที บ้านหลังนี้มีอะไรกันแน่? "หวังว่าเพราะพวกเธอมีเงินไม่พอเถอะ และไม่สามารถซื้อบ้านหลังนี้ได้ อย่าได้ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยกับคู่สามีภรรยาคู่ที่แล้วเลยที่..." น้าพนักงานทำความสะอาดพูดอย่างเวทนา ชั่วพริบตาฉันยิ่งรู้สึกสงสัย ในใจเหมือนมีแมวข่วนสะกิดต่อมสงสัยอยู่ คู่รักคู่ที่แล้วหรอ? เกิดเรื่องหรอ? บ้านหลังนี้ไม่ได้เตรียมให้ประธานเชียนจินหรอกหรอ? ขณะที่อยากฟังต่อนั้น น้าพนักงานทำความสะอาดอีกคนก็ทำเสียงซูวหนึ่งที และขัดจังหวะน้าอีกคน พูดว่า : "ไม่ต้องพูดแล้ว เราอยู่ใกล้กับบ้านหลังนั้นอยู่ พูดแล้วขนลุกขนพอง" 
已经是最新一章了
加载中