ตอนที่ 70 หยินเซี่ยนเส้นนั้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 70 หยินเซี่ยนเส้นนั้น
ต๭นที่ 70 หยินเซี่ยนเส้นนั้น เมื่อเห็นเจิ้งเล่ออีกครั้งฉันก็ดีใจแทบแย่ สวมกอดเจิ้งเล่อไว้ พูดด้วยความตื่นเต้น “ดีจังเลย นี่เธอมาตรงนี้ได้ยังไง? ฉันเป็นห่วงเธอจะแย่อยู่แล้วนะ!” เจิ้งเล่อเห็นฉันตื่นเต้น สีหน้าก็เกิดความเก้อเขิน หัวเราะแหะๆ จากนั้นเขาก็จับมือฉันขึ้นมา จูงฉันไปยังทิศทางที่อยู่ด้านหลังตัวเขา ท่าทีคล้ายกำลังดีอกดีใจอยู่ ฉันอดที่จะอยากรู้อยากเห็นไม่ได้ ปล่อยให้เขาจูงฉันไปตามใจ ถึงแม้ฉันจะมองเห็นเรื่องราวที่อยู่ตรงหน้าได้ไม่ชัดเจน แต่เขาเป็นกุมารทองของฉัน หลังจากได้ผ่านการติดต่อสัมผัสกันในช่วงเวลานี้แล้ว ฉันรู้สึกมั่นใจในตัวเขาร้อยเปอร์เซ็นต์เสมือนเขาคือคนในครอบครัวเดียวกันกับฉัน ฉันเห็นเขาเป็นน้องชายแท้ๆ ของตัวเองโดยไม่รู้ตัว เขาจูงฉันมาถึงมุมหนึ่งในถ้ำหินจากนั้นก็ดึงให้ฉันนั่งลง แล้วเขาก็เอามือมาขัดถูไม่หยุด ปากยังพึมพำอะไรก็ไม่รู้ ไม่นานนักในถ้ำหินอันมืดมิดก็เกิดดวงไฟสีเขียวเรืองแสงขึ้นมา ล่องลอยอยู่บนอากาศ ส่องสว่างให้เห็นทั่วทั้งถ้ำ “ดวงไฟผี!” ฉันร้องด้วยความตกใจไม่น้อย แต่เจิ้งเล่อกลับมีท่าทีภาคภูมิใจ สีหน้าโอ้อวด “เจ้านายไม่ต้องกลัว ดวงไฟเหล่านี้ผมเป็นคนจุดมันขึ้นมาเอง” ฉันตกตะลึง “จริงเหรอเนี่ย เธอเพิ่งจะมาเป็นกุมารทองได้ไม่นาน ทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้ได้แล้วล่ะ? ฉันยังไม่เคยสอนเวทมนตร์อะไรให้เธอเลยนะ” “ใช่แล้ว ผมถึงเรียกให้คุณมาดูไง คุณดูของสิ่งนี้สิ ผมแค่สัมผัสมันเท่านั้นก็เรียนรู้การถ่ายทอดพลังหยินแล้ว แถมยังจุดไฟผีพวกนี้ได้อีกด้วย” เจิ้งเล่อพูดแล้วก็เคลื่อนย้ายดวงไฟลงมาเพื่อจุดแสงสว่างให้กับสิ่งของด้านล่าง ตอนนี้ฉันเพิ่งสังเกตเห็น บนพื้นยังมีของรูปทรงยาววางอยู่ชิ้นหนึ่ง ดูจากรูปทรงเหมือนดาบสั้น ด้านบนมีฝุ่นเกาะหนาทึบ แลดูมีอายุพอสมควร ฉันเหลือบมองเจิ้งเล่อ ถามเขาว่าฉันสามารถหยิบของสิ่งนี้ขึ้นมาได้หรือไม่ เจิ้งเล่อพยักหน้าหงึกๆ บอกด้วยความตื่นเต้นดีใจว่าของสิ่งนี้วิเศษมาก เดี๋ยวฉันหยิบมันขึ้นมาก็จะรู้เอง เขาพูดอย่างโอ้อวดเช่นนี้แถมยังมีท่าทีตื่นเต้นเสียมากมาย ฉันจึงอดสงสัยไม่ได้ เป่าฝุ่นที่เกาะด้านบนออก เผยให้เห็นถึงสิ่งของด้านใน มันคือดาบสั้นจริงๆ ภายนอกมีลวดลายสวยงาม ด้านบนสลักลวดลายรูปปลาเอาไว้ ไม่ต่างจากโบราณวัตถุที่จัดแสดงอยู่ในพิพิธภัณฑ์เท่าไร เซียวเหย่ไม่ได้อยู่ข้างกายฉัน ฉันรู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย แต่เมื่อได้รับแรงสนับสนุนจากเจิ้งเล่อ ฉันจึงค่อยๆ หยิบดาบสั้นนั้นขึ้นมาอย่างระมัดระวัง เอาเข้ามาสำรวจดูใกล้ๆ เจิ้งเล่อดีอกดีใจอยู่ข้างๆ ราวกับลูกสุนัข ขาดก็แต่ไม่ได้กระดิกหางให้ฉันเท่านั้น จากนั้นเขาก็รีบถามฉันทันที “เป็นอย่างไร? รู้สึกยังไงบ้าง?” “ไม่มีความรู้สึกอะไรเลย…” ฉันอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้ เมื่อมองพิจารณาดาบสั้นนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว ถ้าจะให้พูดถึงความรู้สึก ก็คือดาบสั้นเล่มนี้มันค่อนข้างหนัก สิ่งของที่ดูรูปทรงไม่ใหญ่เท่าไรนัก แต่พอหยิบขึ้นมาอย่างน้อยๆ ต้องหนักประมาณห้าถึงหกชั่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ได้ทำมาจากโลหะทั่วไปแน่ นอกเหนือจากนี้แล้ว ดาบสั้นเล่มนี้ไม่ได้ให้ความรู้สึกผิดปกติใดๆ แก่ฉัน “เป็นไปได้ยังไง ด้านบนมันเต็มไปด้วยพลังหยินรวมกันจนจะล้นทะลักออกมาอยู่แล้ว ทำไมถึงไม่มีความรู้สึกล่ะ?” เจิ้งเล่อขมวดคิ้ว ท่าทางคิดไม่ตก“ ฉันเห็นเขายืนยันอย่างหนักแน่น จึงลองพิจารณาดูอีกครั้ง แต่ไม่ว่าจะลองพิจารณาดูแค่ไหน ของสิ่งนี้ก็นอนนิ่งอยู่ในมือของฉัน ไม่มีอุณหภูมิใดๆ พลังหยินเต็มเปี่ยมอย่างที่เจิ้งเล่อบอก ฉันก็ไม่ได้รู้สึกถึงมันเลยแม้แต่น้อย หลังจากดูไปดูมาอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อไม่ได้อะไรขึ้นมาฉันจึงถามเจิ้งเล่อว่านอกจากของสิ่งนี้แล้วที่นี่ยังมีของสิ่งอื่นอีกหรือไม่ อย่างเช่นของที่เต็มไปด้วยพลังหยาง ที่ไม่ได้ถูกเก็บไว้ในร่างกักเก็บแล้วถูกเก็บซ่อนเอาไว้ที่นี่บ้าง แต่เจิ้งเล่อก็ส่ายหน้าอย่างผิดหวังแล้วบอกว่าเขาสำรวจภายในถ้ำจนทั่วแล้วพบแต่เพียงดาบสั้นเล่มนี้เท่านั้น ไม่มีอย่างอื่น อีกอย่างเขาออกไปไม่ได้ เมื่อได้ยินเสียงฉันดังมาจากข้างนอกจึงพยายามรวบรวมพลังหยินของตัวเองส่งออกไปด้านนอกเพื่อดึงดูดให้ฉันเข้ามา ฉันพยักหน้า ในเมื่อถ้ำนี้ไม่มีร่างกักเก็บพลังหยางพวกเราก็อย่าคุยกันให้เสียเวลาอีกเลย ฉันบอกเจิ้งเล่อว่าจะพาเขาออกไปข้างนอก เขารอคอยมานานแล้ว เราเดินไปตามทางที่มุ่งหน้าออกไปข้างนอก ขณะที่เดินมาถึงยังผนังหินที่อยู่สุดทาง ฉันก็ใช้วิธีเดียวกับตอนเข้ามาคือยื่นมือออกไปข้างนอก เพียงแต่ครั้งนี้มือของฉันไม่ทะลุออกไปด้านนอกเหมือนตอนเข้ามา แต่กลับสัมผัสกับผนังกำแพงที่หนาเตอะแทน เย็นเฉียบ แข็งแรง มั่นคง เหมือนเป็นแบบนี้มาตั้งแต่แรก! ฉันถึงกับมึนงงไปในทันที เหม่อมองผนังหินที่อยู่ตรงหน้า ถูกแล้วมันคือผนังหิน ข้างล่างก็คือถนนแคบๆ ฉันเดินเข้ามาทางนี้ แต่ทำไมตอนนี้ถึงออกไปไม่ได้แล้ว? เจิ้งเล่อยืนรอให้ฉันพาเขาออกไปด้วยสีหน้าตื่นเต้นดีใจอยู่ข้างๆ พอเห็นสถานการณ์ในตอนนี้ รอยยิ้มบนใบหน้าก็หุบลงทันที มองฉันด้วยความว่างเปล่า “เจ้านาย คุณก็ออกไปไม่ได้เหมือนกันเหรอ?” “อืม...” ฉันตอบด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ เจิ้งเล่อได้ยินดังนั้นก็หน้าเสียทันที พูดกับฉันด้วยสีหน้าเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด “ขอโทษครับเจ้านาย ผมนึกว่าคุณเข้ามาได้แล้วจะออกไปได้ ถ้ารู้ว่าเป็นอย่างนี้ผมไม่ติดต่อคุณดีกว่า...” เขายิ่งพูดยิ่งเสียใจ ยิ่งพูดยิ่งโทษตัวเอง พูดจนน้ำเสียงสุดท้ายมาพร้อมกับเสียงสะอื้น ฉันปวดหัวในทันที รีบบอกเขาว่าไม่เกี่ยวกับเขา ปลอบเขาอยู่นาน สุดท้ายฉันจึงพูดว่านี่ไม่ใช่เวลามานั่งโทษตัวเอง ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาวิธีออกไปให้ได้ เขาถึงได้ควบคุมอารมณ์ตัวเอง พอจัดการกับเจิ้งเล่อเรียบร้อยแล้ว ฉันก็รู้สึกเบื่อหน่าย ตอนแรกยังคิดว่าตัวเองมีโชค แต่ดูจากในตอนนี้แล้ว โชคของฉันคงได้ใช้ไปหมดแล้ว หาร่างกักเก็บพลังหยางไม่พบ แถมยังติดอยู่ในถ้ำที่คับแคบ ที่สำคัญที่สุดก็คือตอนนี้ไม่มีเซียวเหย่อยู่ข้างๆ เมื่อผ่านเรื่องราวมามากมาย ฉันรู้สึกขาดความรู้สึกปลอดภัยอย่างแสนสาหัส ขอเพียงมีเซียวเหย่อยู่ข้างๆ ฉันถึงรู้สึกอุ่นใจ ตอนนี้สิ่งที่ต้องทำก่อนก็คือติดต่อเซียวเหย่ให้ได้ แต่เมื่อครู่ตอนที่เซียวเหย่จะเข้ามาได้ชนเข้ากับผนังหินด้านนอก ถ้าจะให้เขาเข้ามาช่วยพวกเราคงเป็นไปไม่ได้ แต่ฉันเรียกชื่อของเซียวเหย่ผ่านกำแพงไปหลายครั้ง ไม่สนว่าจะได้รับความช่วยเหลือจากเขาหรือไม่ อย่างน้อยพอติดต่อเขาได้แล้ว โอกาสที่พวกเราจะออกไปจะได้มีมากขึ้นอีกหน่อย เรียกไปอย่างต่อเนื่องเจ็ดถึงแปดครั้ง ผนังหินก็มีแต่ความสงบเงียบ ไม่มีเสียงตอบรับกลับมาสักนิด เซียวเหย่น่าจะไม่ได้ยินเสียงของฉัน ฉันลองให้เจิ้งเล่อติดต่อเซียวเหย่ดู เมื่อครู่เขาติดต่อฉันได้ การติดต่อกับเซียวเหย่น่าจะไม่ใช่ปัญหาอะไร แต่เจิ้งเล่อปฏิเสธฉันทันที เขาบอกว่าเมื่อครู่ที่ติดต่อฉันได้นั้นไม่ได้พึ่งพาพลังหยินอย่างเดียว แต่อาศัยโทรจิตด้วย มันจะใช้ได้กับคนที่ตัวเองใกล้ชิดสนิทสนมด้วยเท่านั้น ดังนั้นเมื่อครู่ทุกคนที่อยู่ข้างนอกจึงไม่สามารถสัมผัสได้ มีเพียงความปรารถนาในใจของฉันเท่านั้นที่เข้ามาหาเจิ้งเล่อ ฉันปวดหัวทันที นี่ก็ไม่ได้ นั่นก็ไม่ได้ หรือว่าฉันจะถูกขังตายอยู่กับเจิ้งเล่อในนี้เสียแล้ว? แม้ฉันจะเข้มแข็งอีกสักแค่ไหน ตอนนี้ก็ยังอยากจะร้องไห้ แม้จะต้องตาย ฉันก็ยังอยากจะตายไปพร้อมกับเซียวเหย่ ตายอยู่กับเจิ้งเล่อในถ้ำนี้แล้วจะกลายเป็นผีอะไร? พอเห็นฉันน้ำตารื้น เจิ้งเล่อก็ยิ่งร้อนใจ ยิ่งโทษตัวเองเข้าไปใหญ่ เอาแต่ยอมรับผิด บอกว่าฉันคือคนที่เขาใกล้ชิดที่สุด เขาถูกขังอยู่ในนี้ก็พอแล้ว ไม่ควรลากฉันเข้ามาด้วยเลย อีกอย่างที่เขาอยากให้ฉันเข้ามาก็เพื่อจะให้ดูสมบัติล้ำค่านั้น ใครจะรู้ว่าสมบัติล้ำค่านั้นไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับฉันเลย... เมื่อก่อนเขาเป็นเด็กขี้อาย แต่ในตอนนี้กลับพูดมากแบบนี้ เหมือนมาบ่นพึมพำอะไรข้างหูฉันไม่จบไม่สิ้น ฉันแทบจะบ้าตายอยู่แล้ว แต่ตอนที่เขาบอกว่าฉันเป็นคนที่ใกล้ชิดที่สุดของเขา หัวใจฉันก็รู้สึกสั่นไหว เกิดความคิดผุดขึ้นมาทันที “เจิ้งเล่อ เธออย่าเพิ่งร้อนใจไป เมื่อครู่วิธีที่เธอลองติดต่อฉันน่ะ สอนฉันได้ไหม?” ฉันถามเจิ้งเล่อ เขาใช้วิธีพิเศษติดต่อฉันได้ เพราะเขาคือกุมารทองของฉัน ใกล้ชิดกับฉันที่สุด ในทางเดียวกัน เซียวเหย่ได้รับเลือดประจำเดือนของฉันไปถึงได้ขึ้นมาที่นี่ ก็ต้องเป็นคนที่ฉันใกล้ชิดที่สุดเช่นกัน ดังนั้นเมื่อใช้วิธีพิเศษเดียวกัน เจิ้งเล่อไม่สามารถติดต่อเซียวเหย่ได้ แต่ฉันทำได้! เมื่อคิดถึงตรงนี้ฉันก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาทันที เจิ้งเล่อเห็นฉันดีใจก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาเช่นกันแล้วตอบว่า “ได้ครับ แต่คุณเป็นคนมีชีวิต ต้องลองสัมผัสพลังหยินดูก่อน ค่อยๆ เรียนรู้มันไป” ฉันพยักหน้าหงึกๆ จะช้าหรือเร็วก็ไม่สำคัญ ขอเพียงสามารถออกไปได้ จะอย่างไรก็ได้ทั้งนั้น พูดจบเจิ้งเล่อก็ให้ฉันนั่งลง ร่างกายพิงผนังหินที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นนิ้วมือของเขาก็วางลงบนหน้าผากของฉันนิ้วหนึ่ง เส้นเล็กๆ สีดำได้ดูดซึมเข้ามาในหัวสมองของฉัน ความเยือกเย็นแล่นเข้ามาชั่วขณะ สมองของฉันรู้สึกปลอดโปร่ง ฉันหลับตาลงโดยไม่รู้ตัว จิตใต้สำนึกรวมกันอยู่ในหัวสมอง รู้สึกได้ถึงการเปลี่ยนแปลงภายในหัวอย่างจริงจัง “เข้าใจอย่างแท้จริง เห็นหยินเสี้ยนที่อยู่ในส้างดันเถียนของคุณไหม” เสียงของเจิ้งเล่อดังเข้ามาในหูของฉัน ฉันพยายามสัมผัสมันครู่หนึ่งแล้วส่ายหน้า ถามเจิ้งเล่อว่า “ส้างดันเถียนอยู่ที่ไหน?” “...” เจิ้งเล่อเงียบไปชั่วขณะ แต่เขาก็ยังคงบอกฉันว่า อยู่กึ่งกลางระหว่างหัวคิ้วทั้งสองข้าง เมื่อได้รับคำชี้แนะจากเขา ฉันก็เบนความสนใจทั้งหมดไปที่หน้าผากระหว่างคิ้ว เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานเท่าไร ในที่สุดก็รู้สึกเย็นเล็กน้อยที่หน้าผากระหว่างหัวคิ้ว เหมือนด้านบนดวงตาจะมีเส้นสีดำปรากฏขึ้น! “มีแล้ว!” เมื่อรับรู้ถึงเส้นสีดำแล้ว ฉันก็ตื่นเต้นดีใจทันที ใครจะคาดคิดเจิ้งเล่อบอกว่านี่เป็นเพียงแค่ก้าวแรกเท่านั้น เมื่อตระหนักรู้ถึงเส้นสีดำเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องพยายามเอาพลังหยินจากทุกทิศทางใส่เข้าไปในส้างดันเถียนให้ได้ คำพูดนี้ฟังดูเหมือนง่าย พลังหยินมันดูเหมือนภาพลวงตาและไม่ใช่อาหาร ไม่ใช่จะบอกให้ใส่ก็ใส่เข้าไปได้ ถึงแม้เจิ้งเล่อจะรับหน้าที่เป็นอาจารย์ของฉันในตอนนี้ แต่ร่างกายของเขาเป็นผี ความเข้าใจในพลังหยินเรียกได้ว่ามีติดตัวมาแต่กำเนิด ตอนนี้จะพูดกับฉันยังไม่เข้าใจ บอกแต่ว่าให้ฉันเข้าใจด้วยตัวเอง อันที่จริงการอัดพลังหยินใส่เข้าไปในส้างดันเถียนมันก็ถูกแล้ว แค่เพียงเอาพลังหยินใส่เข้าไปในส้างดันเถียนให้เต็ม ขั้นตอนต่อไปสามารถพูดได้ว่าเป็นขั้นตอนที่ทำให้สำเร็จ คำพูดนี้ พูดออกมาก็เหมือนไม่ได้พูด ฉันพยายามลองแล้วลองเล่า แต่ก็ยังไม่สามารถเอาพลังหยินใส่เข้าไปใส่ส้างดันเถียนได้ สุดท้ายก็ทนไม่ไหว จึงถามเจิ้งเล่อว่าให้เขาเอาใส่ให้ฉันหน่อยได้ไหม อันที่จริงเขาสามารถควบคุมพลังหยินได้ ฉันก็แค่หลับตาลง ไม่ขัดขืนในตอนที่เขาเอาพลังหยินยัดใส่เข้าไปในส้างดันเถียนก็พอแล้ว เจิ้งเล่อถอนหายใจ บอกว่าเรื่องคนอื่นช่วยเขาไม่ได้หรอก ต้องเป็นตัวเองหยั่งรู้เท่านั้น ถ้าหากเขาขืนเอาพลังหยินใส่เข้ามาในร่างกายของฉัน อาจจะทำให้ฉันเกิดอาการบาดเจ็บได้ ฉันยังคงไม่สามารถควบคุมพลังหยินได้ ส่งข่าวให้กับเซียวเหย่ไม่ได้ พูดจบเขาก็ให้กำลังใจฉัน บอกว่าถ้าหากฉันอยากจะเรียนรู้การควบคุมพลังหยิน นี่เป็นโอกาสครั้งเดียวในรอบหนึ่งพันปี ยังไงๆ ฉันเป็นคนที่มีชีวิต คนปกติทั่วไปที่อยากเห็นพลังหยิน เห็นผี ก็ต้องฝึกฝนมาเป็นเวลานานเพื่อเปิดตาของตัวเอง และเพราะเซียวเหย่เป็นสาเหตุหลัก สามารถมองเห็นพลังหยินได้โดยตรง บวกกับบรรยากาศมืดครึ้มที่แผ่ขยายไปรอบๆ มีพลังหยินมากมายให้ฉันได้เลือกใช้ ถ้าหากตอนนี้ไม่สามารถเข้าใจได้ รอให้ออกไปค่อยเรียนใหม่ก็ได้ แค่ค้นหาพลังหยินให้มากมายก็เพียงพอแล้วสำหรับฉัน เมื่อเขาพูดมาแบบนี้ สภาพแวดล้อมของสถานที่ที่ฉันอยู่ในตอนนี้มันย่อมได้เปรียบ อย่างน้อยสำหรับเซียนหยินหยางที่ได้ฝึกฝนพลังหยิน ที่นี่ถือว่าเป็นฮวงจุ้ยที่ล้ำค่า เมื่อเขาให้กำลังใจ ฉันก็กระฉับกระเฉงขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง พยายามสัมผัสพลังหยินจากส้างดันเถียน ลองสร้างความสัมพันธ์กับมัน แน่นอน ตามความคิดของฉัน หยินเซี่ยนเส้นนั้นค่อยขยับเขยื้อนเล็กน้อย! หยินเซี่ยนนั้นเกิดขึ้นมาจากพลังหยินอัดแน่นอย่างเข้มข้น ฉันสามารถควบคุมหยินเซี่ยนได้ จะสามารถใช้หยินเซี่ยนนี้เหมือนกระบวกตักน้ำ เอาพลังหยินจากด้านนอกเข้ามาแล้วรินใส่เข้าไปในส้างดันเถียนของฉันได้หรือเปล่านะ? 
已经是最新一章了
加载中