ตอนที่19 ผู้หญิงในรูปคนนั้น   1/    
已经是第一章了
ตอนที่19 ผู้หญิงในรูปคนนั้น
ตอนที่19 ผู้หญิงในรูปคนนั้น “ห้ะ” นัชชามองไปทางเขา “ฉันไปได้” “ดูสภาพตอนนี้สิ เธอจะไปยังไง” เธอพูดด้วยน้ำเสียงแน่วแน่ “ฉันไปได้” ถึงต้องคลานไปเธอก็ต้องไปให้ได้ ถ้าเธอพลาดโอกาสครั้งนี้ ไม่รู้ว่าต้องรอไปถึงเมื่อไหร่ ถึงแม้ว่าเตชิตแค่เอ่ยปากพูดเธอก็สามารถเข้าไปทำงานได้แล้ว แต่หลังจากที่เธอใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับเขามาหลายวันเขาไม่ใช่ผู้ชายที่จะใช้เส้นสายเพื่อเปิดโอกาสให้ใครง่ายๆ เพราะฉะนั้นเธอจะพลาดโอกาสครั้งนี้ไปไม่ได้ เตชิตนึกไม่ถึงว่าผู้หญิงที่ร้องไห้โวยวายเมื่อครู่วินาทีต่อมาจะกลายเป็นผู้หญิงที่จริงจังกับงานได้ขนาดนี้ ตอนแรกเขากะจะหาเวลาให้เธอไปสอบทีหลังแต่ตอนนี้คงม่จำเป็นแล้ว เตชิตมองด้วยสายตาที่แอบชื่นชม ยืนขึ้นแล้วพูดขึ้นด้วยเสียงที่ราบเรียบ “ถ้าไปได้ก็อย่าสายหละ” …………… นัชชาใจสู้มาก 10โมงเช้าเธอมายืนอยู่ที่หน้าประตูสำนักงานกฎหมาย เธอเดินมาถึงห้องประชุมB-201 พร้อมกับมีผู้หญิงประมาณ7-8คนนั่งอยู่ในแถว แต่ละคนดูเหมือนจะอายุแค่25-26ต้นๆถ้าใหญ่หน่อยก็ไม่น่าจะเกิน28-29 นัชชาก้มมองชุดของตัวเอง เป็นชุดที่เตชิตเลือกให้เมื่อคืน วันนี้เธอแต่งหน้าอ่อนๆและตั้งใจมัดผมขึ้นให้ดูเรียบร้อย “ได้ยินมาว่า เจ้าของบริษัทคุณเตชิตหล่อมากแถมยังดูดีมีระดับ วันนี้เขาจะทำการสัมภาษณ์เองรึเปล่า” มีผู้หญิงคนหนึ่งกำลังนั่งคุยเล่นกับเพื่อน “คงไม่หรอกมั้ง คุณเตชิตคงจะไม่มีเวลาว่างขนาดนั้น แต่ถ้าเกิดเป็นเขาแค่ได้เข้ามาก็คุ้มค่ามากแล้ว” นัชชาหันกลับไปมองที่ต้นเสียง ในใจคิด เขาไม่ได้ใจดีขนาดนั้น พวกเธอไม่รู้ใบหน้าจริงๆที่ซ่อนอยู่ภายใต้หน้ากากนั้นหรอก การสัมภาษณ์เริ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เตชิตกับHRอีก3คนนั่งพร้อมกันในห้อง สุดท้ายเหลือนัชชา ผู้ชายและผู้หญิงอีกอย่างละคน “เดี๋ยวจะเริ่มการสัมภาษณ์เดี่ยว เตรียมตัวให้พร้อม” หัวหน้าHRพูดจบก็เดินเข้าไปในห้องที่ใช้ในการสอบสัมภาษณ์เดี่ยว เธออธิฐานขอให้ไม่ใช่เธอที่โดนเรียกสัมภาษณ์คนแรก แต่คนเรากลัวอะไรมักจะได้อย่างนั้น................................. “นัชชา เข้ามา” “………….” นัชชาเปิดประตูดูเข้ามานั่งที่เก้าอี้ตรงกลาง เงยหน้าขึ้นเพื่อทำการแนะนำตัว “สวัสดีค่ะ ฉันชื่อนัชชา เป็น.......” เธอพูดได้แค่นี้ก็ตกใจอึ้งกับภาพตรงหน้า มีผู้ชายในเสื้อสีขาวกับสูทนอกสีดำนั่งอยู่ตรงกลาง เป็นเตชิต เขาเป็นคนสัมภาษณ์งานจริงๆด้วย “คุณนัชชา” HRเรียกเตือนเพราะเห็นเธอนิ่งเงียบไป นัชชาดึงสติตัวเองกลับมา แต่ทุกครั้งที่สบตาเตชิตเธอก็อดไม่ได้ที่จะตื่นเต้น “ฉันเห็นคุณจบจากมหาวิทยาลัยเมื่อปีที่แล้ว แต่ก็ไม่เคยทำงานมาโดย1ปีตลอด เป็นเพราะอะไรหรอคะ” นัชชารู้สึกอายกับคำถามนี้ “เพราะตอนนั้นมัวแต่รีบแต่งงาน เลยทำให้เสียโอกาสในการทำงานไป” “เห็นว่าคุณกำลังจะหย่า อยากรู้ว่าเป็นเพราะแบบนี้คุณถึงอยากกลับมาทำงานเกี่ยวกับกฎหมายรึเปล่า” HR ถามขึ้นมาแบบกะทันหันทำให้เธอตื่นเต้น ไม่รู้ว่าคำถามที่ถามมาต้องการ จะสื่อหรืออยากรู้อะไรกันแน่ เธอเลยพยักหน้าตอบรับไป “ใช่ค่ะ” ถามคำถามต่อมาเรื่อยๆจนถึงตอนนี้ เตชิตที่นั่งเงียบไม่เคยเปิดปากพูดอะไรเลยก็ถามขึ้น “คุณนัชชา 1ไม่มีประสบการณ์ในการทำงาน 2ไม่เคยมีประสบการณ์ในการทำงานโดยตรงมาก่อน ในฐานะที่มือใหม่ คุณคิดว่าคุณมีจุดเด่นด้านไหนที่ทางบริษัทต้องรับคุณเข้าทำงาน” นัชชาได้รู้สึกตื่นเต้นเหมือนความสัมพันธ์ที่หลับๆถูกเปิดเผย ทั้งๆที่ไม่มีใครสามารถรู้ได้ แต่เธอรู้สึกอาย ร้อนตัวอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะตอนนี้ ตอนที่เตชิตถาม เธอจำเป็นต้องมองหน้าและตอบเขาตาม มารยาท อยากหลบสายตาก็ไม่สามารถหลบได้ “ถึงแม้ว่าฉันจะไม่มีประสบการณ์ในการทำงานโดยตรงมาก่อน แต่เนื่องจากที่ จบมาจากมหาวิทยาลัยกฎหมายโดยตรง สอบเข้าไปในฐานะได้ทุนการศึกษานักเรียน ดีเด่น และจบด้วยเกรดเฉลี่ยอันดับต้นๆ งานวิจัยของฉันก็ถูกบันทึกไว้ ฉันคิดว่าข้อดีของฉันคือการที่ฉันเป็นมืออาชีพและเข้าใจกฎหมาย” “เข้าใจว่ายังไง” นัชชาตอบ “ทุกคนบอกว่ากฎหมายคือสิ่งตายตัว ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ฉันคิดว่ามันสามารถเปลี่ยนไปแปลงได้ โดยผ่านทนายที่ดีคนหนึ่ง มันสามารถออกมาได้นับพันรูปแบบ” เตชิตยกมุมปาก “คุณนัชชา คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่ทนายควรทำ” นัชชาเริ่มรู้สึกไม่ค่อยตื่นเต้นแล้ว “ฉันคิดว่าต้องมีความยุติธรรมและความสงบ ไม่ลำเอียง ” “คุณมาทำงานที่นี่เพราะคุณหย่ากับสามี คุณคิดว่าคุณจะทำสองข้อนั้นได้มั้ย” เตชิตถามต่อและมันเหมือนจะเป็นคำถามที่ไม่ได้ตั้งใจที่จะถามในตอนแรก นัชชาถึงได้รู้จุดประสงฆ์ที่ชัดเจนที่หัวหน้าHRถามเมื่อครู่เพราะกลัวว่าที่เธอมาทำงานเกี่ยวกับกฎหมายเพราะหย่ากับสามี เป็นการตัดใจจากอารมณ์ชั่ววูบพวกเขากลัวว่าเธอจะไม่จริงจังกับงาน นัชชารับแก้ตัว “ทำได้ค่ะ ที่กลับมาทำงานด้านนี้เป็นเพราะว่ามีเวลาและสามารถจดจ่อกับการทำงานมากพอ แต่ความจริงแล้วระหว่าง1ปีที่แต่งงานมาในใจก็คิดที่จะอยากกลับมาทำงานตลอดค่ะ” พอเธออธิบายแบบนี้มันทำให้คนฟังสบายใจขึ้น หลังจากนั้นเตชิตก็ไม่เอยปากถามอะไรอีกเลย แต่กลับกันกับผู้ชายที่นั่งอยู่ข้างเขาถามคำถามเกี่ยวกับการทำงานแบบเป็นมืออาชีพ นัชชาก็ตอบเขาไปทีละคำถาม หลังจากที่สัมภาษณ์จบ เธอลุกขึ้นทำให้หัวหน้าHRสังเกตเห็นถึงความแปลกประหลาด เธอจึงถาม “ขาคุณไปโดนอะไรมา” นัชชายิ้มตอบอย่างเขินอาย “ได้แผลมาจากการออกกำลังกาย ไม่ได้เป็นอะไรมากค่ะ เดี๋ยวไม่กี่วันก็หายค่ะ” หัวหน้าHRพูดล้อหลังจากที่นัชชาเดินออกไปแล้ว “แค่ออกกำลังกายยังสามารถล้มจนได้แผล เก่งใช้ได้เลย” เตชิตกำลังจะดูประวัติของคนต่อไปก็ต้องหยุดชะงักหลังจากที่ได้ยินคำพูดนี้ แววตาเขากำลังแอบยิ้มเยาะเธอแต่ก็ต้องรีบหยุดเพราะกลัวว่าคนอื่นจะเห็น ......... นัขขากำลังจะเตรียมตัวกลับหลังจากที่สัมภาษณ์เสร็จ แต่ก็โดนผู้ชายใส่เสื้อขาวรั้งไว้ “คุณนัชชา ผมเป็นเลขาของคุณเตชิตชื่อตรัณครับ คุณเตชิตบอกให้คุณไปรอเขาที่ห้อง” เขาพูดเสียงเบา เธอไม่ได้ถามอะไรเพราะเธอรู้ว่าอยู่ตรงนี้ไม่สะดวกที่จะพูด อะไรมากเลยเดินตามเขาไป แต่ตรัณไม่ได้พาเขาเดินไปที่ประตูหน้ากลับพาเธอเข้าไปในห้องทำงานแล้วรอดจากประตูบานเล็กของเขาเข้าไปในหองทำงานของเชิต นัชชาตกใจ “พวกคุณมีประตูลับแบบนี้ด้วยหรอ” “………..” ตรัณยกมุมปาก “คุณก็แค่คิดว่ามันเป็นประตูอีกบานที่เปิดเข้าทางข้างๆได้” ตรัณเทน้ำให้นัชชาเสร็จก็เดินออกจากห้องไปทิ้งไว้ให้เธออยู่ในห้องเพียงลำพังคนเดียว นั่งรอไปได้สักพักแต่ก็ยังไม่มีคนเข้ามา เธอเลยเดินไปดูหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะทำงานแต่สายตากลับสะดุดเข้ากับรูปถ่ายที่วางอยู่ข้างคอมพิวเตอร์ เป็นภาพถ่ายที่เก่าพอสมควร ผู้ชายในรูปแต่งตัวดูดีสะอาดสะอ้านกับผู้หญิงอีกคนที่ยิ้มแย้มแจ่มใสและกำลังถูกโอบไหล่ ท่าทางสนิทสนมกันมาก ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะดวงตาที่ไม่เคยเปลี่ยน นัชชาก็แทบจะไม่ได้ว่าผู้ขายคนนี้คือเตชิต
已经是最新一章了
加载中