ตอนที่ 43 นั่นฉันประจบคุณป้าต่างหาก
1/
ตอนที่ 43 นั่นฉันประจบคุณป้าต่างหาก
เกมรักลวงใจ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 43 นั่นฉันประจบคุณป้าต่างหาก
ตนที่ 43 นั่นฉันประจบคุณป้าต่างหาก ดวงดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า ลมพัดเย็นสบายในยามค่ำคืนแตกต่างจากอากาศร้อนอบอ้าวในตอนกลางวัน แสงไฟสีส้มนวลส่องสว่างไปทั่วห้องอาบน้ำ นาราพิงตัวอยู่กับขอบอ่างอาบน้ำท่าทางนี้ช่างงดงามราวกับเทพธิดา รอบตัวของเธอปกคลุมไปกลิ่นน้ำนม แก้มนวลของเธอเปลี่ยนเป็นสีชมพูเนื่องน้ำความร้อนของน้ำ เธอหลับตาลงและปล่อยสติให้ล่องลอยไปจนเข้าสู้ฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเธอมาสิบกว่าปี น้ำที่ล้นออกมาจากอ่างล้วนเป็นสีแดงของเลือด แขนข้างหนึ่งทิ้งตัวอยู่ข้างขอบอ่างและมีเลือดไหลทะลักออกมาจากบาดแผลไม่หยุด นารายืนอยู่บริเวณหน้าประตูตอนนั้นเธอยังเด็กนักพอเห็นภาพนั้นแข้งขาก็เกิดอ่อนแรงแต่เธอก็วิ่งเข้าไปหาแม่เธออย่างเร็วที่สุดแล้วคุกเข่ากับพื้นตะโกนเรียกแม่เธอเสียงดัง “คุณแม่ตื่นสิคะ คุณแม่……” เธอตะโกนเรียกแม่ด้วยความเสียใจแต่เสียงที่ตอบเธอกลับมามีเพียงเสียงน้ำไหลและเสียงสะท้อนของตัวเธอเอง และแล้วแม่เธอก็หลับใหลไปตลอดกาล ใบหน้าขาวซีดไร้สีเลือดราวกับดอกไม้ที่เหี่ยวเฉาแสดงให้เห็นว่าไร้ซึ่งสัญญาณชีพแล้ว! “ไม่……” นาราเบิกตาโพลงและตะโกนขึ้นมาเสียงดัง ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัวไม่มีที่สิ้นสุด กลับเข้าสู้ปัจจุบันที่เธอกำลังหอบหายใจอย่างแรงและใช้เวลาสักพักกว่าเธอจะได้สติ มันก็เป็นแค่ความฝัน! ภาพความจริงนี้ที่เป็นฝันร้ายที่ตามหลอกหลอนเธอมาสิบกว่าปี ทุกครั้งที่ฝันเห็นภาพนี้จะทำให้เธอย้อนกลับไปรู้สึกถึงความเสียใจและสิ้นหวัง พอมาผนวกรวมกันแล้วทำให้เธอเกลียดตระกูลหันมณีมากขึ้นเรื่อย ๆ แววตาเธอล่องลอย ใจเธอรู้สึกเหนื่อยล้าหลือเกินทำให้เธอหลับตาลงอีกครั้ง แต่เสียงโทรศัพท์ด้านนอกก็ดังขึ้น เธอจึงหยิบผ้าขนหนูมาพันรอบกายแล้วเดินเท้าเปล่าออกไป บริเวณที่เธอเดินผ่านมีรอยเท้าเล็กๆปรากฏอยู่บนพื้น เธอหยิบมือถือขึ้นมาดูแล้วมุมปากก็ยกยิ้ม เธอเดินไปหยุดอยู่ริมหน้าต่างแล้วจึงรับสาย นอกหน้าต่างมีแสงนีออนส่องสว่างตามจุดต่าง มีรถรามากมายวิ่งอยู่บนท้องถนน วินาทีนั้นจิตใจเธอล่องลอยออกไปแล้วแต่เสียงของธีมนต์เรียกสติเธอกลับมาสู่โลกแห่งความจริง “เรื่องของแม่ผมต้องขอบคุณคุณมากนะครับ” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเอ่ยขอบคุณเธอ นารายิ้มจางๆแล้วตอบกลับ “ไม่เป็นไรหรอกค่ะ นั่นฉันประจบแม่คุณต่างหาก ไม่อย่างนั้นอีกหน่อยแม่คุณคงไม่ปล่อยให้เราอยู่อย่างสงบสุขแน่” เธอตอบกลับอย่างขำขันทำให้ธีมนต์หัวเราะออกมา คนที่แอบฟังอยู่ข้างๆตลอดอย่างคุณหญิงเพ็ญรดีก็รีบเอ่ยขึ้น “ถามหล่อนว่าอยากกินอะไร?” ธีมนต์ยังไม่ได้เอ่ยปากถาม คนหูดีที่อยู่อีกฟากอย่างนาราก็ได้ยินเสียก่อนจึงเอ่ยขึ้นอย่างไม่เกรงใจ “ผัดเปรี้ยวหวานซี่โครง ไก่ต้มซีอิ๊วแล้วก็หมูตุ๋นน้ำแดง อาหารเหล่านี้ล้วนเป็นอาหารประจำบ้าน ฉันไม่อยากลำบากแม่คุณ ” คุณหญิงเพ็ญรดีจึงพึมพำขึ้นมา “นี่ยัยจิ้งจอกดูถูกฉันไปหน่อยแล้ว!” เนื่องจากธีมนต์เป็นคนเลือกกินตั้งแต่เด็กฝีมือการทำอาหารของเธอจึงถูกฝึกปรือจนสามารถเทียบกับเชฟได้ และนี่ก็เป็นสิ่งที่เธอภาคภูมิใจ นาราตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆ “คุณป้าทำอาหารประจำบ้านพวกนี้ได้อร่อยมาก” ไม่มีใครรู้ว่าเธอชอบอาหารที่มีกลิ่นอายของครอบครัวมากขนาดไหน นี่เป็นสิ่งที่เธอใฝ่ฝันแต่เธอกลับไม่เคยได้รับมันเลย ธีมนต์ได้ยินดังนั้นจึงเอ่ยขึ้นแกมหยอกล้อ “ทำไมกินแต่เนื้อ” ในขณะเดียวกันก็เป็นห่วงเธอด้วย “กินเยอะขนาดนี้ก็ไม่เห็นจะอ้วนขึ้นกอดทีก็มีแต่กระดูก เธอเอาไปเก็บไว้ที่ไหนหมด?” นาราไร้คำจะพูด “ระบบย่อยอาหารฉันดีต่างหาก ผอมแล้วสวยคุณไม่เข้าใจหรอก” ธีมนต์เดินออกจากบริเวณที่คุณหญิงเพ็ญรดีจะได้ยินแล้วเขาจึงเอ่ยถ้อยคำหยาบโลนได้ “ส่วนที่ต้องมีเนื้อก็ยังมีอยู่สวยจริงๆนั่นแหละ” คำพูดแบบนี้ออกมาจากปากเขาไม่ได้ทำให้คนฟังรู้สึกรังเกียจหรือคิดว่าลามก แต่กลับทำให้เขาดูมีเสน่ห์มากขึ้น “ธีมนต์คุณมันเจ้าชายจอมปลอมเป็นพระสงฆ์ที่กินเนื้อ” นาราจำได้ว่าเจอเขาครั้งแรกที่ศาล ตอนนั้นเขาดูสุขุมเยือกเย็นให้ความรู้สึกไม่กล้าเข้าใกล้ คิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายดูภายนอกไม่ได้เลยจริงๆ “ใช่แล้วล่ะ ผมเป็นพระสงฆ์ที่กินเนื้อ ผมลงจากเทือกเขาเพื่อตั้งใจมากินปีศาจตัวน้อยอย่างคุณโดยเฉพาะ” ธีมนต์เอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาสาบานแล้วว่าต่อหน้าเธอเขาจะต่ำให้ถึงที่สุด นาราได้ยินคำพูดตอบของเขาก็อึ้งไปสักพักแล้วรีบเอาคืน “ปีศาจอย่างฉันคุณไม่มีทางได้กินง่ายๆหรอก” แสงนีออนด้านนอกสะท้อนกับใบหน้ารูปไข่ของเธอ ดวงตาฉ่ำวาวเป็นประกาย ทั้งหมดนี้ทำให้เธอดูเหมือนปีศาจอยู่ไม่น้อย ธีมนต์ไม่ปฏิเสธ “ผมรู้ดีเพราะคุณสามารถหาเหตุผลและข้ออ้างได้ไม่ซ้ำกันเลยในแต่ละครั้ง สรุปแล้วก็คือปล่อยให้ผมอยากนั่นแหละ” เขาหมายถึงเมื่อหลายวันก่อนที่อยู่บนเรือ คืนนั้นพวกเขาตีกันอยู่บนเตียง พอเขาพลิกตัวกลับมาก็พบว่าเธอหลับลึกไปแล้ว ความจริงเขาอยากทำอะไรต่อมิอะไรเธอไปเลยด้วยซ้ำ แต่เขาก็นึกถึงคำพูดของเธอที่ว่า ‘ข่มขืนศพ’ ความต้องการของเขาก็มลายหายไปหมด นารารู้สึกว่าพวกเธอควรจบบทสนทนาไว้เพียงเท่านี้จึงหาข้ออ้างแล้ววางสายไป เธอโยนมือถือไว้ข้างๆแล้วนั่งพิงลงบนโซฟา แววตาของเธอดูว่างเปล่า การต่อกรของเธอแหละเขาเป็นแค่เกมๆหนึ่งมาตั้งแต่ต้น เธอไม่มีทางปล่อยให้ใครเข้ามาอยู่ในหัวใจเธอได้ง่ายๆ บางทีหัวใจอันบอบช้ำของเธอคงไม่สามารถรับใครอีกคนเข้ามาได้อีก ** วันต่อมาอากาศแจ่มใสมีเมฆสีขาวล่องลอยอยู่บนท้องฟ้าและมีลมพัดเอื่อยๆ ภายใต้การวางแผนของณัฐนิชทำให้จรรย์ธรออกจากโรงพยาบาลอย่างเงียบๆ เรื่องข่าวฉาวของเธอนั้นผ่านไปเกือบสิบวันแล้ว จากการยัดเงินใต้โต๊ะของตระกูลหันมณีทำให้ตอนนี้ไม่มีสำนักข่าวไหนลงข่าวอีก ส่วนด้านการวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คนชื่อของเธอก็ค่อยๆหายไปจากบทสนทนา แต่เธอก็ยังสวมทั้งหมวก แว่นกันแดดและผ้าปิดปากครบเซ็ตไปเยี่ยมคุณหญิงเพ็ญรดี ตอนเดินออกจากลิฟต์คนที่ถือกระเช้าผลไม้อย่างจรรย์ธรก็เกิดตื่นเต้นขึ้นมา “คุณแม่ หนูไปเยี่ยมคุณหญิงด้วยสภาพนี้จะทำให้แกตกใจหรือเปล่าคะ?” วันนี้ณัฐนิชแต่งตัวค่อนข้างเป็นกันเองเพียงแต่ใบหน้าที่เต็มไปด้วยเครื่องสำอางหนาๆนั้นกลับดูสวนทางกับการแต่งกาย เธอเอ่ยปลอบใจลูกสาวตัวเอง “วางใจได้ คุณหญิงเพ็ญรดีจะเข้าใจแก หลังจากเข้าไปแล้วต้องพูดเพราะๆจำไว้ให้ดีล่ะ” “ค่ะ” จรรย์ธรปรับอารมณ์ตัวเองแล้วยืดตัวขึ้นตรง คุณหญิงเพ็ญรดีกำลังนั่งอ่านนิตยสารแฟชั่นอยู่ริมหน้าต่างก็เห็นว่ามีคนเดินเข้ามาสองคน เธออึ้งไปสักพัก เป็นสองคนที่เธอคิดไม่ถึงว่าจะมาแต่ก็มา สิ่งแรกที่คุณหญิงเพ็ญรดีกวาดสายตามองคือใบหน้าของจรรย์ธร เธอจึงถอดแว่นกันแดดและผ้าปิดปากออกตอนที่คุณหญิงมองหน้าเธอ เธอตั้งใจทำตัวนิ่งๆแล้วเอ่ยทักทายอย่างเป็นกันเอง “ได้ข่าวว่าคุณป้าประสบอุบัติเหตุหนูเลยมาเยี่ยมค่ะ ตอนนี้อาการคุณป้าดีขึ้นหรือยังคะ?” คุณหญิงเพ็ญรดีจ้องจมูกเธอนานมาก มองใบหน้าที่ไม่ได้รูปอย่างแต่ก่อนก็รู้สึกรังเกียจนิดๆ แต่ก็เอ่ยขึ้นอย่างมีมารยาท “อาการของฉันดีขึ้นมาแล้วล่ะ ขอบคุณที่มาเยี่ยม!” ณัฐนิชจึงรีบเสนอหน้าด้วยรอยยิ้ม “คุณหญิงคะ วันนี้เราไม่ได้เตรียมของเยี่ยมมาเพียบพร้อมมีแค่กระเช้าผลไม้ คุณหญิงไม่รังเกียจนะคะ” เมื่อเทียบกับจรรย์ธรเธอแสดงออกได้เป็นธรรมชาติกว่า รอยยิ้มที่ดูกระตือรือร้นนั้นทำให้คุณหญิงเพ็ญรดีไม่รู้จะทำหน้ายังไงไปชั่วขณะ “ไม่หรอกแค่มีใจมาเยี่ยมก็พอ นั่งกันก่อนไหม!” คุณหญิงเพ็ญรดีเห็นพวกเธอกระตือรือร้นขนาดนี้ก็ไม่รู้จะทำยังไง จะไล่ออกไปก็รู้สึกว่าตัวเองจะกลายเป็นคนไม่มีความจริงใจ ณัฐนิชรีบส่งสายตาให้ลูกสาวตัวเองแล้วพากันนั่งลงอย่างดีใจ เห็นท่าทางของคุณหญิงเพ็ญรดีไม่ได้แตกต่างจากเมื่อก่อนมากนัก ความมั่นใจของจรรย์ธรจึงเพิ่มมากขึ้น เธอเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าไม่ดีนัก “คุณป้าคงได้ข่าวเรื่องของหนูแล้วใช่ไหมคะ?” คุณหญิงเพ็ญรดีคิดไม่ถึงว่าเธอจะเป็นคนเริ่มพูดถึงเรื่องข่าวฉาวเหล่านั้นจึงอึ้งไปเล็กน้อย “ได้ข่าวแล้วล่ะ แต่ก็เป็นเสียงลือเสียงเล่าอ้างล่ะนะ ฉันเลยไม่ได้สนใจมากมาย” หลังคำพูดออกจากปาก คุณหญิงเพ็ญรดีก็ถอนหายใจกับตัวเองเงียบๆ เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นใจดีเกินไปทั้งๆที่เธอออกจะรังเกียจใบหน้าของจรรย์ธรเสียขนาดนั้น
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 43 นั่นฉันประจบคุณป้าต่างหาก
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A