ตอนที่ 25 ผู้ต้องหาในคดี   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 25 ผู้ต้องหาในคดี
ต๭นที่ 25 ผู้ต้องหาในคดี คุณคือคนที่ฉันรัก แต่มีฉันคุณสมบัติอะไรบ้าง? ฉันไม่ได้พูด เม้มปากเอาไว้ ปล่อยให้ศรัณระบายความโกรธแค้นบนเรือนร่างของฉัน ไหล่ของฉันถูกเขากัดจนเลือดไหลออกมา แผลคล้ายกับแวมไพร์ดูดเลือด มันกลับทำให้ฉันพอใจกับความเจ็บปวด อาจจะเป็นความละลายใจของฉัน ฉันต้องการให้ความเจ็บปวดกลับมา เขาเข้ามาในตัวฉันและเรียกร้องมันอย่างดุเดือด ฉันไม่มีพลังที่จะจัดการกับมัน แต่ฉันถูกบังคับให้ต้องทนมัน ในที่สุดฉันก็หมดสติอยู่บนเตียง “ขอโทษ, ขอโทษ, มันเป็นความผิดของฉัน, ฉันไม่ควรทำร้ายคุณ!” ในหูมีแต่เสียงกระหึ่มซ้ำแล้วซ้ำอีกที่มาพร้อมกับความเจ็บปวดและความจำใจ เสียงนั่นคือเสียงของศรัณ คนที่ฉันรัก ฉันค่อยๆลืมตา ในเวลานี้ฉันยังคงเปลือยกาย เขากอดฉันแน่นและร่างกายของเราแนบชิดติดกัน การที่ร่างกายแนบชิดติดกันเป็นเรื่องที่ทำให้คนมีความสุข ฉันแค่รู้สึกว่าตอนนี้มีแค่ฉันที่มีความสุขมาก “ไม่เป็นไร”ฉันจับที่ใบหน้าของเขาใช้นิ้วมือลูบไล้ที่คางสากสีเขียวครึ้มของเขา “คุณไม่จำเป็นต้องพูดขอโทษ ฉันเองที่ต้องขอโทษคุณ” “เวธนีฉันจะไม่เชื่อในสิ่งที่ใครพูด คุณเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฉันฟัง ฉันแค่เชื่อในสิ่งที่คุณพูด”ศรัณซุกที่ซอกคอของฉันและหายใจลึก ๆ ฉันเป็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจอยู่แล้ว ถ้าเขารู้ทุกอย่าง เขาจะคิดอย่างไรกับฉัน ตอนแรกฉันแค่อยากจะยืมมือเขา เพราะภูษิตมีลูกไม่ได้ เขาเป็นแค่เครื่องมือผลิตลูกสำหรับฉัน เขาเป็นคนคนหนึ่งที่ภูมิใจในตนเอง ถูกฉันทำให้เสียชื่อ ถ้ารู้ความจริงเขาจะให้อภัยฉันไหม? “รอหน่อยนะ รอฉันเตรียมใจให้พร้อม “ ฉันขอร้องเขา แต่ฉันแค่ต้องการความอบอุ่นเพิ่มขึ้นอีกนิด ทำไมฉันถึงได้เห็นแก่ตัวขนาดนี้? อาจจะเพราะว่าฉันไม่เคยได้รับความอบอุ่น ฉะนั้นก็เลยกลัวความอบอุ่นที่เคยได้รับจะจางหายไปเลยไม่ยอมปล่อยมือจากมัน ฉันมันช่างเห็นแก่ตัวน่าทุเรศ ฉันสลัดทิ้งตัวตนแบบนี้ แต่มันติดแน่นมาก ฉันไม่เห็นความหวังใด ๆ ช่วงเวลาที่อยู่กับศรัณก็เหมือนกับตัดขาดจากโลกภายนอก ฉันไม่ต้องคิดอะไรเลยแค่อยู่กับเขา ไม่มีใครรบกวนเรา ไม่ต้องกังวลกับสายตาที่จับจ้อง ไม่คิดถึงครอบครัว ไม่ต้องกังวลอีกต่อไปฉันกอดเขาจูบแล้วหัวเราะ บางทีมันอาจจะเป็นภาพลวงตา ฉันสามารถดูพระอาทิตย์ตกนี้เคียงข้างกับเขาตลอดชีวิต จนกระทั่งผมเราหงอก แก่ไปด้วยกัน แต่ในไม่ช้าความสงบนี้ก็ถูกทำลายโดยตำรวจที่มาถึง ศรัณกับฉันมองหน้ากัน “สวัสดี ฉันชื่อรมย์รุจี เจ้าหน้าที่ตำรวจเราได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าคุณศรัณได้บุกรุกบ้านเมื่อสองสามวันก่อนและถูกบังคับให้พาคุณเวธณีภรรยาของเจ้าของบ้านหนี เพราะคุณถูกสงสัยว่าบุกรุกเข้าบ้านและกักขังหน่วงเหนี่ยว หวังว่าคุณสามารถร่วมมือกับการสอบสวนของเราได้ “เจ้าหน้าที่ตำรวจแสดงบัตรตำรวจของเขา ด้านหลังก็คือภูษิต “ นี ในที่สุดฉันก็พบเธอ เธอไม่รู้หรอกฉันกำลังหาเธออยู่ทุกวัน เธอถูกบังคับให้มาที่นี่ รู้ไหมว่าที่บ้านเป็นห่วงเธอมาก?”ภูษิตทำท่าห่วงใยซะจนฉันอยากจะอ้วกออกมา เป็นไปได้ไหมที่เขาจะไม่ทำตัวไร้ยางอายแบบนี้! “ ไม่! มันไม่ใช่อย่างนั้น! ฉัน ”ฉันก้าวออกไปอย่างโกรธเคือง แต่ก่อนที่ฉันจะพูดจบฉันถูกขัดจังหวะโดยศรัณ “โอเคฉันให้ความร่วมมือกับการสอบสวน แต่ฉันหวังว่าคุณจะตรวจสอบทางคุณภูษิตและความรุนแรงในครอบครัวของเขาด้วยฉันเพิ่งช่วยผู้หญิงคนนี้และปล่อยให้เธอรักษาอาการบาดเจ็บที่นี่”ศรัณยิ้มให้ฉัน สายตาอันทะมึนของเขาเต็มไปด้วยหลายสิ่งที่ฉันไม่เข้าใจ “เธอเป็นภรรยาของฉัน เรื่องของเราสองคน คนเป็นคนนอกยื่นมือเข้ามายุ่งทำไมฉันแทบไม่รู้จักคุณเลย คุณพาภรรยาฉันไปตั้งกี่วันไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าคุณทำอะไรบ้าง คุณอาจจะไม่ยอมภรรยาของผมติดต่อโลกกับภายนอก คุณกักขังหน่วงเหนี่ยว! “ภูษิตพูดอย่างคนที่รู้กฎหมายและมองมาที่ฉันอย่างสะใจ “คุณภูษิต คุณมันหน้าไม่อาย ! ฉันเกือบถูกฆ่าตายแล้วคุณแกล้งเป็นคนแล้วมาที่นี่ ! ฉันทนไม่ได้อีกต่อไป ฉันไม่สามารถให้ศรัณต้องมาเป็นแพะรับบาป ผู้คนรอบตัวฉันมองฉันด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป คล้ายกับดูถูกฉัน เจ้าหน้าที่รมย์รุจีมองเราสองสามครั้ง “ คุณคือคุณเวธนี ภรรยาของคุณภูษิต เขาเป็นห่วงคุณมาก ส่วนเรื่องอื่น ๆ รอเรากลับไปที่สถานีตำรวจแล้วจะทำการสอบสวนอย่างละเอียด . “ “โอเค ฉันจะไปกับพวกคุณ แต่รอให้ฉันแจ้งทนายของฉันก่อน” ศรัณดึงฉันและสายตาของเขาอยากจะพูดอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นฉันก็รู้สึกกังวลและหมดหนทาง ฉันเห็นศรัณทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทโอต้า เขาต้องเจอกับอะไรต่างเมื่อมาคบกับฉัน ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ ต้องถูกลากลงมา กระทั่งต้องถูกตำรวจพากันไปที่สถานีตำรวจเพื่อสอบสวน และยังอะไรที่คิดเผื่อฉัน เขากลัวว่าคนอื่นจะดูถูกฉันหาว่าทำไมผู้หญิงที่แต่งงานแล้วถึงจะได้มายุ่งกับเขาตั้งนาน เขาอยากจะรับผิดชอบทุกอย่างด้วยตัวเอง เขาไม่ต้องการให้คนอื่นพูดว่าฉันเป็นผู้หญิงหลายใจ ไม่ต้องการให้ฉันถูกวิพากษ์วิจารณ์ ดวงอาทิตย์ส่องแสงแวววาวบนดวงตาที่ดูดีของเขา ฉันมองเขาแล้วก็น้ำตาไหลออกมาโดยไม่ตั้งใจ ศรัณพูดกับฉันด้วยรอยยิ้มที่อ่อนโยน “ฉันสบายดีและไม่ต้องเป็นห่วง” หลังจากศรัณโทรศัพท์เสร็จ ทนายก็รีบมาอย่างเร็วและไปที่สถานีตำรวจพร้อมกับศรัณ ฉันไปด้วยกันเพื่อเป็นพยาน ในตอนนี้ฉันก็สงบลงและไม่คิดถึงเรื่องอะไรทั้งนั้น ดูแล้วศรัณสามารถจัดการเรื่องเหล่านี้ได้ ฉันบังคับตัวเองให้สงบลงและให้เชื่อมั่นในตัวเขา “ เวธนี เธอรู้ไหมว่าฉันมาที่นี่วันนี้ได้อย่างไร ฉันตามหาคุณตลอด กินข้าวกินปลาไม่ลง นอนก็ไม่หลับ วันวันคิดแค่ว่าเธอจะเป็นอย่างไร ในที่สุดก็หาเธอเจอ ! เขารีบไปที่ด้านข้างของฉันและฉันไม่สามารถผลักออกได้ ตอนที่ไม่ทันระวังเขาก็กอดฉัน เขาเกิดมาเพื่อเป็นนักแสดงจริงๆ ฉันเห็นศรัณกำกำปั้นของเขาไว้และแสงวิบวับก็ส่องประกายในดวงตาอันเย็นชาของเขาของเขา “ไปซะ!” ฉันผลักภูษิตอย่างแรงและมองเขาอย่างแค้นเคือง “คุณไม่คิดว่าคุณน่าขยะแขยงหรอกหรือ คุณเกือบจะฆ่าฉันแล้ว คุณมาทำอะไรที่นี่?.คนคนนี้ทำให้ฉันเกลียดเข้ากระดูกดำ ภูษิตยังคงไม่ยอมแพ้ เขาจับมือฉันด้วยท่าทีอันลึกซึ้ง แต่สายตาของเขาอยากให้ศรัณมองมากและเขาก็ยั่วยุมาก “เธอเป็นภรรยาของฉัน ฉันจะทำคุณได้อย่างไร? ทำไมถึงพูดแบบนี้” เขาแกล้งทำเป็นว่าเขาไม่ได้ทำอะไรเลย! ในสมองของศรัณแทบเต้น สายตาเกลียดชังจ้องมองมือของภูษิตที่กุมมือฉันไว้ ฉันพยายามอย่างมากเพื่อที่จะสลัดมือให้หลุด แต่ไม่ว่าจะทำอย่างไรก็สะบัดไม่หลุด มีเพียงฉันเท่านั้นที่เห็นว่าสีหน้าของเขาเหี้ยมโหดแค่ไหน เขาอยากจะทำร้ายศรัณ คุณดูสิ พวกเราถึงจะเรียกสามีและภรรยา เราใกล้ชิดสนิทกัน ฉันสามารถแสดงความรักได้ คุณทำได้ไหม ไม่ต้องพูดถึงความเจ็บปวดในมือของฉัน ฉันไม่สามารถสะบัดออกได้ ทุกการสัมผัสของเขาทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยงและหมดเรี่ยวแรงเหมือนพลาสเตอร์หนังหมา ไร้ค่าติดแน่นที่ไม่สามารถทิ้งได้ ศรัณถูกนำตัวไปสอบสวนและฉันต้องรออยู่ข้างนอก ฝ่ายภูษิตเขาก็แสดงใบหน้าที่แท้จริงของเขา “เป็นห่วงมากใช่ไหม โอ้ ฉันขยะแขยงพวกเธอ ! คุณมันผู้หญิงสำส่อนแพศยา เพราะเรื่องแบบนี้ที่วุ่นวายจนมาถึงสถานีตำรวจ ทำให้ทุกคนรู้ว่าทายาทของบริษัทโอต้าเป็นคนที่ชอบยุ่งกับภรรยาของคนอื่น ฉันต้องการให้เขาเสียหน้า! “ภูษิตหัวเราะเสียงดัง ในสถานีตำรวจมีคนอยู่แทบทุกประเภท พวกที่สร้างเรื่องจนถูกจับเข้ามา ขโมย เด็กที่หลงทางเสียงดัง ฉันเพียงคนเดียวที่สงบเป็นพิเศษและฉันไม่ได้ทะเลาะกับเขา ฉันพูดอย่างเย็นชา ว่า “ใช่ทุกคนรู้ว่าคุณไม่ได้นอกใจและหลายคนรู้ว่าคุณมีลูกไม่ได้ คุณขอให้ภรรยาหลอกลวงคนอื่นเพื่อที่จะมีลูกให้คุณ เพื่อแย่งทรัพย์สมบัติ ถ้าพี่ชายของคุณจะรู้เข้าเขาก็คงดีใจ? “ นี่คือสิ่งที่ภูษิตใส่ใจมากที่สุด มันเกี่ยวข้องชื่อเสียงหน้าตาของเขา เขาจะให้คนอื่นรู้ไม่ได้ เขาทำทุกอย่างในวันนี้ก็เพื่ออยากให้ฉันกับศรัณพัง เมื่อฉันสงบสติอารมณ์ลงได้ ฉันก็เริ่มจะเข้าใจในสิ่งที่เขาคิด แค่ต้องการบังคับให้ฉันกับศรัณขาดกัน เขาขยะแขยงพวกเรา เขาไม่กล้าที่จะสู้กันจนพังไปหมดทั้งสองฝ่าย และอีกฝ่ายคือศรัณซึ่งเป็นทายาทในอนาคตของตระกูลสิริกันต์ เขาเองไม่สามารถล่วงเกินได้ ภูษิตโกรธมากเขากัดฟันกร็อกแล้วพูดว่า “อย่าลืมสิเวธนี ความลับของครอบครัวเธอยังอยู่ในมือฉัน เธอไม่อยากให้พ่อของมีชีวิตที่ดีเหรอ !” เขาขู่ฉัน นี่เป็นสิ่งเดียวที่ฉันใส่ใจ ฉันถามแม่มาหลายครั้งแล้ว ว่ามันคืออะไร มี แต่แม่ไม่เคยพูดเลยทำให้ฉันไม่เข้าใจมาก ถ้าพูดออกมาอาจมีทางออกสำหรับปัญหานี้ แต่แม่ไม่พูดอะไรเลย “ภูษิตคุณเป็นปีศาจจริงๆ”ฉันมองเขาอย่างโกรธแค้นและเขาทำลายชีวิตของฉัน! “เธอต้องรู้ว่าฉันรักเธอมากแค่ไหน ฉันตกหลุมรักเธอตั้งแต่แรกเห็น ตั้งแต่เธอถูกกำหนดให้เป็นภรรยาของฉัน แม้ว่าเธอจะตายก็ต้องตายในหลุมฝังศพของบรรพบุรุษของฉัน!”เขาหัวเราะอย่างไม่เกรงใจ ประกายในดวงตาเขาทำให้คนรู้สึกถึงความน่ากลัว ทำบนโลกนี้ถึงได้มีคนที่ทำให้รู้สึกถึงความตายทั้งเป็น? รักฉันเหรอ โอ้ รักฉันแต่ให้ฉันหลอกลวงคนอื่นเพื่อจะมีลูก ศรัณออกมาอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่รมณ์รุจีจับมือกับเขาอย่างสุภาพ “ฉันขอโทษฉันเข้าใจผิดจริงๆ ฉันไม่รู้ว่าคุณศรัณพยายามช่วยชีวิตผู้คน ต้องขอโทษจริงๆ “ ฉันยืนขึ้นและมองดูพวกเขาอย่างประหม่า ศรัณชักมือกลับมือของเขาแล้วมองไปที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ รมณ์รุจีแล้วพูดว่า “ฉันจะไม่สนใจที่ใครบางคนแจ้งความ แต่คุณต้องตรวจสอบอย่างรอบคอบ” คำพูดนั้นชัดเจนมาก “แน่นอน”เจ้าหน้าที่ตำรวจรมณ์รุจีกล่าวพร้อมก้มศีรษะลง ทนายตามหลังศรัณและพวกเขาก็มาหาฉันด้วยกัน “ไปกันเถอะ”ศรัณยื่นมือออกมาหาฉัน แต่ดวงตาของเขามองภูษิต ภูษิตโกรธมากในทันที”คุณจะทำอะไร! คุณรู้ไหมว่าความละอายคืออะไร คุณกำลังล่อลวงภรรยาของคนอื่น หน้าไม่อาย” เสียงตะโกนของเขาทำให้ทุกคนหันมามอง แต่ศรัณไม่สนใจว่ามือของเขายังอยู่ตรงหน้าฉัน ฉันสะบัดมันขึ้นมา ศรัณยิ้ม ขำขำ เขาพูดกับศรัณว่า “ฉันรักเธอ แล้วคุณล่ะ คนที่ใช้ความรุนแรงในครอบครัวอย่างคุณมีสิทธิ์อะไรมาบอกว่ารักเธอ แม้ว่าเธอจะเป็นภรรยาคุณแล้วยังไง ก็พวกเรารักกัน “ เขาสาบาน เขาอวดอ้างถึงความรักของเขาต่อฉัน เขาพูดอย่างมั่นใจมากว่า เขารักฉัน เขารักฉันมาก ทันใดนั้นฉันไม่คิดว่าฉันจะสนใจอะไรอีกต่อไป ฉันอยากอยู่กับผู้ชายคนนี้ตลอดไป “เวธนี เธอมันหน้าไม่อาย!”ทันใดนั้นก็รับรู้ถึงความโกรธแค้นที่อยู่ข้างหลัง ฉันก็มองกลับมาอย่างกังวลใจ คือแม่ของฉัน ที่กำลังมองพวกเรา 
已经是最新一章了
加载中