ตอนที่ 27 ฉันรักผู้หญิงคนนี้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 27 ฉันรักผู้หญิงคนนี้
ต๭นที่ 27 ฉันรักผู้หญิงคนนี้ ฉันออกแรงดึงเสื้อผ้าของเขาและร้องไห้ ทันทีที่ฉันเห็นเขาฉันก็ปล่อยวางความระแวดระวังทั้งหมดฉันรู้อย่างชัดเจนว่าฉันไม่สามารถหนีจากเขาไปได้ ”ศรัณ!ศรัณ! ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้อีกแล้ว ดูซ้ำแล้วซ้ำอีกเขาอยู่เคียงข้างฉันในเวลานี้ เสียงครางกระหึ่มของรถยนต์และเสียงฟ้าร้องฟ้าผ่านั้นอยู่รอบตัวฉัน เทียบไม่ได้เลยเสียงของเขาเลยที่จะทำให้ร่างกายและจิตใจของฉันสั่นสะเทือน “ฉันเองฉันอยู่นี่แล้วนี่” ศรัณกอดฉันที่เอวแล้วอุ้มฉันขึ้น และออกแรงพาฉันก้าวไปข้างหน้าทีละก้าว ฉันเฝ้าดูสายฝนไหลลงมาบนใบหน้าของเขาก่อตัวเป็นสาย เขากัดฟัน ขนตาของเขาเปียก แต่ร่างกายของเขาอบอุ่น ในม่านฝนนี้ฉันหลงทางไปหมด ฉันไม่ต้องการที่จะมีชีวิตเหมือนในวันก่อนหน้า ฉันอยากอยู่กับชายคนนี้ตลอดไป ศรัณพาฉันกลับบ้าน เสื้อผ้าของเขาและฉันเปียกและแนบชิดไปที่เรือนร่าง ศรัณอุ้มฉันโดยตรงลงในอ่างอาบน้ำ น้ำอุ่นโอบกอดฉัน ทำให้ใจที่กังวลของฉันผ่อนคลายในทันที “ศรัณ ขอบคุณนะ”ฉันมองหน้าเขาผ่านไอน้ำ ศรัณทำหน้าขรึม ไม่หัวเราะ ไม่พูด ถอดเสื้อผ้าและเข้าไปในอ่างอาบน้ำกอดฉัน ร่างกายของเขาสั่น กอดฉันอย่างระมัดระวัง ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา “มีอะไรผิดปกติกับคุณ?”ฉันกอดเขา ลูบหลังและถามเบา ๆ ศรัณบ่น “ฉันคิดว่าคุณและครอบครัวของคุณไปแล้วและจะไม่ได้เจอฉันอีก” เขากลัวหลังจากนั้นต่างหาก “ฉันตามดูคุณกลับบ้านและเห็นคุณรีบออกจากบ้าน คุณรู้ไหมว่า ตอนนั้นฉันมีความสุขมากแค่ไหน คุณอยากเจอฉันเหมือนกับฉันที่อยากเจอคุณ และอยากอยู่กับฉันไหม?” ร่างของศรัณกำลังสั่นเทา ตัวแข็งทื่อและในเวลานี้ฉันรู้ว่ากลัวว่าเขาจะเสียฉันไป หรือว่าฉันไม่เคย ไอน้ำที่ลอยขึ้นมาในห้องน้ำที่มีความมึนทึมเหมือนกับภาพลวง เหมือนความรักของเรา “คุณจะหย่าใช่ไหม” ศรัณจู่ๆก็เงยหน้าขึ้นและมองมาที่ฉันอย่างจริงจัง ดวงตาชุ่มน้ำ แดงก่ำของเขาก็มองมาที่ฉันอย่างประหม่า ใจฉันเต้นแรง หย่าเหรอ? ไม่ใช่ว่าฉันไม่คิด ความคิดของฉันถูกดึงออกไปไกลมาก ฉันคิดมานานแล้ว ว่าแม่ของฉันขอให้ฉันแต่งงานกับภูษิต แม่บอกว่าชีวิตของครอบครัวอยู่ในมือของฉัน แม่ต้องคุกเข่าขอร้อง และแม่ก็แก่แล้ว ผมหงอกแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจริงๆว่าความลับคืออะไร แต่ฉันรู้สึกได้ถึงความกลัวของพวกเขา หย่าได้หรือไม่? หรือแม่จะใช้ความเป็นความตายมากบังคับฉัน? หรือชีวิตของพ่อคือราคาที่ต้องจ่าย? ฉันไม่รู้ ฉันมัวนิ่งอยู่ ศรัณยิ่งกอดฉันแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ดวงตาที่มีความหวังของศรัณก็ถูกแทนที่ด้วยความผิดหวัง สักพักก็เบาบางลง “คุณไม่ต้องการหย่ากับเขางั้นเหรอ ไม่คิดหย่า ไม่อยากหย่า หรือว่าหย่าไม่ได้ คุณเชื่อฉันสิ ฉันสามารถทำให้ครอบครัวไม่มีปัญหา!”ศรัณยังคงขอร้องฉัน “ ศรัณ ขอให้ฉันคิดอีกครั้ง “ฉันร้องไห้และกอดเขา ดูเหมือนจะจนใจที่ไม่มีวิธีไหนเลยที่พอจะทำได้ ศรัณหยุดพูดและกอดฉันแน่น ราวกับพยายามให้ร่างกายของเราให้เป็นวิญญาณของเราเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน เวลาเนิ่นนานในห้องที่เงียบสงบแล้วเขาก็พูดว่า “โอเค ฉันจะไม่บังคับคุณ” กระทั่งน้ำเริ่มเย็นลง ศรัณอุ้มฉันออกจากห้องน้ำ ฉันไม่ได้ทำอะไรเลยแค่นอนเงียบ ๆ บนเตียงและมองดูซึ่งกันและกัน ฉันมองตาของเขาดวงตาเรียวยาว จมูกสูงโด่งและที่มองฉันด้วยความรัก เขาอยู่ในสายตาและในใจของฉัน หลังจากคืนนั้น ฉันตื่นนอนและกลับบ้าน เพราะมีสิ่งที่ฉันไม่สามารถหลบหนีได้และฉันจะเผชิญหน้ากับมัน “ แกไปเจอเขามาอีกใช่ไหม “แม่พ่อพี่ชายและน้องสาวทั้งหมดอยู่ที่บ้าน ฉันถอดรองเท้าแล้วพูดอย่างใจเย็น “ใช่ ฉันไปเจอเขา” “เวธนีคุณไม่รู้สึกอายบ้างเหรอ รู้หรือไม่ว่าแกกำลังทำอะไรอยู่ แกกำลังทำสิ่งที่แย่ที่สุดที่ผู้หญิงทำได้! มันน่าอาย!”แม่ร้องไห้โฮอย่างเจ็บปวด พ่อถอนหายใจ แม่โกรธและหยิบของขึ้นมาโดยไม่สนใจเลยว่าคืออะไรโยนใส่ฉัน “สามียังอยู่ในที่โรงพักแท้แท้ แกยังมีกระจิตกระใจไปหาผู้ชายอื่นอีก ทำไมหัวใจของแกมันทำอยู่อะไร” ฉันไม่ได้หลบ หายใจเข้าลึก ๆ แล้วพูดว่า “ฉันต้องการหย่าเขา” “แกกล้าเหรอ!”พ่อตบโต๊ะและยืนขึ้น”คุณคิดว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นสิ่งที่แกนึกอยากจะทำอยากหย่าก็หย่ายังนั้นเหรอ” “ใช่ ฉันไม่ได้สมัครใจ ไม่ว่าจะทำเรื่องอะไรฉันก็ไม่ได้สมัครใจจะทำ” ฉันมองพวกเขาด้วยความเย็นชา “ หรือพวกคุณไม่รู้สึกอยากจะขอโทษฉันบ้างเหรอ ชีวิตที่สมบูรณ์ของฉันถูกทำลายโดยคุณ “ “แกไม่รู้จักพอ!”แม่หยิบแจกันขึ้นมาแล้วโยนใส่ฉัน น้องชายของฉันลุกขึ้นผลักฉันและแจกันก็ผ่านไป “แม่ คุณกำลังทำอะไรอยู่! แม่อยากให้พี่ตายเหรอ?” ชลากรน้องชาย คนคนเดียวที่ยืนอยู่ข้างฉัน “ก็พี่แกนั่นแหละอยากให้ฉันตาย! พี่แกมันเก่งกล้าสามารถไม่คิดถึงความเป็นความตายของครอบครัว อยากทำอะไรก็จะทำ เก่งมากเก่งจริงๆ “แกจะหย่าก็ได้ ต่อเมื่อพ่อกับฉันตาย!” “แกมันอกตัญญู!” ...... หูของฉันได้ยินทุกคำดุด่า ฉันปิดประตูเสียงดังโครม ราวกับว่าทุกอย่างคืออุปสรรค ภูษิตออกมาแล้วและเขาได้รับการประกันตัว แต่เขาไม่ยอมรับข้อหาใช้ความรุนแรงในครอบครัว แล้วแต่ อย่างไรฉันจะไม่อยู่กับเขาอีกต่อไป ภูษิตเสแสร้งชวนฉันกลับบ้าน ไม่ว่าครอบครัวจะกล่อมฉันอย่างไร ฉันก็ไม่รับปาก ครั้งนี้ฉันจะไม่ยอมอีกต่อไป แม้ว่าฉันจะหย่าไม่ได้ ฉันก็จะพยายาม “โอเค เวธนี ฉันดูเธอผิดไป อย่าเสียใจเลย!”ภูษิตทิ้งประโยคนั้น จากไปอย่างโกรธเคือง ในเวลาเดียวกันข่าวต่าง ๆ จาก ศรัณเริ่มปรากฏบนอินเทอร์เน็ตและประเด็นหลักก็มุ่งไปที่ฉัน ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทโอต้ากับหญิงสาวที่แต่งงานแล้ว ความสัมพันธ์สวาททั้งคู่ รูปนั้นเห็นได้ชัดว่าคือฉัน พวกเราทำนิตยสารมา สำนักพิมพ์บอกให้เรารู้ทันทีที่มีข่าวออกมา ฉันถูกเรียกตัวเข้าไปในสำนักงานโดยบรรณาธิการ เธอชี้ไปที่ข่าวบนคอมพิวเตอร์และพูดว่า “ผู้หญิงในนั้นคือคุณใช่ไหม” ภาพถูกถ่ายอย่างชัดเจน ปฏิเสธไม่ได้เลย ฉันพยักหน้าแล้วพูดว่า “ใช่” คืนนั้นฝนตก “เธอทำอย่างนี้ทำให้สำนักพิมพ์ลำบากรู้ใช่ไหม คุณแต่งงานแล้ว ทำไมคุณไม่บอกฉัน มันทำให้เราเสียหาย “บรรณาธิการผู้หญิงในวัยสี่สิบของเธอ เธอรับไม่ได้ที่ฉันนอกใจสามี หลายคนเองก็รับไม่ได้ ฉันก้มหน้าไม่พูดจา สิ่งเดียวที่ฉันห่วงคือศรัณ มันจะส่งผลกระทบต่อเขาหรือไม่ มีการระบุเรื่องในรายงานอย่างชัดเจนและมีการเตรียมไว้แน่นอน ฉันยังสงสัยว่าภูษิตทำให้สิ่งนี้เกิดขึ้น เขาให้คนติดตามฉันมาตั้งนานแล้ว “เวธนีลองหยุดพักสักพัก แล้วรอให้เรื่องเงียบแล้วค่อยเข้ามาทำงาน”บรรณาธิการสีหน้าไม่ดี “ในฐานะที่เป็นผุ้หญิง คุณจะให้ฉันพูดยังไงกับคุณดีคุณอีกฝ่ายคือศรัณนะ คุณต้องรู้จักละอาย “ ฉันมองเธอนิ่งนิ่ง ๆ โดยไม่เถียง ชีวิตนี้แบบนี้เหนื่อยมาก ฉันรับมันมาพอแล้ว ทันทีที่ฉันออกจากสำนักงาน เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนก็หยุด ดวงตาของพวกเขามองมาที่ฉันและมองอย่างพิจารณา สิ่งที่พวกเขาพูด แน่นอนฉันรู้ จิรสุดานั่งอยู่บนเก้าอี้ดวงตาของเธอมองไปข้างหน้า “โอ้ ฉันว่านะเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ สำนักงานนี้คงเอาของอะไรที่ร้ายแรงเข้ามา “มันเป็นเรื่องธรรมดาที่จะนอกใจใน พ.ศ. นี้ แต่บางคนปกปิดว่าแต่งงานแล้ว คุณว่าเขาต้องการจะทำอะไร?เตรียมพร้อมที่จะนอกใจได้ตลอดเวลางั้นสิ!” “ผู้หญิงที่ศรัณชอบ จะให้ธรรมดาได้ไง เก่งจะตาย? เสียงพูดคุยวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างประหลาด และฉันก็ไม่ได้อยู่ตรงนี้ ดังนั้นฉันทำเหมือนไม่ได้ยินแล้วผ่านพวกเขาไป ”ก็คงใช่ ผู้ชายที่พวกคุณอยากจับแต่เกรงว่าโอกาสแม้แต่จะพูดคุยกับเขายังไม่มี แต่เขาเป็นแขกประจำบนเตียงของฉัน ขอบคุณสำหรับคำชมเชย ฉันมันหน้าไม่อาย” อาจจะเป็นเพราะได้ปล่อยออกไปแล้ว หรืออาจจะเพราะว่าโดนมามากพอแล้ว ฉันไม่ได้ใส่ใจแล้ว ฉันไม่สนใจที่รอดูสีหน้าพวกเขา ฉันเดินผ่านพวกเขาโดยไม่แสดงออกท่าทีอะไรออกไป ”โอ้ พระเจ้า ฉันมันช่างหน้าด้านขนาดนี้ได้ยังไง!” มีคนด่าฉันอยู่ข้างหลัง แต่ก็ช่างมันเถอะ ทันทีที่ฉันเปิดประตูนาทีนั้น แสงแฟลชทุกชนิดก็พุ่งเข้าใส่ฉัน ทันใดนั้นตาฉันก็ว่างเปล่าและหูก็เต็มไปด้วยเสียงต่างๆนานา ”ความสัมพันธ์ของคุณกับศรัณคืออะไร” ”สื่อออนไลน์บอกว่าคุณแต่งงานแล้ว มีครอบครัวแล้ว คุณคิดอย่างไรเกี่ยวกับนอกใจ? “ความสัมพันธ์ของคุณกับตระกูลสิริกันต์เป็นอย่างไร พวกเขายอมรับคุณไหม “คุณศรัณมีเพื่อนผู้หญิงตั้งหลายคน คุณคิดว่าเขามองความสัมพันธ์ของคุณเป็นอย่างไร?” ฉันจ้องที่ปากกาบันทึกและไมโครโฟนที่อยู่ตรงหน้าฉัน และพวกเขาก็รีบอยากรู้คำตอบ ในเวลานี้ ฉันตื่นตระหนก ฉันไม่เคยคิดว่าความรักของเราจะเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ถูกสงสัย ถูกเปิดเผยต่อสายตาของทุกคน กลายเป็นเป็นเรื่องเล่าในวงสภากาแฟยามเช้า ดูเหมือนว่าปากอ้าอ้าหุบหุบจะสามารถกลืนกินฉันได้ทุกคำและทุกคำเหมือนต้องการจะฆ่าฉันให้ตาย ฉันจะเสียสติแล้ว “ฉันไม่รู้ โปรดถอยไปเถอะ ฉันไม่รู้!”ฉันรีบผลักทุกคนที่ด้านหน้าฉันออก “คุณเวธนี กรุณาตอบคำถามด้วย!” เสียงที่ดังอยู่รอบๆฉัน และใบหน้าของทุกคนดูเหมือนกระหายใครรู้ข่าวซุบซิบ มันใกล้จะระเบิดแล้ว “ฉันไม่รู้ ฉันไม่รู้ ... “ ฉันไม่สามารถพูดอะไรได้อีก ทำได้แค่พูดพึมพำกับตัวเอง “หากคุณมีคำถามคุณสามารถมาถามฉันได้” เสียงของเขาที่ดังขึ้น ช่วยชีวิตฉันอีกครั้งแล้วครั้งเล่า ผู้คนหลีกทางให้ ศรัณปรากฏตัวต่อหน้าฉัน เขาสวมสูทที่ประณีตและสง่างาม ขาเรียวยาวสองข้างก้าวมาทางฉัน ข้างหลังเขามีบอดี้การ์ดยืนอยู่สองแถว คอยขวางสื่อรออยู่อย่างแน่นขนัด ฉันยืนอยู่อย่างโง่ๆ ต่อหน้าเขา “ฉันบอกได้แค่ว่า คุณรักผู้หญิงคนนี้”ศรัณพาฉันเข้าไปในอ้อมแขนของเขาและปิดตาฉันพูดเบา ๆกับฉันอย่างอ่อนโยน “อย่ากลัวกลับบ้านกับฉัน” 
已经是最新一章了
加载中