ตอนที่ 37 อุบาย
1/
ตอนที่ 37 อุบาย
only you หัวใจมีแต่เธอ
(
)
已经是第一章了
ตอนที่ 37 อุบาย
ตนที่ 37 อุบาย แม้ว่าจะมีข้อสงสัยอยู่ภายในใจ แต่ฉันก็ตอบรับคำที่จะไปพบเธอ เท่าที่ฉันรู้ คุณหญิงสิริกันต์เคยมีลูกชายมาก่อนแต่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิตนั้น ต้องการคนที่จะสืบทอดวงศ์ตระกูลตระกูลสิริกันต์สืบทอดธุรกิจของครอบครัวถึงได้นำตัวศรัณที่อยู่ต่างประเทศกลับมาบังคับให้ศรัณและรัมภ์รดาแยกจากกัน คุณหญิงสิริกันต์ที่เป็นหัวเรือใหญ่ของบริษัท ไม่เคยเห็นด้วยหรือยอมรับตัวตนการมีอยู่ของศรัณ หรือจะบอกได้ว่าศรัณกับคุณหญิงสิริกันต์ก็เหมือนลิ้นกับฟัน หลายปีมานี้ศรัณทำตัวไม่ได้เรื่องได้ราว ทำให้คนอื่นวางใจและไม่วางใจ ศรัณที่ทำแบบนี้เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่เขาจะปลอดภัย ทั้งหมดนี่ฉันรู้แล้ว แต่ทำไมคุณหญิงสิริกันต์ถึงต้องการพบฉัน? คุณหญิงสิริกันต์กับรัมภ์รดามีลักษณะที่แตกต่างกันมาก คุณหญิงสิริกันต์มีลักษณะที่เคร่งขรึม ส่วนรัมภ์รดาเป็นคนที่มีเสน่ห์เป็นอย่างมาก “ฉันรู้ว่ามันเป็นการฉุกละหุกที่ต้องการจะพบคุณ ทำให้คุณประหลาดใจ จริงๆแล้วฉันได้ยินเรื่องของคุณมานานแล้ว หลังจากสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้าทั้งหมด คุณยุทธนาของเราก็บอกว่า ถ้าหากว่าเล่นเล่น ก็ไม่เป็นไร เขาไม่สนใจใครจะไม่มีช่วงเวลาเด็กๆแบบนั้นกัน” คุณหญิงสิริกันต์ดูแลตัวเองได้ดี ท่วงท่าในการพูดดูสง่างาม แต่ทุกคำพูดมันมีความหมายแฝงอยู่ ฉันมองไปที่ถ้วยชาและขบคิด “แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น ฉันคิดว่ามันเป็นเรื่องยากสำหรับคนหนุ่มสาวที่จะมีความรักของตัวเอง” คุณหญิงสิริกันต์ยิ้มอย่างเป็นมิตรมาให้ฉัน ฉันรู้สึกตกใจ “คุณสามารถอยู่กับศรัณได้ ฉันจะช่วยคุณ” แล้วเขาก็ยิ้มแปลกๆให้ฉัน “แต่คุณก็รู้ มีบางเรื่องที่ไม่ยุติธรรม เช่น ลูกชายของฉันตายอย่างไม่เป็นธรรม แล้วทำไมลูกชายของคนอื่นถึงมาสืบทุกสิ่งทุกอย่างของเขาล่ะ? เอาทุกสิ่งทุกอย่างของลูกชายของฉันไป” ใบหน้าของเธอค่อยๆเปลี่ยนไป เมื่อเธอพูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นฉันก็เข้าใจที่จริงแล้วเธอมาพบฉันเพื่อต้องการเป็นพันธมิตรเธอสามารถช่วยให้ฉันอยู่กับศรัณได้หรือแม้แต่เข้าไปในตระกูลสิริกันต์ได้ แต่เธอจะไม่อนุญาตให้ศรัณที่จะสืบทอดทุกอย่าง ฉันเป็นเพียงแค่หมากของเธอ “ฉันรู้ว่าคุณหมายถึงอะไร” ฉันหัวเราะออกมาอย่างไม่ชอบนัก “คุณคิดว่าฉันเป็นคนหนึ่งที่ยอมเสียสละได้ทุกอย่างเพียงเพื่อที่จะเข้าไปในตระกูลสิริกันต์ได้อย่างนั้นเหรอ?” คุณหญิงสิริกันต์มองฉันด้วยรอยยิ้มเยาะเย้ย “หรือว่าไม่ใช่? เท่าที่ฉันรู้ครอบครัวคุณมีหนี้เป็นจำนวนมาก เพียงแค่สัญญากับฉัน ฉันจะช่วยคุณ” “ต้องขอโทษด้วย” ฉันขัดจังหวะเธอทันทีฉันมองไปที่เธออย่างไม่เข้าใจ “ฉันกับศรัณอยู่ด้วยกันเพราะความรัก คุณคิดว่าฉันจะทรยศเขา? ที่ฉันชอบคือศรัณคนคนนี้ ไม่ใช่ไม่ใช่ภูมิหลังของเขา ฉันจะสนับสนุนการตัดสินใจของเขาดังนั้นฉันจะไม่ตกลงกับคุณ” “จริงเหรอ?” คุณหญิงสิริกันต์ไม่เก็บซ่อนตัวตนที่แท้จริงอีกต่อไป “ฉันประเมินคุณต่ำไป ความรัก ไร้สาระ!” “เรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวของฉันคุณก็เป็นคนทำ ไม่อย่างนั้นอยู่ดีๆร้านเราจะไม่มีคนเลยได้อย่างไร ในใจคุณรู้ดีว่าคุณทำอะไรไปบ้าง” ฉันมองเข้าไปในดวงตาของเธอ คุณหญิงคนนี้มองดูภายนอกดูมีเสน่ห์อ่อนโยน คาดไม่ถึงว่าแท้จริงแล้วจะโหดร้ายขนาดนี้ “สิ่งที่แย่ ๆที่ทับถมเข้ามานั้นมักจะทำให้คนเป็นบ้า” เธอพูด จนถึงตอนนี้ฉันเข้าใจแล้วกดดันฉันแต่ก็ยื่นมือเข้ามาช่วยเพื่อต้องการดึงฉันเข้าไปเป็นพวก เมื่อคุยมาถึงขั้นนี้แล้วก็ไม่มีอะไรที่จะต้องพูดอีกต่อไป “ถ้าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ฉันตัวก่อนนะคะ” ฉันลุกขึ้นยืน “ก่อนที่จะไปฉันขอพูดหนึ่งประโยค ไม่ว่าคุณจะคิดยังไงตราบใดที่คุณกับศรัณอยู่ด้วยกันเพียงแค่วันเดียวก็ถือว่าได้ช่วยฉันแล้ว ขอบคุณ” คุณหญิงสิริกันต์พูด ฉันไม่รู้ว่าทำไม ฉันสำหรับศรัณแล้วฉันเป็นเพียงแค่ภาระของเขาเท่านั้น ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว แต่ความรักทำให้คนตาบอด ศรัณคุณจะกลับมาแล้วหรือยังนะ? ฉันคิดถึงคุณ หลังจากที่แยกกับคุณหญิงสิริกันต์ฉันก็เดินเรื่อยเปื่อยไปตามท้องถนน ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนและก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี พ่อแม่ ศรัณ ฉันไม่สามารถทิ้งได้ แต่ไม่มีอะไรที่ดีที่สุดสำหรับทั้งสองฝ่าย ในที่สุดฉันก็มาถึงบ้านชานเมืองทางใต้ของศรัณ ที่นี่เป็นที่ที่มีความทรงจำที่ดีอยู่มากมาย ฉันซ่อนตัวอยู่ในมุมมุมหนึ่งแอบมองไปที่บ้าน ทันใดนั้นยานพาหนะกลุ่มใหญ่ก็กำลังเคลื่อนที่เข้ามา ฉันหมอบลงทันที เหมือนกับขโมย เป็นศรัณ เขากลับมาแล้ว ฉันซ่อนตัวอยู่ในพุ่มหญ้า ฉันปิดปากของฉันก่อนที่มันจะส่งเสียงออกมา ศรัณ ศรัณ เป็นเขาจริงๆ คนที่อยู่ในใจฉันจริงๆ เขาลงมาจากรถ ใบหน้าของเขายังคงดูป่วยอยู่ ดูเหมือนร่างกายยังคงอ่อนแอ แต่ดวงตาของเขาสว่างมากการก้าวเดินของเขาก็ดูแข็งแรง ทันใดนั้นเขาเริ่มส่องสายตามองไปรอบๆ ฉันรีบลดร่างกายของฉันลง ฉันกลัวว่าศรัณจะเห็นฉัน และไม่รู้ว่าถ้าหากได้เจอกับศรัณแล้วจะต้องพูดอะไร ฉันเป็นคนโกหกในสายตาของเขา ฉันมองไปที่เขามันเจ็บปวดเหลือเกินที่ต้องเห็นใบหน้าอันซีดเซียวของเขา นี่อาจจะถึงวาระ ที่ฉันไม่สามารถอยู่ข้างเขาได้จริงๆแล้ว ศรัณเข้าไปในบ้าน ประตูได้ปิดลง ฉันไม่สามารถเห็นเขาได้อีกแล้ว แต่ฉันยังคงยืนนิ่งๆอยู่ที่เดิม ทำไมเราต้องลงเอยแบบนี้? แต่ประตูที่ปิดสนิทกลับเปิดออกมาอีกครั้ง ฉันตกใจรีบวิ่งหนีออกไปไปโดยไม่รู้ตัว ข้างหลังเป็นเสียงฝีเท้าอันเร่งรีบ ฉันรู้ว่าศรัณอยู่ด้านหลังฉัน นั่นเป็นใครบางคนที่ฉันคิดถึง แต่ฉันไม่สามารถหันหลังกลับได้ฉันไม่มีหน้ากลับไปพบศรัณ เสียงฝีเท้าที่อยู่ด้านหลังเริ่มเร็วขึ้น “เวธนี!” มีความโกรธแค้นและความคิดถึงแฝงอยู่ในเสียงตะโกนนั่น เท้าของฉันดูเหมือนจะไม่สามารถขยับได้อีกความถูกต้องบอกกับฉันว่าฉันควรที่จะรีบออกไปจากที่นี่ อย่าได้รบกวนศรัณอีก แต่ฉันไม่สามารถก้าวเท้าออกไปได้ ฉันไม่มีทางที่จะมองผ่านศรัณไปได้เลยจริงๆ “ทำไมคุณไม่หันหลังกลับมามองฉัน?” ดวงอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้าเหนือหัวของฉันมันทำให้ฉันรู้สึกเวียนหัว ฉันอ้าปากของฉันแต่ไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย “ฉันรอคุณมาตลอดรอคุณกลับมา มาหาฉัน คุณลืมสัญญาของเราก่อนหน้านี้แล้วเหรอ?” ทุกถ้อยคำตัดพ้อของศรัณถูกต้องทั้งหมดฉันกลัวที่จะเห็นความผิดหวังในแววตาของเขา เสียงก้าวเท้าเบาๆ ศรัณกำลังค่อยๆเดินมาหาฉัน เขาจับไหล่ของฉันและกอดฉันไว้จากทางด้านหลัง “คุณหันกลับมามองฉันเถอะ ฉันบอกว่าฉันจะอยู่ที่นั่นเสมอเพียงแค่คุณหันกลับมามองฉัน” ศรัณเอาคางมาทับบนบ่าของฉันเบาๆ เสียงพูดของเขาออกมาพร้อมไอร้อนมากระทบหูของฉัน ฉันไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย เหลือแค่เสียงหัวใจที่เต้นแรง ความคุ้นเคย ทำให้ฉันลุ่มหลงไปในบรรยากาศที่ล้อมอยู่รอบตัวฉัน ฉันอยากจะโยนทุกอย่างทั้งหมดทิ้งไป ฉันแค่อยากอยู่กับเขาทั้งวันทั้งคืน “ศรัณ ฉันขอโทษ” ฉันหันไปหาเขากอดเขาอย่างแรง ศรัณไม่พูดอะไรออกมาเลย เหลือเพียงกอดแน่นของเขา ที่จริงฉันแค่ตั้งใจที่จะดูแล้วจากไป แต่ฉันไม่คิดว่าฉันจะได้พบกับศรัณที่นี่ และไม่คิดว่าศรัณจะเห็นฉัน “คุณก็รู้ ที่จริงแล้วฉันเห็นคุณตั้งแต่ที่คุณซ่อนตัวอยู่ในกอหญ้านั่น ฉันบอกกับตัวเองว่าครั้งนี้ฉันจะไม่ให้อภัยคุณอีก ยังไงก็จะไม่ให้อภัยอีก! แต่เมื่อฉันเดินเข้าไปภายในบ้าน เห็นคุณอยู่ในความเศร้าและความหวาดกลัว หัวใจของฉันก็กลับมาสั่นอีกครั้ง สิ่งที่ฉันไม่สามารถทำได้คือฉันไม่สามารถลืมคุณได้” ศรัณกอดฉันไว้ในอ้อมแขนของเขากอดแน่นมากราวกับกลัวว่าฉันจะหายไปอีกครั้ง “คุณมีโอกาสที่จะบอกฉันว่าคุณกำลังจะไปไม่ใช่เหรอ? ทำไมคุณถึงโหดร้ายแบบนี้?” ศรัณกัดฟันของเขาน้ำตาหยดใหญ่ตกลงมาบนไหล่ของฉัน ฉันแค่กลัวว่าคุณจะตัดสินใจทำมันได้ยาก ด้านหนึ่งคือฉัน อีกด้านหนึ่งคือแม่แท้ๆของตัวเอง ฉันเช็ดน้ำตาของเขาและพูดว่า “ขอโทษนะ ฉันไม่คิดว่าคุณจะร้องไห้” ศรัณตอนนี้ดูเหมือนคนที่โดนรังแกมาเป็นอย่างมาก ฉันต้องเกลี้ยกล่อมเขาเหมือนเด็กๆ “มันเป็นความผิดของฉันเอง ฉันขอโทษ ฉันขอโทษ” ฉันลูบไปที่หน้าอกของเขาและพยายามง้อเขา ศรัณถอนหายใจและสูดลมหายใจ “สำหรับคุณมันช่วยไม่ได้” ดูเหมือนว่าเพียงชั่วพริบตาเดียวปัญหาระหว่างเราทั้งหมดก็หายไป พูดคุยกัน มีอะไรกัน ทำอะไรด้วยกันและทำสิ่งที่คู่รักทั่วไปทำร่วมกัน แต่เรื่องของที่บ้าน ก็เหมือนก้อนหินก้อนใหญ่ที่ถ่วงอยู่ไว้ในใจ จะทำอย่างไร? ศรัณเห็นฉันเศร้าเขาลูบหัวของฉันและกล่าวว่า “ฉันบอกว่าทุกๆเรื่องจะมีฉันอยู่ในนั้น” ฉันรู้แล้วแต่ไม่ใช่ทุกเรื่องที่ต้องให้คุณเป็นคนจัดการ มีบางเรื่องที่เกี่ยวข้องกับศักดิ์ศรีของความเป็นคน ที่บ้านยังมีเรื่อง ฉันไม่สามารถอยู่กับศรัณได้อีกต่อไป แต่ฉันไม่อยากที่จะจากเขาไป แต่ว่าเราสามารถใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันได้จริงๆ ใช่ไหม ฉันมองเข้าไปในดวงตาของศรัณและตกเข้าไปในจินตนาการอีกครั้ง ฉันยืนอยู่ข้างล่างบ้านของตัวเองสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ตอนนี้เวลากลับบ้านก็ต้องเตรียมใจให้พร้อมเพราะฉันไม่รู้ว่าจะมีอะไรรอฉันอยู่ “หนูนีเป็นเด็กที่ไม่ค่อยรู้เรื่องรู้ราวอะไร พวกเรารู้ จะต้องจัดการเธอ ให้เธอทำตัวดีดีกับคุณ” เสียงของแม่การสนทนานี้มันต้องมีบางอย่างผิดปกติที่เกี่ยวกับฉัน จะต้องเป็นภูษิตแน่ๆ ฉันผลักประตูเข้าไปมองคนที่อยู่ในห้องด้วยความโกรธ แม่ พ่อ และก็ภูษิต “ฉันเคยบอกว่า ฉันจะไม่กลับไปกับภูษิตอีก พวกคุณไม่เข้าใจเหรอ?” ฉันตะโกน ประตูเปิดอยู่ฉันแน่ใจว่าเพื่อนบ้านหลายคนจะต้องได้ยิน เพราะฉันต้องการให้พวกเขาได้ยิน และไม่อยากปิดบังมันอีกทำให้เกิดบรรยากาศแม่ลูกกตัญญู แม่ของฉันมักจะว่ากล่าวฉันเสมอ เธอเดินเข้ามากระแทกประตูปิดลง “พ่อของเธอกลับไปทำงานแล้ว ปัญหาของร้านค้าก็ได้รับการแก้ไขแล้ว ทั้งหมดนี้เป็นเพราะภูษิต” ฉันไม่ได้พูดอะไรออกมา ได้แต่มองไปที่พวกเขาอย่างเย็นชา “น้องชายน้องสาวของคุณยังเด็ก หลังจากนี้ยังต้องเข้าโรงเรียน แต่งงาน ทั้งหมดต้องใช้เงิน ที่บ้านจะมีเงินมากมายขนาดนั้นที่ไหน? ทั้งหมดก็ต้องพึ่งภูษิต ภูษิตก็ได้บอกไว้ว่า เขาจะดูแลทั้งหมดเพียงแค่คุณกลับไปกลับเขา” แม่พูดกับฉันเบาๆและแอบมองไปที่ภูษิตเขายิกมือฉัน เหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นมาหลายครั้งแล้ว ทุกๆครั้งฉันก็ได้แต่ประนีประนอมแต่ครั้งนี้ฉันจะไม่ทำอย่างนั้นอีก “พวกคุณจะไม่รับผิดชอบหน้าที่ของตัวเอง ทำไมต้องพึ่งพาคนอื่นล่ะ? ฉันไม่ใช่เครื่องมือทำเงินให้พวกคุณ ไม่ต้องมาใช้ฉันเป็นเครื่องมือ” นี่เป็นคำพูดที่โหดร้ายแต่ฉันแบกรับมันมามากพอแล้วก่อนที่ฉันจะถูกกดขี่ทำไมฉันต้องเสียสละตัวเองเพื่อบ้านหลังนี้ขนาดนี้? ชีวิตแบบนี้มันทรมานเป็นอย่างมาก ฉันไม่อยากจะต้องไปอยู่ในสภาพนั้นอีก “โอเคหนูนี คุณพักอยู่กับพ่อกับแม่ของคุณสักช่วงเวลาหนึ่งก่อน เมื่อคุณคิดได้แล้วจะกลับไปมันก็ยังไม่สาย ผมจะรอคุณ” ในที่สุดภูษิตทนดูจนจบแล้วก็ลุกขึ้นจากโซฟา พูดกับแม่อีกครั้ง “แม่อย่าบังคับหนูนีเลย ฉันคิดว่าเธอรู้ว่าใครเป็นคนที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเธอ” หืม เขาต้องการจะทำอะไร? ยังจะแสดงละครตบตาอีก “โอเค ฉันจะคุยกับหนูนีอีกครั้ง เธอจะต้องคิดออกแน่นอน” แม่ยิ้มให้ภูษิตแล้วพูดออกมา “อีกสักพักที่บ้านจะทำอาหารที่คุณชอบ อยู่กินด้วยกันนะ” ภูษิตขยับแว่นตาของเขาและบอกว่า “ฉันคงไม่ได้อยู่ทานเพราะอีกสักครู่มีธุระต้องไปทำ” แม่ส่งภูษิตออกไปอย่างสุภาพ ฉันไม่ต้องการที่จะเห็นเขาอีก ถ้าฉันต้องการอยู่กับศรัณอีกครั้ง อย่างถูกต้องซื่อสัตย์อีกครั้ง จะต้องหย่า ฉันไม่สามารถอยู่แบบหลบๆซ่อนๆแบบนี้ต่อไปได้อีก ให้คนครหานินทา ฉันเริ่มวางแผนที่จะหย่ากับภูษิต เขาไม่ต้องการ ฉันก็จะฟ้องเอา ฉันต้องค้นหาหลักฐานทั้งหมดที่สามารถเป็นประโยชน์กับฉัน เช่นความรุนแรงในครอบครัว ดังนั้นฉันต้องกลับไปจงใจที่จะยั่วให้เขาโมโห ทางที่ดีที่สุดให้เขาลงมือตีฉันให้ปางตาย
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
ตอนที่ 37 อุบาย
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A