ตอนที่ 21 รอให้เขาจูบเธอ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 21 รอให้เขาจูบเธอ
ตอนที่ 21 รอให้เขาจูบเธอ โม่ข่ายกระตุกคิ้ว ดวงตาเคร่งขรึมภายใต้กรอบแว่นสีเงิน เขาเป็นถึงผู้กุมบังเหียนใหญ่ของบริษัทเซิ่งเทียน มีคนจำนวนมากพยายามหาทุกวิธีทางเพื่อที่จะทำให้ได้เข้ามาพบเขาแต่ก็ยังไม่มีโอกาส แต่ในสายตาของเธอคนนี้เขานั้นกลับไม่สำคัญเท่ากับเงินสองพันห้าร้อยบาทและหมาหนึ่งตัว เป็นครั้งแรกในชีวิตนี้ที่ตัวเขาเองนั้นถูกมองข้าม ในใจของเขารู้สึกรับไม่ได้กับสิ่งที่เกิดขึ้นตอนนี้เป็นอย่างมาก “โฮ่ง โฮ่ง โฮ่ง….” เหมียนเหมียนเห่าออกมาได้เหมาะเจาะพอดี สุนัขแสนรู้ตัวนี้ที่เห่าออกมาก็คงเพราะแสดงความไม่พอใจคนที่เดินเข้ามาทีหลังและเป็นการขู่ตอบกลับไปที่โม่ข่าย กู้เหยารีบเอามือปิดที่ปากของเหมียนเหมียน “เหมียนเหมียนอย่าเสียงดังสิ ให้แม่คุยกับคุณอาโม่ก่อน แม่เชื่อว่าคุณอาโม่ที่ได้รับการอบรมสั่งสอนมาดีขนาดนี้ไม่มีทางที่จะเป็นคนไม่มีเหตุผลแน่นอน” โม่ข่ายมองดูหญิงสาวหนึ่งคนและหมาหนึ่งตัวที่ยืนอยู่ข้างหน้าตัวเขาเองเป็นเวลานานมากถึงพูดเสียงขรึมขึ้นมา “ผมไม่ใช่ไม่ชอบเหมียนเหมียน และก็ไม่ได้บอกให้คุณขายเหมียนเหมียนทิ้งด้วย” กู้เหยาเงียบแต่โม่ข่ายยังพูดอีก “ในเมื่อคุณเป็นคนเลี้ยงเหมียนเหมียนมา ผมก็จะลองทำความคุ้นเคยกับเหมียนเหมียนดู” กู้เหยาเม้มริมฝีปากพูด “ขอบคุณค่ะ” โม่ข่ายไม่ได้พูดอะไรอีก อีกทั้งยังนั่งกินอาหารเช้าอย่างดูสง่า หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จจึงออกไปทำงานเหมือนปกติทุกวัน หลายครั้งที่กู้เหยาอยากจะเป็นฝ่ายที่ชวนเขาคุยก่อนบ้างแต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรออกไปเลยสักครั้ง ผู้ชายคนนี้เวลาเงียบขึ้นมา มันให้ความรู้สึกดูเย็นชาจริงๆ ทำให้ก้นบึ้งของหัวใจคนที่เห็นรู้สึกเย็นยะเยือกไปเลย ช่วงเวลาพักกลางวันกู้เหยาต้องรวบรวมเอกสารการวางแผนโครงการของบริษัทซิงฮุยขึ้นใหม่อีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ส่งให้แก่ประธานหลิวอย่างไม่มีปัญหา เธอจึงไม่ได้ไปกินข้าวที่โรงแรมปั่ยเหอ ช่วงบ่ายตอนที่โม่ข่ายโทรศัพท์มา กู้เหยากำลังฟังจ้าวจูนฉิงพูดเสนอความคิดเห็นอยู่ จึงไม่ได้รับสายของโม่ข่าย เดิมทีเธอตั้งใจจะโทรกลับไปหาโม่ข่ายทีหลังจากคุยงานเสร็จ แต่ทว่าด้วยงานที่ยุ่งยากจนในหัวเต็มไปด้วยงานจึงทำให้เธอลืมเรื่องที่จะโทรกลับไปหาโม่ข่ายเสียสนิท จวนจะถึงเวลาเลิกงาน โม่ข่ายเรียกเหลียงฮุ่ยอี๋ผู้ช่วยส่วนตัวเข้ามาถาม “ผู้หญิงทั่วไปแบบพวกคุณปกติแล้วจะโกรธเพราะเรื่องอะไรหรือ”เหลียงฮุ่ยอี๋เดาได้ทันทีเลยว่า ท่านประธานกับคุณกู้เหยาน่าจะมีปัญหาอะไรกัน คิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา “การที่ผู้หญิงโกรธมันไม่มีเหตุผลหรอกค่ะ”โม่ข่ายกระตุกคิ้ว น่าจะเป็นเพราะเมื่อคืนวานที่เขาโกรธจนไม่สนใจกู้เหยา วันนี้เธอจึงใช้วิธีเดียวกับกับเขาโดยการโกรธและไม่สนใจตอบเขาเป็นการประท้วงกลับคืนเหลียงฮุ่ยอี๋ยังพูดอีก “แต่ก็ว่านะคะ ผู้หญิงเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใจอ่อนง่าย แค่ท่านประธานง้อเธอนิดหน่อย เรื่องทั้งหมดก็จะหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนค่ะ”ฟังคำตอบจากเหลียงฮุ่ยอี๋ ทำให้โม่ข่ายกลับมาคิดกับตัวเองอีกครั้ง ในชีวิตนี้ของเขาไม่เคยง้อผู้หญิงเลยสักครั้ง ไม่รู้เลยจริงๆว่าควรจะง้อแบบไหน เหลียงฮุ่ยอี๋ดูเจ้านายตัวเองแล้วครุ่นคิดเงียบๆ พอได้จังหวะที่เหมาะสมจึงพูดขึ้นว่า “ผู้หญิงค่อนข้างชอบความโรแมนติกค่ะ อย่างเช่น มอบดอกไม้ให้เธอ ชวนเธอไปกินข้าว อะไรประมาณนี้ก็พอแล้วนะคะ”โม่ข่ายเลิกคิ้วขึ้นมองเหลียงฮุ่ยอี๋ เหลียงฮุ่ยอี๋จึงรีบพูดขึ้นมาอีกว่า “ดิฉันรู้จักภัตตาคารลอยฟ้าอยู่ที่เจียงเป่ยร้านหนึ่ง มีคู่รักหลายคู่ชอบไปที่นั่นแต่เผอิญว่าภัตตาคารนี้เป็นธุรกิจอยู่ภายใต้การดูแลของบริษัทเซิ่งเทียน คืนนี้จึงไม่เปิดบริการให้บุคคลภายนอกใช้บริการ โม่ข่ายยังคงไม่ได้พูดอะไรออกมา แต่ดูจากสีหน้าท่าทางของเขาที่เปลี่ยนไปเล็กน้อย เหลียงฮุ่ยอี๋ก็รู้ทันทีว่าโม่ข่ายเห็นด้วยกับความคิดเห็นของเธอ เหลียงฮุ่ยอี๋พูดยิ้มๆ “ถ้าอย่างนั้น ดิฉันขอไปจัดการเรื่องการจองก่อนนะคะ”เดิมทีโม่ข่ายรู้สึกไม่ชอบการที่ต้องเอาเวลาทีมีค่ามาเสียไปกับการตามง้อผู้หญิง แต่ว่าครั้งนี้อีกฝ่ายนั้นเป็นกู้เหยาภรรยาของตัวเองทำให้เขาไม่รู้สึกว่ามันน่าเบื่อหน่ายเลยที่จะต้องทำ ในตอนบ่าย จ้าวจูนฉิงได้เสนอความเห็นในแผนโครงการอยู่สองข้อ ซึ่งขอเสนอนั้นเสนอได้โดนประเด็นมาก กู้เหยาจึงได้เปลี่ยนแปลงแก้ไขเพิ่มเติมลงในแผนโครงการเป็นจำนวนมาก แก้ไขไปแก้ไขมาจนเธอพอใจกับแผนโครงการนี้ จึงเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าเวลาเหนึ่งทุ่มแล้วพลันให้นึกถึงโม่ข่ายขึ้นมา กู้เหยาบันทึกเอกสารโครงงานนี้เสร็จ ก็รีบปิดเครื่องคอมพิวเตอร์ ใครจะไปรู้ว่าพอเงยหน้าขึ้นมาจากจอ ก็เจอกับภาพเงาของโม่ข่ายยืนอยู่ด้านหน้าโต๊ะทำงานของเธอ ดวงตาเยือกเย็นสองข้างมองที่กู้เหยาเงียบๆ ด้วยสัญชาตญาณ กู้เหยารีบมองซ้ายมองขวา และรอบๆจนเห็นว่าไม่มีใครอยู่เลยสักคน เธอจึงพูดขึ้นมา “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงคะ” โม่ข่ายโทรหากู้เหยาหลายครั้ง กู้เหยาก็ไม่รับสาย ทำให้โม่ข่ายต้องมารอกู้เหยาที่นี่ แล้วยังยืนรอเป็นเวลาสิบกว่านาทีเพราะกู้เหยาก็ยังคงยุ่งอยู่กับงานไม่ได้รับรู้การมาของโม่ข่ายเลยสักนิด แล้วนี่กู้เหยาทำงานจนเสร็จถึงจะได้รู้ว่าโม่ข่ายมาหาถึงที่ทำงานและด้วยความที่เธอคาดไม่ถึงว่าเขาจะโผล่มา เธอทำสีหน้าตกใจมากที่เจอเขา ด้านโม่ข่ายเองก็อยากจะไล่เธอออกจากงานเสียจริงๆ เขากระแอมไอเล็กน้อยเพื่อปรับอารมณ์ความไม่พอใจที่มีต่อกู้เหยา “คุณกำลังรอฉันกลับไปทำอาหารใช่ไหมคะ” กู้เหยาเก็บของไปด้วยพูดไปด้วย “ขอโทษจริงๆนะคะงานฉันยุ่งจนลืมไปเลย ถ้าอย่างนั้นเราทานข้าวข้างนอกดีกว่าไหมคะ” กู้เหยาเห็นโม่ข่ายไม่พูดอะไร จึงพูดต่อไปอีก “เดี๋ยวฉันเลี้ยงเองค่ะ”โม่ข่ายไม่พูดอะไรเลย ยื่นแขนออกมาจูงมือกู้เหยาเดินออกไป ที่บริษัทถึงแม้จะไม่มีใครอยู่แต่ก็ยังมีกล้องวงจรปิด คนอื่นมาเห็นอาจจะดูไม่ดี กู้เหยาคิดได้แบบนั้นจึงรีบสะบัดโม่ข่ายออกแต่กลับทำให้โม่ข่ายจับเธอไว้แน่นกว่าเดิมโม่ข่ายจูงกู้เหยาเข้าไปในลิฟต์ที่ใช้เฉพาะท่านประธานเท่านั้น ลงไปถึงลานจดรถและเข้าไปนั่งในรถเบนท์ลี่ย์สีเงิน กู้เหยานั่งหลังตรงเงียบๆที่นั่งข้างคนขับ เอียงหัวหันไปมองโม่ข่ายเห็นสีหน้าของเขาเรียบเย็นให้ความรู้สึกกริ่งเกรงเป็นอย่างมากจึงขยับตัวออกห่างไปทางประตูโดยอัติโนมัติ ทันใดนั้นโม่ข่ายก็เอียงตัวมาทางกู้เหยา เขาโถมตัวเข้ามาหาเธอ ด้วยสัญชาติญาณตอบสนอง เธอจึงหลบ ทำให้หัวไปชนเข้ากับประตูรถ จนเธอร้องซู้ดออกมา ด้วยความเจ็บ “อย่าขยับอยู่นิ่งๆ” โม่ข่ายเห็นกู้เหยาหัวชนประตู สีหน้ายิ่งขรึมขึ้นมากกว่าเดิม รีบคาดเข็มขัดนิรภัยให้กู้เหยา “ขยับเข้ามาให้ผมดูหน่อย” “ฉัน…” เดิมทีกู้เหยาอยากจะปฏิเสธแต่เห็นใบหน้าเรียบเย็นของเขาแล้วจึงไม่กล้าปฏิเสธออกมา ทำได้แค่ขยับเข้าไปใกล้ๆเขาอย่างเขินอาย แท้ที่จริงแล้วที่โม่ข่ายโถมตัวเข้ามาหาเธอก็เพื่อที่จะคาดเข็มขัดนิรภัยให้ แต่เธอกลับคิดฟุ้งซ่านไปเองและทั้งหมดนี้ก็อยู่ในสายตาของโม่ข่าย กู้เหยาก้มหน้ากัดริมฝีปากตัวเองอยากจะหลบมุดลงไปอยู่ในใต้ท้องรถสักพักจริงๆ กู้เหยารู้สึกได้ว่าโม่ข่ายกำลังปัดผมเธอออก ปลายนิ้วของเขากดเบาๆที่หัวของเธอเหมือนกำลังดูอย่างตั้งใจว่าเธอเจ็บที่ตรงไหน วินาทีถัดมากู้เหยารู้สึกว่ามันไม่น่าจะใช่สิ่งที่เธอคิดแล้ว นิ้วเรียวยาวของเขาเริ่มขยับลงมาจากหัว ลูบไล้ไปมาที่ใบหน้าของเธอ การเคลื่อนไหวด้วยปลายนิ้วของโม่ข่ายเป็นไปอย่างเบาๆด้วยความอ่อนโยนให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าเขากำลังประคองเพชรพลอยล้ำค่าอยู่ กู้เหยาตกใจจนลมหายใจหยุดชะงักไป หัวใจเต้นตึกตัก หลับตาแน่นไม่กล้ามองโม่ข่าย แต่ทว่าหลังจากเวลาผ่านสักพักเธอก็อดใจไม่ได้ที่อยากจะรู้ว่าโม่ข่ายจำทำอะไรต่อ กู้เหยาจึงกระพริบตาขึ้นอยากจะดูว่าเขาจะทำอะไรกันแน่ กู้เหยามองเห็นใบหน้าหล่อเหลาของโม่ข่ายกำลังเข้ามาใกล้ ริมฝีปากอุ่นร้อนของเขาประทับลงที่ปากของเธอ สัมผัสเพียงแค่เบาๆไม่ได้ลึกซึ้ง เขาจึงปล่อยตัวเธอแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเซ็กซี่ที่ไม่มีใครเทียบได้ว่า “แค่นี้ได้ไหม” “อะไรนะ” กู้เหยางงงวย คิดไม่ทันว่าที่เขาพูดมันหมายความว่าอะไร ผ่านไปสักพักจึงนึกได้ว่าผู้ชายคนนี้คิดว่าเธอกำลังรอให้เขาจูบอยู่แน่ๆ อ้อๆกู้เหยากำกำปั้น อารมณ์เหมือนกับทนไม่ไหวอยากจะชกหน้าคน นึกไม่ถึงว่าเขาจะคิดว่าเธอรอจูบจากเขา ถ้าอย่างนั้นเธอ…. กู้เหยายื่นมือมาปลดล็อคเข็มขัดนิรภัย โถมตัวพุ่งเข้าไป กลีบปากสีชมพูกดประทับอย่างแรงลงไปบนริมฝีปากของโม่ข่ายทำให้เขาหยุดนิ่งไปหลายวินาที เธอจูบแช่นานกว่าตอนที่โม่ข่ายจูบเธอเล็กน้อยเหมือนกับว่าเธอกำลังเอาคืนโม่ข่าย หลังจากนั้นก็รีบผละออกมาอย่างรวดเร็วกลับไปนั่งที่นั่งตัวเองพร้อมคาดเข็มขัดนิรภัย ตามจริงเธอตั้งใจจะทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ว่าหน้าของเธอกลับยิ่งแดงขึ้นโดยไม่ได้ตั้งใจ
已经是最新一章了
加载中