ตอนที่86อับอาย
ตอนที่86อับอาย
เธอหลับตาลงแล้วนึกถึงท่าทางและปฏิกริยาของปุริมเมื่อเจอพนินีนั่นทำให้เธอยิ่งปวดใจมากเขาคงเกลียดจนแทบอยากจะฆ่าเธอในตอนนี้เขาต้องกำลังเล่าเรื่องของอ้อยและส้มให้พนินีฟังแน่ๆ
เฮ้อเธอถูกทิ้งแล้วยังจะมาพูดว่าอยากให้เธอเป็นผู้หญิงของเขานั่นมันเป็นไปไม่ได้เลยเขาก็เพียงแค่ต้องการร่างกายของเธอเท่านั้นอย่างอื่นเขาก็ไม่สนใจหรอก.
เป็นเวลานานก่อนโทรศัพท์ในกระเป๋าของเธอก็มีเสียง“ติ๊ง”เธอจึงล้วงมือลงไปหยิบอย่างเงียบๆและเปิดออกมาดู
“เพ็ญนีติ์เธออยู่ที่ไหนแล้วเด็กๆหล่ะเธอจะหนีอีกแล้วใช่มั้ย?”
เป็นเพียงแค่ข้อความสั้นๆที่ส่งเข้ามาแต่เขาไม่ได้โทรมาหาเธอนั่นก็ทำให้เธอรู้ว่าตอนนี้เขาต้องอยู่กับพนินีทำให้เขาไม่สะดวกที่จะโทรมาหาเธอ
เธอตอบกลับไปเพียงไม่กี่ตัว:ฉันกลับมหาวิทยาลัยดรัลแล้วเจอกัน.
ยังเจอกันอีกงั้นหรอ?เจอกันอีกครั้งเขาคงอดไม่ได้ที่จะกินเธอเข้าไปแน่เพราะเธอพาอ้อยและส้มไปทำให้พนินีเข้าใจผิด
หลังจากที่ส่งข้อความเสร็จเธอก็ปิดเครื่องลงก่อนที่จะถึงมหาวิยาลัยดรัลนั่นเป็นเพราะเธอไม่อยากที่จะสนใจใครอีก.
เพ็ญนีติ์ผล็อยหลับไปในที่สุดหลังจากที่เธอนอนไม่หลับทั้งคืนและคิดถึงเกี่ยวกับเรื่องราวมากมายที่เกิดขึ้นตลอดวันนี้และเธอตื่นขึ้นมาด้วยเสียงเรียกของเด็กๆ“มามี๊ลงรถๆรถจอดแล้ว”
“อ๊า!”เธอสูดจมูกนอนไม่เต็มอิ่มเลยจริงๆแต่ก็มีเด็กทั้ง2คนต้องดูแลเมื่อพวกเขาเปิดหน้าต่างก็ทำให้เธอตื่นขึ้นมาอย่างเต็มตาพร้อมกับกยิบกระเป๋าเป้มาสะพายหลังเด็กๆและพาลงจากรถพร้อมกับพาขึ้นรถแท็กซี่ที่จ้างมาไว้โอ้โหวันนี้เธอใช้เงินเปลืองเหลือเกิน
“มามี๊นี่เราจะไปที่ไหนกันคะดูเหมือนไม่ใช่ทางกลับบ้านของเราเลย”
ใช่ไม่ใช่ทางกลับบ้านเธอกำลังหนีและอยากจะไปหาคนร้ายที่นำเรื่องทั้งหมดไปบอกปุริมนั่นก็คือนภนต์เขานี่ยุ่งไม่เข้าเรื่องจริงๆ!
“ไปบ้านพ่อเลี้ยงดีมั้ย”ฉันยิ้มเมื่อได้หลับสักตื่นจิตใจฉันก็สงบลงไปมาก
“แล้วแด๊ดดี๊หล่ะคะ?”
“แด๊ดดี๊มีธุระค่ะ”
“มามี๊แล้วของมามี๊ไม่ต้องไปหาหมอหรอคะ?”
“คุณยายรักษาได้ค่ะไว้ถึงบ้านเดี๋ยวให้คุณยายดูให้ก็ดีแล้วหล่ะ”
“โอเคค่ะพวกเราก็คิดถึงคุณยายมามี๊เราต้องอยู่บ้านคุณยายกับพ่อเลี้ยงจริงๆหรอคะ?”
“ใช่ค่ะ”ในช่วงเวลานี้เธอต้องการที่จะซ่อนตัวสักสองสามวันและเป็นการให้เวลาปุริมในการตัดสินใจปรับอารมณ์
“งั้นก็โอเคค่ะขอแค่ให้หม่ามี๊สบายใจถ้าหม่ามี๊สบายใจพวกเราก็สบายใจ”
ฉลาดจังเลยนะลูกเรามีคนกล่าวว่าลูกสาวตัวน้อยคือดวงใจของหม่ามี๊ซึ่งอ้อยและส้มก็เป็นเช่นนั้นจริงๆเธอกอดลูกสาวของเธอไว้พร้อมกับจิตใจของเธอที่สงบลงถ้าหากเสียใครไปสักคนเธอก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงจริงๆแค่เพียงเธอมีลูกๆก็เปรียบเสมือนกับโลกทั้งใบของเธอ
เมื่อรถหยุดลงเพ็ญนีติ์จึงเปิดโทรศัพท์มีข้อความเด้งเข้ามามากมายนอกจากนี้ยังมีสายเรียกเข้ามานับไม่ถ้วนปุริมกำลังหาเธอแต่ว่าตอนนี้เธอยังไม่อยากให้เขาหาเธอพบ.
“นภนต์ฉันอยู่หน้าบ้านเธอ”
“ห้ะอะไรนะเธอพูดว่าไงนะ?”นภนต์ตกใจและไม่เชื่อในคำที่เธอพูด
“รีบออกมารับฉันเร็วๆฉันเหนื่อยจนจะขยับตัวไม่ได้อยู่แล้ว”เธอเร่งเขาอย่างอ่อนแรง
“รอก่อนๆฉันจะรีบไป”
เมื่อเขาพูดจบก็ตัดสายไปเพ็ญนีติ์ก็จินตนาการถึงภาพที่เขารีบออกมาจากห้องนอนด้วยเท้าเปล่าและรีบตรงดิ่งมายังหน้าประตูบ้านเพราะตอนนี้ก็เป็นเวลา5ทุ่มกว่าแล้วซึ่งเป็นเวลาที่คนทั่วไปเข้านอนกันเรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่ถึง2นาทีนภนต์ก็ปรากฎตัวอยู่หน้าประตูบ้านของตระกูลศาสตร์พงษ์ยามที่ดูแลน่าจะหลับไปแล้วเพราะเธอเรียกไปตั้งนานแต่ไม่มีใครตอบกลับเธอนภนต์เปิดประตูอย่างเบามือและถามเธออย่างประหลาดใจ”เพ็ญเธอกลับมาเร็วขนาดนี้ได้ยังไง?”
ฉันถือวิสาสะจับมืออ้อยและส้มพาเข้าไปในสวนเธอพูดขัดขึ้นมา“คุณก็เร็วเหมือนกันไม่ใช่หรอตอนบ่ายยังไล่ตามฉันอยู่เลยตอนนี้ก็นอนพักผ่อนอยู่บ้านสบายใจลืมฉันกับเด็กๆไปหมดแล้วนี่”เธอพูดด้วยความโมโหที่เขาลืมเธอไว้ที่อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟ.
“เพ็ญผมขอโทษ”นภนต์พูดด้วยเสียงแผ่วเบา
“มีอะไรที่จะต้องขอโทษหล่ะฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณคุณขอบคุณที่ทำให้ส้มและอ้อยมีแด๊ดดี๊”ฉันปล่อยมือเด็กๆให้พวกเขาวิ่งไปที่ห้องนั่งเล่นก่อนและเธอก็เดินตามหลังนภนต์อย่างไม่เดือนไม่ร้อน
“เพ็ญเด็กๆต้องการแด๊ดดี๊ก็จริงแต่ผมรู้สึกว่าคุณก็ควรที่จะมีคนดูแลอยู่ข้างๆคุณบ้าง”
“โอ้ๆนี่คุณคิดว่าเขาสามารถดูแลฉันได้หรอนภนต์?พนินีกลับมาแล้วและเขาชอบเธอมาตลอดและเมื่อตอนเย็นเธอก็มาปรากฎตัวอยู่ที่อุทยานธรณีวิทยาภูเขาไฟนภนต์คุณทำให้ฉันเสียหน้า”เธอไม่ได้อยากทำให้พนินีเห็นและเธอก็ไม่ได้อยากที่จะทำให้เกิดระยะห่างระหว่างพนินีและปุริมและตอนนี้ปุริมคิดเช่นนั้น
“พนินีหรอ?”นภนต์ครุ่นคิดหลังจากที่หยุดไปสัก5วินาทีและพูดขึ้นมาว่า“โอเคผมจะไม่สนใจเรื่องของคุณแล้วแต่ว่าในเมื่อคุณมาแล้วงั้นก็อยู่ที่นี่ไปก่อนแล้วกันนะ”
“แน่นอนฉันก็อยากจะอยู่ในตระกูลศาสตร์พงษ์แต่ว่าครั้งนี้คุณห้ามเอาเรื่องที่ฉันมาอยู่ที่นี่ไปบอกปุริมอีกนะ!”
“ไม่แล้วๆ”เขายิ้มอย่างเคอะเขิน“ฉันเพียงแค่อยากให้ส้มและอ้อยมีความสุขไม่ได้คิดจริงๆว่า.....”
“มีหลายสิ่งหลายอย่างที่คุณไม่รู้ถึงฉันไม่ได้แต่งงานกับคุณแต่ก็ไม่อนุญาตให้คุณผลักฉันไปให้ใครก็ได้ฉันเป็นคนไม่ใช่สิ่งของที่จะสามารถส่งไปส่งมา”เป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกอึดอัดใจมากตอนที่อยู่ต่อหน้านภนต์เธออยากตบหน้าเขาจนแทบจะทนไม่ไหวแต่ทำได้เพียงแค่อดทนและไม่ทำอะไรเลย.
ในสนามหญ้าต้นไม่พริ้วไสวไปมาเสียงของเธอก็ล่องลอยไประหว่างต้นไม้ดอกไม้ด้านหลังของเธอนภนต์โผล่มาจับแขนของเธอทำให้เธอเซด้วยความที่ไม่ระวังทำให้เธอล้มลงไปอยู่ในอ้อมแขนของนภนต์อย่างรวดเร็วเสียงของเขาท่ามกลางความมืดพูดกับเธอว่า“เพ็ญนีติ์ถ้าหากคุณยังไม่มีความรักและยังไม่รักใครก็เปลี่ยนที่นี่ให้เป็นบ้านของคุณดีไหมถือว่าเป็นการให้โอกาสผมและให้โอกาสตัวเองด้วย”เขาพูดขณะที่ริมฝีปากกดอยู่บนเส้นผมของเธอความหอมจากเธอทำให้คืนนี้กลายเป็นคืนที่อบอุ่นขึ้นมาทันที
,คำพูดสวยหรูทำให้ใจที่งใจไหวหวั่น
กี่วันกี่คืนที่รอคอยในความเป็นจริงเธอเองก็ไม่เคยไปไหน
เพียงแต่หัวใจไม่สามารถพูดได้
ทำได้เพียงแค่รู้สึก.....
เวลาผ่านไปเนิ่นนานเธอและนภนต์ต่างรู้ความรู้สึกของอีกฝ่ายเพียงแต่ไม่มีใครพูดขึ้นมาเขารู้ว่าหัวใจของเธอไม่ได้อยู่ที่นั่นแต่เขาก็ได้พูดออกมาแล้ว
มืออุ่นๆถูกจับขึ้นมาที่จริงเขาผลักเธอไปให้ปุริมเพียงแค่เพราะอยากให้เธอมีความสุข
รักมากเท่าไหร่ความซื่อสัตย์ก็ตามมา
ทั้งหมดนั้นก็คือความจริงใจ
อย่างนั้นถ้าหากปุริมไม่เหมาะสมกับเธอเธอจะพยายามยอมรับนภนต์จริงๆหรือ?
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้เธอรู้และเข้าใจว่านภนต์เป็นผู้ชายประเภทที่ต่างกับพ่อของเธอมากจริงๆเขาเป็นคนที่ไม่เจ้าชู้เพราะว่าในปีนี้แม้แต่จะพาผู้หญิงไปไหนมาไหนยังไม่มีเลยแต่ผู้หญิงที่ไล่ตามเขากลับต่อแถวยาวเหยียดเธอรู้และรู้มาโดยตลอดเขาไม่ได้สนใจอดีตของเธอและไม่ได้สนใจว่าเธอจะมีลูกติดมาวันเวลาผ่านไปทำให้เธอรู้จักเขามากขึ้นตอนนี้เขาเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในชีวิตของเธอแต่ตอนที่หัวใจเธอเต้นกลับมีเสียงเล็กๆในใจคอยขัดขวางการตัดสินใจเธออยู่เสมอ.
ไม่ได้คนที่อ้อยและส้มต้องการคือแด๊ดดี๊ไม่ใช่พ่อบุญธรรม.
ความสับสนขัดแย้งภายในใจตีกลับไปมาเป็นร้อยเป็นพันเพียงแค่มองทะลุผ่านแว่นตาสีใสของเขาและมองเข้าไปในนัยตาสีดำสนิทของเขาทุกอย่างยังคงชัดเจนทั้งความรักการรอคอยที่เขามีให้เธอไม่เคยเปลี่ยนแปลงไปเลย
นี่ถึงจะเป็นความไว้วางใจที่แท้จริง
แค่เธอมีเขาเธอจะสามารถขออะไรก็ได้
ริมฝีปากแผ่วเบาเพียงแค่ให้โอกาสเขาและตัวเองสักครั้งได้ถ้าอย่างนั้นก็ยิ่งได้ถ้าหากไม่ก็จะยิ่งเสียดายโดยเฉพาะเป็นเขาก็จะยิ่งเสียดาย
“เอ่อฉัน......”
“พรึ่บ”ไฟในสวนอยู่ดีๆก็สว่างขึ้น“เจ้เพ็ญนีติ์ดึกมากแล้วพวกคุณทำอะไรกันอยู่เด็กๆก็เข้าไปตั้งนานแล้วยังไม่เข้าไปกันอีกหรอเพ็ญนีติ์คุณไปดูหน่อยสิไม่รู้ว่าส้มหรืออ้อยทำแจกันดอกไม้บ้านฉันแตกแล้ว”
มือของเขาทั้งสองแยกออกจากกันทันทีเพ็ญนีติ์แค่รู้สึกว่าสายตาของผลดาที่มองมาที่เธอเปรียบเสมือกับมีดที่ฟันเข้าร่างของเธอผู้หญิงคนน้มักจะมองเธอด้วยสายตาอย่างศัตรูเสมอเธอรีบเดินไปที่ห้องรับแขกเวลานี้เธอไม่มีเวลามารับรู้เรื่องของผลดาแล้วเพราะเธอห่วงเด็กๆมากกว่า
เพียงแค่ผลักประตูออกเธอก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของเด็กๆ“หม่ามี๊.....”เมื่อเด็กทั้งสองได้ยินเสียงประตูเปิดและเห็นเธอก็รีบวิ่งเข้าไปหา“หม่ามี๊แจกันดอกไม้แตกแล้ว”
เพ็ญนีติ์กอดเด็กๆไว้แล้วถาม“แตกได้ยังไงคะ”
“คือ....คือน้าผลดาเขา...”
“เด็กๆจะพูดอะไรไร้สาระพวกเธอพูดสิว่าเธอสองคนใครเป็นคนทำแจกันแตก”ผลดาตะโกนใส่เด็กๆอย่างโหดร้าย
“ผลดาแต่ว่าอันนี้มันก็แค่แจกันธรรมดาๆถ้าหากคุณชอบฉันจะสั่งให้คนไปหาซื้อแบบเดิมให้อย่าทำให้เด็กๆกลัวเลย”นภนต์เดินเข้ามาด้านหลังด้วยใบหน้าเคร่งเครียดเขาตอบกลับเสียงเย็นอย่างไม่ไว้หน้าผลดา
“พี่นี่พี่ไม่ยุติธรรมเลยเด็กสองคนนั้นมีอะไรดีทั้งๆที่ไม่ใช่ลูกของตัวเองและก็ยังไม่รู้ว่าเป็นลูกของผู้ชายคนไหนนึกไม่ถึงเลยว่ายังมีหน้ามาที่บ้านเราอีกเฮ้อะไม่อายบ้างรึไง”ผลดาพูดออกมาอย่างที่ใจอยากจะพูด
เพ็ญนีติ์หน้าชาไปชั่วขณะแต่เดิมเธอคิดว่าตะกูลศาสตร์พงษ์จะสามารถเป็นที่หลบภัยชั่วคราวให้เธอได้แต่ไม่คิดว่าเข้ามาแล้วจะเจอคำพูดจาว่าร้ายของผลดาเธอคือผู้ใหญ่ยังสามารถรับมือได้แต่ว่าส้มกับอ้อยตอนนี้น้ำตาไหลออกมาแล้วสิ่งที่ทนไม่ได้ที่สุดสำหรับพวกเขาคือการตะโกนใส่ว่าไม่มีพ่อส้มกับอ้อยสะบัดมือของเพ็ญญีติ์และพุ่งตรงไปข้างหน้าของผลดา“คุณน้าหนูเรียกคุณว่าคุณน้าก็เพราะว่าหนูเคารพคุณแต่คุณครูอนุบาลที่สอนหนูบอกว่าการด่าคนอื่นว่า‘ไม่มีพ่อ’คือคนที่ไม่เข้าใจเรื่องมารยาทคุณน้าคือคนที่ไม่เข้าใจเรื่องมารยาทหรอคะ?อ่อแล้วก็หนูกับส้มมีแด๊ดดี๊ค่ะ”
“ฮ่าฮ่าฮ่าช่างแฟนตาซีจริงๆเธอสองคนไปมีแด๊ดดี๊ตั้งแต่เมื่อไหร่หล่ะ?แล้วเธอตัวแค่นี้จะเอาอะไรมาสอนฉันหรอห้ะ?ผลดาเมื่อถูกส้มตำหนิก็รู้สึกอับอายเธอนั่งยองๆและจ้องมาที่ส้มแทบจะอดไม่ได้ที่จะกินเขาเข้าไป
ส้มก็ไม่ได้แสดงท่าทีอ่อนแอกลับยืนจ้องกลับด้วยความเข้มแข็งต่อหน้าผลดาอ้อยก็รีบพุ่งขึ้นไปด้านบนมองส้มที่หอบหายใจเฮือกๆอ้อยผลักผลดาออกไปอย่างรุนแรง“พวกเรามีแด๊ดดี๊และแด๊ดดี๊ของเราก็ชื่อปุริม!”