บทที่23 ทำพินัยกรรม
1/
บทที่23 ทำพินัยกรรม
คนในใจของนาย(ไม่)ใช่ฉัน?!
(
)
已经是第一章了
บทที่23 ทำพินัยกรรม
บ๗ที่23 ทำพินัยกรรม ภายนอกร้านอาหารแออัดไปด้วยผู้คน “โมลี ทางนี้!” นีราและโมลีทั้งสองคนมาถึงร้านอาหาร ก็มีคนโบกไม้โบกมือเรียกพวกเธอทันที “แนะนำก่อนนะ นี่คือเพื่อนของฉัน นีรา” โมลีดันนีราไปข้างหน้าและแนะนำเธอ “ทั้งสองคนนี้ก็คือเพื่อนของฉันนิบุณและเตชินท์” นีราคิดมาตลอดว่ามีเพียงแค่เธอกับโมลีกินข้าวด้วยกัน ดังนั้นเธอจึงประหลาดใจที่เห็นพวกเขา “สวัสดี นิบุณ” ผู้ชายที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างลุกขึ้น เขาสวมแว่นตากรอบบาง ๆสีทอง และดูมีสง่า มีมารยาท “เตชินท์” ผู้ชายที่นั่งข้างนอกมองภายนอกดูเบิกบานและตรงไปตรงมาเสียงพูดของเขาค่อนข้างต่ำ เขายื่นมือขวาออกมา “โมลีกับพวกเราเคยพูดถึงคุณมาก่อน เธอพูดเสมอว่าคุณนั้นสวย พอวันนี้ได้เจอ คุณสวยจริงๆ เมื่อสักครู่ฉันเห็นคุณโดดเด่นออกมาจากกลุ่มคน” เธอได้ยินคนชมว่าสวยมาโดยตลอด นีราได้ยิ้มเบาๆ “พอแล้ว หยุดทำให้คนอื่นเขาสะอิดสะเอียนได้แล้ว” โมลีเหลือบมองไปที่เตชินท์ “นั่งลง นั่งลงไม่ต้องเกรงทำตัวตามสบาย กินข้าวด้วยกันสองสามครั้งพวกเราก็สนิทกันแล้ว” ที่จริงแล้วนีราต้องการจะบอกกับโมลีเรื่องที่เธอจะลาออกบ่ายนี้ แต่ว่าเมื่อพบคนแปลกหน้าสองคน สุดท้ายแล้วนีราก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา สิ่งที่ทำให้เธอประหลาดใจก็คือ นิบุณและเตชินท์ทั้งสองเป็นคนที่ช่างพูดมาก เธอกำลังอยู่ในอารมณ์ที่มืดมนแต่เพราะเสียงหัวเราะของพวกเขาทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมาอีกครั้ง เมื่อต้องแยกกัน ทั้งสามคนได้แลกช่องทางติดต่อกันไว้ “นีรา เธอไม่โกรธใช่ไหมที่ฉันแนะนำพวกเขาให้คุณรู้จักโดยไม่บอกให้ทราบก่อน” หลังจากแยกกันโมลีจับมือและขอโทษนีรา “ฉันคิดว่าพักนี้เธอกำลังอยู่ในอารมณ์ที่ไม่ดี ฉันคิดว่ามันจะดีกว่าที่เธอจะได้รู้จักเพื่อนใหม่ พวกเขาเป็นเพื่อนที่ดีของฉันและพวกเขาเชื่อถือได้” “จะโทษเธอได้อย่างไร ไม่มีทางแน่นอน” นีราตีเบาเบาไปที่หลังมือของเธอ หลังจากที่เธอกลับประเทศมา เธอทุ่มเทใจทั้งหมดไปที่โตษณ ไม่ต้องพูดถึงทำความรู้จักเพื่อนใหม่ แม่เพื่อนที่รู้จักกันเมื่อก่อนก็ไม่ได้คิดต่อกันเลย “ดีจริงที่เธอไม่โกรธฉัน” โมลีโยกศีรษะ ด้วยความตื่นเต้นและพูดออกมาว่า “วันนี้วันศุกร์ พรุ่งนี้วันหยุดไม่ต้องมาทำงาน พวกเรามาหาอะไรทำกันดีไหม” “โมลี วันนี้ฉันมีเรื่องที่จะต้องบอกกับเธอ” นีราหยุดอยู่ที่หน้าทางเข้าประตูบริษัท “บ่ายนี้ฉันจะย้ายกลับไปอยู่ที่บ้านแล้ว” “ทำไมเร็วขนาดนี้?” “อือ ฉันรบกวนเธอมาหลายวันแล้ว ตอนนี้ที่บ้านอยู่ได้แล้วฉันต้องกลับไป” “ถ้าอย่างนั้นก็โอเค” โมลีก้มหัวลงเล็กน้อยแสดงออกถึงความเสียใจ “ถ้าหากว่าเธอมาอยู่กับฉันได้ก็คงดี ฉันอยู่คนเดียวในอพาร์ทเม้นท์นั้นมันรู้สึกเหงา” เป็นครั้งแรกที่เห็นใบหน้าของโมลีแสดงออกมาถึงความรู้สึกเสียใจ นีรารู้สึกผิด เธอรู้ว่าความรู้สึกแบบนี้รู้สึกสนุกสนานอบอุ่นมาก่อนแล้วต้องกลับไปอยู่เหงาๆมันค่อนข้างที่จะทำใจไม่ได้ “โชคดีที่เรายังทำงานอยู่ในบริษัทเดียวกันหลังจากนี้พวกเราสามารถเล่นกันได้ตลอดเวลา” นีรารู้สึกอึดอัดใจจนพูดอะไรไม่ออก “ไม่ใช่ใช่ไหม” โมลีถามอย่างไม่เข้าใจ “เธอไม่ได้จะลาออกใช่ไหม” นีราพยักหน้า “วันนี้ฉันมาเก็บของที่บริษัท สัปดาห์หน้าก็จะไม่มาทำงานแล้ว” “ทำไมล่ะ?” อดไม่ได้ถามออกมาเสียงดัง เธอรู้สึกว่าเธอเข้ากันได้ดีกับนีราถึงแม้ว่าจะรู้จักกันได้ไม่นาน แต่เธอได้นับว่านีราเป็นเพื่อนรักเธอไปแล้ว “โมลี ฉันมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถพูดออกมาได้” เธอตอบเบาเบา ถ้าเธอสามารถบอกโมลีได้เธอจะบอกกับเธอแน่นอน โมลีเป็นเพื่อนคนแรกที่เธอรู้จักที่บริษัทKU-Cooperation เธอต้องการที่จะรักษาความสัมพันธ์ระหว่างพวกเธอเอาไว้ “อืม ถ้าอย่างนั้นก็ติดต่อกันบ่อยๆนะ” โมลียื่นมือออกไปกอดนีราและเดินขึ้นไปข้างบนอย่างไม่ค่อยเต็มใจ เมื่อก้มมองไปดูเวลา นีราก็เดินไปที่ลานจอดรถชั้นล่าง ณ Blue cloud coffee เป็นร้านกาแฟที่ตกแต่งอย่างหรูหรา “สวัสดีครับ คุณคือคุณนีราใช่ไหมครับ” นีราเพิ่งก้าวเข้าไปในร้านกาแฟ พนักงานเสิร์ฟก็ออกมามาต้อนรับทันที “ใช่ค่ะ” นีราใช้มือจับสายกระเป๋าแน่น “โปรถมากับผม” ห้องบนชั้นสองที่มองเห็นถนน มีดอกกุหลาบสีแดงที่สวยงามเสียบอยู่ในแจกัน บนโต๊ะปูผ้าปูโต๊ะสีขาวสะอาดเหมือนใหม่ นีนาจับที่โต๊ะและนั่งลง “คุณโตษณบอกให้คุณรอเขาที่นี่” พนักงานออกไปอย่างเงียบๆ เธอสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของถนน ป้ายโฆษณาที่มุมถนน ผู้คนที่เดินอยู่ตามถนนและรถเมล์ที่วิ่งไปและหยุดผ่านทางหน้าต่างบานใหญ่จรดพื้นนั้นได้ แต่คนที่อยู่ข้างนอกไม่สามารถมองเห็นวิวภายในห้องได้ ทำไมเขาถึงจะต้องปล่อยให้คนภายนอกมาแนะนำความสัมพันธ์ของเราได้ล่ะ? เธอมองไปที่ดอกกุหลาบสีแดงบนโต๊ะหัวใจของนีราก็เริ่มเจ็บปวด จนเธอรู้สึกหายใจไม่ออก ใกล้จะถึงเวลาที่ได้นัดไว้ นีรารู้สึกเครียดมาขึ้น เธอจ้องมองไปที่ประตูห้องราวกับว่าโตษณกำลังจะผลักมันเข้ามา เวลาค่อยๆผ่านไปทีละน้อยแต่ประตูก็ยังไม่ขยับ หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง นีราก็อดทนต่อไปไม่ไหวเธอโทรไปเบอร์ที่เธอเคยคุ้นเคย “หมายเลขที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขนาดนี้ กรุณาติดต่อใหม่อีกครั้งค่ะ” เสียงตอบกลับอัตโนมัติพูดตอบกลับอย่างชัดเจน อีกครั้งและอีกครั้ง ณ ภายในห้องของประธาน ผ้าม่านถูกดึงขึ้นครึ่งหนึ่ง “คุณท่าน น้ำชาค่ะ” ชาลินีโค้งเล็กน้อยและยื่นแก้วชาให้อย่างระมัดระวัง “นี่เป็นชาที่คุณท่านชอบ ลองชิมดูนะค่ะ” เธอไม่ได้รู้สึกขอบคุณ เธอส่งสายตาไปที่พ่อบ้านทาศัย “คุณชาลินี คุณออกไปก่อนคุณท่านและคุณชายมีเรื่องที่จะต้องคุยกันแบบส่วนตัว” พ่อบ้านทาศัยพูดเสียงเรียบ “ถ้าไม่ใช่ฉันสั่งห้ามไม่ให้ใครเข้ามา” ถึงแม้ว่าจะไม่ค่อยนับถือแต่ชาลินีก็ก้มหัวและค่อยๆออกไป ใครจะไม่รู้ ถึงแม้ว่าโตษณจะได้ชื่อว่าเป็นประธานบริษัทแต่ว่าคนที่มีอำนาจควบคุมตระกูลภูลพิพัฒน์ก็คือคุณหญิงชราผู้นี้ตั้งแต่คุณผู้ชายเสียชีวิตนางกษัตริย์ได้กลายเป็นต้นแบบของครอบครัวคุณยายแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์ก็เป็นใหญ่ที่สุดในบ้าน ภายในห้องใหญ่แห่งนี้ตอนนี้เหลืออยู่เพียงแค่สี่คน “คุณย่านี่ คุณกำลังทำอะไร” โตษณลูบหน้าผากอย่างไม่พอใจและถามขึ้นมา “ข้างบนโต๊ะคืออะไร”คุณยายแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์ถึงแม้ว่ามีอายุมากแล้วแต่เธอก็มักจะนั่งตัวตรงอยู่เสมอ โตษณรีบเอามือปิดเอกสารที่อยู่บนโต๊ะทันที “ไม่มีอะไร มีเพียงแค่เอกสารบริษัทไม่กี่ฉบับเท่านั้น” “ทนายนวัต” คุณยายแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์พูดกับเขาอย่างช้าๆ “คุณพูดกับคุณชายใหญ่ของตระกูลภูลพิพัฒน์ที่ว่าวันนี้พวกเราทำอะไรลงไปบ้าง” “ครับ” ทนายนวัตลูบเสื้อผ้าของเขาและหยิบเอกสารขึ้นมา “คุณชาย เมื่อเช้าวันนี้คุณยายแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์และผมได้ไปที่สำนักงานรับรองเอกสารมรดก นี่คือสิ่งที่เราเขียนขึ้นมาตามความต้องการของคุณท่าน เมื่อถึงเวลาคุณยายแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์เซ็นชื่อเป็นสัญลักษณ์ไว้ จะมีผลบังคับทันที” เปิดเอกสารที่ทนายนวัตนำมาวางไว้บนโต๊ะแล้ว สีหน้าของโตษณก็เปลี่ยนไปทันที
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่23 ทำพินัยกรรม
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A