ตอนที่89ไม่สามารถเรียงลำดับได้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่89ไม่สามารถเรียงลำดับได้
ตอนที่89ไม่สามารถเรียงลำดับได้ ที่นภนต์พูดเธอมีความรู้สึกใจเต้นเล็กน้อย“อืมฉันรู้แล้ว” “ถ้าอย่างนั้นไปนอนเถอะพรุ่งนี้ฉันมีเวลาถ้าไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้เราออกไปข้างนอกไปดูเสื้อผ้าเพิ่มให้เด็กๆเถอะ” เธอพยักหน้าแต่ตอนที่จะเดินออกไปกจากสายตานภนต์กลับมีความรู้สึกกลัวขึ้นมาเรื่องพวกนั้นมันเกี่ยวกับปุริมจะจำกัดมันจริงๆหรอ? เธอไม่รู้ก็แค่เดาไปในใจก็กังวล วุ่นวายไปหมดวุ่นวายจนเธอไม่สามารถเรียงลำดับอะไรได้ เธอคงหลับไม่ลงแล้วแต่กลับใกล้รุ่งสางแล้ว ตื่นแล้วถูกเสียงของเด็กๆดังจนปลุกตื่นท้องฟ้าสดใสเตียงที่บ้านของนภนต์นอนสบายมากๆสบายกว่าในโรงแรมเยอะเลยตระกูลศาสตร์พงษ์ช่วงไม่กี่ปีมานี้เป็นไปได้ด้วยดีโอกาสทางสัญญาของเขาที่ให้ซึ่งกันและกันเธอจะทำมันให้ดีที่สุด “แม่ตื่นได้แล้ววันนี้คุณพ่อบุญธรรมจะพาไปโรงเรียนอนุบาลอยากไปเดินเล่นแล้ว” จมูกเล็กๆของอ้อยอ้อยยืดแขนบริการนิ้วมือ“ไม่รู้ว่าจะออกไปเที่ยวไหนบอกแม่มาซิว่าเมื่อคืนนอนหลับสบายไหม?” “ก็โอเคค่ะเตียงนี้สบายมากๆแม่ขาต่อไปพวกเราจะต้องอยู่ที่ใช่ไหม?” เพ็ญนีติ์นึกถึงผลดาเธอยิ้มแล้วส่ายหัว“แค่พักอยู่ไม่กี่วันเท่านั้นหลังจากนั้นพวกเราก็จะกลับไป”รอให้ผ่านช่วงนี้ไปก่อนรอเวลาที่ปุริมเลิกตามหาเธอเธอก็จะกลับไปอยู่ในห้องที่เธอเช่าไว้กับนภนต์เป็นเพียงแค่ช่วงทดลองเธอไม่อยากถูกผลดาจูงจมูกคิดไม่ถึงจริงๆว่าผลดาจะไม่ใช่ลูกสาวตระกูลศาสตร์พงษ์เมื่อคืนตอนที่รู้มันทำให้เธอตกใจจริงๆ “ถ้าอย่างั้นแม่จะไม่แต่งงานกับคุณพ่อบุญธรรมหรอ?” “ทำไมหรอพวกเธอไม่ชอบพ่อบุญธรรมหรอ?” “ไม่ใช่คุณพ่อบุญธรรมดีมากๆแต่ว่าพวกเราต้องการพ่อแท้ของพวกเรา”ความรู้สึกของการมีพ่อแท้ๆมันไม่เหมือนกันเมื่อวานอ้อยกับส้มต่างก็รับรู้มัน “เรื่องนี้ผ่านไปสักสองสามวันค่อยว่ากันเนอะแม่ไม่อยากพูดอะไรตอนนี้”ไม่อยากให้สัญญาณกับลูกๆว่าเธอจะแต่งงานกับนภนต์แล้วก็ไม่อยากให้สัญญาณลูกว่าเธอมีเพียงปุริมเป็นทางเลือกเดียวเท่านั้นเธอเป็นอิสระสัญญากระดาษนี้ไม่ช้าก็เร็วเธอต้องให้เขายกเลิกมัน พนินีเธอคงไม่ต้องแทนที่พนินีเธอคือเพ็ญนีติ์ไม่มีวันเป็นพนินี อ้อยกับส้มพยักหน้าอย่างไม่มีข้อแม้เหมือนกับว่าเข้าใจแต่ก็เหมือนไม่เข้าใจแต่เพ็ญนีติ์ก็ไม่อยากจะอธิบายอะไรไปมากกว่านี้แล้วคำถามเหล่านี้มันซับซ้อนเกินไปเด็กๆไม่มีทางเข้าใจ คาดไม่ถึงว่าหลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟันเสร็จตอนที่พาเด็กๆออกไปด้านอกกลับไม่เห็นผลดาพูดตามตรงที่ตระกูลศาสตร์พงษ์คนที่เธอไม่อยากเจอที่สุดคือผลดาสถานะของผลดาตอนนี้มันช่างกระอักกระอ่วน แต่ว่าสัมผัสได้ว่าใครเสแสร้งใครไม่ได้เสแสร้งกันแน่ นภนต์ไม่ได้เสแสร้งใส่เธอผลดาก็ไม่ได้เสแสร้งใส่นภนต์ ลูกสาวที่เก็บมาเลี้ยงกับพี่ชายจริงๆถ้านภนต์กับผลดาเหมาะสมที่จะคู่กันก็ไม่ใช่เรื่องที่ดีแต่ถ้าคิดถึงว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนภนต์แต่เริ่มคือผลดาเพ็ญนีติ์ก็ไม่ชอบก็อดไม่ได้ที่จะแตกหักกันผลดาผู้หญิงคนนี้ไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ “เพ็ญนีติ์ไปเถอะพวกเราไปกินข้างเช้านอกบ้านกัน”ตอนออกมาจากห้องนภนต์ก็ยืนรอต้อนรับอยู่ตรงบันได เธอเข้าใจแล้วนภนต์ไม่ได้ต้องการให้เธอกับผลดาพบปัญหาความขัดแย้งไม่พูดอะไรเสียงรอบๆนอกเขาเดินไปที่ห้องโถงรถของเขาได้จอดรออยู่ตรงนั้นแล้วเด็กๆอารมร์ดีกระโดดขึ้นรถไปลืมข้อขัดแย้งระหว่างพ่อแท้ๆกับพ่อบุญธรรมทั้งหมด“พ่อบุญธรรมวันนี้เราจะไปไหนกัน”พวกเธอชอบเรื่องแปลงๆใหม่ๆก็เลยชอบไปเที่ยว “ไปซื้อของหลังจากนั้นไปสนามเด็กเล่น” พูดถึงเรื่องสนามเด็กเล่นเพ็ญนีติ์นึกถึงเรื่องที่เธอกับญภาตกลงกัน“เฮอเฮอโอเคๆฉันต้องการเชิญแขกเพิ่มอีกคน” “โอเคเธอเชิญได้ตามสบาย”นภนต์ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเธอดูเป็นคนสบายๆมากตั้งแต่ที่เธอบอกว่าจะให้โอกาสพวกเขาเขาดูผ่อนคลายและดูสนุกสนานเป็นพิเศษเหมือนกับว่ามั่นใจว่าเธอจะเดินเข้าไปอยู่ในชีวิตเขาจริงๆ แต่ว่าอ้อยกับส้มจริงๆแล้วเป็นลูกของปุริมนะ ไม่อยากจะคิดไม่อยากจะคิดจริงๆว่าจะเป็นยังไงเขาชอบหรือไม่ชอบพนินี? โทรหาญภา“ญภาวันนี้ฉันกับลูกๆจะไปสนามเด็กเล่นเธอว่างไหม?อยากไปด้วยกันไหม?” “ฉันกำลังอยากโทรหาเธออยู่พอดีเลยปุริมไม่เป็นไรแล้วออกมาได้แล้วเขากำลังตามหาเธอเพ็ญนีติ์เธออยู่ไหน?” “โอ้”ตอนนี้เธอไม่อยากจะเจอหน้าปุริมแล้ว“ญภาอยากไปสนามเด็กเล่นไหม?” “ไปวันนี้หรอ?” “อืมฉันกับนภนต์จะพาเด็กๆไปเธอมาด้วยกันสิ” “โอเคโอเคเจอกันกี่โมงดี?” “เธอต้องสัญญากับฉันเรื่องนึงก่อน” “เพ็ญนีติ์เรื่องอะไรหรอ?” “ห้ามบอกเรื่องนี้กับปุริม” คู่สายโทรศัพท์เงียบไปชั่วคราวญภารู้แล้ว“โอเคฉันจะไม่บอกเขา” “งั้นสักช่วงบ่ายๆ”เพราะว่าเดี๋ยวพวกเขาต้องไปกินข้าวเช้าที่ร้านอาหารหลังจากนั้นก็จะไปห้างก็ใกล้ๆกับช่วงอาหารเที่ยงแล้วก็กะๆไปประมาณช่วงบ่ายน่าจะถึงสนามเด็กเล่น “OKถ้าอย่างนั้นเจอกันตอนบ่าย”ญภารีบตอบตกลงหลังจากนั้นก็วางสายไปพอรู้ว่าปุริมออกมาได้เธอก็ไม่ต้องกังวลแล้วนึกขึ้นมาได้ถึงเบอร์โทรนาราเพื่อให้เธอไม่รู้สึกคาใจ“นภนต์สองสามวันที่ฉันมาอยู่บ้านนายถ้าเกิดว่ามีโทรศัพท์มาหาฉันบอกแม่บ้านเลยนะว่าไม่ต้องรับฉันมีโทรศัพท์มือถือถ้าพวกเขามีอะไรจะติดต่อก็ให้ติดต่อที่เบอร์มือถือของฉัน” “โอเค”นภนต์ตอบตกลงเพ็ญนีติ์เอาเบอร์มือถือของนาราไว้ในบัญชีดำเพื่อปัญหาที่ไม่จำเป็นบางอย่างมันจะน้อยลงเธอไม่อยากจะมาเดือดร้อนเธอต้องดูแลลูกๆอีกที่นาราทำกับเธอมันไม่ได้เป็นรูปธรรมแค่เธอไม่อยากเดาว่าทำไมเองเท่านั้นสัมผัสที่หกมันบอกเธอมาแบบนี้ยังมีเรื่องอื่นที่รู้สึกว่ามันสำคัญกว่านี้ มั่นใจนี่เป็นครั้งแรกที่ออกมากับผู้ชายโดยที่ไม่ลังเลใจใครก็ตามที่มองเธอยังไงเธอไม่สนใจแล้ว จริงๆพวกเขาทั้งสี่คนนี้เป็นจุดสนใจของคนนภนต์กับเธอก็ถือว่าเป้นคู่ที่ดูดีมากแถมเด็กๆยังดึงดูดสายตาของคนอื่นอีกเด็กน้อยน่ารักๆสองคนเหมือนกับตุ๊กตาน่ารักๆในขณะที่เดินหางเปียเล็กๆก็สบัดไปมาสวยอยู่แล้วยิ่งสวยเข้าไปใหญ่น่ารักอยู่แล้วยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ ลงจากรถมาก็เดินเข้าร้านอาหารนภนต์ให้เธอและลูกๆนั่งรอเขาก็ไปทำการตักอาหารเป็นอาหารเช้าแบบบุฟเฟต์มีอาหารหลากหลายชนิดไม่นานนักถาดใส่อาหารสองอันก็มีอาหารที่หน้าตาเหมือนกันวางอยู่ตรงหน้าอ้อยกับส้ม“ชอบกินพวกนี้ไม่ไหม?ถ้าไม่ชอบกินเดี๋ยวพ่อบุญธรรมจะกินแทนพ่อจะได้ไปตักอย่างอื่นมาให้เธอแทน” ไข่ลวกที่ถูกปอกแล้วก็ยังคงเดือดปุดๆอยู่โจ๊กลูกเดือยสีเหลืองดูแล้วมีกลิ่นหอมๆนอกจากนี้ยังมีผักเคียงสองอย่างแล้วก็….. เยอะแยะมากมายจริงๆสายตาของส้มมองมาที่ถามอาหารเช้าพูดโดยที่ไม่เงยหน้าขึ้นมามอง“ไม่ต้องแล้วพ่อบุญธรรมหนูเอาถาดนี้แหละ” “แล้วอ้อยหละ?” “หนูก็เอาพ่อบุญธรรมรีบไปตักอาหารของตัวเองกับแม่เถอะ”อ้อยไม่รีรอเริ่มหยิบช้อนเล็กๆแล้วกินอาหารตรงหน้าดีจริงๆ เพ็ญนีติ์มองเด็กๆที่กำลังกินเธอชอบบรรยากาศที่อบอุ่นแบบนั้นกี่ปีมานี้นภนต์ดูแลลูกๆได้ดีมากๆจริงๆอีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงความอดทนของเขาหรือเขาสามารถเปิดใจของตัวเองแล้วเดินเข้าสู่โลกของเธอ “แฉะ”มีคนกำลังถ่ายภาพแฟรชจากกล้องนั้นทำให้เพ็ญนีติ์เงยหน้าขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวคงจะเป็นหนังสือพิมพ์ขนาดเล็กนภนต์ไม่ได้ใส่ใจดังนั้นถ่ายก็ถ่ายไปเธอหยุดพวกนี้ไม่ได้จริงๆติดตามได้เธอได้ยินผู้ชายคนนึงตกลงกับนภนต์“คุณนภนต์คุณผู้หญิงท่านนั้นคือแฟนของคุณรึเปล่า?” หูผึ่งขึ้นมาอยากรู้ว่าตอนนี้จริงๆแล้วเธอคือแฟนของใครกันแน่ไม่มีใครรู้ว่าเด็กผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ตรงหน้าเธอเป็นลูกของเธอคล้ายกับเธอมากเธออยากรู้ว่านภนต์จะตอบว่าอย่างไร “ใช่ครับนี่แฟนของผม” ที่เขาพูดก็ไม่ผิดนะเพราะเมื่อคืนเธอได้ตอบตกลงจะให้โอกาสเขาแล้ว “ถ้าอย่างนั้นเด็กสองคนนั้นก็เป็นลูกของคุณ?หน้าตาคล้ายแฟนของคุณเลย” ถ้อยคำที่ใช้มีความระมัดระวังมากแค่พูดว่าคล้ายแฟนของเขาไม่ได้บอกว่าคล้ายภรรยาของเขาเพราะใครๆก็รู้ว่านภนต์ไม่เคยแต่งงานมาก่อนเขาเป็นเหมือนเพชรที่สอบผ่านมหาวิทยาลัยดรัลที่มีชื่อโด่งดังในสาขาระดับปริญญาตรีแน่นอนปุริมก็มีรายชื่ออยู่ในนั้นเช่นกัน “ใช่ครับลูกของผม”เขาตอบอย่างแทบจะไม่ลังเลเลยนภนต์ยอมรับกับนักข่าวว่าอ้อยกับส้มเป็นลูกของเขา จะเป็นไปได้อย่างไร เพ็ญนีติ์ลุกขึ้นมา“ไม่ใช่...เด็กๆ…..” “เพ็ญติ์อาหารเช้ามาแล้วรีบกินเถอะมีโจ๊กแตงโมที่เธอชอบด้วยนะ”นภนต์มาพร้อมกับรอยยิ้มที่สามารถฆ่าคนได้ทำให้ตัดตอนคำพูดของเพ็ญนีติ์ไปหลังจากนั้นก็นำอาหารเช้ามาวางไว้ตรงหน้าเธอ“ร้อนกำลังดีรีบกินเถอะ” เธอดึงถาดเข้ามาตอนที่กำลังหันหัวไปนักข่าวของหนังสือพิมพ์เล็กนั้นก็หายไปแล้ว เร็วจังเธอยังไม่ทันได้ปฏิเสธคำพูดของนภนต์เมื่อกี้เลย “นภนต์เรื่องลูกๆนายไม่ควร…..” “อ้อยกับส้มอยู่ตรงนี้นะตอนกลางคืนค่อยคุยเถอะ”ใบหน้าของเขายังคงหัวเราะกลับทำให้เธอไม่รู้จะพูดอะไรต่อดีบางทีเขาทำแบบนี้ก็เพื่อให้เธอรู้สึกดีในอนาคตเขาจะได้รับการพิสูจน์จากเธอแม้แต่เด็กๆก็กลายเป็นสมาชิกในครอบครัวของเขาแต่ว่าเธอจำได้ว่าปุริมรู้ว่าอ้อยกับส้มเป็นลูกของเขาอาการเขาจะเป็นอย่างไรปุรุมจะยอมปล่อยให้ลูกๆเข้าไปอยู่ในชีวิตเหมือนนภนต์ไหม? คำตอบคือไม่ไม่มีทางแน่นอน หลังจากที่กินข้าวเช้ากันเสร็จหัวใจของเธอกลับรู้สึกไม่สบายใจตอนกินข้าวเช้าเมื่อกี้ส่ายหัวเบาๆบางทีอาจจะเป็นนักข่าวของหนังสือพิมพ์เล็กๆที่ไม่มีชื่อเสียงก็ได้ “แม่หนูกินอิ่มแล้ว” “หนูก็อิ่มแล้ว” “ถ้าอย่างนั้นไปบ้วนปากไปเถอะ”เธอยิ้มๆอยากจะพัฒนานิสัยเด็กสองคนนี้ให้ดีตั้งแต่เด็กๆ “กูรูกูรู(เสียงบ้วนปาก)....”ดื่มน้ำหนึ่งคำกลืนลงไปเร็วมากอ้อยกับส้มบ้วนปากเสร็จ“แม่พ่อบุญธรรมไปกันเถอะ” ห้างที่ใหญ่ห้างหนึ่งของเมืองดรัลเพราะว่าที่นี่มีเสื้อผ้าเด็กค่อนข้างเยอะมากดังนั้นนภนต์เลยพาเด็กๆมาที่นี่
已经是最新一章了
加载中