ตอนที่ 35 มันไม่ใช่ธุระของคุณ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 35 มันไม่ใช่ธุระของคุณ
ต๭นที่ 35 มันไม่ใช่ธุระของคุณ “ประธานโตษณ บอร์ดคณะกรรมการเรียกร้องให้คุณเสนอแผนงาน” เวทัยส่งเอกสารในมือให้กับโตษณ “มองดูแล้ว น่าจะเป็นคุณทยุติไปเสนอข้อเรียกร้องโดยตรงกับบอร์ดคณะกรรมการ” ทั่วร่างกายโตษณมีความเย็นกระจายออกมา ดวงตาของเขาจ้องมองข้อเสนอที่ส่งโดยบอร์ดคณะกรรมการ ข้อเรียกร้องในข้อเสนอ คือการตอบรับเงื่อนไขของทยุติ ไม่ก็ ให้เวลาเขาสองวันคิดโครงการออกมา และต้องใช้ทยุติ “คุณทยุตินี่จริงๆเลย!”ชาลินีที่อยู่ด้านข้างบ่นอย่างไม่พอใจ “พวกเราได้ยื่นข้อเสนอแก่เขามากมาย แต่เขาดันเรื่องเยอะ อะไรก็ไม่ต้องการ ต้องการแค่นีรา” “ไม่เข้าใจจริงๆว่านีรามีอะไรดีนักหนา” เธอพูดเสียงเบา “ไม่แปลกใจที่เจอพวกเขาที่โรงพยาบาลในวันนั้น” “ชาลินี” เห็นประธานโตษณสีหน้าดูแย่ลง เวทัยรีบแอบเอาข้อศอกดันเธอ “บอร์ดคณะกรรมการมีท่าทีไม่ยอมแพ้แน่” โตษณพูดด้วยความเย็นชา “เวทัย คุณไปปรึกษากับคุณทยุติอีกครั้ง ดูสิว่าสามารถปรึกษาหารือกันได้ไหม” “ประธานโตษณ” เวทัยส่ายหน้าด้วยความลำบากใจ “พวกเราติดต่อคุณทยุติไปตั้งแต่เมื่อวาน แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้เลย” “คุณพูดว่าอะไรนะ?” โตษณยืนขึ้นอย่างรวดเร็ว เวทัยพยักหน้า :“คุณทยุติแค่อยากจะบอกพวกเรา นอกจากตกลงเงื่อนไขของพวกเขา มิเช่นนั้นแล้ว ไม่ต้องพูดถึงโครงการของโกลเด้นซิตี้” โตษณยื่นมือไปหยิบเอกสารโยนลงบนพื้น ทยุติตั้งใจยั่วยุเขา! ชาลินีและเวทัยต่างเหลือบมองกัน ครั้งนี้โตษณโมโหมากๆ “ประธานโตษณ แล้วถ้า คุณตอบตกลงล่ะคะ” ชาลินีไปข้างหน้าระมัดระวังและหยิบเอกสารบนพื้น “คุณทยุติมีท่าทีไม่ยอมแพ้แน่ ฉันคิดว่าถ้าพวกเราไม่ทำตามเงื่อนไขของเขา บอร์ดคณะกรรมการและบอร์ดผู้บังคับบัญชาอาจจะไม่ปล่อยพวกเราไว้แน่” “ชาลินี เธอออกไปก่อน” โตษณสั่งเธอจากด้านหลังอย่างเย็นชา ชาลินีมองเวทัย เธอไม่เข้าใจว่าทำไมถึงให้เพียงเธอออกไป :“ประธานโตษณ ฉัน……” “ออกไป” เสียงของโตษณเย็นชาสุดๆ ถึงแม้ชาลินีจะไม่มั่นใจ แต่ก็ไม่กล้าอยู่ต่อ เธออดกลั้นความไม่พอใจออกไปจากห้องประธาน “ประธานโตษณ นี่คุณ?”เวทัยสับสนนิดหน่อย ถึงแม้ว่าเขาและชาลินีจะเป็นผู้ช่วยของโตษณ แต่ชาลินีก็ยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือในชีวิตของเขา ดังนั้นเขาจึงคิดมาตลอดว่าโตษณจะเชื่อใจชาลินีได้มากขึ้นมาหน่อย “เวทัย นายไม่รู้สึกบ้างหรอว่าช่วงนี้ชาลินีแปลกๆไป?” โตษณถามอย่างสบายๆ เขาก้มศีรษะดื่มกาแฟอุ่นๆ ทุกคนในบริษัท KU-Cooperation ต่างรู้ดีว่า โตษณดื่มแค่กาแฟที่ชาลินีชงเท่านั้น เวทัยแอบขมวดคิ้ว โตษณไม่ใช่ให้เขาพูดถึงชาลินีหรอกหรอ? “ประธานโตษณ ท่านพูดถึงที่โรงพยาบาลใช่ไหมครับ?” เวทัยหยั่งดูท่าทีอย่างระมัดระวัง เขากลัวหากพูดผิดไป โตษณจะเข้าใจผิดคิดว่าเขาอิจฉาชาลินี “อืม” “วันนั้นชาลินีเหมือนว่าจะแนะนำบางอย่างกับท่าน” เขากลืนน้ำลายด้วยความตื่นเต้น เมื่อพูดจบ เขารีบเสริมอีกประโยคทันที “แต่ว่า มันก็ไม่ได้มีความหมายอะไร” โตษณพูดต่อ:“เวทัย หลังจากนี้ผมอยากให้คุณสนใจเรื่องของนีรามากขึ้นหน่อย” ในใจของเวทัยเข้าใจขึ้นมาบ้าง โตษณกำลังสงสัยว่าชาลินีอาจจะมองชาลินีเป็นศัตรู “นิรา สีหน้าของคุณดูไม่ค่อยดีเลยนะ” ลังเลอยู่นาน ธียศจึงเทน้ำเย็นส่งให้นีรา “คุณอย่าเข้าใจผมผิด ผมแค่เห็นหน้าของคุณซีดนิดหน่อย” “ขอบคุณ” นีราส่งยิ้มให้เขา ไม่ต้องเกรงใจ ได้เห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของนีรา ธียศรู้สึกตื่นเต้นแทบลุกขึ้นมาหมุน ช่วงเวลาอาหารกลางวัน เธอทนไม่ไหวเพราะธียศชวนอยู่สามรอบ นีราจึงต้องรับคำชวนกินข้าวกลางวันกับเขา “นีรา!” นีราพึงลุกขึ้น โมลีกอดเธอแน่นเกือบทำให้เธอหายใจไม่ออก “โมลี ปล่อยฉันนะ!” นีราหน้าเริ่มแดง เธอรีบสูดลมหายใจเข้า “โมลี เมื่อวานฉันพึงออกจากโรงพยาบาล เธอเกือบจะทำให้ฉันต้องกลับไปอีกรอบซะแล้ว” “ไอ้หย่า ฉันดีใจมากๆเลย!” โมลีจูงมือเธออย่างมีความสุข “วันนี้ตอนเช้าฉันได้ข้อความจากเธอ บอกว่าเธอไม่ลาออก เธอไม่รู้อะไรเลย ฉันแทบอยากจะพุ่งลงชั้นล่างมาหาเธอเลย แต่ก็อย่างที่เธอรู้ ชั้นสามสิบเอ็ดค่อนข้างเข้มงวด ฉันไม่อยู่ไม่ได้” โมลีตบหัวของเธอเบาๆและหัวเราะ :“เรื่องนั้น คนใต้หลังคาต้องก้มหัว ฉันนี่กลายเป็นขาสุนัขทันที ก็ยังพอให้อภัยได้” โมลีแสดงออกทางสีหน้าอย่างเต็มที่ นีราอดไม่ได้ที่จะหัวเราะไปด้วย “นีรา คุณเข้าโรงพยาบาลหรอ?” ธียศที่อยู่ข้างๆหน้าตาเป็นกังวล “เป็นอะไรหรอ? ทำไมต้องเข้าโรงพยาบาลด้วย? ไม่น่าผมเห็นสีหน้าคุณไม่ค่อยดี” “นีรา เธอเข้าโรงพยาบาลหรอ?” โมลีดึงนีรามาสังเกตอย่างละเอียดมองขึ้นลงสองครั้งแล้วพยักหน้า“ดูเหมือนผอมลงไปนิดหน่อย หน้าเล็กๆของเธอก็ดูซีดๆ” “ฉันไม่เป็นอะไร” นีรายิ้มบางๆ “เป็นหวัดธรรมดาแค่นั้น คนที่บ้านอะไรนิดหน่อยก็ชอบทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พาฉันไปโรงพยาบาล”ธียศหน้าตาเป็นกังวลมองนีรา เขารู้สึกว่านีรากลับมาครั้งนี้มีบางอย่างไม่เหมือนเดิม “นีรา ฉันเห็นว่าธียศปฏิบัติต่อเธอไม่เหมือนเดิมมากๆ” โมลีจุงแขนนีราแอบพูดเบาๆ“เขามองตาของเธอ อย่าบอกนะว่ามันคือการสื่อรัก” “พูดอะไรเนี่ย?” นีราแอบหยิกแขนโมลี โมลีคนนี้ ชอบพูดไร้สาระไม่คำนึงถึงสถานการณ์ โมลีแลบลิ้นออกมา เธอเชื่อดวงตาที่เฉียบคมของเธอ “อือ เอาตับหมูทอดหนึ่งที ซุปผัก ผัดถั่วเขียว ผัดเต้าหู้ ปลาตุ๋น” โมลีเพิ่มอีกหนึ่งประโยคอย่างช่ำชอง “เถ้าแก่ เพิ่มเผือกทอดอีกที่ด้วยค่ะ” “นีรา คุณเป็นหวัดอยู่ ควรดื่มอะไรร้อนๆสักหน่อย” ธียศสั่งซุปขิงเป็ดเพื่อขับความเย็นให้เธออย่างรู้ใจ “ฉันบอกแล้วใช่ไหมละ” โมลีขยิบตาให้นีราอย่างภูมิใจ “โมลี!” เห็นธียศกำลังเดินมา นีราใช้สายตาส่งสัญญาณ สาวน้อยคนนี้ พูดอะไรไม่ค่อยระวังเลย “เอ๋ นั้นใช่นีราของแผนกพวกเราและคุณธียศหรือเปล่า?” จิรภาตั้งใจเข้าไปใกล้พวกเขาตรงหน้า “ธียศ ฟ้าหลังฝนนั้นดีเสมอ ในที่สุดก็ได้พบกับนางฟ้าของคุณแล้ว” “จิรภา เธอไปกินข้าวเถอะ” เห็นนีราก้มหน้าจงใจหลีกเลี่ยงจิรภา ธียศตั้งใจพูดด้วยน้ำเสียงนุ่มนวลเพราะไม่อยากให้เกิดเรื่อง “จริงด้วย” มือของจิรภาวางบนไหล่ของนีรา “นีรา ฉันเข้าใจว่าแฟนเธออยู่ที่ชั้นสามสิบเอ็ดซะอีก คิดไม่ถึงว่า เธอสนใจธียศสุดหล่อของพวกเรา” นีราเงยหน้าขึ้นมองไปที่อาหารบนโต๊ะพูดอย่างเย็นชา :“จิรภา ฉันกับธียศจะสนิทสนมกันกันแบบไหน ไม่จำเป็นต้องอธิบายกับเธอ” “เธอ……” “เฮ้!”โมลีอยู่ด้านข้างขากเสลดและยืนขึ้นมา “นี่เธอ พวกเราจะกินข้าว รบกวนเธอ ช่วยไปไกลๆหน่อยจะได้ไหม?” “เธอคิดว่าตัวเองเป็นใคร ?กล้ามาไล่ฉัน?” จิรภารู้สึกเสียหน้า เธอคิดว่าตัวเองเป็นใครเธอคงต้องถามเอง เสียงเย็นเยือกไปถึงกระดูกจากด้านหลังของจิรภาดังขึ้น 
已经是最新一章了
加载中