บทที่ 44 คุณสามารถปฏิเสธได้   1/    
已经是第一章了
บทที่ 44 คุณสามารถปฏิเสธได้
บ๗ที่ 44 คุณสามารถปฏิเสธได้ จนกระทั่งถึงเวลาทำงาน ถึงตอนนี้นีรายังไม่รู้สึกตัวว่าฉากอันอบอุ่นแนบแน่นเมื่อเช้าตรู่เกิดขึ้นได้อย่างไร “นีรา ที่จริงเธอสามารถปฏิเสธได้”นีราคิดหลังจากที่ทั้งสองได้ผ่านคลื่นลมมรสุมพัดผ่าน โตษณฟุบอยู่บนร่างของเธอพูดขึ้นกับเธอ。 นิ้วทั้งสิบของเขาสวดเข้าไปกุมแน่นที่นิ้วมือของเธอ เขาฝั่งศีรษะของตนเองไว้ที่ช่วงลำคอของเธอพูดเสียงแผ่วเบาว่า:“คุณสามารถปฏิเสธทยุติได้เพียงฝ่ายเดียว ถ้าหากว่าเธอไม่อยากไป เขาก็ไม่มีปัญญาบังคับเธอ แต่ว่าฉันทางด้านนี้ ทำได้เพียงตอบตกลงเขา” นีราไม่ได้พูดอะไรออกมา มองดูผมอันนุ่มสลวยของเขาในใจรู้สึกขอบคุณร้อยหมื่นพันครั้ง นับตั้งแต่แต่งงานเป็นต้นมา เป็นครั้งแรกที่ทั้งสองกอดก่ายคุยกัน เป็นครั้งแรกที่เขาคุยกับเธออย่างอ่อนโยนเช่นนี้ เธอมองโตษณไม่ออก ที่แท้เขารู้สึกอย่างไรกับเธอกันแน่ เธอมองไม่ออกยิ่งเดาไม่ออก “นีรา คุณกำลังคิดอะไรอยู่?”ธียศตบบ่าของนีราเบาๆแล้วถามขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบาว่า“เธอดูหนังสือพวกนี้สิ น่าจะมีประโชยน์สำหรับการเรียนภาษาเยอรมันของเธอน่ะ” “อ้อ ค่ะ ขอบคุณน่ะ”นีรารับหนังสือมาแล้วพูดขึ้นว่า“ราคาเท่าไหร่่ค่ะ ฉันโอนให้คุณ” “ราคาไม่เท่าไหร่่ครับ ไม่ต้องโอน”ธียศรู้สึกเจ็บปวดใจ เธอมักจะเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าจะเป็นอะไรต้องคิดกับเขาอย่างชัดเจน เป็นเช่นนี้ทำให้เขารู้สึกว่าเหินห่าง คล้ายกับว่าไม่มีความสนิทสนมแม้สักนิดเดียว “ธียศ”นีรายิ้มออกมา เธอมองไปที่หนังสือ“คุณซื้อหนังสือให้ฉัน ฉันก็ขอบคุณมากแล้ว ถ้ายังให้คุณจ่ายเงินให้ฉันอีก มันก็เป็นการเกรงใจเกินไป อีกอย่าง เราต่างก็เป็นเพียงแค่พนักงานเล็กๆ เงินของใครที่ไม่ลำบากลำบนกว่าจะได้มา” “ แต่ว่า” “ถ้าคุณไม่รับเงินของฉัน คราวหน้าถ้าคุณซื้อของให้ฉัน ฉันจะไม่รับของจากคุณอีก”นีราไม่ต้องการใช้จ่ายเงินของธียศ ไม่ทำงานไม่สมควรได้รับรางวัล เธอไม่มีเหตุผลให้จับจ่ายเงินของเขา “งั้นก็ได้”ธียศยักไหล่อย่างสบายๆ“ในเมื่อคุณพูดถึงขนาดนี้แล้ว หากว่าผมยังดึงดันต่อไป คราวหน้าคุณคงไม่รับของจากผมอีกแล้วแน่ๆ” นีราหัวเราะออกมาอย่างซุกซน ความรู้สึกที่ธียศมีให้กับเธอ เธอย่อมรู้ดี และเป็นเพราะเหตุดังนั้นในทุกๆเรื่องเธอจึงคิดคำนวณกับเขาอย่างชัดเจน ในเมื่อเธอตั้งใจแล้วจะไม่ยอมรับความรักจากเขา ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลที่จะให้ความหวังแก่เขา สิ่งที่ทำให้โตษณแปลกใจก็คือ ในหนึ่งสัปดาห์มานี้ทยุติไม่ได้ติดต่อกับพวกเขาเลย และเพราะเหตุนี้ความสัมพันธ์ระหว่างเขากับนีราจึงอบอุ่นเข้าใจกันมากขึ้น “ช่วงนี้ทยุติติดต่อกับคุณบ้างหรือเปล่า?”ขณะที่กินข้าวช่วงค่ำ โตษณทำท่าลังเลแต่ก็ยังถามออกมา เขาต้องการรู้ว่าทยุติกำลังคิดอะไรอยู่ เขาจะได้เตรียมรับมือถูก นีราเงียบไปสักพัก ส่ายศีรษะกล่าวว่า:“ไม่มี” “โครงการของโกลเด้นซิตี้ได้มาถึงส่วนที่สำคัญที่สุดแล้ว”โตษณถอนลมหายใจออกมา“ไม่รู้ว่าทยุติกำลังวางแผนผีสางอะไรไว้” “โมลีอาจจะรู้ก็ได้”นีราพูดขึ้นเบาๆ“ฉันจะหาเวลาถามเธอดูสักหน่อยก็แล้วกัน” “อืม”โตษณผงกศีรษะรับรู้ “ฉันกินอิ่มแล้ว”หลังจากดื่มน้ำซุปไปถ้วยหนึ่ง นีรากำลังจะลุกจากไปกลับถูกเรียกหยุดไว้ “พรุ่งนี้ คุณย่าให้พวกเรากลับไปกินข้าวที่คฤหาสน์”โตษณดื่มน้ำล้างคอ“พรุ่งนี้ตอนเย็น หลังจากที่คุณเลิกงานแล้วให้ไปรอผมที่ลานจอดรถ” “ไม่ต้องก็ได้ค่ะ ฉันขับรถไปเองดีกว่า”นีราไม่อยากถูกคนอื่นพบเห็นเรื่องงามหน้าอีก เป็นเพราะเรื่องของทยุติ ชื่อเสียงของเธอในบริษัทKU-Cooperationก็โด่งดังมากพอแล้ว ถ้าปล่อยให้คนอื่นพบเห็นเธอขึ้นรถของโตษณอีกล่ะก็ ต่อให้เธอมีเหตุผลก็แก้ตัวไมได้ อีกอย่าง ถ้าปล่อยให้เธออธิบายจริงๆ เธอเองก็อธิบายไม่ชัดเจน “คุณย่าหากพบเห็นจะพูดได้”โตษณคนน้ำซุปในถ้วยอย่างไม่เดือดเนื้อร้อนใจ “อ้อ”นีรากลืนน้ำลงไป“ฉันจะรอคุณที่ปากทางถนนเส้นก่อนถึงบริษัท” มองดูด้านหลังของนีราที่เดินจากไป โตษณวางช้อนส้อมในมือลงอย่างแผ่วเบา ที่แท้นีรากลัวถูกคนอื่นพบเห็นพวกเขาอยู่ด้วยกันสองคนมากถึงขนาดนี้?หรือว่าเป็นเพราะเธอมีข้อห้ามอะไร? ยืนอยู่บนถนนถามกลางผู้คนผ่านไปผ่านมา มองดูรถสาธารณะที่วิ่งผ่านไปคันแล้วคันเล่า นีราก้มศีรษะลงใช้ปลายเท้าเขี่ยพื้นเป็นวงกลมเล่นอย่างเบื่อหน่าย。 เธอโทรศัพท์ไปหาโตษณเป็นสายที่สามแล้ว ล้วนแล้วแต่อยู่ในสถานะไม่มีคนรับสาย “ไม่ใช่ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นแล้วมั้ง?”ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นมา นีรารีบกระทืบไปที่พื้นดินสามครั้ง ปาริมาบอกกับเธอว่า กระทำเช่นนี้สามารถแก้เคราะห์ร้ายได้ มองเห็นรถของชาลินีขับมาจากที่ห่างไกล ชาลินีต้องการหลบ แต่ว่าเธอลดหน้าต่างลงมาแล้ว “เอ๋ นี้ไม่ใช่คุณหนูนีราของพวกเราหรอกหรือ?”ชาลินีใช่มือกรีดผมทักไว้ที่หูแล้วถามขึ้นแฝงแววแดกดันว่า“ทำไมจ๊ะ?วันนี้ลืมขับรถมาเหรอ” นีราเข้าใจในทันที โตษณไม่บอกเรื่องที่ทั้งสองจะกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วยกันกับเธอ พอคิดถึงตรงนี้ จิตใจของนีรารู้สึกดีขึ้นมาไม่น้อย โตษณไม่ใช่ว่าทุกเรื่องราวต้องบอกกับผู้ช่วยส่วนตัวคนนี้เสมอไป。 “เธอยิ้มอะไร?”ชาลินีเอ่ยปากถามอย่างไม่เข้าใจ “ไม่มีอะไร”นีราส่ายศีรษะโบกมือเป็นความหมายว่าไม่มีอะไร“ผู้ช่วยชาลินีถ้าหากว่าไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ยังคงขับรถออกไปดีกว่าค่ะ ทางด้านล่างอีกไม่นานก็จะมีรถสาธารณะเข้ามาจอดที่สถานีแล้วนะคะ” มองผ่านกระจกรถ ชาลินีมองเห็นรถสาธารณะคันหนึ่งกำลังขับใกล้เข้ามาที่สถานีจริงๆ เธอถอนหายใจคำหนึ่ง จากนั้นเหยียบคันเร่งขับรถจากไปอย่างรวดเร็ว “รถมาแล้ว!” “รถมาแล้ว!” มองเห็นรถสาธารณะจอดเทียบสถานี ผู้คนทั้งหลายที่ยืนรอที่สถานีอย่างยาวนานทั้งหลายรีบพากันพุ่งเข้าไปขึ้นรถ นีรามีความรู้สึกซาบซึ้งอย่างประหลาด ผู้คนทั้งหลายทำงานมาทั้งวัน รีบพากันขึ้นไปนั่งรถกลับบ้าน จะต้องมีครอบครัวที่อบอุ่นอย่างแน่นอน และจะต้องเป็นการแต่งงานที่เต็มไปด้วยความสุขสมบูรณ์พร้อม “เธอดูสิ รถนั่นหรูจังเลย” “นั่นน่ะสิ ราคาคงหลายล้าน คนขับรถก็เหมือนจะเท่ห์ไม่เบา” ได้ฟังคำสนทนากันของหญิงสาวสองคนที่มีอายุไล่เลี่ยกันกับตนเอง นีราจึงหันสายไปมองดู “โต ”นีราขมวดคิ้ว โตษณจอดรถทิ้งไว้ที่ตรงนั้น แต่กลับไม่บีบแม้แต่รถ เธอจึงรีบไปเปิดประตูรถเข้าไปนั่ง “คุณทำไมไม่บีบแตร่?”หลังจากรัดเข็มขัดนิรภัย นีราทนไม่ได้ต้องบ่นออกมาสองคำ“ผมนึกว่าคุณยังมาไม่ถึงซะอีก” “เมื่อสักครู่มีเอกสารที่ต้องจัดการเล็กน้อย ดังนั้นจึงมาสายไปหน่อย”คำพูดประโยคหนึ่งลอยเข้ามาท่ามกลางบรรยากาศเงียบงัน นีราหันศีรษะไปมองโตษณ สายตาอันลึกล้ำของเขาจ้องมองไปข้างหน้า ถ้าหากไม่ใช่ว่าในรถมีเพียงแค่พวกเขาสองคน เธอคงคิดว่าคำพูดเมื่อสักครู่เป็นคนอื่นพูดออกมา “อ้อ”เธอจึงตอบกลับไป แต่เดิมก็ไม่ได้คาดหวังว่าให้เขาอธิบายอะไร เธอรอมาสี่สิบนาทีก็ถือว่ารอสี่สิบนาทีก็แล้วกัน “ที่หลังรถผมเตรียมของไว้แล้ว รอสักครู่ให้บอกว่าเป็นของที่พวกเราสองคนเตรียมไว้”โตษณออกคำสั่งเบาๆ“คุณรู้ว่าต้องทำยังไง” นีราผงกศีรษะรับอย่างว่าง่าย คล้ายกับคราวก่อนที่มาเยือนตระกูลภูลพิพัฒน์หลังจากแต่งงานได้สองวัน เธอกับโตษณต้องแสดงออกว่าเป็นสามีภรรยาที่รักกันอย่างกลมเกลียวต่อหน้าคุณย่า “เมื่อสักครู่ขอโทษด้วย”โตษณลังเลอยู่ครึ่งค่อนวันในที่สุดจึงตัดสินใจเอ่ยสามคำนี้ออกมา “ห่ะ?”เรื่องราวเกิดขึ้นรวดเร็วเกินไปจนนีราไม่ทันตั้งตัว “ปล่อยให้คุณรอนาน”น้ำเสียงของโตษณเปลี่ยนเป็นแข็งขึ้นมา เขาคิดว่านีราตั้งใจแกลังเขา “อ้อ”นีราหันศีรษะไปมองนอกหน้าต่าง เธอไม่ได้บังคับให้ขอโทษสักหน่อย! หลังจากสี่สิบนาทีผ่านไป แสงตะวันลับขอบฟ้า รถได้จอดลงที่ลานหน้าอาคารเก่าแก่ขนาดใหญ่แห่งหนึ่ง
已经是最新一章了
加载中