บทที่ 45 ต้องการเด็ก   1/    
已经是第一章了
บทที่ 45 ต้องการเด็ก
บ๗ที่ 45 ต้องการเด็ก คฤหาสน์ตระกูลภูลพิพัฒน์ตั้งอยู่ในเขตเมือง sเป็นสิ่งที่คุณขณะมีชีวิตอยู่สร้างขึ้นมาด้วยมือของตนเอง คุณย่าเพื่อรำลึกถึงคุณปู่ที่จากไป จึงได้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์ตระกูลภูลพิพัฒน์ตลอดมาไม่ยอมจากไปไหน มองเห็นว่าเป็นรถของโตษณ มีคนรีบวิ่งออกมาเปิดประตูใหญ่ โตษณขับรถเข้าไปข้างในอย่างช้าๆ จากประตูใหญ่ไปถึงที่ตั้งของตัวคฤหาสน์มีระยะห่างหลายร้อยเมตร “คุณชาย! คุณหนู!” รถเพิ่งจอดลง ก็มีคนรีบวิ่งเข้ามาเปิดประตูให้นีราและพยุงเธอลงจากรถ “พ่อบ้านทาศัย ที่หลังรถผมมีของอยู่ คุณให้คนถือเข้าไปในบ้านด้วยน่ะ”โตษณอ้อมมาถึงด้านข้างของนีรา เขาคว้ามือของเธอมากุมไว้โดยอัตโนมัติจากนั้นเดินมุ่งหน้าเข้าไปในห้องรับแขก “นายหญิงใหญ่ค่ะ คุณชายกับคุณหนูมาถึงแล้วค่ะ”มีคนแจ้งกับคุณย่ามาก่อนแล้ว “นีรา!”มองเห็นนีรา คุณย่าตื่นเต้นจนต้องลุกขึ้นยืน เธอเดินเข้าไปกุมมือของนีราใบหน้าเต็มไปด้วยความเป็นห่วง,“มานี่สิ เด็กน้อย ให้ย่าดูหน่อย ว่าผอมลงหรือเปล่า” นีรายิ้มอย่างเบิกบาน ความเอาใจใส่ของคุณย่ามักทำให้เธอซาบซึ้งเสมอมา “คุณย่าค่ะหนูสบายดี แล้วคุณย่าละคะ สุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง?”นีรารับประคองคุณย่าให้กลับไปนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกตามเดิม“คุณย่าไม่ต้องเป็นห่วงหนู ป้าเหมียวกับมะลิดูแลหนูเป็นอย่างดีเลยค่ะ” นีรากำลังคิดจะนั่งลง โตษณรีบแย่งเข้าไปนั่งกั้นไว้ตรงกลางก่อนก้าวหนึ่ง “คุณย่าครับ คุณย่าไม่เห็นปฏิบัติกับผมอย่างสนิทสนมแบบนี้เลย” “ถอยไป แกไปนั่งอีกฝั่งหนึ่งโน้น”คุณย่ารีบไล่โตษณออกไป เธอดึงมือของนีราที่ถูกกั้นออกไปให้ขยับเข้ามาใกล้ๆ มานี่ลูกรัก มานั่งข้างๆย่าตรงนี้” มองเห็นอาการปากอ้าตาค้างของโตษณ นีรามีความรู้สึกอยากหัวเราะออกมาอย่างประหลาด เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดโตษณเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลภูลพิพัฒน์แต่กลับไม่ได้ความเอาใจใส่จากคุณย่าแห่งตระกูลภูลพิพัฒน์ ก็เหมือนกับที่โตษณกล่าวไว้ว่า คุณย่าตระกูลภูลพิพัฒน์เกิดความรักต่อนีรามาเนิ่นนานแล้ว “คุณย่าครับ ผมคิดว่าผมยังคงออกไปดีกว่า โตษณยกมือกุมหน้าอกส่ายศีรษะ“ทุกครั้งที่มาเยี่ยมเยียนคุณย่า คุณย่ามักจะทำให้ผมรู้สึกเหมือนได้รับบาดเจ็บ” คุณย่าตระกูลภูลพิพัฒน์จ้องมองโตษณแล้วส่ายหัว:“โตษณ ฉันดูแลตามใจแกมายี่สิบกว่าปี นีราเพิ่งจะมาได้แค่เพียงครึ่งปี แกคงไม่หึงกับเรื่องพวกนี้หรอกน่ะ” “ผมไม่มีอะไรจะพูด!”โตษณยกสองมือขึ้น เขาคิดไม่ออกจริงๆว่าไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาตอบโต้เหตุผลอันบิดเบี้ยวของคุณย่าได้ นีราอดไม่ได้ต้องยิ้มออกมา มีเพียงแค่อยู่ที่นี่ เธอถึงจะได้เห็นคนที่ใหญ่โตคับดินคับฟ้าอย่างโตษณกลายเป็นเหมือนเด็กๆ มองเห็นนีราถูกคุณย่าหยอกจนเกิดความยินดีหัวเราะออกมา ในใจของโตษณบังเกิดความสุขขึ้น นับแต่ที่บิดาจากไปตอนอายุสิบขวบ มารดาของเขามีครอบครัวใหม่ เขาก็ถูกคุณเลี้ยงดูจนเติบใหญ่ขึ้นมา ดังนั้น ถึงแม้ว่าคุณย่าไม่ยอมรับชิตชไม เขาก็ไม่เคยโทษว่าคุณย่า ถึงแม้ว่าคุณย่าจะบังคับให้เขาตบแต่งนีราที่เขาไม่เคยรัก เขาก็ไม่เคยเกิดความโกรธแค้นแม้แต่นิดเดียว “นีรา”หลังจากเรียกจบ คุณย่ายื่นมือไปจับของนีรารั้งไว้ เธอพูดขึ้นอย่างเป็นจริงเป็นจังว่า“นีรา ย่ามีเรื่องบางอย่างอยากจะขอร้องเธอ” นีรามองไปทางโตษณ คุณย่าเปลี่ยนเป็นท่าทางจริงจังเช่นนี้ เธอรู้สึกเป็นกังวลว่าจะมีเรื่องใหญ่อะไรหรือไม่ “คุณย่า”นีรากุมมือคุณย่าแน่น“คุณย่าพูดเถอะค่ะ ขอเพียงเป็นเรื่องที่หนูทำได้ หนูจะตอบตกลงคุณย่าทุกอย่างเลยค่ะ” คุณย่ายื่นอีกมือไปกุมมือของโตษณไว้ เธอค่อยๆยื่นมือของนีราไปฝากไว้กับมือของโตษณ:“นีราเรื่องที่ย่าอยากจะขอร้องหนูก็คือหวังว่าหนูจะคลอดเด็กให้กับโตษณไวๆ” นีรายืนตะลึงงัน。 โตษณตื่นตกใจไม่แพ้กัน เขาคิดอยากจะดึงมือกลับมา แต่ว่าคุณดูเหมือนจะรู้มาก่อนว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เธอออกแรงดึงมือกุมไว้โดยไม่ปล่อยให้เขามีโอกาสดึงมือกลับไป “คุณย่า”ใบหน้าของนีราปรากฏสีแดงซ่านไปทั่ว“คุณย่า เรื่องแบบนี้ต้องขึ้นอยู่กับโชคชะตา ไม่สามารถบังคับแข็งขืนได้” “ย่ารู้”เธอถอนลมหายใจยาวออกมา“นีรา โตษณ ปีนี้ย่าอายุเจ็บสิบเก้าแล้ว เวลาของย่าเหลืออยู่ไม่มากแล้ว สิ่งเดียวที่ย่าวางใจไม่ลงก็คือพวกเธอสองคน” “คุณย่า พูดเรื่องอะไรคะ ร่างกายของคุณย่าแข็งแรงออกอย่างนี้”นีราส่ายศีรษะไปมา เธอรู้ว่าชีวิตย่อมร่วงโรยเป็นธรรมดา และรู้ดีว่าคนสูงอายุเมื่อมีอายุแปดสิบขึ้นปี ชีวิตก็จะเข้าสู่ช่วงบั้นปลาย คุณย่าตบไปที่หลังมือของนีราเบาๆ:“นีรา ย่ารู้ว่าหนูเป็นเด็กดีคนหนึ่ง หนูวางใจได้ ขอเพียงย่ายังมีชีวิตอยู่ โตษณไม่มีทางรังแกหนูได้ แต่ว่าย่ากลัวว่าย่าไม่สามารถที่จะปกป้องเธอได้ตลอดไป” มองเห็นคุณย่าขอบตาแดงก่ำ นีรารู้สึกจมูกร้อนผ่าว น้ำตาแทบจะทะลักออกมา เธออยากจะตอบตกลงคำร้องขอของคุณย่า ที่จริง ทำไมเธอจะไม่ต้องการที่จะมีลูกกับโตษณสร้างครอบครัวที่มีความสุขด้วยกันสามพ่อแม่ลูก หรืออาจบางทีจะมีลูกคนที่สอง แต่ว่า แต่ว่าเหตุการณ์ในตอนนี้ไม่เหมือนกับที่เธอคิดเหมือนแต่ก่อน การแต่งงานระหว่างเธอกับโตษณเป็นการแลกเปลี่ยนผลประโยชน์ประการหนึ่ง อีกอย่าง โตษณเคยกล่าวเตือนเธอไว้ว่า:ระหว่างเราไม่มีลูกโดยเด็ดขาด “คุณย่า” “คุณย่าครับ,”โตษณตัดบทของนีรา มุมปากของเขายิ้มขึ้นแฝงแววหยอกเย้า“ย่าวางใจได้เลยครับ ผมกับนีราตอนนี้กำลังเตรียมการอยู่” “จริงเหรอ?”คุณย่าดีใจจนออกนอกหน้า นีราชั่วขณะไม่ทันได้สติกลับมา เธอกำลังช็อคกับประโยคที่เขาพูดเมื่อสักครู่。 “จริงครับ!”โตษณตอกย้ำอย่างจริงจัง “เด็กดี!”คุณย่ากุมมือของทั้งสองแน่น。 หลังจากอาหารค่ำเสร็จเรียบร้อย คุณย่าตั้งใจให้ทั้งสองพักอยู่ที่คฤหาสน์ของตระกูลภูลพิพัฒน์ “ห้องได้เตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว อยู่ที่ชั้นสอง เป็นห้องที่โตษณเมื่อก่อนใช้ในการพัก”มุมปากของคุณย่าเผยรอยยิ้มแห่งความสุขตลอดเวลา“โตษณ พานีราขึ้นไปพักผ่อนเถอะ” “คุณย่าค่ะ ให้พวกเราอยู่เป็นเพื่อนคุณย่าอีกสักพักหนึ่งเถอะค่ะ”นีราไม่ได้ต้องการขึ้นไปชั้นบนกับโตษณตั้งแต่ยังหัวค่ำ ทั้งสองพักอยู่ในห้องเดียวกันอีกทั้งไม่มีเรื่องราวใดให้กระทำ จะยิ่งเพิ่มความกระอักกระอ่วน “ไม่ต้องหรอกจ้ะ พากันไปเถอะ”คุณย่ามองไปยังนีราและโบกมือเป็นความหมายให้เธอขึ้นไปข้างบน “เธอไม่อยากพักที่นี่?”สังเกตเห็นร่างกายของนีราค่อนข้างแข็งกระด้าง โตษณพูดเสียงแผ่วเบาว่า“ไม่ใช่ว่าคุณเคยมาที่นี่หลายครั้งแล้วหรือ?” “อืม”ไปตามบันไดเลื่อนยุคโบราณ นีราตามขึ้นบันไดไป เธอเพียงแต่คิดว่าจะผลีผลามเข้าไปในชีวิตของโตษณ“ฉันกังวลใจว่าจะทำให้คุณไม่สะดวก” “ไม่มีอะไรไม่สะดวก”โตษณเปิดประตูเดินเข้าไป“หลังจากสิบขวบผมก็อาศัยอยู่ที่นี่ตลอดมา สิ่งของที่ผมต้องการที่นี่มีหมดทุกอย่าง” “อาศัยอยู่ที่นี่?”นีราเอ่ยถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ“ไม่ใช่ว่าเป็นที่คฤหาสน์หลังนั้นหรอกหรือ?” โตษณเปิดหน้าต่างออก ลมสายหนึ่งพัดเข้ามา ทำให้ม่านหน้าต่างโบกสะพัด นีรารู้สึกหนาว ลมปลายฤดูร้อนมักทำให้ผู้คนรู้สึกหนาวเย็น “หลังจากพ่อของผมละจากโลก คุณย่าก็รับผมกลับมาจากคฤหาสน์”เขามองออกไปยังหุบเขาอันแสนไกลพูดต่อไปว่า“จนกระทั่งผมได้รับช่วงต่อบริษัทKU-Cooperation จึงได้ย้ายกลับไป” นีราฟังออกถึงความรันทดหดหู่จากสำเนียงของเขา สำหรับเธอไม่ได้มีความเข้าใจในตัวเขามากนัก รู้แต่เพียงว่าเขาเสียพ่อไปตั้งแต่อายุสิบขวบ แม่ก็แต่งออกไปอยู่เมืองอื่น 
已经是最新一章了
加载中