ตอนที่ 602 ไม่มีหวังที่จะเดินออกไป   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 602 ไม่มีหวังที่จะเดินออกไป
ตอนที่ 602 ไม่มีหวังที่จะเดินออกไป เป็นครั้งแรกที่ธีมนต์เห็นท่าทางดุดันน่ากลัวแบบนี้ของพ่อ เขาแสยะยิ้ม อยากร้องไห้ออกมาแต่ก็กลั้นเอาไว้ ตาแดง จมูกแดงเสียงสั่น"พ่อครับ แม่เป็นอะไรครับ" เด็กน้อยครั้งนี้คงจะตกใจกลัวมากจริงๆ เขาคงกลัวว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับนัชชา เตชิตค่อยหลับตาลง กุมมือเล็กๆของเด็กน้อยไว้ ตัวเขาโกรธจนแทบจะระเบิดออกมาแล้วแต่กลัวว่าลูกจะยิ่งตกใจกลัวจึงพยายามระงับอารมณ์ไว้ "ไม่มีอะไรลูก แม่ไม่เป็นอะไรมาก อีกเดี๋ยวคุณอาหมอก็จะมารักษาแม่ เดี๋ยวแม่ก็จะตื่นขึ้นมานะครับ" ธีมนต์ผงกศีรษะรับรู้ น้ำตาที่เอ่ออยู่ภายในดวงตาใกล้จะร่วงหล่นออกมา "ตอนที่เกิดเรื่อง แม่ไม่ให้ผมลงมา บอกให้ผมรออยู่ในรถ ผมก็รออยู่บนรถ แต่ผมเห็นแม่ถูกรถลากไปเป็นเพราะผมปกป้องแม่ไม่ได้" พูดไปพูดมา หัวใจดวงน้อยๆที่แสนจะบอบบางนั้นก็อดกลั้นต่อความหวาดกลัวที่เห็นภาพนั้นไม่ได้ จึงปล่อยโฮออกมา เตชิตดึงร่างเด็กน้อยเข้ามาในอ้อมกอด สงสารจับใจ "พ่อไม่โทษลูก หนูเชื่อฟังคำพูดของแม่ถูกแล้วที่ไม่ลงจากรถ ลูกทำได้ดีมากแล้ว" ธีมนต์ได้แต่โทษตัวเอง ศีรษะซุกอยู่ในอ้อมกอดนั้น มือเล็กๆคอยปาดน้ำตาบนใบหน้า "แต่ว่าผมปกป้องแม่ไม่ได้" เตชิตฟังที่เด็กน้อยพูดก็รู้สึกไม่สบายใจ จึงถอยออกมาเว้นระยะห่างเล็กน้อย มือทั้งสองประคองใบหน้าของเด็กน้อยไว้ "ธีมนต์ มองพ่อนะลูก ลูกทำดีที่สุดแล้ว เรื่องนี้ไม่มีใครโทษลูก คนที่ทำผิดจะต้องได้รับโทษ ลูกไม่ต้องเสียใจนะ" มองเห็นแม่ถูกลากไปกับพื้นต่อหน้าต่อตาแบบนั้น ต่อให้จิตใจเข้มแข็งขนาดไหน ก็คงรับไม่ไหวอยู่ดี เตชิตจึงได้แต่ปลอบเขา พร้อมกับเรียกคนขับรถมา เขาตั้งใจให้ธีมนต์ไปอยู่กับเมทนีและณัชชนม์ก่อน ในสถานการณ์แบบนี้ หากให้ลูกอยู่ที่โรงพยาบาลต่อ ก็มีแต่จะทำให้เขารู้สึกเป็นกังวลมากขึ้น ไม่นานคนขับรถก็ขับรถเข้ามาจอดที่ใต้ตึก เตชิตเดินมาส่งลูกขึ้นรถด้วยตนเอง ก่อนที่จะขึ้นรถเขาเห็นสายตาหวาดกลัวของลูก เขาจึงรู้โดยทันทีว่าธีมนต์ยังมีอาการหวาดผวารถจากเหตุการณ์ที่เพิ่งเกิดขึ้น แต่ไม่มีวิธีอื่นแล้วจริงๆ ตอนนี้นัชชาก็ยังไม่ฟื้น เขาจำต้องเฝ้าหล่อนอยู่ที่นี่ จึงทำได้แค่ย้ำกับธีมนต์ว่า "ธีมนต์คนเก่ง เดี๋ยวลุงคนขับรถจะพาหนูกลับไปส่งก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวลูกก็จะได้เจอคุณตาคุณยายนะครับ" ธีมนต์สูดหายใจ เป็นเด็กดีเชื่อฟังจนน่าสงสาร " เข้าใจครับ พ่อรีบไปดูเแม่เถอะครับ" เขายิ่งเป็นเด็กดีน่ารักเชื่อฟังเท่าไหร่ ยิ่งทำให้เตชิตรู้สึกไม่ดี เขาจูบที่หน้าผากเด็กน้อยครั้งแล้วครั้งเล่า เขายืนมองดูรถค่อยๆลับสายตาไป จากนั้นจึงหมุนตัวเดินกลับ กลับมาที่ห้องฉุกเฉินอีกครั้ง ข้างๆเตียงคนไข้มีคุณหมอที่สวมเสื้อกราวสีขาวยืนอยู่7-8คน 1ในนั้นที่สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้าก็คือผู้อำนวยการโรงพยาบาลปัณรสนั่นเอง เมื่อเห็นเขาเดินมา ผู้อำนวยการรีบยื่นมือทักทายเขาทันที"คุณเตชิตมาแล้วหรือครับ" เตชินยื่นมือไปจับแล้วเขย่าเบาๆ สายตาจับจ้องอยู่ร่างเล็กๆบนเตียง"ภรรยาผมเป็นอย่างไรบ้างครับ" ทั้งสองยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่เขาก็ออกปากเรียกหล่อนว่าภรรยา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลยกมือเช็ดเหงื่อที่หน้าผาก รู้สึกได้ถึงความกดดันอันมหาศาล "ก่อนที่คุณจะมาผมได้ให้แพทย์ผู้เชี่ยวขาญเข้ามาดูแลแล้ว ตอนนี้แผลไม่มีเลือดออกแล้ว ผลการตรวจก็ออกมาแล้ว ผลการตรวจพบว่ามีการบาดเจ็บที่ศรีษะเล็กน้อย กระดูกอ่อนฟกช้ำหลายแห่ง รวมไปถึงอาการบาดเจ็บที่บริเวณเอ็นหัวไหล่ซ้ายถึงข้อศอก โดยรวมถือว่าอาการไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แต่ว่าค่อนข้างอ่อนล้า ถ้าจะให้ดีแนะนะว่าควรจะพักรักษาและสังเกตอาการอยู่ที่โรงพยาบาลอีกสักสองสามวันครับ" ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปกติยุ่งจนหาตัวแทบไม่เจอ แต่เวลานี้กลับมายืนรายงานอาการคนไข้อย่างนอบน้อมมีมารยาท บรรดาหัวหน้าแผนกที่ยืนกันอยู่ด้านหลังต่างสบตากันไปมา ไม่มีใครกล้าพูดอะไร พวกเขาคงกำลังสงสัยว่าผู้ชายคนนี้คือใครกันแน่ เตชิตฟังอาการบาดเย็บเจ็บต่างๆที่คุณหมอรายงาน เหมือนความเจ็บปวดต่างๆนั้นอยู่บนร่างกายของเขาเสียเอง สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่อยากให้คนอื่นต้องเดือดร้อน ริมฝีปากบางค่อยๆขยับ"ไม่ต้องหรอกครับ อีกสักครู่คนของโรงพยาบาลประจำตระกูลของปรัณก็จะมารับแล้ว" ผู้อำนวยการทราบดีว่าเขาคงไม่พักรักษาตัวที่นี่แน่นอน เมื่อได้ยินแบบนี้ก็ทำให้โล่งใจ จึงให้หมอสองคนพร้อมพยาบาลอีกสองคนคอยดูแลคนไข้ไว้ ตนเองปลีกตัวไปต้อนรับคนของโรงพยาบาลประจำตระกูลของปรัณที่จะมารับคนไข้ ภาพที่เขากำลังวุ่นวายทำโน่นทำนี่ด้วยตัวเอง คนที่ไม่รู้คงติดว่าเตชิตเป็นผู้อำนวยกาาโรงพยาบาล ช่วงที่กำลังรออยู่นั้นเอง เตชิตนั่งลงบนเก้าอี้ข้างๆเตียง มองดูใบหน้าขาวซีดของหล่อน ใจยังคงเต้นแรงไม่หยุด นีกถึงตอนที่เขารับโทรศัพท์จากโรงพยาบาล เขานิ่งชะงักไปทั้งตัว อุบัติเหตุคำคำนี้สะท้อนก้องอยู่ในหู ในหัวเหมือนมีเสียง "เพล้ง" รอยแยกแตกออก ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น เดิมทีนั้นเขารอนัชชาไปรับธีมนต์กลับมาทานข้าวที่บ้าน ตามองเวลาที่ใกล้เข้ามา นั่งรออย่างสบายใจในห้องรับแขก ไม่เพียงแค่รอเก้อ ยังได้รับรู้ถึงข่าวร้ายอีกด้วย ยังไม่ทันได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ไม่ได้นึกถึงเรื่องอื่นใดอีก พอได้สติสิ่งแรกที่เขาทำคือ หยิบกุญแจรถขึ้นมา ขับรถฝ่าไฟแดงอย่างบ้าระห่ำไปที่โรงพยาบาลทันที ยังไม่รู้ว่าหล่อนอยู่ในสภาพแบบไหน บาดเจ็บสาหัสหรือไม่ เขาพยายามรักษาสติช่วงสุดท้ายเอาไว้เพื่อโทรหาปรัณ หลังจากนั้นเขาก็เหมือนกับท่อนไม้รีบบึ่งรถต่อไป พอมาคิดๆดูแล้ว การที่เขาขับรถอย่างบ้าระห่ำแบบนั้นแล้วไม่เกิดอุบัติเหตุก็ถือว่าเขาโชคดีมากๆ ยังดีที่หล่อนไม่เป็นอะไรมาก ยังดีที่ธีมนต์ปลอดภัย ขณะที่ร่างของเตชิตกำลังหนาวสั่นด้วยความหลังจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น โทรศัพท์มือถือในกระเป๋ากางเกงของเขาก็ดังขึ้น เขาหยิบออกมาดูเป็นชนัยโทรมา หลังจากเกิดเรื่องเขาก็รีบติดน่อชนัยทันที ให้เขาไปตามล่าหาสองคนนั้นมาให้เร็วที่สุด พวกเขาเป็นชาวบ้านตาดำๆธรรมดาเท่านั้น จะหาตัวพวกเขานั้นง่ายมาก ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงชนัยก็ส่งข่าวมาแล้ว "พี่เตชิต เจอคนแล้ว พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในลานจอดรถชั้นใต้ดินในอำเภอเล็กๆ ตอนนี้ถูกจับมาไว้ที่ทำงานผมแล้ว" ชนัยที่กำลังนั่งบนเก้าอี้ประธานกรรมการของมูตี้คลับเฮ้าส์ ในมือถือไฟแช็ครุ่นลิมิเต็ดของแบรนด์ชื่อดัง มองไปยังสองคนที่ถูกบอดี้การ์ดของเขาควบคุมให้นั่งอยู่ที่พื้น" ชายหนึ่ง หญิงหนึ่ง ตกใจกลัวจนฉี่จะราดกางเกงอยู่แล้ว พี่ตัดสินใจเองว่าจะจัดการยังไง" สองคนที่ถูกจับมานั้น ได้ยินเขาพูดประโยคสุดท้าย ทำเอาขนลุกขนพองไปทั้งตัว จัดการยังไง สี่คำนี้ฟังดูเหมือนพวกเขาจะถูกกำจัดทิ้ง ทั้งสองมองหน้ากัน กลัวจนขี้ขึ้นสมอง ฝ่ายหญิงสาวกลัวจนควบคุมตัวเองไม่อยู่ กรีดร้องออกมา "แก แกจะทำอะไรพวกเรา บ้านเมืองมีขื่อมีแป แกจับพวกเรามา พวกแกทำผิดกฎหมาย ยังจะคิดทำอะไรอีก" ชนัยที่กำลังรอคำตอบของเตชิตอยู่ๆก็มีเสียงแหลมบาดหูดังแทรกขึ้น ทำให้เขาทนไม่ไหว ตะคอกออกมา"เฮ้ย" หน้าตาบ่งบอกถึงความไม่พอใจมองไปยังต้นเสียง ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่กำยำที่อยู่ด้านหลังหญิงสาวก้มหน้า "หนวกหู หาอะไรมายัดปากนังผู้หญิงปากดีนี่สิ" "ครับ ท่านประธาน" ชายร่างสูงรีบหยิบผ้าสีดำออกจากกระเป๋า ไม่รู้ว่าใช้ทำอะไร เขาม้วนมันเป็รก้อนแล้วยัดเข้าไปในปากหญิงสาว "อือ อือ อือ" หญิงสาวส่ายศีรษะไปมาไม่ยอมให้ความร่วมมือ แต่ก็มิอาจสู้แรงของอีกฝ่ายได้ สุดท้ายหล่อนก็ถูกอุดปาก เสียงร้องที่ไม่ค่อยชัดก็ยังคงดังออกมา
已经是最新一章了
加载中