ตอนที่22 ฉันเรื่องมาก
ตนที่22 ฉันเรื่องมาก?
“อะไรนะ?!” คิดชอบลุกขึ้นยืนทันที,ถามด้วยน้ำเสียงเด็ดขาดว่า: “อยู่ดีๆ,ผู้ช่วยกมนทัตประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ได้ยังไง,รุนแรงไม่รุนแรง?”
“รถ,รถไฟลุก,ได้ยินมาว่าคน……”
“ให้คนขับรถเตรียมรถ,ฉันจะไปดูหน่อย!” คิดชอบร้อนใจ, มีเพียงกมนทัตที่รู้เรื่องอดีตลูกและภรรยา,ถ้ากมนทัตมีปัญหาก็จบแล้ว!
“สามี….” ภรรยาคิดชอบต้องการที่จะพูดอะไรบางอย่าง,แต่ทว่าคิดชอบรีบร้อนที่จะเดินออกไป,สลัดเธอออก,ภรรยาคิดชอบเสียการทรงตัวล้มลงกับพื้น,โอดครวญเบาๆด้วยความเจ็บปวด.
“แม่,คุณไม่เป็นไรใช่ไหม!” แขไขเข้าไปช่วยประคองแม่ขึ้นมา,โกรธจนอยากจะด่าคิดชอบ,แต่คิดชอบออกไปก่อน,ทำได้แค่โกรธ: “พ่อทำเกินไปแล้วนะ!”
ภรรยาคิดชอบตบเบาๆที่แขนของเธอ,พูดด้วยเสียงอันนุ่มนวลว่า: “กมนทัตเป็นผู้ช่วยพ่อมาหลายปี,มาประสบอุบัติเหตุกะทันหัน,พ่อของคุณก็ควรจะเป็นกังวลอยู่แล้ว,แม่ไม่เป็นไรหรอก.”
พูดพลาง,ภรรยาคิดชอบก็หันหน้ากลับไปมองเยอรมัน, “เยอรมัน,รบกวนคุณไปดูหน่อย,ลุงของคุณสุขภาพไม่ค่อยดี,ฉันกลัวว่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้น.”
เยอรมันพยักหน้า.
ออกจากคฤหาสน์บ้านคิดชอบ,ตอนนี้เขารู้สึกสบายใจขึ้น,เอื้อมมือไปดึงเนกไท,คนขับรถกำลังเปิดประตูรถด้านหลัง,โค้งตัวแล้วเข้าไป, “ติดตามรถของคิดชอบไป.”
“ครับ.”
แขไขเพิ่งจะได้รับการผ่าตัดครั้งใหญ่,พอร่างกายเริ่มหายดีก็คิดที่จะออกไปเที่ยว,กระทั่งยังบ่ายเบี่ยงวันที่จะหมั้น,ตามใจเธอมาหลายปีแล้ว,เยอรมันเหนื่อยล้าใจมาก.
ตั้งแต่เล็กจนโต,แขไขต้องการอะไรเขาก็ให้หมด,อยากออกไปไหนเขาก็ขับรถส่วนตัวไปส่ง,แต่ทว่าเธออาศัยความที่เขาชอบยิ่งนานเข้ายิ่งไม่เกรงใจ,มากจนกระทั่งตอนอยู่ต่างประเทศเธอนัดพบกับผู้ชายนับไม่ถ้วน.
แปลกที่,เยอรมันนึกถึงเกสรแล้ว,เธอทำตามเขาอย่างเฉลียวฉลาดโอนอ่อนผ่อนตาม,ไม่รู้ว่าเป็นที่ชื่นชอบมากขึ้น.
ผู้ชายมองออกไปที่หน้าต่าง,ขมวดคิ้ว.
เร็วมาก,รถก็ตามคิดชอบมาถึงโรงพยาบาล,เยอรมันลงจากรถไปยังห้องฉุกเฉิน,ที่บนเตียงคนไข้มองเห็นเรือนร่างที่โดนไฟไหม้ดำเกรียมไปทั้งตัว,น่าเวทนาเกินที่จะทนดูได้.
เล่ากันว่าคือผู้ช่วยกมนทัตกลับมาบนถนนแล้วชนเข้ากับรถสินค้าใหญ่คันหนึ่ง,รถสินค้าใหญ่นั้นคือรถขนส่งน้ำมัน,พอชนเข้าไฟก็ลุก,คนบริเวณข้างทางที่อยากจะเข้าไปช่วยชีวิตก็ล้วนเข้าไปไม่ได้.
ข้างๆ,หมอได้พูดกับคิดชอบว่า: “พวกเราพยายามอย่างเต็มที่แล้ว,กมนทัตส่วนใหญ่ทั้งร่างกายและใบหน้าบาดเจ็บจากไฟลวก,อวัยวะร่างกายทั้งหมดเสียหาย,ส่อเค้าว่าจะเสียชีวิต.
ในไม่ช้าตำรวจก็มา.
เยอรมันมองเห็นคิดชอบเร่งรีบเข้าไปที่ตำรวจสอบถามว่ารถเป็นยังไงบ้าง,หลังจากได้รู้ว่ารถถูกไฟเผากลายเป็นขี้เถ้า,บนใบหน้าก็แสดงถึงความสิ้นหวัง.
“ข้อมูลเหล่านั้นล้วนอยู่ในมือเขา,เขาตายแล้วฉันจะหาข่าวคราวจากใคร?”
เยอรมันมองคิดชอบพูดกับตัวเองอยู่คนเดียว,ดูเหมือนว่ากมนทัตกำลังสืบหาอะไรแทนเขา,แววตาโศกเศร้า,เงยหน้าก้าวเท้าเดินไป, “คุณลุงครับ,คุณอย่าเศร้าไปเลย.”
“ฉันไม่เป็นอะไร.” คิดชอบฝืนใจยิ้ม,คนทั้งหมดดูเหมือนว่าแก่ลง 10 ปี.
เมื่อ 1 ชั่วโมงก่อน,เขายังรอข้อมูลของกมนทัต,ต้องการพบกับลูกสองคนของอดีตภรรยา,เพื่อเติมเต็มให้พวกเขาที่ขาดหายมา 10 กว่าปี,ใครจะคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น,กมนทัตตายแล้ว,ข้อมูลก็ถูกไฟไหม้หมดแล้ว.
เพราะว่าเป็นอุบัติเหตุสุดวิสัย,ด้านตำรวจก็พูดคุยกับคิดชอบ,หลังจากนั้นก็ไป.
คิดชอบจัดคนไว้ให้จัดการเรื่องงานศพของกมนทัต,สีหน้าหม่นหมองมาก.
เยอรมันอยู่เป็นเพื่อนด้วยตลอด,ถึงแม้จะไม่ได้พูดอะไร,ในที่สุดหลังจากส่งคิดชอบออกจากโรงพยาบาลแล้ว,ตัวเองก็ขึ้นรถไปแล้ว,แต่ทว่ากำลังคิดถึงคำพูดของคิดชอบตลอด.
เพราะอะไรคิดชอบถึงเครียดเรื่องการตายของมนทัตขนาดนั้น?
หรือว่าอาศัยกมนทัตให้ทำเรื่องที่สำคัญมากๆ,แต่ว่าไม่ได้รับการตอบกลับจากกมนทัต?
เยอรมันคิดจนคิ้วขมวด,กัมพลโทรศัพท์เข้ามา,รายงานเรื่องราวบางอย่าง: “ฉันวานให้คนส่งขี้ผึ้งไปให้คุณเกสร,แต่ว่าคุณเกสรเธอโยนขี้ผึ้งทิ้งถังขยะไปแล้ว.”
“ไม่ต้องไปใส่ใจเธอ!”ผู้หญิงคนนั้นต้องการที่จะได้รับความทรมานก็ปล่อยเธอ, “กัมพล,ครั้งหน้าคุณมาพูดเรื่องมากแบบนี้อีกละก็,เอาใบลาออกมาให้ฉันด้วยตัวเอง!”
สายทางโทรศัพท์ที่กัมพลถืออยู่นั้น: “……”
คุณเยอรมัน,คือคุณให้ฉันเป็นคนดูแลเอง,แล้วทำไมกลายเป็นฉันเรื่องมากล่ะ?