ตอนที่24‘ห่วงใย’ เธอ
ตนที่24‘ห่วงใย’ เธอ.
เห็นเยอรมันไม่เงยหน้าขึ้นมอง,เกสรก็ไม่อยากที่จะหาเรื่องให้ลำบากใจ,เพียงแค่ยิ้มหวานๆจู่โจมเข้าไปทักทาย, “คุณเยอรมันสวัสดีค่ะ,หวังว่าคุณจะสนุกในคืนนี้”.
ในสายตาของชวิศบ่งบอกถึงเจตนา,นั่งอยู่ท่ามกลางเหล่าผู้ชายมากมาย.
เพิ่งจะนั่งลงได้สักครู่นี้,มือผู้สร้างหนังคนนั้นก็เข้ามาลูบคลำ.
“เกสรวันนี้คุณมาสายนะ,เกมส์นี้พวกเราเริ่มเล่นกันมานานแค่ไหนแล้วคุณเพิ่งจะมา?ความจริงใจสักนิดก็ไม่มีจะมีความสุขได้ยังไงล่ะ?”
เกสรระงับอารมณ์และคำพูด,ปรากฏออกมาแค่ใบหน้าที่ยิ้มแย้มและพูดเอาใจว่า, “งั้นคุณยังไม่เป็นผู้สร้างหนังคุณไม่เรียกฉันหรอ?ฉันเป็นแค่นักแสดงตัวเล็กๆต้องมีคุณสมบัติแค่ไหนถึงจะมาร่วมสนุกกับทุกท่านได้ล่ะ,นี่คงต้องพึ่งวาสนาของอาจารย์พลอยแล้วล่ะ.
“จริงหรอ” ผู้สร้างหนังดึงนามบัตรออกมาทันที, “หลังจากนี้ไม่ต้องผ่านคนอื่น,หากต้องการก็ติดต่อฉันมาได้โดยตรงเลย.”
เกสรยิ้มพอจะยื่นมือออกไปรับ,แต่ทว่าผู้สร้างหนังก็จงใจหลบเลี่ยง,ต่อหน้าคนทั้งหลาย,นำเอานามบัตรไปยัดไว้บนร่างกายของเกสร.
“ผู้สร้างหนัง,” เกสรขวางมือของเขาเอาไว้.
“ทำไมล่ะ?” แววตาผู้สร้างหนังลุกวาวอย่างไม่คาดคิด.
“คุณอย่าเข้าใจผิด,”
เกสรยิ้ม,นิ้วเรียวเล็กดึงนามบัตรจากในมือของผู้สร้างหนังออก,ใช้สองมือยกแก้วเหล้าขึ้น,ลักษณะตาแป๋วที่เคลื่อนไปทั่วทำให้ผู้ชายโดยรอบแทบจะหยุดหายใจ.
“มาช้าก็ท่าทางจะต้องไปช้า,ผ่อนคลายอย่างนี้แล้วก็ปล่อยผ่านเหตุผลของฉันหรอ?หลอกคุณให้ความกรุณาและสนับสนุน,นามบัตรก็ได้มาแล้ว,อีกอย่างฉันต้องลงโทษตัวเองอีกแก้วนึงนับเป็นการขอโทษไม่ใช่หรอ?”
บนใบหน้าผู้สร้างหนังที่มีเมฆมากกับเปลี่ยนเป็นฟ้าสดใส,ใบหน้าพอใจ, “ฉันชอบผู้หญิงเข้าใจความหมาย.”
วิสกี้แก้วนึงที่ตกลงถึงท้อง,ผ่านช่องลำคอถึงในกระเพาะล้วนร้อนวูบวาบ,แถมพวกผู้ชายที่นั่งด้านในมองสายตาเธอก็มุ่งร้ายมากยิ่งขึ้น,นอกจากเยอรมัน.
เกสรจัดการกับผู้ชายเหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย,ฉากแต่ละฉากเต็มไปด้วยความตื่นเต้นคนกลุ่มนั้นจิตใจเบิกบานมีความสุขมาก,ผู้สร้างหนังชอบอย่างยิ่ง.
เกสรปกปิดสายตาที่รังเกียจสะอิดสะเอียนเอาไว้,บนใบหน้ามีแต่รอยยิ้มที่อ่อนช้อยน่ารัก,แสดงความโกรธพอประมาณโดยการผลักเขาออกไปเล็กน้อย.
“ผู้สร้างหนัง,ฉันพูดถึงละครเรื่องนั้นคุณรับปากหรือไม่รับปากหรอ?”
“รับปากๆ,คุณไม่ใช่ผู้หญิงเบอร์2นะ,คำพูดหนึ่งประโยค.”
“งั้นฉันต้องขอบคุณคุณ,แก้วนี้ให้สำหรับคุณ.”
ในมุมนึง,บนใบหน้าเยอรมันกลายเป็นเหมือนมีเมฆฝนปกคลุมอย่างหนาแน่น.
ห้องงานเลี้ยง,เกสรดื่มเหล้ามากเกินไป,หาข้ออ้างไปห้องน้ำเป็นครั้งๆ.
พอจะผลักที่กั้นประตูห้องน้ำบนบ่าก็หนักขึ้นมาอย่างฉับพลัน,แรงมหาศาลที่ไม่เกรงใจตรงมานำพาเธอจากคนทั้งหมดผลักเข้าไปในที่กั้นประตู,เกือบจะชนกับฝาผนัง.
“เธอไม่ทันได้กรีดร้อง,ก็ได้กลิ่นบนร่างกายของผู้ชายที่คุ้นเคย,หลังตื่นตระหนกเสี้ยววินาที,ตนเองก็ฉีกรอยยิ้มเยาะเย้ยออกมา,จากนั้นก็หันตัวกลับอย่างไม่สะทกสะท้าน.
“คุณเยอรมันคะ,นี่คือห้องน้ำผู้หญิงค่ะ.”
เมื่อเห็นว่าเธอจะไป,เยอรมันตรงมากักตัวไว้ดึงข้อมือเธอกลับอย่างโหดเหี้ยม.
คุณทำอะไร?”
เยอรมันคุ้นเคยกับท่าทางที่เธอเชื่อฟังตนเอง,ขณะนี้พบแต่ใบหน้าที่เมินเฉย,ฉับพลันยังรู้สึกได้ถึงความเบื่อเซ็งตลอด,คำพูดจาเสียดสีไม่ไว้หน้ากัน.
“คือฉันให้เงินคุณไม่พอหรอ?”ถึงมาทำเรื่องย่ำยีตัวเองแบบนี้?”
“ฉันย่ำยีตัวเอง?”
เกสรขมวดคิ้ว,ไม่โกรธกลับยิ้ม, “คุณเยอรมันคุณไม่รู้การกระทำที่ลึกซึ้งของพวกเราหรอ?ก็ไม่ได้สำคัญอะไร,ฉันออกมาเพื่อขอชีวิตก็เท่านั้น,ใครก็ไม่สามารถไม่พอใจเงินเยอะอย่างนั้น.”
เขายังคิดว่าตัวเองแยกออกมาเขายังต้องการปกป้องดังเขาเองดั่งหยก?
เยอรมันสีหน้าเศร้าหมอง
“ตามความหมายของคุณ,ก็แค่ต้องการให้ทรัพยากรคุณให้เงินคุณ,คุณใครก็ล้วนสามารถให้ความช่วยเหลืออยู่ข้างๆ?”
คำพูดนี้ช่างโหดร้าย,แววตาเกสรเจ็บปวด,จ้องมองเยอรมันอย่างเงียบสงัดอยูขณะหนึ่ง,ทันใดนั้นก็หัวเราะเยาะออกมา,เอื้อมมือออกไปหยุดเขา,น้ำหอมกลิ่นแรงวิ่งพรวดพราดเข้าสู่ลมหายใจของเยอรมันทันที,ทำให้เขาถึงกับขมวดคิ้ว.
แต่ก่อนบนร่างกายเกสรถึงแม้ว่าจะมีน้ำหอมก็ล้วนเป็นกลิ่นจางๆ,เธอรู้ว่าตนเองไม่ชอบสิ่งเหล่านี้.
“คุณพูดถูกแล้ว,ช่วยเหลือใครไม่ใช่อยากอยู่ข้างๆ?”
แต่อยู่แบบนี้คนเดียวก็เป็นจุดที่ดี,พักหนึ่งก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นถี่.
เกสรรู้สึกได้อย่างชัดเจน,เยอรมันถอนมือกบัยจากตัวเธอ,มองเธอทีนึงและกดปุ่มรับโทรศัพท์.
“แขไข,มีอะไรหรือเปล่า?”
ทางนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไร,หน้าของเขาบ่งบอกว่ามีเรื่องคาดไม่ถึงอย่างชัดเจน,แต่ทว่ายังห้ามใจไว้ได้และตอบรับปาก.
“ฉันสามารถให้คนมาช่วยคุณจัดการได้”
ไม่จำเป็นต้องคิดมาก,เกสรก็สามารถเดาได้เลย,โทรศัพท์ทางนั้นดูท่าจะเป็นคู่หมั้นสุดที่รักของเขา,ผู้หญิงคนนั้นที่ทำให้เธอต้องสละไตไปข้างนึง.
ทันใดนั้นเธอก็ไม่พอใจ,กะพริบตาอย่างเย็นชา,เสี้ยววินาทีก็เคลื่อนขึ้นมา.
เยอรมันขมวดคิ้ว,สีหน้าก็เปลี่ยนไป.
สองมือของเกสรเคลื่อนไหวเหมือนฟาดไปมาบนตัวของเขาอย่างไม่พอใจ.
“พี่เยอรมัน,คุณฟังฉันพูดอยู่หรือเปล่า?”
“……”
เยอรมันดึงสติกลับมาทันทีทันใด,ต้องการที่จะผลักเกสรออก.
แต่ทว่าเธอตะเกียกตะกายเขา, “อาาา~ เยอรมัน……”
เสียงที่สอบถามของผู้หญิงทางโทรศัพท์ทางนั้นก็ตัดลงช่วงหนึ่ง,ตกตะลึงจนเงียบไม่พูดจาอยู่ชั่วขณะ,และเปลี่ยนมาเป็นถามด้วยน้ำเสียงที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟอย่างรวดเร็ว, “เยอรมัน,คุณกำลังทำอะไรอยู่?”
“แขไข”
“คุณไม่ต้องพูดแล้ว,คุณต้องกลับมาอธิบายเดี๋ยวนี้.”
โทรศัพท์วางสายไป.
เยอรมันขมวดคิ้วจนกลายเป็นเส้นเดียวกัน,นำเกสรจากบนร่างกายตัวเองลง,กล่าวอย่างหงุดหงิด, “คุณคิดจะทำอะไร?”
เกสรพิงกำแพง,ก่อนไม่มีเพิ่งจะให้ความสนใจ,แต่ทว่ายังแสดงริมฝีปากที่ยิ้มของเธอเสมอ, “ไม่ใช่คุณเยอรมันต้องการให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนเหรอ?แล้วมาถามฉันกลับได้อย่างไร?”
“เกสร,ผู้หญิงที่ใช้กลอุบายต่อหน้าฉัน,แต่ไหนแต่ไรมาไม่มีแสดงได้ดี.”
เยอรมันมองเธอด้วนสายตาที่เย็นชา,จัดระเบียบเสื้อผ้าให้ดีแล้วก้าวเท้าออกไป.
รอจนกระทั่งเสียงก้าวเท้าของชายคนนั้นหายไป,บนใบหน้าเกสรในที่สุดก็ยิ้มออกมาเธอพิงบนแผ่นกั้น,เธอหัวเราะเยาะตัวเองมาคำนึง.
เกสร,นี่คือคุณกำลังจะทำอะไร?.
ตั้งแต่เริ่มแรกคุณไม่ใช่แค่ต้องการแลกเปลี่ยนเงินทองทรัพย์สิน,ดำเนินชีวิตอย่างสุขสบายมาเนิ่นนาน,ก็โลภอย่างไม่รู้จักอิ่ม?คุณยังจริงจังกับตัวเองไม่ได้จริงๆหรอ?
เดินหน้าเข้ายังด้านหน้าที่นั่ง,เกสรสูดลมหายใจเข้าลึกๆ 1 ที,ปรับรอยยิ้มให้ดูดีและผลักประตูเดินเข้าไป.
“ขอโทษด้วยนะคะ,ไปนานไปหน่อย.”
พวกผู้ชายในที่นั่งทั่วทุกด้านหันมาจ้องมอง,แย่งกันโบกมือ,ทั้งหมดมีท่าทีที่ลนลาน, “อา?ไม่เป็นไรๆ.”
“เกสรหยุดดื่มเหล้า,ให้บริกรนำชามาให้ถ้วยนึง.”
ผู้สร้างหนังทำหน้าไม่ธรรมชาติ,เดินอย่างลำบาก.
“ใช่ๆๆ,แอร์อุณหภูมิต่ำมากเกินไป,เกสรเอาเสื้อคลุมมาใส่จะได้ไม่หนาว”
“ผู้สร้างหนังพูดแบบนี้,ฉันยังเหลือเหล้าอีกครึ่งแก้วยังดื่มไม่หมด”
“ไม่,ไม่ต้องดื่มแล้ว,เมื่อตอนคุณเยอรมันไปได้ชี้แจงแล้ว,เกสรรู้สึกร่างกายไม่สบาย,เหล้าไม่ต้องดื่มแล้ว.”
ได้ฟังคำนี้,เกสรก็ได้เข้าใจ.
เยอรมันตัวเองไม่มีเวลาแล้ว,ก่อนไปยังไม่ลืม ‘ห่วงใย’ เธอ.