ตอนที่ 40 ทำให้คนคิดไปไกล

ต๭นที่ 40 ทำให้คนคิดไปไกล “ข่าวฉาวของฉันกับชยิน?” เกสรผละตัวออกจากเก้าอี้ทันที “ข่าวมันมาจากไหนเนี่ย?” “ไม่มีหลักฐาน เป็นพวกแอคเค้าท์ขายของใช้พวกรูปตอนถ่ายละครแพร่ไปทั่ว เพราะความนิยมของครูชยินสูงเกินไป แฟนคลับของพวกเราจึงโมโห และเริ่มแตกคอกัน” เกสรรีบเปิดข่าวอ่าน เมื่อเห็นหัวข้อข่าวพวกนั้น เธอก็แทบจะเป็นลม “ฟัค!” ยังไม่ถึงครึ่งวัน คำค้นหาร้อนแรงนี้ก็ขึ้นเป็นอันดับหนึ่ง ชยินในฐานะไอดอลที่ผันตัวมาเป็นนักแสดงชายกลุ่มแรกๆ จึงมีฐานแฟนคลับจำนวนมาก แม้จะสู้ดาราชายสุดฮอตสี่คนในตอนนนี้ไม่ได้ แต่เขาก็ได้รับงานมากมายตั้งแต่เดบิวต์ เพราะงั้นแฟนคลับจึงภักดีต่อเขา แต่เกสรเป็นเพียงนักแสดงโนเนมตัวเล็กๆ หลายปีมานี้แม้ว่าจะถ่ายละครไปไม่น้อย แต่ก็ยังไม่ดัง ไม่สามารถทำให้คนดูจดจำหน้าได้ แฟนคลับที่ติดตามเธอส่วนใหญ่เป็นแฟนคลับที่เห็นอกเห็นใจหลังจากข่าว‘เป็นเด็กเสี่ย’ของเธอ และก็เป็นกลุ่มแฟนคลับนี้ ที่ทะเลาะกับกลุ่มแฟนคลับชยินบนเหว่ยปอ “พี่พลอย ทำไมคำค้นหามันยังไม่หายไปอีกล่ะ” เกสรลากองถ่ายครึ่งวันเพื่อไปบริษัทH.YE พี่พลอยบอกไว้อย่างชัดเจนในโทรศัพท์แล้วว่า ให้ลบคำค้นหาออกไปเร็วที่สุด แต่เธอมาถึงบริษัทตั้งนานแล้ว ก็ยังไม่เห็นคำค้นหาร้อนแรงจะนั้นขยับไปไหนแม้แต่นิดเดียว “เธอนั่งลงดื่มชาก่อน เรื่องกำลังแก้ไขอยู่ แต่ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แผนกบรรณาธิการของเหว่ยปอไม่รับสายฉันเลย ตอนนี้ฉันให้คนไปคิดหาวิธีแล้ว” “ฉันดื่มจนจะบวมน้ำอยู่แล้ว ยังจะให้ดื่มชาอีก”เกสรเริ่มวุ่นวายใจ “ตอนแรกก็ไม่ได้ตั้งใจจะมารบกวนคุณ แต่ทำไมคำชี้แจงปฏิเสธที่ดมสาเตรียมมาถึงไม่ได้ประทับตราบริษัทล่ะ?” เนื่องจากคำชี้แจงอย่างไม่เป็นทางการของเธอไม่มีตราประทับบริษัท ตอนนี้เธอเลยถูกแฟนคลับของชยินโจมตี คำพูดวิพากษ์วิจารณ์อันรุนแรง ทำให้เธอไม่สามารถโพสต์คำชี้แจงลงไปได้ “สองวันนี้ประธานชยนไปธุระที่ต่างประเทศอยู่ จึงปั๊มตราประทับให้ไม่ได้” “พี่พลอย พี่หลอกฉันแบบนี้มันใช้ได้เหรอ?” สีหน้าเกสรตึงขึ้นเล็กน้อย ใบหน้าที่มีเสน่ห์และงดงามของเธอในตอนแรกกลับทำท่าขู่เข็ญ “แบบนี้ถ้าหากว่าพวกพี่สาวบริษัทเราเกิดเรื่องขึ้นบ้างแล้วต้องการตราประทับ ก็จะไม่ประชาสัมพันธ์ เพราะประธานชยนไม่อยู่งั้นเหรอ?” สีหน้าพี่พลอยเริ่มรู้สึกลำบากใจ และถอนหายใจออกมา “เกสร บริษัทไม่ใช่ของฉัน พูดตามจริงแล้วเจ้านายอยากสนับสนุนหรือจะถีบส่งใครก็ได้ไม่ใช่เหรอ สุดท้ายฉันก็แค่รับทำงานตามคำสั่งเท่านั้นเอง คำสั่งข้างต้นมันไม่เกี่ยวกับฉัน เธอจะให้ฉันทำยังไงล่ะ?” “แทนที่จะมีปัญหากับฉัน เธอไปคิดหาคนที่เธอเพิ่งขัดใจมาอีกไม่ดีกว่าเหรอ” ‘อีก’คำคำนี้เกือบจะทำให้เกสรหัวเราะออกมา เธอทุ่มเทกับการถ่ายละคร ตั้งแต่ไหนแต่ไรไม่เคยบ่นแม้แต่คำเดียว ปกติถ้าไม่มีใครมาหาเรื่องเธอ เธอก็จะไม่ไปหาเรื่องใคร ถ้าจะให้พูดว่าช่วงนี้ขัดใจกับใคร นอกจากเยอรมันที่เธอไปยั่วโมโหเขาก่อนหน้านี้แล้วยังจะมีใครอีก? “พี่พลอย ฉันรู้แล้ว เดี๋ยวเรื่องนี้ฉันจัดการเอง ไม่รบกวนพวกพี่แล้วล่ะ” เกสรยืนขึ้นทันที และเดินออกจากออฟฟิศของพี่พลอยไปโดยไม่พูดอะไรอีก ค่าตอบแทนการยืนพิงต้นไม้ใหญ่เพื่อรับลมก็คือถ้าหากต้นไม้ไม่ให้คุณพักพิง โชคร้ายของคุณก็จะตามมา ถ้าหากเรื่องนี้เยอรมันเป็นคนทำ เธอกลับไม่กังวล มันก็เป็นแค่การลงโทษนิดหน่อยเท่านั้น เยอรมันไม่มีทางทำให้เธอจนตรอกจริงๆหรอก แต่ปัญหาคือ กลอุบายเด็กๆแบบนี้ไม่เหมือนฝีมือของเยอรมันเลย กัมพลวางแท็บเล็ตไว้หน้าเยอรมัน และอธิบาย “ประธานเยอรมัน ข่าวล่าสุดของคุณเกสรตอนนี้วุ่นวายมาก ความสามารถในการแก้ข่าวของผู้จัดการคนใหม่ไม่ดี คำชี้แจ้งที่โพสต์ลงบนเหว่ยปอก็ไม่มีตราประทับบริษัท เพราะแบบนี้จึงถูกแฟนคลับของชยินโจมตีอย่างหนักครับ” เยอรมันอ่านข่าวอย่างผ่านๆเท่านั้น และถามต่อว่า “บริษัทH.YEไม่ได้ออกมาแก้ข่าวงั้นเหรอ?” “ใช่ครับ”กัมพลขมวดคิ้ว และทำสีหน้าลังเล “ยังมีอีกเรื่องครับ” แน่นอนเขารู้ว่าเกสรเป็นคนของเยอรมัน และตอนนี้เธอก็ยังอยู่ในใจของเขา ดังนั้นทันทีที่เกิดเรื่องเขาก็ตรวจสอบที่มาของข่าว แต่กลับพบว่าเรื่องนี้ตัวเขาไม่สามารถแก้ไขได้ “ว่ามา” “ผมโทรหาแผนกบรรณาธิการที่ปล่อยข่าว ทางนั้นบอกว่า ข่าวนี้เขาได้คุยกับทางบริษัทH.YEแล้ว แม้แต่พวกนักเลงคีย์บอร์ดที่สร้างเรื่องพวกนั้นก็เป็นคนที่บริษัทH.YEจัดมา” “เธอไปขัดใจใครมาอีก?” น้ำเสียงของเยอรมันเป็นกันเองมาก เกสรดูอ่อนโยนต่อหน้าเขา แต่ความเป็นจริงแม้แต่เรื่องเล็กน้อยเธอก็แก้แค้น เธอไม่ค่อยมีเรื่องใหญ่ ส่วนใหญ่มีแต่เรื่องเล็กๆ เลยสามารถจัดการแก้ไขได้ง่าย แต่กัมพลกลับทำสีหน้าลำบากใจและมีความลังเล “ประธานชยนของบริษัทH.YEรู้เรื่องความสัมพันธ์ของประธานกับคุณเกสรแล้วครับ ต่อให้ไปขัดใจใคร แต่ก็ไม่มีใครกล้าทำอะไรเธอ จุดน่าสงสัยของเรื่องนี้ ผมสืบมานิดหน่อยแล้วครับ” เขาพูดอย่างอ้ำๆอึ้งๆ “ระเรื่องนี้ดูเหมือนว่าจะเกี่ยวข้องกับ......คุณหญิงกิจพร” เยอรมันเงยหน้าขึ้นมา “บ้านแขไข?” ขณะที่กำลังคิด โทรศัพท์ของกัมพลก็ดังขึ้น เขาก้มดู และหันไปทางเยอรมัน “ประธานเยอรมัน คุณเกสรครับ” ทันทีที่เกสรออกจากบริษัทH.YE ก็โทรหาเยอรมัน “เยอรมันล่ะ?” ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง “ประธานเยอรมันไปคุยงานต่างประเทศครับ” “ไปคุยงาน? ตั้งแต่เมื่อไหร่?” “เมื่อเข้านี้ครับ คุณเกสรมีธุระอะไรไหมครับ?” “ไม่มีอะไรมากหรอก ถ้าพวกคุณกลับมาแล้ว บอกฉันได้ไหม?” “คุณเกสร เกรงว่าจะไม่ได้ครับ” คำตอบที่ไม่คาดคิด เกสรนิ่งเฉยไป “กัมพล พวกเราก็รู้จักกันมาสองปีแล้ว และฉันก็ชื่นชมนายมาตลอด เรื่องคราวก่อนที่นายเตือนฉัน ฉันรู้สึกขอบคุณมาก ที่จริงแล้วฉันไม่ได้จะหาเขาหรอก แต่ฉันตั้งใจอยากเจอนาย อยากเลี้ยงข้าวนายคุยเล่นกันสักมื้อ “คุณเกสร คุณ......พูด พูดเหลวไหลแบบนี้ไม่ได้นะครับ ผมไปเตือนคุณตอนไหนกัน?” กัมพลที่ทำงานอย่างใจเย็นมาตลอด ในเวลานี้กลับตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เกสรอดไม่ได้ที่จะพูดต่อ เธอตั้งใจบีบเสียงหวานๆ และราดน้ำมันลงบนกองไฟ “งั้นก็ตามนี้นะ กัมพล ถึงเวลานั้นบอกฉันล่วงหน้านะ ฉันจะได้จองร้านอาหาร แล้วค่อยโทรหานะ” หลังจากนั้น สายก็วางไป ด้านปลายสายของอีกฝั่ง กัมพลหน้าซีด “ฮัลโหล......ฮัลโหล คุณเกสร......” บรรยากาศภายในออฟฟิศอึมครึมทันที เมื่อเห็นสีหน้าของเยอรมันเขียวปัด กัมพลก็แทบจะร้องไห้ “ประธานเยอรมันครับ ผมไม่รู้ว่าทำไมคุณเกสรพูดแบบนั้นจริงๆ ผมไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับเธอเลย......” เยอรมันเกือบจะหักปากกาในมือ สีหน้าเขาเคร่งขรึมและพูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “อวดฉลาดนัก!” ต่อให้ให้ความกล้าของเกสรเป็นร้อย เธอก็ไม่กล้ายุ่งกับคนรอบตัวของเขา สำหรับเหตุผลที่เธอพูดแบบนี้ ก็คงเพราะเธอรู้ตั้งนานแล้วว่าเขาอยู่ข้างกัมพล เลยตั้งใจพูดให้เขาได้ยิน “ไปรับเธอ” “ครับ” ที่เธอพูดอ้อมค้อมไปมาเพราะอยากเจอเขาไม่ใช่เหรอ? งั้นก็ไปเจอ ดูสิว่าเธอจะมีแผนอะไร ในอีกด้านหนึ่ง หลังจากที่เกสรวางสายไป เธอก็กระสับกระส่าย เธอกดปีกหมวกลง จากนนั้นก็เดินออกจากตึกบริษัทH.YE และขึ้นรถตู้ไป ทันทีที่ขึ้นรถ ดมสาก็ถามขึ้น “เกสร เธอโทรหาใครน่ะ? ครูชยินบอกว่าโทรหาเธอไม่ติด” “ชยินโทรหาฉันเหรอ?”เกสรก้มมองโทรศัพท์ มีสายที่ไม่ได้รับสองสายจริง “เรื่องอะไรเหรอ? เขาบอกเธอหรือยัง?” “อื้ม ฝั่งของครูชยินยังไม่ได้ลงคำชี้แจง เขาเลยตั้งใจจะถามเธอว่าเย็นนี้อยากกินข้าวด้วยกันกับเพื่อนสองสามคนไหม จากนั้นก็ถ่ายรูปรวมกัน ก็คือใช้เพื่อนพวกนี้มาช่วยชี้แจง ” “ชยินนี่คิดได้แค่นี้เหรอ?”เกสรกุมขมับและทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ “วิธีชี้แจงมุกเดิมๆแบบนี้ ถ้าตอนนี้ฉันไปเจอเขาเป็นการส่วนตัว มีแต่จะทำให้เรื่องมันดังยิ่งกว่าเดิมน่ะสิ ชาวเน็ตไม่ใช่คนโง่ที่เราพูดอะไรก็เชื่อ ฉันเห็นมามากแล้วดาราที่บอกว่าเป็นเพื่อนกันแต่สุดท้ายก็คบหากัน แบบนี้มันทำให้คนคิดไปไกลไม่ใช่เหรอ?”