ตอนที่ 42 ฉันจะเซ็นสัญญาฉบับนี้   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 42 ฉันจะเซ็นสัญญาฉบับนี้
ต๭นที่ 42 ฉันจะเซ็นสัญญาฉบับนี้ สตูดิโอ ในระหว่างการถ่ายทำ ชยินเห็นข่าว แล้วถามขึ้นมาว่า “เกสร เร็วๆ นี้เธอไปชนกับความอัปมงคลมาเหรอ? ขึ้นการค้นหายอดนิยมวันเว้นวัน” “ไม่ใช่ชนความอัปมงคล คนมันโชคร้าย ดื่มน้ำก็เข็ดฟันแล้ว” เกสรตอบแบบขอไปที ก่อนจะก้มหน้าอ่านบทตัวเองต่อ “ทำไมเธอสงบได้ ในขณะที่คนกำลังด่าเธออยู่ในเน็ต เธอจะไม่ชี้แจงหน่อยหรือไง?” “ไม่ตอบโต้ก็คือการชี้แจงที่ดีสุดแล้ว” “ปากแข็งจริง เห็นเธอแบบนี้แล้วไม่รู้จะตอบยังไงเลย” ปกติชยินมักจะกวนอารมณ์เธอ แต่วันนี้เห็นเธอหดหู่ไม่มีชีวิตชีวา ก็รู้สึกแปลกใจ “เธอคงรู้สึกแย่กับเรื่องนี้จริงๆ ใช่มั้ย?” เกสรเหลือบมองเขา “ถ้าฉันรู้สึกแย่จริงๆ นายช่วยฉันได้มั้ยล่ะ?” “ยังไง? อยากขอคำแนะนำจากผู้อาวุโสเหรอ?” ชยินมีท่าทางคันไม้คันมือ และขยับเก้าอี้เข้าไปใกล้ “ถ้าโดนสร้าวข่าวลือบ่อยๆ มันต้องมีคนอยากแทงเธอข้างหลังแน่ๆ อันดับแรกเธอต้องรู้ก่อนว่าคนแบบไหนที่อยากจัดการเธอ อย่างที่สอง ต้องเผชิญหน้ากับเขา หลังจากผ่านความวุ่นวายครั้งนี้ไป ก็เตรียมป้องกันล่วงหน้าเอาไว้ แต่ก่อนอื่น เธอต้องบอกฉันก่อนว่าเขาคือใคร” “ถ้าฉันรู้ฉันจะมากวนใจที่นี่เหรอ?” “งั้นก็ไม่มีหนทางแล้ว” “ไม่พูดก็ไม่ต่างกัน” เกสรหันหน้าหนีแล้วไม่สนใจเขาอีกต่อไป ครั้งแรกอาจคิดว่าเยอรมันเป็นคนทำเพื่อตักเตือนเธอ แต่ครั้งที่สองสามนี่ มันไม่ใช่พฤติกรรมของเยอรมัน แล้วเยอรมันก็ไม่จำเป็นที่จะต้องทำให้ตัวเองยากลำบาก ชยานี ชยานี พลอย หลังจากคิดชื่อของทั้งสองคนในใจหลายครั้ง เกสรก็นึกใครอีกคน ที่วันนั้นอยู่ในห้องอาหาร หญิงวัยกลางคนที่ให้เธอไปจากเยอรมัน เบื้องหลังของพลอยคือเป็นคนตระกูลคุณยิ่งยศ พอคิดไปคิดมาแล้ว คนที่สามารถแย่งทรัพยากรจากเยอรมันที่ให้เธอได้นั้น ก็คือตระกูลคุณยิ่งยศ กิจพรรับโทรศัพท์ตอนอยู่ในร้านเสริมสวย ลำตัวถูกคลุมด้วยผ้าขนหนูสีชมพู ใบหน้ามีมาส์กหน้าวางไว้ กับลูกสาวของเธอแขไข ทั้งสองนอนเคียงข้างกันทรีทเมนต์เพื่อความงามอยู่บนเตียง และหมอนวดก็กำลังนวดศีรษะให้ทั้งคู่ “ฮัลโหล?” “คุณกิจพร ฉันเองค่ะ” มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นจากอีกด้านของโทรศัพท์ กิจพรยกมุมปากขึ้นเล็กน้อง แล้วมาร์กหน้าก็ขยับ เห็นได้ชัดว่ากำลังลำพองใจ “มีธุระอะไรเหรอ? คุณเกสร” “ฉันเจอสิ่งที่คุณทำแล้ว วันนี้ตอนเย็นว่างมั้ยคะ เรื่องครั้งก่อน พวกเรามาคุยกัน” “ได้ ได้สถานที่แล้วฉันจะบอกเธอไป หวังว่าก่อนจะมาเธอเตรียมคำตอบให้ฉันได้นะ” วางสายไปแล้ว แขไขที่อยู่ข้างๆ ก็มองมาด้วยความเกียจคร้าน “ใครเหรอคะ? ตอนเย็นแม่จะไปกินข้าวกับใคร?” “ไม่มีอะไรหรอกลูก ก็เพื่อนนี่แหละจ้ะ สักพักแม่ต้องไปก่อนนะ” แขไขไม่เคยจัดการเรื่องนี้ กิจพรก็ไม่ยอมให้เธอรู้แล้วมาคิดมากภายหลังด้วย ก็เลยไม่บอกเธอ “อ้อ งั้นหนูก็ต้องกินข้าวคนเดียวเหรอ?” “ลูกไปหาเยอรมันมั้ย หลายวันแล้วที่ไม่ได้เจอหน้าเยอรมัน แม่บอกเลยนะ กิจการผับเล็กๆ น่ะไม่ต้องทุ่มเทมาก สิ่งที่ควรทุ่มเทคือการจับเยอรมัน” “หนูจริงจังกับการเปิดผับนะ พี่เยอรมันก็สนับสนุนหนู แม่ ไม่ต้องกังวลหรอก ไม่ใช่แม่ต้องไปเจอเพื่อนเหรอ งั้นก็รีบไปเถอะ อย่าปล่อยให้เพื่อนรอนาน” แขไขรีบกระตุ้นให้เธอไป กิจพรขมวดคิ้ว และก็มองไปยังลูกสาวที่เธอคุ้นเคยมาแต่แบเบาะ ก็เปลี่ยนเสื้อแล้วหยิบกระเป๋าจากไป ครั้งนี้เปลี่ยนสถานที่ ที่เดิมมันระดับสูงไป ตรงกลางของร้านอาหารขนาดใหญ่ มีแค่โต๊ะหนึ่งตัวที่วางอาหารที่สวยงามเหมือนไม่ได้ทำให้ใครกินไว้ และไม่มีใครขยับตะเกียบ เกสรมาสายและเอ่ยขอโทษ จากนั้นก็เปิดประตูเข้ามา “ฝีมือของคุณนายกิจพรฉันเห็นแล้วค่ะ ก่อนหน้านี้ฉันมีตาหามีแววไม่” “งั้นเหรอ ไม่ต้องพูดพิธีรีตองแล้ว วันนี้เธอก็รู้ที่โทรมาหาฉันและบอกว่าสองวันนี้เธอได้รับความเดือดร้อนมากพอแล้ว ถ้าเรื่องที่จำเป็นต้องทำแต่ไม่ทำต้องให้บังคับเหมือนครั้งก่อน หลังจากนี้ฉันจะไม่เห็นอกเห็นใจเหมือนครั้งนี้แล้ว” กิจพรยิ้มเหยียด “ตอนนี้เธอก็รู้ ว่าผลของการรุกรานตระกูลคุณยิ่งยศคืออะไรแล้วใช่มั้ย?” “รู้แล้วค่ะ” “นี่เป็นเช็กจำนวนห้าล้าน เซ็นสัญญาลงไปซะ ออกไปจากเยอรมัน เรื่องที่เธอเจอก็จะจบลง” ผู้ชายที่เหมือนจะเป็นผู้ช่วยของกิจพรส่งสัญญาณและเช็กมาให้” “ห้าล้าน?” เกสรกะพริบตา ใบหน้ามีแววขบขัน “อะไร?” กิจพรก็นึกไปถึงครั้งก่อนที่เกสรพูดเรื่อง ‘ชำระเป็นงวด’ สีหน้าเธอก็ตึงขึ้น “ไม่มีอะไรค่ะ” เกสรตอบอย่างฉลาดในครั้งนี้ “ฉันจะเซ็นสัญญาฉบับนี้” เกสรเลิกคิ้วก่อนจะรับสัญญามา กวาดตามองหลายๆ ข้อ แล้วก็เปิดไปยังหน้าสุดท้าย และลงชื่อไปอย่างรวดเร็ว อาจเป็นเพราะเธอเซ็นง่ายไป กิจพรเลยรู้สึกไม่สบายใจเล็กน้อย “คุณกิจพร สัญญาก็เซ็นแล้ว งั้นฉันไปก่อนนะคะ” หยิบกระเป๋าเสร็จเกสรก็เดินจากไปง่ายๆ ราวกับว่ามาเจอเพื่อนเก่า ไม่มีความลำบากใจอะไรเลย “คุณนาย ทำไมปล่อยเธอไปครับ?” “เธอรับเงินฉันไปแล้ว บันทึกและสัญญาก็ยังอยู่ แล้วที่เธอทะเลาะกับเยอรมันยังโกหกอีกเหรอ? เมื่อถึงเวลาที่เยอรมันรู้ว่าผู้หญิงคนนี้หิวเงิน ก็เลิกเอาใจใส่แล้ว” ปากพูดออกไป แต่คิดถึงใบหน้ามีเสน่ห์ของเกสรแล้ว กิจพรก็ยังไม่สบายใจ ทำไมเรื่องนี้มันแก้ได้ง่าย? “...” เป็นเวลากลางคืน ออกมากจากร้านอาหารแล้ว เกสรก็ตรงไปยังบ้าน และไม่คิดว่าชนาจะยังไม่กลับมา นาฬิกาบนผนังบอกเวลาสี่ทุ่ม เธอเปิดประตูระเบียงแล้วโทรหาชนา โทรติดแล้ว ก็มีเสียงเพลงที่ทำให้หูแทบอื้อดังเข้ามา เกสรคิดว่าเธอโทรผิด ก่อนจะก้มลงมองโทรศัพท์ “ฮัลโหล พี่...” เสียงเพลงก็หายไปแล้วมีเสียงชนาดังเข้ามา เกสรขมวดคิ้ว “ดึกขนาดนี้ทำไมยังไม่กลับ? นายอยู่ไหน? ทำไมเสียงดังจัง?” “พี่ ผมฉลองวันเกิดของเพื่อนที่ติวด้วยกันอยู่ พวกเขาดึงดันให้ผมมาเล่นด้วยกัน แล้วผมถึงรู้ว่ามันคือบาร์ หนีก็ไม่พ้นแล้ว ยังดีที่พี่โทรมา ผมจะได้กลับ” “เอ๋? พี่ยังไม่ได้พูดอะไรเลย!” เกสรหัวเราะเสียงเบา “ชนา นายก็โตแล้วไปผับแล้วมันจะเป็นอะไร? สนุกกับเพื่อนให้เต็มที่เลยนะ ระวังความปลอดภัยก็โอเคแล้ว” ถึงจะมีโทรศัพท์กั้นไว้แต่ก็นึกถึงใบหน้าขมขื่นของชนาได้ “พี่ ที่นี่ผมอยู่ได้หรอก เดี๋ยวกลับไปนะ ผมไปบอกพวกเขาก่อน” วางสายไปแล้ว เกสรก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ อยู่บนระเบียงกินลมชมวิวก่อนจะหมุนตัวกลบ ชนาเชื่อฟังตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก ฟังทั้งแม่แล้วก็เธอ ยกเว้นเกรดที่ไม่ดีแล้ว เขาก็เป็นเด็กดีทั่วไป เป็นลูกชายที่ดีและน้องชายที่ดี คาดว่าไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเขาก็กลับมาแล้ว ในอีกด้าน ชนาเดินผ่านชายหญิงที่เต้นอย่างบ้าครั้งอยู่บนฟลอร์ ถึงที่นั่งก่อนจะบอกเพื่อนๆ ว่าตัวเองมีธุระกะทันหันต้องกลับบ้าน “ชนา ไม่ได้เหรอ? งานเพิ่งเริ่มเอง นายจะรีบกลับไปทำอะไร?” “พี่สาวฉันกลับมาแล้ว ฉันก็ต้องกลับ” “ก็แค่พี่สาว นายดูที่นี่สิ มองไปรอบๆ ก็ล้วนเป็นพี่สาวทั้งนั้น นายต้องการเท่าไหร่ก็มีเท่านั้น” “ฉันต้องกลับไปจริงๆ...” “ไม่ได้ๆ กำลังฉลองกัน นายจะพูดยังไงก็ไปไม่ได้” “นี่คือ ชนา ใช่มั้ยน้อง” เพื่อนปฏิเสธที่จะปล่อยให้กลับไปได้อย่างง่ายดาย ก่อนจะหยุดชะงักและมีเสียงที่ดังอยู่ไกลๆ เสียงดนตรีก็หยุดลงทันที “ทำบ้าอะไรของแก? นังผู้หญิงนี่?” 
已经是最新一章了
加载中