ตอนที่ 43 ขอโทษ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 43 ขอโทษ
ต๭นที่ 43 ขอโทษ ที่บาร์ ชายร่างผอมสูงในชุดหนังสีดำจับมือของเด็กผู้หญิงไว้ ครึ่งหน้ามีรอยแดงของนิ้วมือทั้งห้านิ้วประทับอยู่ “นังคนไร้ยางอาย! ไม่ใช่ออกมาขายเหรอ?” แม้ว่าเด็กผู้หญิงจะถูกคุมไว้ แต่สีหน้าก็ยังดูเย่อหยิ่ง พูดอย่างเยือกเย็น “ปล่อยมือ” “วันนี้ฉันจะไม่ปล่อยมือแน่ เกิดมาฉันยังไม่เคยโดนใครตบมาก่อน รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร? ไม่มีใครในผับนี้ไม่รู้จักแก๊งค์มังกรของฉัน!” เด็กผู้หญิงขมวดคิ้ว สีหน้าไม่พอใจ “หุบปากได้มั้ย? เหม็นมาก มังกรอะไรปากเหม็น?” เมื่อคำนี้พูดออกไป ทุกคนก็หัวเราะ ใบหน้าของชายคนนั้นระงับไม่อยู่ เขาดึงเด็กสาวเดินไปด้วยความโมโห “นั่งนี่ ถ้าวันนี้ฉันไม่ให้บทเรียนแก่เธอละก็ เธอยังไม่รู้จักฤทธิ์เดชของฉันสินะ!” เดินไปได้สองก้าว ร่างก็โดนขวางทั้งสองฝั่ง “คุณพาเธอไปไม่ได้” “ไอ้เด็กนี่ โผล่หัวมาจากไหน ตัวเล็กๆ อย่างแกอยากเป็นฮีโร่ช่วยสาวงามว่างั้น?” แม้ว่าชนาจะสูงมาก แต่เพิ่งออกจากโรงพยาบาลมาได้ไม่นาน ร่างกายจึงผอมซูบ ผิวขาวซีดกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ ดูแล้วบอบบางจริงๆ “ผู้หญิงคนนี้ไม่เต็มใจไปกับคุณ คุณก็ไม่สามารถพาเธอไปได้ถ้าตามกฎหมายแล้ว” เมื่อได้ยิน ชายคนนั้นก็เกือบที่จะหัวเราะออกมา ปล่อยเด็กสาวไป แล้วหันมากระชากคอเสื้อของชนาทันที “ได้เด็กนี่ ที่นี่คือที่ไหนแกรู้มั้ย ถนนผับ ไม่สนหน้าอินหน้าพรหมไหนทั้งนั้น แกพูดกับฉันเรื่องกฎหมาย คนรู้จักแกก็จะโดนฉันไล่ออกไป” พูดยังไม่ทันจบ เด็กชายที่มากับนาก็พับแขนเสื้อขึ้น แต่ละคนมีรูปร่างสูง “คุณไล่ใครไปเหรอ?” “รีบปล่อยเขาซะ” สีหน้าของชายคนนั้นชะงัก ก่อนจะหัวเราะออกมาเสียงเย็น “ดี พาพวกมาด้วยเหรอ พี่ๆ ทั้งหลายไม่ต้องดื่มแล้ว ไม่เห็นหรือไงว่าไอ้เด็กนี่มันพาพวกมา?” พูดเสร็จ ข้างหลังก็ต่างกันพาลุกขึ้นพรึ่บพรั่บ พร้อมกับหยิบท่อนเหล็กออกมาจากใต้โต๊ะ ชนาตอบโต้อย่างรวดเร็ว อาศัยชายคนนั้นหันหน้าเข้าหาประตูหมุนตัวตะโกนใส่เด็กสาว “วิ่ง” ในช่วงเวลาสั้นๆ คนสองกลุ่มก็ตะลุมบอนกัน คนในผับก็โดนลูกหลง โต๊ะเทนนิสทุ่มใส่ และพื้นหลังก็เต็มไปด้วยเลือด แต่ไม่มีใครสังเกต เด็กสาวแค่อยู่ข้างๆ คิ้วก็เกือบจะขมุ่นจนย่น ในกลุ่มคนมีชายตัวสูงรวมตัวกันปกป้องเธอ หนึ่งในนั้นพูดเสียงเบา “คุณผู้หญิง เรื่องนี้ให้เป็นเรื่องของพวกเราเถอะ คุณกลับไปก่อน...” ยังพูดไม่ทันจบ สายตาของชายคนนั้นก็แข็งทื่อ คลำหัวก่อนจะหันกลับไปมอง ในสายตาเห็นคนยกเก้าอี้ ก่อนจะก้มลงทันที ชนาเห็นเด็กสาว แล้วรีบพูดว่า “ไม่ใช่ผมให้คุณวิ่งเหรอ?” ขณะที่พูด ก็ถือโอกาสทุบผู้ชายอีกคน สถานการณ์ฉุกเฉิน และไม่รอให้เด็กสาวตอบกลับ ก็จับมือถือไว้ แล้ววิ่งไปข้างหน้าโดยไม่หันกลับมามอง “ไป” ... เมื่อชนามาถึงบ้าน เกสรก็หลับไปแล้ว เขาเคาะประตูห้องสองครั้งก็ไม่มีคนตอบรับ เมื่อเปิดประตูก็เห็นเกสรนอนบนเตียง ผ้าห่มถูกเตะลงไปกองกับพื้น เขาเดินเข้าไปเพื่อจะห่มผ้าให้เธอใหม่ เมื่อเห็นท่านอนที่ ‘ใจป้ำ’ ของเกสร ใจของชนาก็เกิดความยุ่งเหยิง ในความประทับใจ พี่เขามีความกล้าและชีวิตชีวามาตั้งแต่เด็ก ทำอะไรก็ไม่ระวังผลที่ตามมา ผลสุดท้ายก็คือเขาซวยไปด้วย เพราะโดนลากไปเอี่ยวด้วย ตั้งแต่เด็กก็โดนไม้เรียวมาไม่น้อย ต่อมาเมื่อพบว่าแม่เป็นมะเร็ง เกือบทั้งคืน พี่สาวที่มักมีปัญหาก็เหมือนจะโตเป็นผู้ใหญ่ เธอวิ่งวนไปทั่วสารทิศ มันเป็นความรับผิดชอบของเธอในฐานะพี่สาว เธอแบกมันไว้บ่นบ่า เมื่อครอบครัวเจอเรื่องร้าย เธอก็เหมือนโตขึ้นอีกสิบปี ถ้าไปเป็นทหาร บางทีพี่เขาอาจรู้สึกไม่ลำบากเลยก็ได้มั้ง หกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้น นาฬิกาก็ปลุก เกสรยื่นมือไปปิด แต่สุดท้ายก็เป็นสายของดมสาที่โทรมาปลุก จากนั้นเธอก็ตื่นขึ้นมาด้วยความง่วงงุน ก่อนจะรีบไปล้างหน้าล้างตา แต่งตัวออกไป ลงบันได้ได้ไม่ถึงสองก้าว ก็เจอกับชนา คอพาดหูฟังไว้ น่าจะเพิ่งกลับมาจากการขี่จักรยาน “พี่ ทำไมตื่นเช้าจัง จะไปแล้วเหรอ?” “พี่มีงาน ดมสารออยู่ที่หน้าประตูแน่ะ” “พี่ รอแป๊บนึง” ชนาหันกลับมาตบเบาะหลังของจักรยาน “ขึ้นมาสิ เดี๋ยวผมไปส่ง” เกสรไม่สามารถขัดเขาได้ จึงขึ้นไปนั่ง ถนนหน้าประตูมีรถคันสีขาวจอดอยู่ ประตูหลังเปิดออก และหัวของดมสาที่สวมหมวกสีแดงไว้ยื่นออกมา เห็นชนาก็โบกมือให้ ชนาส่งถุงอาหารเช้าที่แขวนอยู่ไปให้เกสร และดูเธอขึ้นรถออกไป เพราะเรื่องข่าว เกสรก็เลยลากองถ่ายหนึ่งวัน ดมสาเลยมารับเธอกลับไปกองถ่าย “ก็ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อวานตอนเย็นฉันเห็นการค้นหายอดนิยมหายไปแล้ว ตอนนี้ค้นหาชื่อเธอ ก็ไม่มีหัวข้อข่าวแล้ว” ดมสาอ่านเนื้อหายอดนิยม และถามว่า “เกสร นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?” “ฉันมันแค่คนไม่มีชื่อเสียง ก็ไม่มีอะไรที่ต้องเป็นเรื่องให้ค้นหายอดนิยมตลอดหรอก ไม่มีอะไรแปลก นี่คือข่าวลือ มันก็มีมาเรื่อยๆ ก็ฟ้องพวกเขาซะให้หมด” “เรื่องมันจบแล้ว พวกเราไปแบกภาระอีกมันก็ไม่ดีไม่ใช่เหรอ?” “นี่มันคือการเชือดไก่ให้ลิงดูไง ฟ้องคนพวกนี้แล้ว หลังจากนี้เมื่อมีคนอยากสร้างข่าวลือฉัน พวกเขาก็ต้องชั่งใจว่าจะสามารถรับผลที่ตามมาได้มั้ย” ดมสากะพริบตา แล้วก็ถึงบางอ้อ “เป็นงี้นี่เอง ดี งั้นฉันจะติดต่อทนายความแล้วพวกเราไปศาลกัน” “...” ตอนเที่ยง คนงานเตรียมอาหารมาไว้ที่โต๊ะอาหารของตระกูลคุณยิ่งยศ กิจพรต้อนรับเยอรมันอย่างอบอุ่น “แขไข อย่ามัวเล่นแต่โทรศัพท์ มากินข้าว” “หนูไม่หิว ลดหุ่นอยู่ พวกแม่กินกันเลย” ในห้องนั่งเล่น แขไขนอนอยู่บนโซฟา เล่นโทรศัพท์ทั้งวันโดยไม่ละสายตา ไม่ได้สนใจการมาของเยอรมันเลย “ได้ยังไงกัน? เยอรมันมาแล้วนะ หนูไม่กินก็มานั่งเฉยๆ ก็ได้” กิจพรไปดึงโทรศัพท์ออกจากมือของ แขไข “ไม่ต้องเล่นแล้ว โทรศัพท์ไม่เห็นมีอะไรน่าดู จ้องมันตั้งแต่เช้าแล้ว ดูมาหลายรอบแล้วไม่ใช่เหรอ?” “เอ๊ะ แม่ เอาโทรศัพท์หนูคืนมานะ” “ไปกินข้าว ไม่กินก็ไม่ให้” “กินๆๆ อยู่นั่นแหละ” แขไขสวมรองเท้าลงจากโซฟาอย่างไม่เต็มใจ เท้าเพิ่งจะแตะพื้น เสียงเรียกเข้าคุ้นเคยก็ดังขึ้น กิจพรยังไม่ได้สติก็ถูกแย่งโทรศัพท์ไปคืน แขไขดีดตัวขึ้นกระโดดแย่งโทรศัพท์กลับมาคืน ดวงตาเปล่งประกาย กดรับโดยไม่แม้แต่จะมองว่าใครโทรมา “ฮัลโหล?” ฝั่งนั้นไม่รู้ว่าพูดอะไรกัน สีหน้าของแขไขก็ม่อยลง ก่อนจะตะโกนกลับไปด้วยความโกรธ “ใครต้องการเงินกู้? กู้บ้านป้าแกสิ!” “พูดเสร็จก็วางสายลงด้วยความโกรธ “เกิดอะไรขึ้น?” ทั้งพ่อแม่และคนรับใช้ต่างพากันผงะ มองแขไขที่เดินแทรกฝูงชนขึ้นไปชั้นบน กิจพรเรียกก็ไม่หัน “เด็กคนนี้ ยิ่งโตยิ่งใช้ไม่ได้เลย!” คิดชอบโกรธมาก จ้องไปที่กิจพรก่อนจะพูด “เป็นเพราะคุณตามใจจนเคยตัว” สีหน้าของกิจพรเกิดความละอาย แล้วก็แก้ตัวแทนลูกสาว “ลูกไม่ได้ตั้งใจ เมื่อคืนนี้ไม่ใช่เธอได้รับบาดเจ็บเหรอ? ตื่นตกใจกลัวมาจากบาร์ เพราะงั้นวันนี้เลยอารมณ์เสียนิดหน่อย เยอรมัน อย่าไปสนใจเลยนะ เดี๋ยวป้าจะไปบอกให้เธอมาขอโทษ” 
已经是最新一章了
加载中