ตอนที่75 สังเกตได้ถึงแผนร้าย

ตอนที่75 สังเกตได้ถึงแผนร้าย การแสดงออกของจิดาภาก็ฝังอยู่ในใจของชเยศเช่นกัน เมื่อได้ยินคำชื่นชมที่คนรอบข้างเอ่ยชื่นชมเธอ ในใจของเขากลับไม่ได้รู้สึกเช่นนั้น ผ่านมาหลายปีแล้ว เขาไม่เคยมองจิดาภาอยู่ในสายตาอีกเลย นั่นอาจะเป็นเพราะความสัมพันธ์กับบริษัทเอสเจ ทำให้เธอพลาดโอกาสดีๆไปตั้งมากมาย ตอนนี้เธอทั้งสวย ทั้งเปล่งประกายเช่นนี้ เป็นไปได้ที่เธอจะไปจากบริษัทเอสเจตอนไหนก็ได้ทั้งนั้น เดิมทีแล้วเป็นเขาเองที่เสียเวลาไปกับเรื่องของจิดาภามาโดยตลอด หมดเวลาไปกับช่วงวัยรุ่นช่วงนั้น ในตอนที่เขาคบหากับชนิศานั้น เขาไม่ได้รู้สึกละอายใจเลยแม้แต่นิดเดียว คิดแต่เพียงว่าจิดาภาจะขวางทางเขา แต่ตอนนี้กลับรู้สึกแล้วว่าเขาคิดผิดไปมากเหลือเกิน ภาพบนเวที ทุกคนจะจดจำความงามเปล่งประกายของจิดาภา และก็คงมีคนที่สังเกตเห็นถึงช่วงตอนที่จิดาภายังไม่ปรากฏตัวออกมาในนามของบริษัทเอสเจนั้นสาหัสแค่ไหน รอบๆเต็มไปด้วยคำวิพากษ์วิจารณ์มากมาย นั่นทำให้ทีปินารู้สึกหงุดหงิดรำคาญ และยิ่งตอนที่เห็นชเยศที่อยู่ข้างๆด้วยท่าทางยืนตะลึงอยู่เช่นนั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกหงุดหงิดยิ่งขึ้นไปอีก "ชเยศ เธอคงไม่ได้รู้สึกอะไรกับจิดาภาอยู่ใช่ไหม?" ทีปินาใช้ข้อศอกสะกิดเขาไปแล้วเอ่ยถามออกมา "จะรู้สึกได้ยังไงกัน? ผมมีชนิศาแล้วนะ" ชเยศหยุดสายตาที่กำลังมองจิดาภาอยู่ ในใจของเขานั้นเหมือนเกิดการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ระหว่างเขากับจิดาภานั้นระยะห่างของเขาสองคนนับวันก็ยิ่งไกลออกไปทุกที สองชั่วโมงต่อมา งานนี้นับว่าเป็นแบบทดสอบที่แสนจะทรมานของสองพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างมาก ขณะที่ผู้คนต่างล้วนกำลังพูดคุยกันถึงผลงานภาพยนตร์กันอยู่นั้น มีเพียงแค่พวกเขาที่ไม่ได้ให้ความสนใจในสิ่งนี้เลย ส่วนจิดาภานั้นก็ได้ติดตามผู้กำกับจิณณะไปรู้จักกับคนดังๆมากมายในวงการภาพยนตร์นี้ ขณะกำลังพูดคุยกันนั้นทุกคนล้วนกล่าวชื่นชมจิดาภาเป็นเสียงเดียวกัน ล้วนคิดว่าทางบริษัทเอสเจนั้นต้องตาบอดกันแน่ๆ ปล่อยให้หยกที่ยังไม่ได้ผ่านการเจียระไนหลุดมือไป แต่กลับไปคว้าเอา แจกันที่ไม่มีแม้กระทั่งทักษะการแสดงมาไว้แทน หากถึงแม้ว่าชนิศาจะมีโอกาสได้รับรางวัลนักแสดงนำหญิงยอดนิยม แต่หากอาศัยความสามารถจริงๆแล้วล่ะก็ เธอไม่สามารถเทียบกับจิดาภาได้เลยแม้แต่น้อย ท่ามกลางผู้คนมากมาย จิดาภามองเห็นร่างอันแสนคุ้นเคย เป็นจังหวะเดียวกันกับที่จิรภาสหันมาพอดีเขา ส่งยิ้มแสนอ่อนโยนมาให้เธอ ความเย็นชาที่เขาแสดงออกมานั้นมักจะแสดงออกกับเพียงแต่คนภายนอกเท่านั้น แต่สำหรับเธอแล้ว เขามีเพียงแต่ความอบอุ่นและอ่อนโยน และเมื่อกลัวว่าจะมีคนสังเกตเห็นเข้า จิดาภาจึงรีบหันกลับมา แล้วหันมาคุยกับคนข้างๆเธอต่อ "คุณจิดาภา วันนี้คุณมาคนเดียวหรือคะ? ไม่เห็นผู้จัดการส่วนตัวของคุณเลย" มีคนเอ่ยถามเธอด้วยความสนใจ "บางอย่างพวกเราพูดไปอาจจะดูไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่นัก แต่นักแสดงที่มีความสามารถอย่างคุณจำเป็นต้องมีแหล่งสนับสนุนที่ดี บริษัทเอสเจ...." "วันนี้ผู้จัดการของคุณจิดาภาติดงานน่ะครับ" จัณณะเอ่ยปากช่วยจิดาภาแก้หน้าให้ สำหรับเรื่องสัญญาภาพยนตร์ข่าวนั้นเป็นจิรภาสที่ทำหน้าที่ในฐานะผู้จัดการส่วนตัวของจิดาภามาคุยกับทางทีมงานของจัณณะเอง ดังนั้นเขาจึงคิดว่าจิดาภานั้นมีผู้จัดการส่วนตัวซึ่งก็คือจิรภาส จิดาภารู้ว่าพวกเขาไม่ได้มีเจตนาร้าย จึงเอ่ยตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม "ขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ ตอนนี้ตัวดิฉันเองก็กำลังค่อยๆพัฒนาตัวเองอยู่ค่ะ..." หากพวกเขารู้ว่าผู้อำนวยการบริษัทเค.เอฟเป็นคนคุยเรื่องสัญญาให้เธอ จะมีท่าทางอย่างไรกันนะ ชนิศาคอยจ้องมองจิดาภาอยู่ไกลๆโดยตลอด มองดูรอยยิ้มของเธอแล้วกำหมัดแน่น ทันใดนั้นเองโทรศัพท์มือถือของเธอก็สั่นขึ้น เธอมองไปยังชเยศที่กำลังคุยกับทีปินาอยู่ แล้วก้มลงมอง เป็นตัณฑุลนั่นเอง "เอส.เจใกล้จะแย่แล้วนะ" ตัวอักษรที่ส่งมา ราวกับเป็นสัญญาณเตือน นั่นทำให้ชนิศารู้สึกว่าในใจของเธอกำลังมีพายุพัดผ่านเข้ามา "หมายความว่าอะไร?" "ไปกับผมก่อนสิ แล้วสัญญาของKBผมจะส่งให้ถึงมือคุณเลยทันที" ไม่ได้รอให้เธอตอบกลับ อีกหนึ่งข้อความก็ส่งมาหาเธออีก "คุณสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตร่วมทุกข์ร่วมสุขกับเจ้าชายขี่ม้าขาวของคุณได้ยังไงล่ะ" "คืนพรุ่งนี้พบกัน" ชนิศารีบตอบกลับไป แล้วลบข้อความทันที เธอไม่อยากจะเสียเวลากับเอส.เจอีกแล้ว เธอต้องการสิ่งที่สามารถจะมาสนับสนุนเธอ เธอต้องการอยู่บนเวทีที่ดียิ่งกว่านี้ ส่วนชเยศนั้นเขาไม่สามารถทำให้เธอพอใจได้อีกต่อไปแล้ว ส่วนลูกในท้องของเธอนั้น จะกลายมาเป็นอุปสรรคสำหรับเธอ เพราะฉะนั้นเธอจะต้องเอาเด็กออก ดูแนวโน้มในคืนนี้แล้ว จิดาภาแม้จะไม่ได้รางวัลอะไร แต่ชื่อเสียงของเธอที่เพิ่มขึ้นนั้น ทำให้เธอลังเลไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ทีปินามองไปยังชนิศาอย่างไม่ได้ใส่ใจอะไรนัก พบว่าวันนี้เธอดูแปลกไป ปกติแล้วงานแบบนี้ ชนิศาจะพูดคุยตลอด แต่ครั้งนี้กลับ..... “คุณชนิศา ไม่สบายหรือเปล่า?” “เปล่าค่ะ รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยน่ะค่ะ” รอยยิ้มของเธอนั้นราวกับกำลังรู้สึกวางตัวไม่ถูก กลัวว่าพวกเขาจะจับได้ “ฉันรู้ว่าคุณกำลังคิดอะไรอยู่ อย่ากังวลไปเลย ปล่อยให้จิดาภาได้ใจแบบนี้ไปได้ไม่นานหรอก คืนนี้ที่เธอทิ้งงานที่บริษัทจัดมีทติ้งแฟนคลับให้เธอไป แล้วยังเจตนาที่จะผูกสัมพันธ์กับบริษัทเคเอฟนั่นอีก ฉันได้ติดต่อนักข่าวไว้แล้ว พรุ่งนี้เช้า เธอก็คงจะกลายเป็นศิลปินที่ถูกเคเอฟแบนอีกคนหนึ่ง” ทีปินาจะทำให้จิดาภาได้รู้ว่าเธอคิดผิดที่ตั้งตัวเป็นศัตรูกับเธอ “จริงหรือคะ? ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ดีเลย” ชนิศาแสดงออกทางแววตาด้วยความเกลียดชัง ไม่ว่าแผนของทีปินาจะสำเร็จหรือไม่ เธอก็จะไม่เปลี่ยนแปลงความตั้งใจของตัวเอง เรื่องที่ทีปินาคิดไม่ถึงก็คือ ในวงการนี้ สาเหตุที่ไม่มีใครกล้าโจมตีบริษัทเคเอฟนั้น นั่นก็คือ ข่าวของบริษัทเคเอฟนั้นรวดเร็ว และแม่นยำเป็นอย่างมาก ภายหลังจากนั้นเพียงห้านาที เรื่องที่เธอจะซื้อข่าวเพื่อเตรียมจะสาดสิ่งสกปรกเช่นนั้นใส่จิดาภานั้นก็ได้เข้าหูจิรภาสเสียก่อนแล้ว ห้องรับรองแขกวีไอพี สีหน้าของจิรภาสนั้นยิ่งทวีเพิ่มความเย็นชายิ่งขึ้นไปอีก “เก็บข้อความและบันทึกการโทรของพวกนั้นไว้เป็นหลักฐาน แล้วรอดูการเคลื่อนไหวไปก่อน” “แล้วก่อนที่พวกนั้นจะลงมือ ส่งร่างข่าวออกไป แล้วแบนทีปินาทุกช่องทาง” คงจะไม่พูดไม่ได้ว่าหากถ้าเขากับจิดาภาไม่ได้เป็นสามีภรรยากันนั้น 40%เขาก็คงจะตกหลุมพรางของทีปินาไปแล้ว คงจะเข้าใจผิดไปว่าจิดาภาตั้งใจจะจับเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่เขาเกลียดมากที่สุด หรือบางทีอาจจะเป็นไปตามแผนของทีปินาที่จิดาภาคงจะถูกแบนไปแล้ว ดวงตาอันแสนเย็นชาของเขาดิ่งลงไปกับความคิดซักพัก ในตอนนั้นที่ไม่ได้ประกาศเรื่องงานแต่งงานระหว่างเขากับเธอนั้นมีข้อดีอยู่ตรงที่ว่า สามารถจะใช้วิธีนี้เพื่อหาคนที่ประสงค์ร้ายกับจิดาภาได้ง่าย ในเมื่อพวกเขากล้าที่จะคิดร้ายกับจิดาภา พวกเขาก็จะต้องรับผิดชอบกับผลที่จะตามมาด้วยเช่นกัน จิดาภามองไปยังจิรภาสที่กลับมานั่งยังที่นั่งของตัวเอง ผ่านไปซักพักหนึ่งแล้ว อีกทั้งสีหน้าของเขานั้นดูไม่ดีเอาเสียเลย บริษัทมีเรื่องอะไรอย่างนั้นหรือ? ในใจเธอทำได้เพียงแค่คาดเดา แต่จิรภาสมีอาการเช่นนี้ก็จะมีแต่เรื่องที่เกี่ยวกับเธอเพียงเท่านั้น เธออดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย คืนนี้ราวกับว่าจะเป็นจุดสนใจอยู่มากพอสมควร พวกทีปินาคงจะไม่หยุดหาเรื่องเธอง่ายๆอย่างแน่นอน และเมื่องานspecial nightได้ดำเนินมาจนเกือบจะถึงช่วงสุดท้ายของงาน เหล่าบรรดาศิลปินเริ่มทยอยกันออกจากงาน และหลังจากที่จิดาภาแยกกันกับผู้กำกับจิณณะแล้วนั้น ก็บังเอิญพบกับพวกทีปินาตรงบริเวณที่จอดรถเข้าพอดี ชุดที่เธอสวมใส่อยู่นั้นไม่ว่าจะมองมุมไหนก็ต้องยอมรับว่าสวยงามมากจริงๆ สายตาของทีปินาแสดงออกถึงความเย้ยหยันและความอิจฉาริษยาอย่างชัดเจน “เกิดเป็นเธอนี่นะ ช่างตลกเสียจริงๆ ก่อเรื่องวุ่นวายให้บริษัทมันไม่ได้เป็นเรื่องที่ดีกับเธอเลยนะ” ทีปินามองไปรอบๆ แล้วหัวเราะออกมา “ฉันเชื่อว่าไม่นานหรอก เธอจะต้องมาคุกเข่าขอความช่วยเหลือจากฉัน” “อย่างนั้นหรือ? ฉันก็ไม่รู้เหมือนว่าคนเราก็สามารถอยู่อย่างไร้ยางอายแบบคุณได้มาจนถึงจุดนี้ได้อย่างไรกัน” จิดาภาไม่ได้อยากจะก่อกวนพวกเขา จึงเตรียมจะเดินผ่านทีปินาไป แต่ทีปินาไม่เปิดโอกาสให้จิดาภาเดินผ่านไป เธอดึงข้อมือของจิดาภาเอาไว้ “คุณคิดว่าเพียงแค่ได้ถ่ายรูปกับคุณจิรภาสเพียงไม่กี่ครั้งก็จะสร้างความสัมพันธ์กับเขาได้อย่างนั้นหรือ? อาศัยร่างกายตัวเองเพื่อให้ได้มา และชุดที่คุณใส่ก็ไม่รู้ว่าไปเช่ามาจากไหน ดูเหมือนคุณจะกำลังฝันอยู่สินะ”