ตอนที่ 30 เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่มั่วโลกีย์คนหนึ่ง   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 30 เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่มั่วโลกีย์คนหนึ่ง
ต๭นที่ 30 เธอมันก็แค่ผู้หญิงที่มั่วโลกีย์คนหนึ่ง ภายในขั้นหนึ่งของโรงแรมคิงคิงดอม เดิมทีจันทร์สุดาอยากจะไปหาภุชงค์และเล่าเรื่องที่ปริพลปกป้องกมิดา แต่ภุชงค์กำลังยุ่งอยู่กับประธานภพธรรมและแขกที่มาในงาน จึงไม่ได้ดูแลเธอ เธอจึงสิ่งไวน์มาดื่มอย่างเบื่อหน่ายคนเดียว เห็นคนที่เพิ่งคนดื่มกับประธานภพธรรมเสร็จและเดินขึ้นไปชั้นสองคนเดียว หัวใจก็เต้นทันที ปริพลก็ไม่ค่อยชอบสังคมแบบนี้ สมัยก่อนเขาออกงานสังคมน้อยมาก งานวันนี้ก็แค่หลังจากการซื้อกิจการ และมาปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเท่านั้น ที่ต้องดื่มไวน์ก็ดื่มเสร็จแล้ว เขาก็เตรียมตัวที่จะแยกออกไป คิดถึงหญิงสาวร่างบางคนนั้น ในใจก็รู้สึกคาดหวังอย่างไม่สามารถอธิบายได้ ไม่มีใครอยู่บนชั้นสอง เพิ่งเดินไปตามทางเดินได้สองก้าว ก็ได้ยินเสียงรองเท้าส้นสูงมาจากด้านหลัง ปริพลเหลือบมองด้วยหางตาเห็นจากผนังกระจกด้านข้างสะท้อนให้เห็นว่าเป็นผู้หยิงในชุดกระโปรงสีชมพู สีหน้าของเขาเยือกเย็นขึ้นมาชั่วขณะ “ตามผมว่า เพราะอยากฟังเรื่องทางบ้านของผมเหรอ” เสียงที่เกิดขึ้นกะทันหันสะท้อนก้องในทางเดินยาว เหมือนกับลมในฤดูหนาว ทำให้รู้สึกเยือกเย็นไปถึงหัวใจ จันทร์สุดาหดตัวเองและรีบอธิบาย “คุณปริพล ฉันไม่ได้ตั้งใจตามคุณมา ก็แค่อยากจะขอโทษกับเรื่องก่อนหน้านี้ ฉันปากไวไปหน่อย ไม่ได้รักษาหน้าของกมิดา ฉันผิดเอง แต่ที่จริงแล้วเรื่องทางบ้านของเธอคนในบริษัทก็รู้กันหมดแล้ว ดังนั้นฉันเลยคิดว่าเธอไม่ได้ปิดบัง” คำอธิบายนี้ มีช่องโหว่มากมายที่ทำให้คนหัวเราะ ปริพลไม่ชอบคิดที่ไม่มีสมองแต่คิดว่าตัวเองมีฉลาดที่สุด โดยเฉพาะผู้หญิง “ดังนั้น ฉันเลยอยากจะขอโทษกมิดา” เห็นปริพลไม่พูดอะไร เพียงแต่เหมือนจะยิ้มให้เธอ สายตาคู่นั้นก็ไม่รู้มีความหมายว่ายิ้มหรือเย็นชา หรือทั้งสอง ใจของจันทร์สุดาก็ยิ่งเต้นแรงขึ้น จ้องมองด้านหลังของเขาอย่างระมัดระวัง “คุณจะไปหากมิดาใช่ไหม........” ปริพลหันกลับมากวาดสายตามองชุดกระโปรงยาวของจันทร์สุดา หลังจากนั้นก็หยุดมองที่ดวงตาของเธอ “ไม่ต้องทำเป็นฉลาดต่อหน้าผม บริษัทบีไวส์เดิมสามารถดันคุณจันทร์สุดาได้ ตอนนี้อยากได้เท่าไหร่ ก็สามารถดันได้เท่านั้น คุณไม่ใช่ทางเลือกเดียว” น้ำเสียงนี้และสายตาของเขา เยือกเย็นจนทำให้เส้นเลือดของคนสามารถแข็งตัวได้ จันทร์สุดาคิดว่าขาของเธอรู้สึกอ่อนแรง นี้ไปขัดใจอะไรปริพลเหรอ คงไม่ใช่หรอก เธอยัง.......ไม่ทำอะไรเลยใช่ไหม เห็นแผ่นหลังของปริพลที่ไกลออกไป เธอยิ่งรู้สึกไม่พอใจมากขึ้น ถึงแม้ว่าจะถูกลงโทษ ก็รอให้เธออะไรสักนิดก่อนแล้วค่อยว่ากัน ตราบใดที่มันยังมีความหวังมันก็ยังสามารถแก้ไขได้ “คุณปริพล ฉันก็แค่อยากจะเตือนคุณ” ปริพลหยุดเดิน ก้าวท้าวอย่างลังเล แต่ก็ไม่ได้หันกลับมา เห็นสถานการณ์แล้ว จันทร์สุดายกกระโปรงรีบก้าวไปข้างหน้า “กมิดาก็ไม่ได้ดูบริสุทธิ์อย่างที่เห็นภายนอก ถ้าเธอไม่มีเบื้องหลังอะไร เธอจะอยู่ที่บริษัทบีไวส์มาถึงตอนนี้ได้ยังไง ไม่ต้องให้ฉันพูดคุณก็น่าจะรู้ ถ้าไม่ใช่ถูกนักข่าวยิงข่าวเชิงลบ ตอนนี้เธอก็คงได้เล่นหนังใหม่ หรือเป็นนักแสดงนำหญิง” ศิลปินหญิงของบริษัทบีไวส์ หลายคนก็เป็น ใช้วิธีที่ไม่โปร่งใสไต่เต้าขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ปริพลพูดก่อนหน้านี้ จันทร์สุดาไม่ใช่ตัวเลือกหนึ่งเดียวของบริษัท กมิดายิ่งไม่ใช่แน่นอน ปริพลหันตัวอย่างช้าๆ “เหรอครับ ผมอยากฟังดูหน่อย ว่าผมควรรู้อะไร” “ก่อนหน้านี้ กมิดากับภุชงค์เป็นแฟนกันตั้งแต่เด็ก แต่ทั้งคู่คุยกันมาตั้งนาน ภุชงค์ก็ใช้ความสามารถช่วยเธอไม่น้อย กมิดาบอกจะเลิกก็เลิก เธอผันตัวไปหาคุณ คุณไม่รู้สึกหดหู่ใจเหรอ “ เห็นปริพลมีสีหน้าเหมือนลังเล จันทร์วิภาเดินช้าลง น้ำเสียงอ่อนลงมา “อยู่ที่บริษัท ศิลปินชายที่เธอดึงดูดความสนใจก็ไม่น้อย คนนอกเขาพูดกันฉันฟังแล้วก็รับไม่ได้” “พูดว่าอะไร” “บอกว่าเธอ...........” จันทร์สุดากัดปากพูดเหมือนลังเลมาก “บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่คาวโลกีย์” พี่ขวัญคนของบริษัทที่จะดันกมิดา แรกเริ่มก็ยุ่งอยู่กับการช่วยเธอพิจารณาซีพี ข่าวของกมิดาถ้าต้องการจะหาข้อมูลถ้าอยากจะขุดก็มีข้อมูล นี้เธอไม่ได้พูดโดยไม่มีหลักฐาน เธอสร้างสถานการณ์วุ่นวายให้ปริพลกับกมิดาที่เจอกันไม่นานก็คงไม่สนิทกัน เธอไม่เชื่อว่าผู้ชายที่สมบูรณ์แบบคนนี้จะเชื่อใจกมิดาโดยไม่มีข้อสงสัย บนโลกจะมีคนแบบนั้นเหรอ คำว่าผู้หญิงคาวโลกย์กำลังสะท้อนไปตามทางเดิน “พูดเรื่องนี้กับผม มีผลอะไรกับคุณครับ” “.........” จันทร์สุดดาที่ตะลึง เธอไม่คิดว่าปริพลไม่สนใจเรื่องนี้ ทันทีที่ความคิดของฉันถูกยกเลิกบางส่วนทำให้ความสับสนเพิ่มขึ้น “ฉันก็แค่รู้สึกว่าคนอย่างคุณปริพลไม่ควรถูกหลอก............” “ถ้าอย่างนั้นผมควรขอบคุณคุณใช่ไหม” “..................” น้ำเสียงนี้ ที่เริ่มเยือกเย็นแล้ว ลมเย็นของฤดูหนาวที่เยือกเย็นตั้งแต่คำพูดที่เขาพูดออกมา “ทางทีดีคุณควรรับรองตัวเองว่าจะสามารถทำประโยชน์ให้กับบริษัทบีไวส์ได้เหมือนกับตอนนี้ไปตลอด มิฉะนั้น คำพูดของคุณที่พูดเกี่ยวกับศิลปินหญิงร่วมบริษัทเดียวกันเมื่อครู่นี้ เกรงว่าจะทำให้จบอาชีพการเป็นนักแสดงของคุณ” จันทร์สุดาขาอ่อน ถอยหลังไปพยุงตัวเองกับผนัง คำพุดของเขาฟังแล้วไม่มีอะไรผิด ล้วนแล้วแต่เพื่อให้บริษัทได้พัฒนา แต่ทำไมเธอถึงรู้สึกว่าทุกๆคำทุกๆประโยคล้วนมุ่งเป้ามาที่ตัวเธอ และปกป้องกมิดาทั้งนั้น ด้านหลังบนบันไดของชั้นสาม ขรรค์ชัยที่ใส่ชุดสูทสีขาวมองดุเรื่องทั้งหมดนี้ มุมปากของเขายกขึ้นทำให้เห็นรอยยิ้มที่สดใส ดวงตาที่เต็มไปด้วยความสนุกและความครุ่นคิด พี่ปริพลฝึกคนก็ไม่มีความเมตตาสักนิดเลยจริงๆ คำพูดที่มีเหตุผลหรือไม่มีเหตุผลก็สามารถจัดการได้หมด ก็รู้จักมาตั้งนานแล้ว ยากที่เขาจะพูดไร้สาระมากมายกับผู้หญิงที่ไร้อารยธรรม สาวน้อยที่ชื่อกมิดา ไม่ใช่รสนิยมของเขาจริงเหรอ เธอจ้องมองปริพลที่กำลังเดินหายไปตามทางเดิน จันทร์สุดาไม่ยอมแพ้ พยุงตัวกับผนังและถามคำถามสุดท้ายขึ้น “หรือว่าคุณไม่รู้ว่าตระกูลของเธอทำเรื่องไม่โปร่งใส สามปีก่อนพ่อของเธอต้องเข้าไปอยู่ในคุกเพราะทุจริต เรื่องแม่ของเธอที่กินยาฆ่าตัวตาย” แรกเริ่มกมิดาไม่ใช่คนภาพลักษณ์ให้เป็นเด็กสาวน่ารักที่บริษัทต้องการจะสร้าง เมื่อเรื่องนี้เกิดขึ้นมา ไม่ต้องพูดถึงว่าสาวสวยน่ารัก ไม่ว่าจะภาพลักษณ์แบบไหนล้วนแล้วแต่ต้องยุติไป สังคมไม่ได้อดทนยอมรับต่อเรื่องการทุจริตและฆ่าตัวตายมากขนาดนั้น “สี่ปีก่อน เธอเพิ่งจะได้รับรางวัลหมีทองจากนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม มันเป็นปีที่ยาวนาน แต่สามปีก่อนก็หายไปจากวงการกะทันหัน หายไปสามปีเต็ม โอกาสดีขนาดนั้นใครจะยอมปล่อย ความจริงคือพ่อเธออยู่ในคุก แม่เธอก็ฆ่าตัวตาย ตอนนั้นมีคนพยายามที่จะกลบข่าวเรื่องนี้ไว้ สามปีต่อมาเรื่องราวก็หายไปแล้ว ทำให้เธอได้กลับมาใหม่” เรื่องราวตอนนั้นถูกทำให้จบลงได้ยังไงเธอก็ไม่แน่ใจ รู้แค่ว่ามีคนช่วยกมิดาอยู่เบื้อหลัง แต่กลับไม่มีใครช่วยหนุนหลังเธอเลย บางทีอาจจะเป็นนายทุนที่ชอบของใหม่ ไม่ต้องการเธอแล้วเหรอ จันทร์สุดาเคยคิดถึงขนาดนี้ แต่ตอนนี้ไม่สนว่าเป็นยังไง เธอไม่เชื่อว่าปริพลที่เป็นคนเรียบพร้อม จะสามารถรับผู้หญิงที่ไม่รู้ที่มาที่ไปเข้าบ้านได้ ปริพลที่หน้าบึ้งขึ้นมา เดิมทีที่จับประตูหล็กของระเบียงนิ้วมือยาวก็หยุดอยู่ตรงนั้น
已经是最新一章了
加载中