ตอนที่43 ความเมาเป็นเหตุ   1/    
已经是第一章了
ตอนที่43 ความเมาเป็นเหตุ
ต๭นที่43 ความเมาเป็นเหตุ แม้ว่าสร้อยจะร่วงหล่นจากคอไปแล้ว แต่กมิดายังรู้สึกเย็นต้นคออยู่ “คุณปริพลครับ ขออนุญาตเสริฟ์อาหารนะครับ” เสียงจากบริกรที่เข้ามาเสริฟ์อาหารช่วยทำลายบรรยากาศอึดอัดเมื่อสักครู่ได้เป็นอย่างดี ปริพลเดินกลับไปนั่งที่เก้าอี้ของตัวเอง ก่อนจะหยิบผ้ากันเปื้อนสีแดงสดขึ้นมาคลุม ทำตัวปกติราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ส่วนสร้อยคอนั้นเขาคงวางแผนไม่ได้จะคืนให้เธอแต่แรกอยู่แล้ว กมิดาเองก็ไม่ค่อยแน่ใจในอารมณ์ของเขา เธอมักจะได้ยินข่าวลือเกี่ยวกับเขามาบ่อยครั้ง ว่าเขาเป็นคนเย็นชาทั้งยังเข้าถึงยาก และก็ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นคนที่เข้าใจยากด้วย คาดไม่ถึงเลยว่าเขาบอกจะแต่งงานกับเธอ “ทานอาหารกันก่อนเถอะ” “ค่ะ” กลิ่นหอมของสเต็กช่วยทำลายบรรยากาศน่าอึดอัดเมื่อครู่ได้เป็นอย่างดี กมิดาก้มมองจานสเต็กตรงหน้า ที่กำลังส่งกลิ่นหอมยั่วน้ำลายเธอ “ลองชิมนี่ดูสิ” บนโต๊ะมีดอกกุหลาบตั้งอยู่ ดูเหมือนว่าบรรยากาศโดยรอบจะดีเป็นพิเศษ กมิดาเงยหน้าขึ้นก็เห็นว่าปริพละกำลังใช้ส้อมตักสเต็กปลาหิมะมาวางไว้บนจานเธอ เนื้อปลาสีขาวรวมกับเครื่องปรุงรสที่อยู่ด้านบนเนื้อปลาส่งผลให้ดูน่าทาน เมื่อทานเข้าไปแล้วก็ทำให้เธอรู้สึกว่าร้านนี่อาหารอร่อยสมกับราคาเลยจริง ๆ “ขอบคุณนะคะ อร่อยมากเลยค่ะ” กมิดารู้สึกเกร็งอยู่หน่อยหน่อย เนื่องจากรู้สึกว่าวันนี่ปริพลดูเข้าถึงง่ายซึ่งต่างไปจากทุกทีทำให้เธอไม่คุ้นชิน ตามมารยาทแล้วเธอไม่ควรทำตัวให้ดูอึดอัด กมิดาจึงหาหัวข้อเพื่อเปิดบทสนทนาให้บรรยากาศดูดีขึ้น “คุณปริพลคงรู้จักร้านอาหารอร่อย ๆ แบบนี่เยอะใช่มั้ยคะ เมื่อก่อนฉันอยู่เมืองนอกพอกลับมาแล้วก็ไม่ค่อยรู้จักร้านอาหารที่อร่อยแบบนี่เท่าไหร่ คุณปริพลพอจะมีร้านที่แนะนำได้ไหมคะ?” ปริพลที่ตอนแรกไม่คิดจะพูดอะไรอยู่แล้ว แต่ก็เกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา “ เอาไว้วันหลังผมจะพาคุณไปแล้วกัน” บนหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏให้เห็นข้อความที่ถูกส่งมาจากขรรค์ชัย ‘พี่ปริพล ร้านอาหารที่ผมจองให้เป็นไงบ้านครับ โอเคเลยใช่มั้ย’ กมิดาเป็นคนที่ชื่นชอบเกี่ยวกับอาหารมาก เมื่อพูดถึงอาหารก็สามารถต่อบทสนทนาไปได้อย่างไหลลื่น เมื่อเริ่มพูดไม่หยุดไปจนถึงเรื่องสมัยที่ยังอยู่เมลเบิร์น ทางด้านปริพลก็พลอยพยักหน้าตอบรับบ้างเป็นครั้งคราว ก่อนจะสั่งไวน์แดงมาเปิด เดิมทีที่กมิดาคิดไว้ว่าจะไม่ดื่ม แต่พอเริ่มดื่มกลับกลายเป็นว่าเธอดื่มไม่หยุด ตอนนั้นพ่อของเธอก็ชื่นชอบไวน์แดงเป็นพิเศษ ตระกูลธนทรัพย์เป็นตระกูลที่ทุกคนรู้จักกันดีจากการทำธุรกิจเกี่ยวกับไวน์ซึ่งมีชื่อเสียงดังมาก กมิดาเองก็อยู่คุกคี่กับเรื่องของไวน์ตั้งแต่เด็กจนโต ทำให้มีความรู้เรื่องของไวน์เยอะมากจนสามารถที่จะบอกชื่อและปีของไวน์ได้ด้วยซ้ำ “นี่มันไวน์ Yingge Cabernet Sauvignon ปี 1998 นิ!” เธอชิมไปในครั้งแรก ก่อนจะหันไปปริพลอย่างไม่อยากจะเชื่อ ด้านปริพลมองเธอด้วยสายตาชื่นชม “ลองดื่มแล้วเป็นไงบ้าง?” “รสของมันโดดเด่นมากเลย แถมไวน์นี่ยังหายากมากด้วย จากทั่วโลกมีเพียงไม่กี่ขวด ฉันคิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาดื่มมันที่นี่” กมิดารู้สึกเสียดายแทนปริพลที่ดื่มไวน์ไปเพียงไม่กี่แก้วเท่านั้น ไวน์ขวดนี่ราคาสูงตั้งเท่าไหร่ ถ้าเปิดขวดแล้วดื่มไม่หมดรสชาติของมันก็จะเสีย เธอรู้สึกเสียดายไวน์ดี ๆ อย่างนี่ แต่พอดื่ม ๆ ไป กลับกลายเป็นว่าเธอลืมมันไปจนหมดสิ้น “คุณรู้มั้ยตอนที่ฉันทำงานในร้านเหล้าช่วงที่อยู่ต่างประเทศ วิธีที่หาเงินได้ง่ายที่สุดคืออะไร?” เขาจ้องมองหน้าเธอที่เริ่มแดงระเรื่อจากอาการเมา เมื่อได้ยินประโยคที่เธอกำลังบอกเล่า เขาถึงกับนิ่วหน้า สีหน้ากำลังอึมครึมลงเรื่อย ๆ “คุณทำงานที่ร้านเหล้าด้วยหรอ?” “ใช่สิ มันหาเงินได้ง่ายมากเลยละ” สีหน้าของปริพละกำลังขึ้นสีเข้มขึ้นเรื่อย ๆ กมิดาหันหน้ามองเขาตาปริบๆ ก่อนจะหัวเราะออกมา “คุณจะคิดอะไรมากมาย แม้ว่างานที่ร้านเหล้าอาจไม่ใช่งานที่ดีแต่มันหาเงินได้เร็วและเยอะมากเลยนะ ทำแค่สองเดือนฉันก็ได้ค่าเทอมมาตั้งครึ่งปีล่ะ” “........” “คนอื่น ไม่มีใครหาเงินได้เก่งเท่าฉันแล้ว คิคิ” เธอเริ่มเอาแขนขึ้นมาเท้าคาง “ฉันจะบอกคุณให้ก็ได้ นักเรียนที่ไปแลกเปลี่ยนที่เมลเบิร์นชอบกินดองตีนไก่กันมากเลยแหละ ยิ่งถ้าอยู่ในร้านเหล้าแล้วยิ่งขายดีเป็นพิเศษ ฉันเลยทำมันไปทุกวันแล้วแอบขายที่ร้านยังไงละ” เขารู้สึกประหลาดใจ จากคิ้วที่ขมวดอยู่ค่อย ๆ คลายปมออก กมิดาก็ยังคงเล่าเรื่องของตัวเองต่อไป ตั้งแต่ติดต่อกับเจ้าของฟาร์มเพื่อติดต่อรับตีนไก่มาดองเองที่บ้านไปจนเรื่องที่แอบเอาไปขายให้ลูกค้าที่ร้าน” ปริพลยกยิ้มที่มุมปาก สายตาที่มองเธออยู่ค่อย ๆ อ่อนโยนลงโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ตัว “คุณดองตีนไก่เป็นด้วยหรอ” เขาเอ่ยถามอย่างรู้สึกขำขัน กมิดาเผลอมองเขาโดยไม่รู้ตัว “คุณดูดีจริง ๆ” กมิดาไม่ทันได้ฟังที่เขาพูด ก่อนจะเผลอพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว มือของเธอยื่นไปแตะที่ใบหน้าของเขา “คุณดูดีขนาดนี่ แน่นอนเลยว่าต้องมีผู้หญิงชอบคุณเยอะมากแน่ ๆ” “แล้วมีผู้ชายชอบคุณเยอะไหมล่ะ?” ปริพลอดไม่ได้ที่จะถามเธอกลับ มุมปากเขาก็แทบจะกลั้นยิ้มไม่อยู่ ไวน์สองแก้วที่เธอดื่มเข้าไป จะทำให้เขาได้ยินอะไรแบบนี่ จากที่คอยรักษาระยะห่างตั้งแต่ที่เขาขอแต่งงานจะเปลี่ยนมาทำตัวได้น่ารักขนาดนี่ “อืม ” เธอพยักหน้ารับอย่างไม่เกรงใจ “แน่นอน แต่ถึงยังไงฉันก็ชอบคุณมากกว่าอยู่ดี” ไม่รู้ว่าเธอคิดอะไรอยู่ จู่ ๆ เธอก็ลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซมาตรงที่ปริพลนั่งอยู่ เธอใช้นิ้วจิ้มไปที่แก้มเขาเบา ๆ “คุณน่ะ ยิ้มให้มันบ่อย ๆ หน่อยสิ ฉันอาจจะชอบคุณมากขึ้นก็ได้” “.........” “มา! ชนแก้ว” ‘กริ้ง’ เสียงชนแก้วดังขึ้นเบาๆ ปริพลจ้องมองกมิดาที่กำลังยกไวน์ที่เหลืออยู่ครึ่งแก้วขึ้นดื่ม และปรากฎให้เห็นคอระหงษ์ขาวผ่องที่ดูมีเสน่ห์จนไม่มีผู้ชายคนไหนจะต้านทานได้ “คุณดูสิ ฉันดื่มจนหมดแล้ว ทำไมคุณยังไม่ดื่มอีก” ตอนนี่เธอดูเหมือนกับลูกแมวตัวเล็กๆน่ารักน่าชัง ดูเหมือนว่าไม่มีประโยชน์อะไรที่จะให้เขาสื่อสารกับคนเมา แต่ก่อนจะดื่มเขาก็เอ่ยถามอย่างไม่วางใจ “ถ้าดื่มหมดแล้ว จะเลิกดื่มได้รึยัง” “ไม่เลิก” หญิงสาวตอบสวนกลับมาทันที “ฉันมีความสุข ตอนที่ฉันเมา” ปริพลก้มหน้ายิ้มขำ ก่อนจรดแก้วมาที่ปาก ทันใดนั้นเขาก็นึกเอาไรบางอย่างออก “ถ้าผมดื่มนี่ คุณต้องรับปากกับผมเรื่องนึงก่อน ตกลงมั้ย” “ไม่มีปัญหา! อะไรฉันก็ตกลงทั้งนั้น คุณดื่มสิ ดื่มเลย” เธอเข้ามากอดแขนของปริพลไว้ พลางรบเร้าให้เขาดื่ม ดูเหมือนว่าไวน์แก้วนี่ จะเป็นแก้วที่เขาพึงพอใจมากที่สุด เที่ยงของวันถัดมา แสงแดดจากด้านนอกส่องผ่านม่านเข้ามากระทบลงบนหน้าทำให้กมิดารู้สึกตัวตื่น ส่งผลให้เธอหงุดหงิดขึ้นมาเล็กน้อย ขยับไปมาอยู่บนเตียง ก่อนจะเอามือโผล่ออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหาโทรศัพท์ที่อยู่บนหัวเตียง เธอค่อย ๆ ลืมตาตื่นขึ้นมา ทำไมตอนนี่บนตัวเธอสวมแค่ชุดชั้นใน? แล้ว.. เมื่อวานตอนเย็นเกิดอะไรขึ้น? ที่นี่คือที่ไหน? เมื่อสังเกตบรรยากาศรอบห้องทั้งสี่ด้าน ทำให้เธอรู้สึกคุ้นเคยและจำได้ว่าที่นี่คือคอนโดฟ้ารดา คฤหาสน์ของคุณย่า
已经是最新一章了
加载中