ตอนที่ 10   1/    
已经是第一章了
ตอนที่ 10
ตอนที่ 10 ลู่อวี่บอกแล้วว่าจะส่งมาหนึ่งเดือน ก็ส่งมาหนึ่งเดือนจริงๆ สองอาทิตย์นั้นมีดอกไม้มาทุกวัน แรกๆหญิงสาวที่ห้องรับรองไม่ก็อินเสี่ยวเป่ยเป็นคนคอยรับ ภายหลังคนส่งดอกไม้ไม่ยอม บอกเป็นความต้องการของลูกค้า ต้องให้คุณกู้มารับเอง ดังนั้นทุกวันกู้เฟิงจะหน้าตึงมาเซ็นรับดอกไม้ตลอด และเติมน้ำใส่ถังด้วยใบหน้านิ่ง ภาพนี้ดูจะผิดกฎหมายไปสักหน่อย แต่ให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปดี สวีหลินแอบถ่ายตอนกู้เฟิงกำลังวางดอกไม้ลงในถังน้ำ เป็นวิดีโอสั้นๆส่งไปให้ลู่อวี่ ลู่อวี่ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะส่งเงินแปดสิบแปดหยวนให้กับหญิงสาว สวีหลินที่ทำตัวเป็นนักข่าวก็ส่งวิดีโอไปอีกสองอัน ช่วงนี้ลู่อวี่ไม่ได้ไปเลย เขารู้ว่าหากไปพบกู้เฟิง คนคนนั้นจะต้องบอกให้หยุดเรื่องส่งดอกไม้แน่ๆ ดังนั้นสองอาทิตย์ที่ผ่านมาจึงไม่ได้ไปที่ร้านเลย โครงการของวิทยาเขตได้ส่งเงินรางวัลมาแล้ว ครั้งนี้ไม่ได้มากเท่าไหร่นัก เพราะคนเข้าร่วมเยอะ แบ่งแล้วได้เงินไม่ถึงสองหมื่น ค่าใช้จ่ายของบทความวิชาการทั้งสองชิ้นได้มาถึงแล้ว ลู่อวี่มองดูข้อความแจ้งเตือนที่ส่งมา ใจบอกกับตัวเองว่าเหนื่อยแทบตายกับโครงงานที่แสนยาวนาน ได้ส่วนแบ่งสองหมื่น สองหมื่นยังไม่พอค่าสักดอกไม้ที่ยุ่งยากตรงต้นแขนของไอดอลของเขาครูกู้เลย แต่เดิมลู่อวี่คิดว่าตัวเองก็รวยดี มีรถมีบ้านและมีเงินเก็บอีกเล็กน้อย แต่เรื่องนี้ก็ต้องดูว่ากำลังเทียบกับใคร เทียบกับกู้เฟิงเขาดูจนทันที แต่ลู่อวี่ก็ยังคิดในอีกแง่หนึ่ง เขาไม่ได้ใช้เงินจีบกู้เฟิง แต่เขาใช้ความจนแต่ซื่อตรงที่ใจนี่ต่างหาก “ไม่ดูสภาพเลย” ลู่อวี่สวมแว่นตาทั้งรอยยิ้มแลด่าตัวเองไปด้วย ลู่อวี่ล้มตัวนอนบนเตียงตอนที่เบื่อก็ค้นโมเม้นกู้เฟิงดู ธรรมดามาก สองสามเดือนจะโพสต์สักที หากไม่ใช่รูปวาด ก็เป็นรูปรอยสัก ลู่อวี่ออกมาเพราะอยากจะส่งข้อความ ไม่คิดว่าพอดูหน้าแชททันใดนั้นก็ข้อความเด้งขึ้นมา --อาจารย์ลู่ --เรื่องดอกไม้น่ะพอเถอะ สองข้อความติด ลู่อวี่อ่านจบก็นึกขำ ลู่อวี่ยิ้มตาปิดตอบกลับไป ไม่ได้หรอก ฉันสั่งไปหนึ่งเดือนแล้วครูกู้ เขารอกู้เฟิงตอบกลับ จึงจ้องอยู่ที่หน้าจอตลอด มองบนขอบหน้าจอพักหนึ่งเป็น “กู้เฟิง” พักหนึ่งเป็น “กำลังพิมพ์...” ไม่รู้ว่าจะยาวขนาดไหนเหมือนกัน ลู่อวี่รู้สึกคาดหวังมาก รอจนกู้เฟิงส่งข้อความนั้นมาจริงๆ ลู่อวี่ก็หลุดหัวเราะออกมา ทันใดนั้นรู้สึกว่าหัวหน้ากู้น่ารักมากๆ --เปลืองเงิน ลู่อวี่ไม่เกรงใจสักนิด ส่งข้อความ “ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า” ไปยาวๆ เว้นไปหลายบรรทัด ก่อนจะส่งกลับไป ไม่เป็นไร ไม่ต้องเกรงใจ กู้เฟิงไม่ได้สนเขาอีก บางทีอาจไม่รู้ว่าจะคุยอะไรกับเขาดี ลู่อวี่มีความสุขขึ้นมา เขาสังเกตมานานแล้ว ถึงแม้กู้เฟิงจะไม่ได้มีปฏิกิริยาตอบกลับมากนักกับการที่เขาจีบ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธอย่าจริงจังเช่นกัน น่าจะเพราะโตๆกันด้วยแล้ว การพูดอะไรตรงๆคงไม่ดีมากนัก แต่ลู่อวี่ไม่ได้สนใจท่าทางของกู้เฟิงตอนนี้ที่ไม่รู้ร้อนรู้หนาวนั่นก็ทำให้ตัวเขาพอใจมากแล้ว กลางเดือนสิบเอ็ดวิทยาเขตมีการขอทราบจุดมุ่งหมายของคณะอาจารย์ เพื่อส่งคาบสอนในการศึกษาหน้าและเวลาที่สะดวกแก่การสอน ทางสำนักงานจะได้กำหนดในคราเดียว ลู่อวี่ลงเพียงสองวิชาเท่านั้น ให้เขาเข้าสอนหกชั่วโมงต่อสัปดาห์ เวลาถือว่ากำลังดี เพราะเขาคิดไว้แล้วว่าการศึกษาหน้าตัวเองจะต้องไม่ว่างแน่ ฤดูใบไม้ผลิเขาจะช่วยDoctorโกวดูวิทยานิพนธ์เสมอ ช่วงหลายปีมานี้Doctorโกวต้องดูแลวิทยานิพนธ์ของนักศึกษาปริญญาโท ฤดูใบไม้ผลิที่ต้องมานั่งแก้วิทยานิพนธ์เล่มจบนั้นกินพลังมาก เขามักจะส่งนักศึกษามาให้ลู่อวี่ดูสองคน ให้ลู่อวี่ช่วยตรวจปิดเล่ม แก้แล้วแก้อีกจนกว่าจะดีแล้วถึงได้ส่งไปทางเขา ตัวลู่อวี่เองก็ยื่นไปสองวิชา ดังนั้นการศึกษาหน้าเขาวางแผนที่จะให้เวลากับตัวเองไว้เยอะๆแล้ว และเขายังต้องจีบคนอยู่ ถึงแม้ยังเหลือเวลาอีกนิดกว่าจะถึง แต่ยังไงก็ต้องกำหนดเวลาออกมาก่อน หากถึงเวลาแล้วยังจีบไม่ติดเช่นนั้นเขาก็ยังต้องพยายามต่อ ผู้อำนวยการเมื่อเห็นจุดมุ่งหมายที่เขาส่งมาก็ไม่ค่อยจะพอใจสักเท่าไหร่ “ยื่นแค่สองหรือ ถ้ายื่นสี่ก็จะส่งให้คุณสองคาบ คุณยื่นมาแค่สองคาดว่าจะเหลือให้คุณหนึ่งคาบ แบบนั้นคงได้นั่งตากลมอยู่ที่ห้องพักครู และได้คัดคุณออกแน่” ลู่อวี่กล่าวขำ “ไม่เป็นไรครับ ทำไมจะไม่เหลือไว้ให้ผมแค่คาบเดียวกัน หากว่างก็คือว่าง ไม่เช่นอาจารย์ในกลุ่มอาจารย์ที่ผมอยู่ด้วยในตอนนี้คงได้อารมณ์เสียเป็นแน่ ว่างแล้วฤดูใบไม้ร่วงค่อยว่ากันครับ” “คุณดูอารมณ์ดีนะ” ผู้อำนวยการจ้องเขม็งมาทางเขา คาดว่าคงรู้สึกว่าเขาไม่อยากเข้าสอน ลู่อวี่วางน้ำแก้วหนึ่งไว้ที่ข้างมือของผู้อำนวยการ เขารู้ว่าผู้อำนวยคอยสังเกตเขาตลอด ตั้งแต่เขาเข้าวิทยาเขตมาผู้อำนวยการก็คอยช่วยเหลือเขาอย่างเงียบๆมาโดยตลอด ลู่อวี่กล่าว “อย่างไรทางห้องพักครูต้องเห็นแก่หน้าคุณแล้วเหลือให้ผมหนึ่งคาบแน่นอน” ผู้อำนวยการหันหน้ามามองเขา ชี้มาที่เขาแล้วกล่าว “คุณรอผมกลับไปฟ้องอาจารย์ลู่ได้เลย” ลู่อวี่ยิ้ม “อาจารย์ลู่คนนี้ก็คิดว่าอยากให้คุณไปทานข้าวที่บ้านครับ” ไม่ต้องบอกเลยว่าผู้อำนวยการนั้นมองลู่อวี่อย่างไร คนอื่นยังไม่มีคาบสอนแต่ลู่อวี่กลับได้รับมาแล้ว เพราะว่าลู่อวี่พบผู้อำนวยการจาง มาตั้งแต่เด็กแล้ว ตอนนั้นเขาเป็นหัวหน้าห้องของพ่อเซี่ยว ตอนนั้นเขาทานข้าวที่บ้านลู่อวี่บ่อยๆเลย ตอนที่ลู่อวี่ออกมาจากออฟฟิศผู้อำนวยการ ก็ได้รับวิดีโอจากสวีหลิน ในวิดีโอกู้เฟิงสวมเสื้อยืดกับกางเกงออกกำลังกาย กำลังย่อตัวลงไปใช้กรรไกรตัดกระดาษห่อดอกไม้ทิ้งลงถังขยะ ทุกครั้งที่เขาเห็นในวิดีโอว่ากู้เฟิงกำลังดูแลดอกกุหลาบอยู่มันทำให้เขาซึ้งใจ ใจรู้สึกอ่อนยวบ เหมือนว่ากู้เฟิงจะไม่ได้ดูแลดอกไม้ก็ตามแต่ ก็กระแทกใจเขาอยู่ดี แม้กู้เฟิงจะดูแลอย่างเรียบง่าย คือทุกวันจะตัดกระดาษห่อดอกไม้ออกแล้ววางลงไปในถังน้ำ ตามที่สวีหลินบอกมา พี่ใหญ่รู้สึกว่าการโยนทิ้งไปเฉยๆนั้นมันไม่เคารพกับคนให้ ลู่อวี่รู้ในใจของกู้เฟิงไม่ใช่คนเย็นชา บางครั้งก็อ่อนโยนมาก ดึงดูดผู้คนเป็นที่สุด แต่ในสายตาแฟนบอยกู้เฟิงนั้นเพอร์เฟคที่สุดแล้ว ไม่ต้องกล่าวให้มากความ สัปดาห์นั้นลู่อวี่ทนไม่ไหวจึงไปที่ร้าน กู้เฟิงอยู่พอดี สวีหลินโบกมืออย่างร่าเริงให้กับเขา ลู่อวี่ทักทายเธอเสร็จก็เข้าไปข้างใน อินเสี่ยวเป่ยนั่งย่องๆบนเก้าอี้กำลังเล่นเกมอยู่ตรงนั้น เมื่อเห็นลู่อวี่ก็ผิวปากออกมา “ไม่ได้เจอกันนานเลยเทพดอกไม้” ลู่อวี่เคาะที่หัวของเขาหนึ่งที “พี่ใหญ่เธอล่ะ” หัวของอินเสี่ยวเป่ยเงยไปห้องข้างหลังเขา “คุยกับเพื่อนอยู่” ลู่อวี่พยักหน้า นั่งลงที่เก้าอี้ข้างๆอินเสี่ยวเป่ย กู้เฟิงกำลังคุยกับคนอื่นเขาไม่เข้าไปอยู่แล้ว นั่นก็เพราะชินแล้ว จึงหยิบหนังจากชั้นวางมาอ่านสักเล่ม สายตาของอินเสี่ยวเป่ยยังคงอยู่ที่หน้าจอ เพียงแค่ขยับปากคุยกับเขาเท่านั้น “เดี๋ยวสักครู่พี่ก็จะได้เห็นดอกไม้ที่พี่ส่งมา” “ได้เลย” ลู่อวี่หัวเราะ “ฉันยังกังวลอยู่เลยว่าทำไมฉันไม่เห็นกัน” “เต็มไปสามทั้งแล้ว ใช้ถังที่พวกเรามีไปหมดแล้ว แถมฉันยังไปซื้อมาอีกอัน” อินเสี่ยวเป่ยดีใจจนเกินความ บางครั้งเด็กนี่ก็หัวเราะซะลั่น เขาหัวเราะเสร็จก็กล่าว “เมื่อวานฉันทำงานเสร็จแล้วเผลอมอบดอกไม้ให้ลูกค้าไปหนึ่งช่อจากในสิบช่อ พี่ไม่สนใจใช่ไหม” ลู่อวี่กล่าว “ไม่สนใจ ให้ตามสบายเลย” “จริงหรือ” อินเสี่ยวเป่ยอาศัยจังหวะว่างมองเขา แล้วก็หันกลับไปแล้วกล่าว “พี่ใหญ่ของฉันนะปฏิเสธผู้หญิงที่อยากได้ดอกไม้ไปตั้งหลายคน บอกส่งต่อให้คนอื่นมันเสียมรรยาท อย่างนั้นเดี๋ยวฉันไปบอกพี่ใหญ่ให้ ว่าพี่ลู่ของฉันนั้นไม่ได้สนใจเลย” ลู่อวี่ยกหนังสือในมือแล้วตีที่ไหล่ของอินเสี่ยวเป่ยอย่างไม่เกรงใจ “หยุดเลยเด็กนิสัยเสีย” อินเสี่ยวเป่ยหัวเราะเสียงดัง ก่อนจะมองเยาะมาทางเขา “ในใจรู้สึกดีไหม” ลู่อวี่ยักไหล่ “นิดหนึ่ง” ประตูห้องนั้นเปิดออก คนข้างในได้ยินการเคลื่อนไหวจึงถามอินเสี่ยวเป่ยว่า “น้องเป่ยมีความสุขอะไรกัน” “ฉันก็คุยไปเรื่อย พวกพี่คุยกันเสร็จแล้วหรือ” อินเสี่ยวเป่ยถามเขา “พวกเรามีเรื่องอะไรที่คุยเสร็จไม่เสร็จกัน กวนใส่กันทั้งนั้น แล้วคนนี้ใครล่ะ” คนนั้นมองที่ลู่อวี่แล้วถาม อินเสี่ยวเป่ยเล่นจบตาพอดี ถอดเฮดโฟนลงไว้ที่คอ ยืนบิดขี้เกียจเล็กน้อย แล้วผายแนะนำ “นี่คือลู่อวี่ เพื่อนของพี่ใหญ่” “เฮ้ย พอดีเลย ฉันก็เป็นเพื่อนของพี่ใหญ่เธอเหมือนกัน อย่างนั้นก็เป็นเพื่อนกันแล้วนะ” คนนั้นยิ้มแล้วยื่นมือมา ลู่อวี่เองก็ยื่นมือไปจับ แล้วกล่าว “ลู่อวี่” คนนั้นกล่าว “ฟางซี” กู้เฟิงออกมาจากห้อง ลู่อวี่ยักคิ้วทักทายเขา กู้เฟิงพักหน้ารับ แล้วนั่งลงที่โซฟา ฟางซีถามเขา “เรื่องที่เพิ่งคุยกันรีบๆตัดสินใจล่ะ แกตัดสินใจได้ ฉันจะได้ดูว่าพวกเราจะต้องเอารถไปคันหรือสองคัน” กู้เฟิงตอบกลับเพียง “อืม” ลู่อวี่ถาม “จะไปไหนกันหรือ” ฟางซีตอบเขา “พวกเรามีเพื่อนคนหนึ่งวางแผนจะไปเล่นบนเขากัน ญาติเขามีญาติอยู่บนเขา ไม่ไกลมาก ไปด้วยกันไหมเพื่อนใหม่” ลู่อวี่มองกู้เฟิง แล้วถามเขา “เธอไปไหมหัวหน้ากู้” กู้เฟิงพยักหน้า “น่าจะไป ดูเวลาก่อน” “เฮ้ เช่นนั้นพาพี่ลู่ของฉันไปด้วยสิ” อินเสี่ยวเป่ยกระโดดลงมาจากเก้าอี้ ตบที่หลังของลู่อวี่เบาๆ เพื่อวางแผนช่วยเหลือ “พี่ลู่ของฉันนะเป็นคนเก่งมาก ช่วยยกระดับการศึกษาของกลุ่มพี่ได้เลย” ฟางซีหัวเราะแล้วหันมามอง “การศึกษาสูงหรือ” “จบปริญญาเอกเลยสูงไม่สูง” อินเสี่ยวเป่ยจุดบุหรี่แล้วคาบไว้ “พี่ลู่ของฉันเป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยเลยนะ กลุ่มพวกพี่ก็จบมาจากมหาวิทยาลัยเดียวกับพี่ใหญ่ใช่ไหมล่ะ” “โย่ อย่างนั้นต้องไปด้วยกันแล้วแหละ” ฟางซีเป็นคนชอบล้อเล่นอยู่แล้ว คุ้นชินโดยธรรมชาติ นั่งลงทางด้านลู่อวี่แล้วถามเขา “มีเวลาว่างไหม คิดว่าไปวันศุกร์เช้า กลับวันอาทิตย์ตอนเย็น หากพวกเธอหยุดได้สองวันก็ไปกันวันศุกร์ได้เลย” ลู่อวี่มีเวลาแน่ๆ เขาไม่มีธุระอะไรขนาดนั้น หาอาจารย์มาสอนแทนก็ได้ บอกกับผู้อำนวยการสักคำก็พอแล้ว ลู่อวี่ไม่ได้พยักหน้ารับคำไปในทันที แต่มองไปที่กู้เฟิงแทน “ฉันไปจะสะดวกไหมหัวหน้ากู้” แววตาของลู่อวี่นั้นแน่วแน่ ใบหน้าดูสบายๆ ความในใจต่างออกมาทางใบหน้าจนหมด ฟางซีแค่มองอาการของคนก็รู้เรื่องราวทั้งหมด ความจริงเขาแปลกใจนิดหน่อย ข้างกายของกู้เฟิงนั้นว่างมานานแล้ว กู้เฟิงหันกลับมามองลู่อวี่ ตาเรียวของเด็กคนนี้สวยมาก หางตาชี้ขึ้น เขาชอบจ้องมองมาที่ตัวเขา กู้เฟิงก็แก่มากแล้ว บางครั้งให้เขาจ้องมามากๆก็ไปไม่เป็นเหมือนกัน ฟางซีมองความสนุกสนานนี้ด้วยสีหน้าอบอุ่น ลู่อวี่ยังรอคำพูดจากเขา กู้เฟิงกรอกตา แล้วถอนหายใจ “ไป มีอะไรไม่สะดวกกัน ผู้ชายทั้งนั้น” ลู่อวี่กัดริมีปากแล้วหัวเราะน้อยๆ เขารีบหันมองอินเสี่ยวเป่ยแล้วบอกทางสายตา น้องเป่ยที่น่ารัก พี่ชายไม่ผิดหวังเลยจริงๆ อินเสี่ยวเป่ยคาบบุหรี่แล้วบอกเขาทางสายเช่นกัน พี่ลู่สู้เขา ฉันช่วยได้เท่านี้แหละ ชนบทอันห่างไกล โอกาสนี้จะพลาดไม่ได้
已经是最新一章了
加载中