บทที่9 เสิ่นอีเวยกระโดดลงจากรถ   1/    
已经是第一章了
บทที่9 เสิ่นอีเวยกระโดดลงจากรถ
บทที่9 เสิ่นอีเวยกระโดดลงจากรถ เรื่องวุ่นวานก็จบลงแบบนี้ ถึงการถกเถียงกันในงานทำให้เสิ่นอีเวยเหนื่อยจนแทบขาดใจ แต่พอได้นั่งที่นั่งข้างคนขับ อารมณ์กลับดีไม่น้อย เสิ่นอีเวยรู้สึกว่าคืนนี้เธอแสดงออกต่อหน้าเซิ่งเจ๋อเฉิงได้ดี จัดการตาเฒ่าเจ้าเล่ห์อย่างสวี่กั๋วหมิงไป เขาน่าจะมองเธอในแง่ดีขึ้นบ้างนะ? เสิ่นอีเวยหันไปมอง เซิ่งเจ๋อเฉิงกำลังตั้งใจขับรถ เธอถามเสียงเบาว่า "เซิ่งเจ๋อเฉิง คืนนี้ฉันช่วยนายไว้ นายน่าจะขอบคุณฉันซักหน่อยนะ?" เซิ่งเจ๋อเฉิงตั้งใจขับรถสีหน้าทะมึน เหมือนไม่ได้ยินที่เธอพูดเลย เธออดไม่อยู่ถามไปอีกรอบ "นายได้ยินที่ฉันพูดไหม?" เขาพูดน้ำเสียงเย็นเยียบว่า "ฉันเตือนเธอไว้อย่างว่าอย่าคิดเยอะเกินไป ขนาดเธอยังดูละครของสวี่กั๋วหมิงออก เธอคิดว่าฉันดูไม่ออกหรือไง? ดังนั้นเธอคิดว่าเธอมีสิทธิ์อะไรมารับความดีความชอบต่อหน้าฉัน?" น้ำเสียงเย็นแทบไม่มีความอุ่นอยู่เลย บรรยากาศในรถเงียบลงบัดดล ถ้าเข็มหล่นคงได้ยินแน่ เสิ่นอีเวยรู้สึกเหมือนโดนน้ำเย็นใส่น้ำแข็งสาดทั่วร่าง ความภูมิใจเมื่อครู่หายวับไปกับตา เธอกำหมัดแน่น รู้สึกถึงเล็บที่จิกตรงกลางฝ่ามือ "เพราะอะไร...ไม่ว่าฉันทำอะไรนายก็จะทำเป็นไม่เห็น?" "ทำสิ่งที่เธอควรทำ อย่าหาเรื่องใครหรืออะไร" เสิ่นอีเวยพูดลอยๆว่า "ตอนมัธยมนายไปเที่ยวผับกับเพื่อน ฉันเป็นห่วงนาย ช่วยดื่มแทนและพานายกลับบ้าน" "ต่อมาบ้านนายเลี้ยงสุนัขตัวหนึ่ง นายชอบมาก แต่ฉันแพ้ขนสุนัขมาตั้งแต่เกิด เพื่อให้ได้อยู่ใกล้นาย ฉันแอบคนที่บ้านไปผ่าตัดรักษาอาการแพ้" "หลังแต่งงานอาหารที่นายชอบฉันก็ไปหัดทำ พยายามตั้งใจเรียน แต่ไม่เคยได้รับการยอมรับจากนายเลย" คิ้วของเซิ่งเจ๋อเฉิงขมวดเป็นปม "เซิ่งเจ๋อเฉิง ฉันรู้นายมีอำนาจมีเงิน รู้ว่านายไม่ใช่คนดีอะไรนัก รู้ว่านายไม่ต้องการการปกป้อง แต่ถึงอย่างนั้นฉันก็ยัง....." "พอได้แล้ว!" เขาเบรคคำพูดเธอในที่สุด "เธอเป็นผู้หญิงโง่ที่สุดที่ฉันเคยเจอมาเลย นี่กะใช้ความเห็นใจในสิ่งที่เธอพูดมาพวกนั้นมากลบเกลื่อนความผิดที่ตัวเองเคยทำไว้งั้นสิ?" หัวใจเธอเจ็บปวดนัก "ถ้าฉันพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตัวเองได้ นายจะดีกับฉันบ้างใช่ไหม?" เซิ่งเจ๋อเฉิงยิ้มเย็น "คนสกปรกอย่างเธอจะเอาอะไรมาพิสูจน์ความบริสุทธิ์? เสิ่นอีเวย เก็บลูกไม้ของเธอให้มิดชิด ตอนนั้นเธอทำร้ายเสิ่นหุ้ยจนกลายเป็นแบบนี้เพราะหล่อนไร้เดียวสาเกินไป เชื่อใจเธอเกินไป ส่วนฉันรู้ว่าเธอเป็นคนยังไงมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นฉันเตือนเธอว่าอย่าเสียเวลาเปล่าดีกว่า!" พอคิดถึงการอธิบายซ้ำไปซ้ำมาของตัวเอง เธอรู้สึกแค่เจ็บหนึบที่หัวใจ "ทั้งๆที่ไม่ได้รักฉันแต่กลับแต่งงานกับฉัน พอแต่งงานก็เย็นชากับฉันครั้งแล้วครั้งเล่า เซิ่งเจ๋อเฉิงนายมันทุเรศสิ้นดีเลย!" "เธอลองพูดอีกครั้งสิ!" จู่ๆรถก็เบรคอย่างแรง หัวของเธอกระแทกกับที่นั่งอย่างแรงจนมึนหัว ยังไม่ทันไหวตัว คางก็โดนสองมือบีบแน่น หน้าของเขาใกล้เธอมาก จนจมูกแทบจะชนกัน เธอรู้สึกได้ถึงลมอหายใจที่อบอุ่นแต่โกรธขึ้งนั่น เธอจ้องตาเขาอย่างอึ้งๆ ในนั้นมีเงาตัวเองสะท้อนอยู่อย่างน่าสังเวช "เสิ่นอีเวย เธอฟังให้ดีนะ เธอเป็นคนยังไง ฉันรู้ดี ชาตินี้อย่าหวังจะได้รับความสงสารจากฉันเลย!" เสิ่นอีเวยกัดปากแน่น น้ำตาไหลอาบแก้ม "จำไว้ นี่เป็นการเตือนครั้งสุดท้ายแล้วนะ" หัวใจของเธอเหมือนตกวูบลงเหว ที่แท้ตัวเองก็ไร้เดียงสามองโลกในแง่ดีเกินไป ความพยายามอดทนทั้งหมด การอดกลั้นนับครั้งไม่ถ้วน สุดท้ายกลับแลกความใจอ่อนหรือความรักจากเขาไม่ได้ซักกระผีกเลย เหนื่อย...มากจริงๆนะ พอพูดจบ เซิ่งเจ๋อเฉิงก็หันไปออกรถต่อ หลังจากนั้น เสิ่นอีเวยนั่งเงียบจนน่ากลัว เหมือนสัตว์ป่าที่บาดเจ็บ ขดตัวอยู่บนที่นั่ง จนรถแล่นมาถึงปากทางเข้าทางหนึ่ง เขารู้สึกเหมือนประตูรถด้านขวามีลมหนาวพัดเข้ามา หางตาเขาเหลือบเห็นเงาดำ หัวใจกระตุกวูบ พอหันไปมอง ก็มีชายกระโปรงสีดำผ่านแวบมา
已经是最新一章了
加载中