บทที่12 หว่านเสน่ห์หลอกให้ตายใจ   1/    
已经是第一章了
บทที่12 หว่านเสน่ห์หลอกให้ตายใจ
บ๗ที่12 หว่านเสน่ห์หลอกให้ตายใจ “คำพูดฉลาดหลักแหลมนี้ค่อยเหมาะสมกับสถาปนิกฝีมือดีอย่างคุณหน่อย” บุริศร์พูดขึ้นลอยๆ แต่เขาก็ปล่อยแขนของเธอออก เขารู้สึกตะลึง เขารู้สึกว่ามีความคุ้นเคยกับสัมผัสบนร่างกายของนรมน มันอดไม่ได้ที่จะทำให้เขาทำการสืบหาเรื่องราว นรมนยิ้มอย่างเย็นชาและพูดว่า “ประธานบุริศร์จัดการเรื่องทางบ้านให้เรียบร้อยก่อนเถอะค่ะ” เมื่อพูดจบ เธอก็สาวเท้าเดินออกจากบริษัทฮัวยูไป อย่างไรก็ตามครั้งนี้เธอไม่ได้ถูกหยุดเอาไว้อีกต่อไป เขมิกาเห็นนรมนออกไปจากบริษัทฮัวยูกรุปแล้วเธอก็พุ่งไปข้างหน้าและพูดอย่างไม่สบายใจ “บุริศร์ ฉันไม่รู้ว่าเธอเป็นนักออกแบบร่วมของบริษัท แต่ว่าเธอเป็นคนยั่วโมโหฉันก่อนจริงๆนะ! ฉัน…” “คุณมาที่นี่ทำไม” หน้าบุริศร์นิ่งเหมือนเป็นน้ำแข็ง ทำให้เขมิการู้สึกใจคอไม่ดี “ฉันเห็นว่าคุณรีบออกมายังไม่ได้ทานข้าวเช้า ฉันกลัวว่าคุณจะหิวและเป็นโรคกระเพาะ ฉันเลยเอาอะไรมาให้คุณทาน บุริศร์ ฉันไม่ได้ตั้งใจ อย่าโกรธฉันเลยได้ไหมคะ” เขมิกาดึงแขนเสื้อบุริศร์อย่างน่าสงสาร บุริศร์มองเธออย่างนั้น สายตาหลักแหลมช่างทำให้เขมิการู้สึกว่าทนรับไม่ไหว “บุริศร์…” “เธอลงมือก่อนใช่ไหม” เขายังไม่ลืมภาพความร้ายกาจของเขมิกาตอนที่เขาเห็นเมื่อเดินออกจากลิฟต์ ใจคอดุร้ายป่าเถื่อนมาก ความจริงแล้วเขมิกาต้องการที่จะปฏิเสธ แต่เหมือนเห็นแววตาอันหลักแหลมของบุริศร์ เธอก็อดไม่ได้ที่จะกลืนคำพูดนั้นลงไปและพูดขึ้นแทนว่า “ใช่ค่ะ แต่เพราะว่าฉัน…” “เธอเป็นสถาปนิกออกแบบรถยนต์ที่มีชื่อที่สุดของบริษัทHJกรุปจำกัดที่สหรัฐอเมริกา และผมก็ทำทุกวิธีทางอยู่ทางนี้ ไม่ว่าจะต้องใช้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่เพื่อที่จะชิงตัวสถาปนิกคนนี้มา แต่ตอนนี้คุณทำให้หล่อนหนีเตลิดไปแล้ว บริษัทต้องสูญเสียอย่างน้อยหนึ่งพันล้านหยวน ยังไม่รวมถึงความซื่อสัตย์ของเขมิกา ผมไม่รู้ว่าคุณจะใช้วิธีไหนเพื่อให้เธอยกโทษให้ พรุ่งนี้เช้าผมคาดหวังว่าเธอจะมาที่นี่เพื่อที่จะคุยเรื่องความร่วมมือของบริษัทเรา ถ้าไม่อย่างนั้น คุณอย่ามาโทษผมที่ไล่คุณออกจากตระกูลโตเล็กก็แล้วกัน!” บุริศร์พูดจบเขาก็สาวเท้าเดินจากไป เขมิกานิ่งอึ้ง ใบหน้าเธอขาวซีด “ไม่! บุริศร์ คุณทำกับฉันอย่างนี้ไม่ได้! ฉันเป็นแม่ของกิจจานะ คุณไล่ฉันออกไปแล้วกิจจาจะทำอย่างไร บุริศร์ ฉันผิดไปแล้ว ฉันไม่ได้ตั้งใจจริงๆ” เธอคุกเข่าลงอ้อนวอนบุริศร์ ห้าปีแล้ว เธอให้กำเนิดกิจจา เธอประสบความสำเร็จในการทำให้กิจจาได้เป็นหลานชายคนโตของตระกูลโตเล็ก แต่ว่าท่าทีของบุริศร์ที่มีต่อเธอนั้นช่างต่างกันราวฟ้ากับดิน เขาดีกับกิจจามาก มอบสิ่งดีที่สุดให้กิจจาเสมอ แต่สำหรับแม่ของเขานั้น บุริศร์ทำกับเธอเหมือนเป็นคนแปลกหน้า ทุกคนคิดว่าบุริศร์ปฏิบัติดีต่อเธอ สำหรับด้านวัตถุสิ่งของนั้นเขาให้เธอจนเป็นที่น่าพึงพอใจ แต่สิ่งที่เธอต้องการก็คือการได้เป็นภรรยาของบุริศร์ แทนที่จะอยู่ในตระกูลโตเล็กเพียงในฐานะแม่ของกิจจาเท่านั้น แต่ว่าบุริศร์ไม่ได้สนใจไยดีเธอ ถึงเธอจะใช้ทุกวิถีทาง ก็ไม่สามารถเข้าไปยังห้องนอนของบุริศร์ได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องของใจเลย ตอนนี้บุริศร์พูดออกมาว่าจะขับไล่เธอออกจากตระกูลโตเล็ก เรื่องนี้สำหรับเขมิกาแล้วเหมือนฟ้าผ่ากลางวันแสกๆ “ฉันจะไปขอร้องผู้หญิงคนนั้น ฉันจะไปขอร้องหล่อน! บุริศร์ อย่าแยกฉันจากกิจจาเลย! ตอนที่ให้กำเนิดเขาฉันเกือบจะตกเลือดจนตาย คุณลืมไปแล้วรึ” “ถ้าไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ เธอยังคิดว่าเธอจะได้อยู่ในตระกูลโตเล็กอย่างนั้นรึ” ลมหายใจของบุริศร์เย็นวาบไปทั้งร่าง คำพูดนี้ออกจะเกินไปหน่อย ร่างของเขมิกาสั่นเทา เธอมองไปที่ชายที่ไม่เห็นเธอในสายตา บางครั้งเธอก็รู้สึกรับไม่ได้ “บุริศร์ คุณทำกับฉันอย่างนี้ได้อย่างไร” “คุณน้ำ วันหลังถ้าไม่ได้รับอนุญาตจากผม อย่าปล่อยให้คุณเขมิกาเข้ามาที่บริษัทอีก! ถ้าหากคุณทำไม่ได้ ก็ไปยื่นใบลาออกที่แผนกบุคคลได้เลย” บุริศร์ไม่สนใจความรู้สึกของเขมิกาเลยสักนิด หลังจากจบคำพูดอันแสนเย็นชาเขาก็เดินออกจากห้องโถง พฤกษ์ซึ่งตามอยู่ด้านหลังโดยไม่พูดอะไรสักคำ หลังจากที่เข้าไปในลิฟต์ก็ได้ยินบุริศร์พูดขึ้นว่า “ตรวจสอบหน่อยว่าคุณนรมนอยู่ที่โรงแรมอะไร เลือกของขวัญราคาแพงแล้วส่งไปให้เธอ บอกว่าผมส่งมาเป็นการขอโทษ” “ประธานบุริศร์ คุณให้คุณเขมิกาไปขอโทษหล่อนแล้วไม่ใช่หรอครับ พวกเราจะทำอะไรได้มากกว่านั้น” พฤกษ์ยังไม่ค่อยเข้าใจ บุริศร์เหลือบมองเขาเล็กน้อยและพูดเบาๆ “เขมิกาไปขอโทษ นั่นเป็นการแก้ไขปัญหาเรื่องส่วนบุคคล บริษัทเราขอโทษ เป็นการประกาศจุดยืนของบริษัทเรา คุณคิดว่านรมนนั่นไม่อยากร่วมงานกับเราจริงๆหรอ เธอแค่หาข้ออ้างที่จะแสดงอำนาจเท่านั้น แต่ว่าผู้หญิงคนนี้น่าสนใจ รู้จักหว่านเสน่ห์หลอกให้ตายใจ ช่างเถอะไปเลือกหาของขวัญราคาแพงๆมา ผมจะไปส่งด้วยตัวเอง” พฤกษ์นิ่งอึ้งไป “ประธานบุริศร์ คุณจะไปส่งด้วยตัวเองอย่างนั้นหรือครับ จะไม่เป็นการให้เกียรติเธอจนเกินไปหรอครับ” “สิ่งที่เธอต้องการก็คือการที่ไปผมไปเชิญเธอด้วยตัวเอง ในน้ำเต้ามียาอะไรอยู่นั้น ผมต้องไปดูเองถึงจะได้รู้ ตามนั้นแหละ” พูดจบบุริศร์ก็ออกจากลิฟต์ ตรงกลับไปยังออฟฟิศ มันอย่างไรพฤกษ์ก็ยังไม่ค่อยชัดเจนนัก ห้าปีแล้ว ที่เขาไม่เคยเห็นประธานบุริศร์สนใจผู้หญิงคนไหน ดูเหมือนว่าสถาปนิกแคทเธอรีจะมีเสน่ห์เข้าจริงๆ สามารถละลายน้ำแข็งแห่งสหัสวรรษอย่างบุริศร์ลงได้ 
已经是最新一章了
加载中