บทที่ 5 ทำไม
บ๗ที่ 5 ทำไม
วันต่อมา
คฤหาสน์ตระกูลซู
เมื่อข่าวแพร่กระจายในหนังสือพิมพ์ไปทั่ว ตระกูลซูอยู่ในสถานการณ์ที่วุ่นวาย
คุณหญิงตระกูลซูหานชิ่งเสว่อ่านหนังสือพิมพ์ ขมวดคิ้วเล็กน้อยพลางพึมพำ “นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเสี่ยวยี่ถึงจะแต่งงาน”
ซูเที๋ยนเที๋ยนคุณหนูสามตระกูลซูมุ่ยปากอย่างแปลกใจยิ่งกว่า “นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่คะ พวกนักข่าวต้องเขียนขึ้นเองแน่!”
ระหว่างการพูดคุย ซูยี่เดินตัวตั้งตรงสูงสง่าลงมาจากบันไดพร้อมกับเอ่ยบางเบา “นักข่าวไม่ได้เขียนเอง สัปดาห์หน้าฉันจะแต่งงาน!”
ซูเที๋ยนเที๋ยนร้องด้วยความประหลาดใจ “พี่รอง อย่ามาล้อเล่นนะ! วันนี้ไม่ใช่วันเอพริลฟูลนะคะ!”
ความประหลาดใจ ความผิดหวัง และความทุกข์แวบเข้ามาในดวงตาของเธอ
หานชิ่งเสว่เหลือบมองซูเที๋ยนเที๋ยน แล้วมองผ่านเธอไปพร้อมกับคิดอย่างรอบคอบ จากนั้นก็ถามด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป “เสี่ยวยี่ ถ้าอย่างนั้นทั้งหมดที่หนังสือพิมพ์เขียนข่าวก็เป็นเรื่องจริง การแต่งงานไม่ใช่เรื่องตลก เธอคิดดีแล้วเหรอ”
ซูยี่พยักหน้าเบาๆ “ใช่”
มือเล็กของซูเที๋ยนเที๋ยนซ่อนอยู่ข้างหลังกำแน่นโดยไม่รู้ตัว พลางถามอย่างไม่เข้าใจ “พี่รองคะ เกิดอะไรขึ้นกับคุณกันแน่ คุณเพิ่งอกหักมาเดือนเดียว ทำไมคุณถึงจะแต่งงานแล้ว คุณถูกยั่วใช่ไหมคะ เด็กคนนี้ไม่ใช่ของคุณแน่นอน คุณต้องคิดให้ชัดเจนนะคะ”
เธอเป็นคุณหนูสามที่เป็นลูกบุญธรรมของตระกูลซู ซึ่งโชคดีที่เป็นที่เอ็นดูของตระกูลซู กับซูยี่เธอมีความรู้สึกให้ แต่ทำได้แค่เพียงกักเก็บมันเอาไว้
ซูยี่หันไปมองเธอด้วยดวงตานิ่งลึก “ฉันคิดดีแล้วไม่จำเป็นต้องให้ใครมาบอก!”
พอดีกับที่นายท่านตระกูลซูได้แต่งตัวและลงมาข้างล่างเพื่อทานอาหารเช้า
นายท่านตระกูลซูคนนี้เป็นคนที่มีอะไรซ่อนเร้นอยู่มาก โดยปกติแล้วเขามีใบหน้าที่ไร้อารมณ์ ถึงแม้ว่าเรื่องจะเป็นอย่างนี้ เมื่อเขาตื่นขึ้นมาในตอนเช้าและเห็นสิ่งที่อยู่ในหนังสือพิมพ์เขาก็ไม่ได้มีการแสดงสีหน้าใดๆเลย
บนโต๊ะอาหารบรรยากาศไม่ดีไม่แย่ เป็นบรรยากาศปกติ ทุกคนทานอาหารเช้าและมีการขบคิดเป็นของตัวเอง
หลังจากผ่านไปครึ่งมื้ออาหาร นายท่านตระกูลซูก็เงยหน้าขึ้นมองซูยี่แล้วถามขึ้นเสียงเบา “ตัดสินใจแล้วใช่ไหม”
ซูยี่พยักหน้า หยิบกระดาษทิชชู่มาค่อยๆเช็ดมุมปาก “ใช่ครับ ผมกำลังจะแจ้งเรื่องนี้ให้คุณพ่อทราบพอดีว่าผมวางแผนจะแต่งงานสัปดาห์หน้า”
“ผู้หญิงตระกูลเถียนงั้นเหรอ ลูกรู้จักดีแล้วเหรอ”
ปกติซูยี่มักจะน้ำเสียงสุภาพ แต่มันผิดแปลกไปอย่างชัดเจน “กับเธอไม่รู้จัก แต่กับคนพ่อผมรู้จักดี ตราบใดที่มันไม่ใช่เธอก่อนหน้านี้ ใครก็ได้ทั้งนั้นครับ”
นายท่านซูเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แสงสลัวแวบผ่านดวงตาเหลือง พยักหน้าเล็กน้อย “งานแต่งจะจัดขึ้นเมื่อไหร่”
หานซิ่งเสว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่กลับถูกซูเซิ่งลูกชายที่นั่งอยู่ข้างๆจ้องนิ่ง และจากนั้นก็แยกกันก้มหน้าทานอาหารต่อไป
“สัปดาห์หน้าครับ” น้ำเสียงของซูยี่บางเบาเหมือนพูดเรื่องที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง
“ได้ ถ้าต้องการอะไรก็บอกแม่บ้าน” นายท่านซูพูด เป็นเช่นนี้แล้วก็ต้องเห็นด้วยกับการแต่งงานครั้งนี้
จนกระทั่งหลังจากที่นายท่านซูกับซูยี่ออกไป หานชิ่งเสว่กับซูเซิ่งมองหน้ากัน ดวงตาฉายแววดูถูกและดูหมิ่นอย่างเปิดเผยในเวลาเดียวกัน
ซูเที๋ยนเที๋ยนมองไปที่ด้านหลังของซูยี่ ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าโศก...
--------------
บริษัทเถียน
เรื่องอื้อฉาวของเถียนจิ้งพัดโหมกระหน่ำ ถ้าไม่ใช่เพราะอยู่ในฐานะลูกสาวของท่านประธาน เธอกลัวว่าจะจมน้ำตายด้วยน้ำลายจากคนในบริษัท
เธอแต่งหน้าอย่างสวยงาม ชุดกระโปรงพอดีตัวห่อหุ้มร่างกายที่แสนดึงดูด เหยียบบนรองเท้าส้นสูง เดินเข้าไปที่สำนักงานของตัวเอง
ผู้คนดั่งพายุ พื้นที่ส่วนสำนักงานกำลังยุ่งเพราะการมาถึงของเธอ การซุบซิบนินทาคนอื่นแต่เดิมกลายเป็นโทรศัพท์ธุรกิจในภาษาต่างๆ
ในเรื่องนี้ เธอไม่แคร์ปากชาวบ้าน เผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อไปอย่างไม่ไหวหวั่น
ในช่วงพักเที่ยงได้รับข้อความของซูยี่ “งานแต่งงานจะจัดขึ้นในวันจันทร์หน้า จะต้องไม่มีความผิดพลาดใดๆกับเด็กในท้องของคุณ!”
อ่านข้อความที่คุกคามนั้นแล้วก็จิตตกเล็กน้อย
เธอค่อนข้างไม่เข้าใจ ชัดเจนว่าซูยี่ไม่ใช่ผู้ชายในคืนนั้น แล้วทำไมต้องแคร์เด็กในท้องของเธอด้วย จะต้องไม่มีความผิดพลาดใดๆกับเด็กงั้นเหรอ ทำไมถึงเป็นอย่างนั้น เธออดไม่ได้ที่จะส่งข้อความกลับไป “ทำไมเหรอคะ คุณเห็นด้วยจริงๆเหรอที่จะให้ฉันให้กำเนิดเด็กคนนี้ คุณสามารถยอมรับลูกในท้องของฉันได้จริงๆเหรอคะ”
ไม่นานซูยี่ก็ส่งข้อความกลับ........