บทที่ 20 กางเกงใน
1/
บทที่ 20 กางเกงใน
อุบัติรักเหนือลิขิต
(
)
已经是第一章了
บทที่ 20 กางเกงใน
บ๗ที่ 20 กางเกงใน เอ๊ะ กลับมาแล้วเหรอ? ซูยี่ที่หายไปทั้งคืน ใบหน้าที่หล่อเหลาดูเหนื่อยล้า หลังจากลงรถ เขาก็สบตากับดวงตาที่สวยงามของเถียนจิ้ง เถียนจิ้งไม่ได้พูดอะไร ได้แต่กระพริบตาและมองหน้าเขาอยู่แบบนั้น ซูยี่ก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน เขารีบหลบสายตาแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที เถียนจิ้งขมวดคิ้วอยากไม่พอใจ เธอก้มลงมองเวลาที่นาฬิกาข้อมือ แล้วก็ส่งข้อความไปหาผู้ช่วยว่า เช้านี้เธอมีธุระสำคัญด่วนที่ต้องจัดการ ให้เลื่อนกระประชุมไปหนึ่งชั่วโมง ต้องอบรมสั่งสอนสามีตัวเองซักหน่อย จะไม่ใช่เรื่องสำคัญได้ยังไงล่ะ? หลังจากนั้นเธอก็ลงจากรถและเดินตามเขาไปทันที พอซูยี่เปิดประตูเข้าไป ซูเที๋ยนเที๋ยนที่เกือบเหี่ยวเฉาเพราะความโกรธก็กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งนึง เธอรีบเข้าไปทักทายด้วยความเป็นห่วง “พี่รอง กลับมาซักที เมื่อคืนไปไหนมา? ฉันโทรหาพี่ตั้งหลายสายก็โทรไม่ติด ฉันเครียดจนจะบ้าตายอยู่แล้ว” เธอร้อนใจ แต่ซูยี่กลับตอบเธอนิ่งๆว่า “มีเรื่องด่วนให้ต้องจัดการนิดหน่อย” ซูเที๋ยนเที๋ยนมองใบหน้าที่อ่อนล้าของเขา แล้วก็เคราะที่เริ่มขึ้นมาเล็กน้อย เธอถามอย่างปวดใจว่า “จัดการทั้งคืนเลยเหรอ? งั้นพี่ก็คงจะเหนื่อยมากสินะ? จัดการเสร็จรึยังล่ะ? หิวไหม? หรือว่าให้ฉันไปทำอะไรมาให้กินดีไหม?” ซูยี่ก็แค่เหนื่อยล้าเท่านั้น แต่ไม่ได้จนตรอกอะไร ดังนั้น ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขายังคงเป็นภาพที่งดงามที่สุดในสายตาเธอ” ซูยี่เลิกคิ้วขึ้น แล้วก็เอามือลูบหน้าผากที่เหนื่อยล้า แล้วตอบนิ่งๆว่า “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันจะไปเปลี่ยนชุดแล้วค่อยไปกินข้าวที่บริษัท” ซูเที๋ยนเที๋ยนยังพยายามอ้อนเขาต่อ เธอจับแขนของซูยี่แล้วเขย่า “พี่รอง พี่อย่าใจร้ายแบบนี้เลย บอกฉันมาเถอะว่าเมื่อคืนพี่ไปจัดการธุระเรื่องอะไรมา?” ในความคิดของเธอ พี่รองต้องไปจัดการเรื่องที่เกี่ยวกับเสวียนเสวียนแน่นอน เธอกังวลเรื่องพี่รองอยู่ทั้งคืน แถมยังสับสนวุ่นวายทั้งคืนเช่นกัน เธออยากจะให้พี่เสวียนกลับมา ยัยผู้หญิงชั้นต่ำอย่าเถียนจิ้งจะได้โดนเขี่ยทิ้งซักที แต่ว่าถ้าเกิดว่าพี่เสวียนกลับมาจริงๆ เรื่องความรู้สึกที่เธอมีให้พี่รองก็จะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป เพราะว่าพี่รองแคร์พี่เสวียนมาก มากจริงๆ สรปว่า ทั้งคืนนั้น เธอเอาแต่คิดถึงความสับสนวุ่นวายนี้ ทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจไม่น้อยเลย กว่าจะรอจนเขากลับมามันไม่ง่ายเลย เธออดไม่ได้ที่จะดึงชายเสื้อพี่รองเพื่อปลอบใจตัวเองที่ทุกข์ทรมานมาทั้งคืน แต่ว่าซูยี่ยังคงนิ่งใส่เธอเหมือนเดิมตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนนี้ เขาแค่ย้ำเสียงเย็นชาว่า “พอแล้ว เลิกวุ่นวายได้แล้ว ฉันจะสายแล้ว” พอพูดจบ เขาก็ผลักเธอออกอย่างเย็นชา แล้วก็เดินขึ้นห้องไป ทิ้งซูเที๋ยนเที๋ยนที่รู้สึกห่อเหี่ยวเอาไว้ เธอถอนหายใจยาว เถียนจิ้งยืนอยู่ด้านหลังของพวกเขา ก็เห็นการกระทำที่เกินพี่น้องของซูยี่กับซูเที๋ยนเที๋ยน เธอได้แต่ถอนหายใจออกมา แค่มองแว๊บเดียวก็รู้แล้วว่าซูยี่ไม่ได้คิดกับซูเที๋ยนเที๋ยนแบบนั้น แต่ทำไมเจ้าตัวถึงมองไม่ออกนะ! ด้านบน ซูยี่พึ่งจะกลับมาถึงห้อง ทันใดนั้นเถียนจิ้งก็เปิดประตูเข้ามา เขามองเธอด้วยสายตาตกใจเล็กน้อย เขากำลังเปิดตู้เสื้อผ้าเพื่อจะเลือกเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ราวกับว่าเมื่อคืนไปนอนกลิ้งไปกลิ้งมาทั้งคืน เสื้อผ้าเขาตอนนี้ยับยู่ยี่ ก็เลยยังไม่อยากจะเจอใคร “จะเมินฉันเหรอ?” ซูยี่ขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก็ตอบนิ่งๆว่า “ฉันจะสายแล้ว!” เถียนจิ้งยิ้มบางๆ “ฉันก็สายแล้วเหมือนกัน แต่เพื่อการอยู่ร่วมกันอย่างสันติในอนาคต ฉันเลยคิดว่าฉันต้องมาเคลียร์อะไรบ้างอย่างกับคุณให้ชัดเจนหน่อย” ซูยี่เลือกชุดสูทเสร็จแล้ว แล้วก็หันไปมองหน้าเธอ “เธอไม่ถือถ้าฉันจะแก้ผ้าต่อหน้าเธองั้นเหรอ?” เถียนจิ้งใจเต้นแรงแล้วก็รู้สึกลุกลี้ลุกลน แต่ว่าเธอก็สามารถซ่อนมันไว้ได้ แล้วก็พยักหน้าเบาๆ “คุณไม่ถือฉันก็ไม่ถือ” ซูยี่ไม่พูดอะไรต่อให้มากความ ปลดกระดุมเสื้อเชิ๊ตของตัวเองออกทันที เขาเริ่มที่การปลดกระดุมสีทองตรงแขนเสื้อ เริ่มจากน้อยไปมาก เหมาะกับตัวตนของเขาจริงๆ จนมาถึงกระดุมตรงกลาง ค่อยๆปลดลงมาทีละเม็ด ทีละเม็ด เถียนจิ้งหหัวใจเต้นแรงจนหายใจเร็วมาก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอเห็นผู้ชายเปลี่ยนเสื้อผ้าใกล้ขนาดนี้ แผนหลังที่แข็งแกร่งและเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของเขา กล้ามเนื้อบนผิวที่แสนของเขาก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าเธอ ยัยบ้าเอ้ย! ก็พูดไปแล้วไงว่าไม่ถือ ทำไมถึงรู้สึกกระวนกระวายเหมือนกวางน้อยแบบนี้เนี่ย? ผู้ชายคนนี้จะ…. ไม่แคร์จริงๆเหรอ? เขาถอดแล้วจริงๆ ตอนนี้เขาเปลือยท่อนบน ทำให้เธอได้รู้ว่าร่างกายที่สมบูรณ์แบบมันเป็นยังไง ไม่มีไขมันส่วนเกินเลยแม้แต่นิดเดียว แค่ได้มองเพียงครั้งเดียว ก็ทำให้คนที่ได้เห็นนั้นตื่นเต้นจนแทบจะกระอักเลือดออกมาเลย ดวงตาที่สดใสของเธอกระพริบถี่อย่างลนลาน ซูยี่เริ่มเปลี่ยนกางเกง ตอนท่เขากำลังเตรียมจะปลดเข็มขัดนั้น มองหน้าผู้หญิงตรงหน้าที่แก้มแดงขึ้นเรื่อยๆ “เธอแน่ใจนะ?” เพราะว่าเหนื่อย เสียงของเขาก็เลยแหบเล็กน้อย ยิ่งเพิ่มเสน่ห์แบบผู้ชายที่เป็นผู้ใหญ่เข้าไปใหญ่ เถียนจิ้งโพล่งออกมาอย่างเปิดเผย “ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเห็น แต่ว่าก็อยากลองดูเหมือนกัน ยังไงก็แต่งงานกันแล้วนี่” การที่เธอโพล่งออกมาแบบนี้ทำให้ซูยี่รู้สึกแปลกใจ ทันใดนั้นเขาก็นิ้มมุมปาก แล้วก็ถอดกางเกงลงอย่างรวดเร็ว” ทันใดนั้น ร่างกายของเขาก็เหลือกางเกงในปกคลุมอยู่เพียงตัวเดียวเท่านั้น เถียนจิ้งรู้สึกว่าใบหน้าตัวเองร้อนจนจะไหม้อยู่แล้ว ก้นของผู้ชายคนนี้งอนมาก ร่างกายของเขานี่สวรรค์มอบมาให้จริงๆเลย ซูยี่มองหน้าเธออย่างมีความหมายซ่อนอยู่ แล้วเตรียมที่จะถอดกางเกงในออก เถียนจิ้งทนดูไม่ไหวอีกแล้ว เธอยื่นมือไปจับแขนยาวๆของเขาไว้ “พอแล้ว เธอว่าคุณเก่ง ฉันไม่อยากดูแล้ว เดี๋ยวฉันพูดจบก็จะไปแล้ว” ซูยี่หน้านิ่งๆแล้วเลิกคิ้วมองเธอ “พูดมา” “ฉันขึ้นมาเพื่อที่จะบอกคุณเรื่องนึง ก็คือเรื่องที่คุณไม่กลับบ้านทั้งคืน มันทำให้ฉันไม่แฮปปี้ ฉันโทรหาคุณก็โทรไม่ติด ฉันไม่สนใจหรอกนะว่าคุณจะไปธุระด่วนที่ไหน แต่อย่างน้อยก็ควรเคารพฉันบ้าง” เถียนจิ้งพูดความในใจออกมารวดเดียว “ฉันเข้าใจว่าระหว่างเราไม่ได้มีความรู้สึกอะไรต่อกัน ดังนั้น อย่างน้อยก็เคารพฉันในขั้นพื้นฐานพอก็ได้ ฉันไม่ไปจำกัดอิสรภาพของคุณหรอก แต่คุณจะหายไปเที่ยวเล่นไม่ได้” ซูยี่เหมือนว่านึกไม่ถึงว่าเธอจะพูดอะไรแบบนี้ออกมา แล้วก็ไม่คิดมาก่อนว่าการกระทำเมื่อคืนของเขาจะทำให้เธอไม่มีความสุข พอได้รับโทรศัพท์สายนั้น เขาก็กลายเป็นคนไม่มีสติทันที เถียนจิ้งเห็นว่าเขาไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับมา และก็ไม่ได้แสดงสีหน้าใดๆ เธอก็เลยพูดต่อ “ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันไม่แฮปปี้มากๆ คุณหายไปเที่ยวเล่น ส่วนน้องสาวของคุณก็มาโทษฉัน ok ฉันไม่ไปทะเลาะกับเด็กนั่นก็ได้ ต้องเคารพพี่สะใภ้เหมือนแม่ไม่ใช่เหรอ แต่เรื่องนี้ฉันอภัยให้ก็ได้ แต่ว่า การที่คุณทำตัวแบบนี้เป็นการไม่ให้เกียรติฉัน เรื่องนี้ฉันทนไม่ได้ เพราะฉะนั้นฉันเลยต้องมาเคลียร์กับคุณก่อน ถ้าเกิดว่ามีครั้งหน้าอีก….” ซูยี่เลิกคิ้วขึ้น แล้วถามด้วยเสียงแหบพร่าว่า “จะทำไมนะ?” เถียนจิ้งพูดออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเกิดว่ามีครั้งหน้าอีก ฉันก็จะทำเหมือนที่คุณทำ กลางค่ำกลางคืนไม่กลับบ้านใครก็ทำได้ ข้างนอกนั่นนักข่าวเยอะแยะจะตาย แถมคุณซูก็ชื่อเสียงโด่งดังซะขนาดนี้ อย่าให้ถึงตอนที่ฉันไม่กลับบ้านกลับช่องแล้วกัน นักข่าวก็จะเขียนข่าวว่าฉันน่ะไปเป็นชู้กับชายอื่น ถ้ายังงั้นเรื่องนี้คงไม่ดีแน่!” พอพูดจบ เธอก็วิ๊งตาให้เขา แล้วทำหน้าตาใสซื่อ ตอนที่เธอกำลังพูดอยู่นั้น ซูยี่ไม่เข้าใจว่าทำไมตัวเองถึงคิดตามสิ่งที่เธอพูด ไปมีชู้งั้นเหรอ... ทันใดนั้นคิ้วของเขาก็ขมวดแน่นทันที เขาพูดเสียงต่ำโดยอัตโนมัติ “กล้าเหรอ!” เถียนจิ้งไม่สนใจสิ่งที่เขาพูด เธอพูดต่อด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “อะไรก็เกิดขึ้นได้ทั้งนั้นแหละ ขนาดกระต่ายยังกัดคนได้เลย โอเค ฉันพูดจบแล้ว เชิญคุณชื่นชมร่างกายที่สุดแสนจะเพอร์เฟคของตัวเองต่อไปเถอะ” หลังจากนั้นเธอก็สวมรองเท้าส้นสูง แล้วก็ก้าวเดินออกไปเสียงดังฟังชัด ซูยี่อึ้งอยู่เกือบนาทีถึงจะได้สติกลับคืนมา ยัยผู้หญิงปากไม่มีหูรูดนี่ช่าง กล้าพูดอะไรแบบนี้ออกมาด้วยเหรอ? นี่เธอกำลังใช้วิธีนี้เพื่อต่อสู้กับเขาอยู่งั้นเหรอ? ตอนที่เถียนจิ้งลงมาจากชั้นบนนั้น ซูเที๋ยนเที๋ยนก็นั่งอยู่บนโซฟาหน้าตาห่อเหี่ยวมาก แต่พอเธอเห็นเถียนจิ้งเดินลงมา เธอก็รีบนั่งหลังตรงทันที ราวกับว่าเธอตื่นเต้นยังงั้นละ เธอตำหนิออกมาอย่างไม่พอใจว่า “เถียนจิ้ง ยางอายเธอไปไหนน่ะ? ก็เห็นอยู่ว่าพี่รองไม่ได้สนใจเธอเลยแม้แต่นิดเดียว ยังจะตามเขาขึ้นไปข้างบนอีกเหรอ? มันน่ารำคาญไปหน่อยไหม?” สมกับเป็นสไตล์ของเด็กน้อยจริงๆ เห็นเธอเป็นกระบอกสูบลมหรือยังไงกันนะ เถียนจิ้งได้แต่ส่ายหน้าโดยไม่ได้พูดอะไร เธอไม่มีเวลามากพอที่จะมานั่งทะเลาะด้วยหรอกนะ ซูเที๋ยนเที๋ยนพึมพำออกมาอีกครั้ง “จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนล่ะเนี่ย!” เถียนจิ้งพยายามทนจนถึงที่สุด “ไม่เป็นไรหรอก เอาหน้าไว้ที่เดิมก็ดีอยู่แล้ว” ซูเที๋ยนเที๋ยนโดนตอกกลับจนหน้าหงายอีกครั้ง แต่เธอก็ทำได้เพียงแค่ถลึงตาใส่แผ่นหลังของเถียนจิ้งเท่านั้น “น่ารังเกียจ ช่างเป็นผู้หญิงชั้นต่ำที่น่ารังเกียจ!!” คำพูดนั้นของเธอทำให้ซูยี่ที่กำลังเดินลงมาได้ยินพอดี เขาเดินมาด้านข้างเธอแหละเดินชนไหล่เธอไป ทันใดนั้นเขาก็หยุดแล้วพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “เขาไม่ใช่ผู้หญิงชั้นต่ำ เขาคือพี่สะใภ้ของเธอ!!” ซูเที๋ยนเที๋ยนรู้สึกอับอายจนแทบอยากจะมุดเข้าไปอยู่ในรู เพราะว่ามัวแต่เสียเวลาอยู่ซักพัก กว่าเถียนจิ้งจะมาถึงบริษัทก็ปาเข้าไปเก้าโมงครึ่งแล้ว แผนการประชุมประจำสัปดาห์ได้จบลงแล้ว ผู้จัดการแต่ละฝ่ายก็ทยอยเข้ามาที่ห้องประชุม เถียนจิ้งมาสายอย่างชัดเจน แต่เพราะว่าเธอแจ้งผู้ช่วยไว้ก่อนแล้ว แล้วผู้ช่วยของเธอก็ไปรายงานให้เถียนโม่เชีนนทราบ เขาเลยตัดสินใจเลื่อนการประชุมไปครึ่งชั่วโมง ตอนที่เธอเข้าไปในห้องประชุมและนั่งลง ก็ได้ยินเสียงเหอจี้เคอที่นั่งอยู่ข้างๆๆเหน็บแนมอย่างไม่พอใจ “ที่แท้ก็เพราะลูกสาวท่านประธานนั่เอง มาทำงานสายจนเป็นนิสัย” เหอจี้เคอคือน้องชายแท้ๆของเหอลี่หย่า ใช้ความเป็นญาติพี่น้องในการขึ้นมายืนอยู่ตรงจุดนี้ แถมยังชอบพูดจาพล่อยๆในบริษัทอีก” เถียนจิ้งพูดเสียงต่ำ ยังคงรักษาความนสงบนิ่งไว้ได้ แล้วตอบกลับไปว่า “ฉันลาแล้วนะ ใครจะไปทำงานสบายๆเหมือนผู้จัดการเหอล่ะ ที่หายไปโดยไม่เคยลา อย่างเดือนที่แล้ววันที่7 วันที่10 16 18 อ้อ แล้วก็เดือนนี้วันที่3….” เหอจี้เคอเกือบเก็บสีหน้าไว้ไม่อยู่ เขาทำเป็นวางท่า แล้วก็กระแอมเบาๆ “การประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว” เถียนจิ้งยิ้มอย่างเย็นชา แล้วก็ทุ่มความสนใจไปที่เอกสารในมืออย่างเต็มที่ เถียนโม่เชียนเป็นประธานในการประชุมครั้งนี้ เขานั่งตรงที่นั่งประธาน หน้าตาเปล่งปลัง แล้วเขาก็ยิ้มให้กับทุกคน เขาเอ่ยออกมาก่อนว่า “หัวข้อการประชุมแรกของวันนี้ ก็คืออยากจะบอกข่าวดีแก่ทุกคน ก่อนหน้านี้เงินทุนของบริษัทประสบปัญหา สถานการณ์ทางการเงินเลยค่อนข้างเลวร้าย แต่วันนี้ปัญหาเรื่องเงินทุนทั้งหมดได้ถูกแก้ไขแล้ว บริษัทเถียนของพวกเราสามารถกู้ยืมเงินทุนจากธนาคารจงต้าได้สำเร็จ โปรเจคต่างๆของบริษัทสามารถดำเนินการต่อไปได้” เสียงปรบมือดังก้องในห้องประชุม ผู้จัดการทุกแผนกต่างพากันโล่งอกโล่งใจ เพราะว่าเมื่อก่อนการเงินของบริษัทมีปัญหา ทำให้พนักงานทุกคนต่างขวัญผวา แต่ในเมื่อตอนนี้ปัญหาทั้งหมดได้รับการแก้ไขแล้ว ทุกคนก็สามารถกลับไปตั้งใจทำงานได้เหมือนเดิม เถียนจิ้งได้ยินดังนั้นก็รู้สึกดีใจ ไม่คิดเลยว่าผู้ชายคนนั้นจะทำเรื่องเร็วขนาดนี้ ผ่านไปแป๊ปเดียวก็สามารถช่วยพ่อของฉันกู้เงินได้แล้ว เธออดไม่ได้ที่จะดีใจแทนพ่อของเธอ หลังจากนี้ ก็คือการสรุปแผนงานของแต่ละแผนก มารายงานความคืบหน้า เถียนจิ้ง ในฐานะผู้จัดการฝ่ายวิจัยและพัฒนาก็ขอพูดก่อน “ประธานเถียน ครั้งที่แล้วที่ดิฉันเสนอให้พัฒนามาส์กหน้าต้นกระบองเพชร ฉันคิดว่าเป็นโครงการที่ต้องเริ่มทำให้เร็วที่สุด จากข้อมูลที่สำเร็จมาแสดงให้เห็นชุดแล้วว่าแนวโน้มปริมาณการขายของมาส์กหน้าอันนี้ต้องออกมาดีแน่นอน” ยังไม่ทันที่จะรอให้คนอื่นตอบกลับ เหอจี้เคอก็รีบคัดค้านออกมาคนแรก “ท่านประธานเถียนครับ ผมไม่เห็นด้วย”
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 20 กางเกงใน
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A