บทที่ 26 ขายหน้า   1/    
已经是第一章了
บทที่ 26 ขายหน้า
บ๗ที่ 26 ขายหน้า เถียนโม่เชียนรักลูกสาวมาก เขาให้นักออกแบบชื่อดังมาวัดตัวเธอเพื่อตัดชุดให้เธอ เถียนจิ้งเลือกชุดกระโปรงยาวสีขาว เหตุผลที่เลือกชุดสีขาวก็เพราะว่าตอนนี้เธอกำลังท้องอยู่ อีกไม่นานหุ่นของเธอก็จะต้องเปลี่ยนไป และอีกอย่างใส่สีขาวก็ทำให้ดูอ้วน อีกหน่อยเธอคงใส่เสื้อสีขาวไม่ได้อีกนานเลย เพราะฉะนั้นเธอเลยใช้โอกาสนี้ตอนที่ท้องของเธอยังเรียบแบบอยู่ ใส่ชุดนี้เพื่อโชว์รูปร่างของเธอ ผิวของเธอที่ขาวละเอียด พอใส่ชุดสีขาวก็ยิ่งทำให้ดูสะอาดสะอ้าน กระดูกไหปลาร้าที่โผล่ออกมามันทำให้เธอดูสง่า และข้างหลังยังตัดเป็นรูปเพชร ยิ่งทำให้เธอดูสูงส่งมีสง่าราศีและแฝงไปด้วยความเซ็กซี่เล็กน้อย โดยรวมแล้วชุดนี้ทำให้เธอดูสวยสง่า ตอนที่เธอเดินเข้างานเธอก็ได้กลายเป็นจุดเด่นของงานจริงๆ ชายโสดในงานต่างตกตะลึงในความงาม เถียนโม่เชียนมองเห็นลูกสาวตัวเองสวยเหมือนนางฟ้า ก็อดมองอย่างภาคภูมิใจไม่ได้ ชุดที่เหอลี่หยาเลือกในวันนี้ก็คือชุดกระโปรงยาวสีน้ำเงิน และแต่งหน้าอย่างประณีต สง่างาม เป็นผู้ใหญ่ ตอนที่เธอเข้าร่วมงานก็สะกดสายตาคนไปได้ไม่น้อย แต่ว่าตอนที่เถียนจิ้งเข้ามาในงาน เธอก็ดูดรอปไป เพราะเหตุนี้ เธอบีบกำปั้นของเธอด้วยความอิจฉา มองเห็นเถียนจิ้งที่สง่างามและมั่นใจ ใจตัวเองกำลังยืนยิ้มหัวเราะให้กับคนรอบๆตัวอยู่เธอก็โกรธจนกัดฟันแน่น แววตาของเธอเต็มไปด้วยความชั่วร้าย อีกไม่นาน เธอจะทำให้เถียนจิ้งหัวเราะไม่ออก ป้าหยูจิงหยิงก็มาแล้วชุดที่เธอเลือกในวันนี้เป็นชุดกี่เพ้า เมื่อเทียบกับเหอลี่หย่าแล้ว ชุดกี่เพ้าของเธอดูดรอปกว่านิดหน่อย แต่ว่าก็สง่างามพอตัว และบวกกับที่ไม่กี่ปีมานี้เธอดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ทำให้เมื่อเทียบกับคนที่อายุเท่ากันแล้วเธอดูเด็กกว่าเยอะ ริมฝีปากของเธอยิ้มอยู่ตลอดเวลา ทำให้เธอดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เถียนจิ้งเดินมาทักทายป้า หยูจิงหยิงพอเห็นเธอก็รีบทักทายตามแม่แบบของแม่ที่ดี “ทำไมเหมือนผอมลง ช่วงนี้ไม่อยากอาหารหรอ” “อะไรกัน ไม่ผอมนะ” “ฉันว่าผอมไปนะ เธอหาเวลากลับมาสิฉันจะต้มซุปบำรุงร่างกายให้ เอ้อใช่สิ ท้องอยู่ ไม่ควรใส่รองเท้าส้นสูงนะ มันอันตราย” หยูจิงหยิงเตือนเธออย่างอบอุ่น แววตาเต็มไปด้วยความรักและห่วงใย เถียนจิ้งหัวเราะและโอบป้า และพูดเสียงเบาๆว่า “โอเค โอเค รู้แล้วค่ะ วันนี้มีงานเลี้ยงก็เลยใส่ ถ้างานเลิกแล้วก็จะเปลี่ยน ตอนที่หนูมาก็ใส่รองเท้าพื้นเรียบมา วางใจเถอะ” หยูจิงหยิงหยักหน้าเล็กน้อย “เธอเชื่อฟังฉันก็วางใจ” คนภายในงานเมื่อเห็นพวกเขาสองคนเข้ากันได้เป็นอย่างดีกล้องก็ค่อยค่อยหันมาจับพวกเขา สองคนแม่ลูกมองและยิ้มไปที่กล้อง ทำให้รู้สึกถึงความอบอุ่นของแม่และลูกสาว เหอลี่หย่าที่ยืนอยู่ไม่ไกลก็ตาลุกเป็นไฟ และเป็นแบบนี้ทุกครั้ง หยูจิงหยิงต่ำช้าจริงๆ ทุกครั้งที่แสดงออกความรักแบบแม่ลูกออกมาสายตาทุกคู่ก็จะจับจ้องไปที่เขา คิดหรอว่าแบบนี้จะสามารถดึงดูดความสนใจจากตาแก่นั้นได้ หน่อมแน้มจริงๆ ตอนนี้ในสายตาของตาแก่นั่นมีแค่เธอคนเดียว ถ้ามียัยหยูจิงหยิงเพิ่มขึ้นมาอีกคนก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี เธอกวาดสายตาไปรอบๆ ในที่สุดก็หาเจอเหอจี้เคอเจอ เธอถลึงตาใส่น้องชายของเธอ งานเลี้ยงสำคัญแบบนี้ยังกล้ามาสาย แบบนี้ทำเกินไปจริงๆ เหอจี้เคอไม่ได้มาสาย ถ้ามีโอกาสแบบนี้เมื่อไหร่เขาก็ไม่เคยจะปล่อยมันไป เข้าจะใช้ศักดิ์พี่เขยของเถียนโม่เชียนมาจีบสาวตลอด เมื่อกี้พึ่งจีบผู้หญิงติดมาคนนึงเชื้อเพลิงดีเลยติดไฟง่ายเมื่อกี้พวกเขาเลยเข้าไปทำกิจกรรมกันในห้องน้ำ ก็เลยทำให้เสียเวลาไป ได้รับสายตาพิฆาตจากที่พี่สาวส่งมาเขาก็รีบปั้นหน้าวิ่งเข้ามา “พี่ครับ” เหอลี่หย่าถามเสียงต่ำ “ไปไหนมา” “ไม่ได้ไปไหน เจอคนสนิทสองคนก็เลยคุยกันแปปนึง” เขาทำท่าพูดแบบลวกๆ เพราะว่ายืนอยู่ใกล้กันเหอลี่หย่าก็เลยได้กลิ่นน้ำหอมผู้หญิงจากตัวเขา เธอโกรธจนเลือดขึ้นหน้า มองดูเนคไทที่บิวเบี้ยวของเขา ก็กัดฟันและพูดว่า “ทำตัวให้มันน่าเชื่อถือหน่อยได้มั้ย เรื่องที่ฉันให้นายไปทำนายทำเสร็จรึยัง” เหอจี้เคอพยักหน้า “ทำเสร็จแล้ว วางใจเถอะพี่ เรื่องผมจีบหญิงไม่กระทบงานหรอก” เหอลี่หย่าถลึงตา “สำรวมหน่อย” เหอจี้เคอรีบพยักหน้า “เข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว” อีกไม่นานงานฉลองก็เริ่มขึ้นแล้ว อันดับแรกก็ให้เถียนโม่เชียนขึ้นปราศัย หลังจากนั้นก็เป็นการประกาศรับรางวัล การประกาศรับรางวัลงานเลี้ยงของทุกปีเถียนจิ้งก็จะขึ้นไปบนเวทีเพื่อมอบรางวัล เหอลี่หย่าได้บอกกับตาแก่นั้นหลายครั้งแล้วว่าให้เธอได้ขึ้นไปเป็นคนมอบรางวัลบ้าง แต่ว่าทุกครั้งเถียนโม่เชียนก็จะปฏิเสธ บทบาทการมอบของรางวัลเขาจะมอบให้เถียนจิ้งทุกครั้ง มันทำให้เธออิจฉาริษยาแทบเป็นบ้า แต่ว่าครั้งนี้เธอกลับไม่มีอาการอิจฉาริษยาใดๆ แต่กลับยืนอยู่เงียบๆรอดูเรื่องสนุก ทุกคนปรบมือให้เถียนจิ้งต้อนรับเถียงจิ้ง เธอยืนบนรองเท้าส้นสูงและค่อยๆเดินอยู่บนพรมแดง เธอเดินเข้าไปคล้องแขนพ่อของเธอ ยืนอยู่ข้างๆพ่อของเธออย่างเหมาะสม และให้ทุกคนถ่ายรูป แต่วินาทีต่อจากนั้น เธอรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แขนของเธอ ลำคอ รวมไปถึงใบหน้าของเธอเริ่มมีสีแดง และเริ่มรู้สึกคัน อีกไม่กี่วินาทีต่อมา ผิวของเธอก็บวมและแดงและเต็มไปด้วยจุดสีแดงๆ ตาของเธอก็เริ่มบวม และเธอรู้สึกเหมือนจะเป็นลม ซวยแล้ว เธอเกิดอาการแพ้ พ่อที่ยืนอยู่ข้างๆเธอก็รู้สึกได้ถึงความไม่ปกติ เขาจับตัวเธอเอาไว้ “จิ้งจิ้ง เป็นอะไร” เถียนจิ้งดม เพียงครั้งเดียวเธอก็รู้เลย เธอจับแขนพ่อของเธอ และดม เธอแน่ใจทันทีว่าเธอแพ้เกสรดอกลิลลี่ที่อยู่บนชุดสูทรพ่อของเธอ เธอแพ้เกสรดอกลิลลี่มาตั้งแต่กำเนิด แค่เพียงเธอแตะต้องเกสรดอกลิลลี่ตัวของเธอก็จะบวมแดงทั้งแสบทั้งคัน แต่ก่อน ตอนที่อยู่มหาลัย มีผู้ชายคนนึงมาจีบเธอแต่ไม่รู้เรื่องที่เธอแพ้เกสรดอกลิลลี่ ตอนที่เขาขอเธอเป็นแฟนเขาเอาดอกลิลลี่ช่อใหญ่มายัดใส่มือของเธอ ทำให้เธอต้องเข้าโรงพยาบาลนานถึงอาทิตย์ถึงจะกลับมาเป็นปกติ ครั้งนี้เธอก็โดนอีกแล้ว คนรอบข้างที่เห็นเธอมีท่าทางผิดปกติ คนกลุ่มนึงก็ตกใจกับการเปลี่ยนไปของร่างกายเธอ “โอ้ คุณเถียนจิ้งหน้าตาเปลี่ยนไปหน้าตาน่าเกลียดมากเลย” “น่าเกลียดจริงๆ เหมือนหัวหมูเลย น่าขยะแขยงมาก” “เกินไปแล้ว ตาของเธอบวมมาก แขนของเธอก็มีจุดแดงๆ มันจะแพร่เชื้อมั้ยเนี่ย” เป็นแบบนี้ทุกคนก็ค่อยๆถอยหลังไป ราวกับว่าเถียนจิ้งได้รับการแพร่เชื้อจากโรคระบาดจริงๆ บรรยากาศที่ดูสนุกสนานรื่นเริง ตอนนี้ก็เริ่มเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วนขึ้นมา คนตระกูลเถียนเข้าใจสถานการณ์ของเถียนจิ้งมากๆ หยูจิงหยิงปวดใจมากและรีบอธิบายออกไปว่า “ไม่ใช่นะ ไม่ใช่แบบนั้น ทุกคนไม่ต้องตกใจ ไม่ใช่โรคระบาด จิ้งจิ้งของเราไม่ได้เป็นโรคระบาด เธอแค่แพ้ เธอแค่แพ้เกสรดอกไม้” แต่ว่า ทุกคนต่างตกใจกลัวไปหมดแล้ว ไม่มีใครฟังเธออธิบายเลยซักคน เหอลี่หย่ายืนชมอยู่ข้างๆ มองดูเถียงจิ้งที่กำลังค่อยๆเปลี่ยนเป็นคนที่หน้าตาน่าเกลียดอยู่บนเวที เธอรู้สึกความเพลิดเพลินมาก เหอจี้เคอผู้ที่ลงมือทำเรื่องเลวร้ายก็แสดงความคิดชั่วร้ายออกมา มีคนในงานมากมายและยังมีพวกเพื่อนอีกจำนวนหนึ่ง งานนี้เถียนจิ้งรอขายหน้าอย่างเดียวเลย เถียนจิ้งรู้ตัวดีว่าอีกไม่นานตัวเธอจะต้องเปลี่ยนเป็นคนที่น่าเกลียดมากแน่ๆ และต้องอับอายขายหน้า เธออยากจะรักษาหน้าไว้แต่ว่าอาหารแพ้เกสรดอกไม้ของเธอมันหนักมากจริงๆ ตอนนี้เธอรู้สึกทรมานต่างๆนาๆทั้งบวมแดง แสบคัน และยังมีอาการคลื่นไส้ ทรมานเจียนตาย การดูถูกและตำหนิจากคนในงานทำให้เธอตัวสั่น เถียนโม่เชียนพยุงลูกสาวอย่างปวดใจ “ใครก็ได้มานี่หน่อย พาจิ้งจิ้งเข้าไปพักในห้องที” หยูจิงหยิงเอาผ้าขนหนูมาจากพนักงานโรงแรม ใช้น้ำเปล่าพรมพรม และรีบพุ่งเข้ามาอย่างเป็นห่วง “ฉันจะเอาผ้าเช็ดหน้าให้จิ้งจิ้งก่อน เธอจะได้รู้สึกดีขึ้น” ตอนนี้ภายในงานเปลี่ยนเปลี่ยนวุ่นวายหยุ่งเหยิง เหมือนกับน้ำที่กำลังเดือดพล่าน เถียจจิ้งรู้สึกทรมานมากจนเธอเกือบจะทนไม่ไหว วินาทีก่อนที่เธอจะหมดสติลง ก็มีคนนึงวิ่งผ่านฝูงชนที่กำลังพลุกพล่านตรงมาทางเธอ 
已经是最新一章了
加载中