บทที่ 30 ผมกำลังปกป้องคุณ   1/    
已经是第一章了
บทที่ 30 ผมกำลังปกป้องคุณ
บ๗ที่ 30 ผมกำลังปกป้องคุณ เถียนโม่เชียนและซูยี่เดินตามมาข้างหลัง พอได้ยินเสียงร้องขึ้น ก็รับวิ่งขึ้นมา เห็นเหอลี่หย่านอนจมกองเลือดอยู่ข้างหน้า เขาก็รีบวิ่งเข้าไปและอุ้มเธอเข้ามากอด แต่เถียงจิ้งยืนอยู่บนบันได้ จ้องมองมือของตัวเองอย่างงงวย เธอได้ออกแรงอะไรเลย เพราะฉะนั้น เหอลี่หย่าตั้งใจแกล้งกลิ้งลงไป แต่ตอนนี้เธอไม่มีหลักฐาน เหอลี่หย่าเลือดออกเยอะมาก และร่างกายของเธอก็ซบอยู่ที่อกของเถียนโม่เชียนอย่างอ่อนแอ และพึมพำว่า “สามีขา เจ็บมากเลย เจ็บแขน เจ็บหัว เจ็บ” ตอนนี้เอง เหอจี้เคอก็รีบวิ่งเข้ามา เขาเห็นพี่สาวของเขานอนจมกองเลือด ก็ตกใจและรีบพูดขึ้นว่า “พี่ครับ พี่เป็นยังไงบ้าง” เหอลี่หย่าส่ายหัวอย่างอ่อนแอ และจงใจพูดวา “ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอก แต่เจ็บนิดหน่อย นายอย่าโทษจิ้งจิ้งเลยนะ เธอไม่ได้ตั้งใจ” เธอมั่นใจว่า สองพี่น้องคู่นี้ต้องสื่อสารอะไรกันบางอย่าง เป็นอย่างที่คิดไว้ เหอจี้เคอได้ฟังรหัสลับสองคำจากปากของพี่สาวเขา และลุกขึ้นหันมาจ้องเถียนจิ้งตาเขม่น และตะโกนออกมาว่า “ไม่ระวังอะไรกัน เมื่อกี้ผมเห็นเธอโยนโทรศัพท์พี่แล้วยังกระทืบๆซ้ำอีก แล้วยังผลักพี่ลงมา เธอทำเกินไปแล้วนะ พี่ยังปกป้องเธออีกหรอ” เหอลี่หย่าทำทีว่าลำบากใจ น้ำตาไหลและส่ายหน้า “จี้เคออย่าพูดมาก” เถียงจิ้งยืนอยู่ข้างๆ มองเห็นสองพี่น้องกำลังแสดงละคร แต่พ่อของเธอกลับกอดเหอลี่หย่าอยู่ และรีบโทรเรียกรถพยาบาล เขาแสดงความเป็นห่วงออกมาอย่างชัดเจน เธอมองดูถึงตรงนี้ และถอนหายใจเบาๆ เธอพูดนิ่งๆว่า “ฉันไม่ได้แรงผลักเธอ” เหอจี้เคอแววตาแสดงออกถึงความโกรธแค้นและพูดออกมาว่า “พี่สาวของผมถูกคนผลักลงมาจนเป็นแบบนี้ เธอยังปฏิเสธอีกหรอ ผมรู้ว่าสามีของพี่ผมรักคุณมาก และผมก็รู้ว่าคุณไม่ค่อยชอบพี่สาวผม แต่ผมคิดไม่ถึงว่าผู้หญิงคนเดียวอย่างคุณ อ้อไม่สิ ตอนนี้คุณกำลังท้องอยู่ คิดไม่ถึงเลยจริงๆว่าผู้หญิงท้องอย่างคุณจะกล้าทำเรื่องชั่วร้ายแบบนี้ ” เถียงจิ้งยิ้มอย่างเย็นชาและพูดซ้ำอีกรอบว่า “ฉันขอพูดอีกรอบว่า ฉันไม่ได้ใช้แรงผลักเธอเลย ส่วนเรื่องที่เธอกลิ่งล้มลงไปนั้น ใจเธอรู้ดี” “หุบปากเดี๋ยวนี้ พอได้แล้ว”เหอจี้เคอมองเห็นเถียนโม่เชียนกำลังเป็นห่วงพี่สาวของเขาอยู่เขาก็ยิ่งได้ใจ และพูดแรงขึ้น เรื่องที่เจ็บใจจากคราวที่แล้วก็ระเบิดออกมาด้วย “ถ้าพี่สาวผมเป็นอะไรไปละก็” เถียนจิ้งถูกเขาตะโกนใส่จนตัวสั่น ตอนที่เธอกำลังตกใจอยู่นั้นก็มีร่างใหญ่ๆดึงเธอเข้ามากอด และบนหัวของเธอก็มีเสียงโหดๆตะโกนออกมาว่า “นายหุบปาก” ความโมโหที่ลุกเป็นไฟของเหอจี้เคอก็ต้องดับลงเมื่อได้ยินเสียงโหดๆนี้ เขาไม่เคยเห็นคนที่ทรงพลังแบบนี้มาก่อน แค่คำสามคำก็ทำให้เขาสามารถหุบปากได้ ยิ่งไปกว่านั้นคือเขาไม่กล้าสบตาผู้ชายคนนี้ สิ่งที่น่ากลัวที่สุดก็คือผู้ชายคนนี้เต็มไปด้วยความอันตราย เขากลืนความโกรธของเขาลงไปทั้งหมด ไม่กล้าพูดออกมาแม้แต่คำเดียว สติของเหอลี่หย่ายังมีครบอยู่ เธอหงุดหงิดใจน้องชายของเธอโอกาสดีแบบนี้ทำไมไม่เถียง แต่กลับโดนเขาด่าจนเงียบ เธอจับแขนของเถียนโม่เชียนแน่น และพูดเสียงแผ่วๆว่า “สามีขา คุณอย่าโทษจิ้งจิ้งเลยนะคะ ไม่ว่าจะว่ายังไง ฉันก็เป็นรุ่นพี่ ไม่ควรจะเอาเรื่องเอาราวกับเธอ เธอก็แค่อารมณ์ชั่ววูบเท่านั้น” เถียนโม่เชียนเห็นเธอกำลังทุกทรมานจนหน้าซีดเซียว เขาขมวดคิ้วและมองเธอด้วยความเจ็บปวด “โอเค ผมเข้าใจแล้ว เข้าใจแล้ว คุณอย่างพึ่งพูดอะไรเลย เดี๋ยวรถพยาบาลก็มาแล้ว คุณอดทนหน่อยนะ” เถียนจิ้งถอนหายใจ และพยายามพูดต่อไปว่า “ฉันขอบอกอีกครั้งนึงว่าฉันไม่ได้ใช้แรงผลักเธอ” ·เหอลี่หย่าจงใจร้องออกมาว่า “ฮือฮือ เจ็บ เจ็บจัง” เถียนโม่เชียนรู้สึกเจ็บใจมาก ในขณะนั้นเขาควบคุมความรู้สึกของตัวเองไว้ไม่อยู่เลยตะโกนใส่เถียงจิ้งว่า “พอได้แล้ว หยุดพูดได้แล้ว” เถียนจิ้งถูกตะโกนใจจนรู้สึกเสียใจ แต่เธอกลับอดทนเอาไว้ หลังจากนั้นเธอก็พูดออกมาอย่างอึดอัดว่า “ฉันไม่ค่อยสบาย กลับบ้านก่อนนะ” พูดจบ ก็ลากซูยี่ขึ้นรถกลับบ้าน รอจนรถของพวกเขาออกไป เหอจี้เคอถึงจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม หลังจากที่หมดความกดดันจากซูยี่ความโกรธก็เริ่มกลับมา เขากัดฟันพูด “พี่ก็ใจดีเกินไป พี่เขยก็เข้าข้างลูกของเขาเกินไป” เถียนโม่เชียนพูดอย่างรำคาญว่า “นายหุบปาก แค่นี้ยังวุ่นวายไม่พอใจนายใช่มั้ย” รถพยาบาลมาแล้ว เขาอุ้มเหอลี่หย่าขึ้นแคร่อย่างปวดใจ และเขาก็ตามไปที่โรงพยาบาลด้วย ขณะที่อยู่บนทาง เถียนจิ้งก็เปิดหน้าต่างรถครึ่งนึง ยื่นมือออกไปรับลมเย็น ให้ลมเย็นที่พัดมาโดนมือพัดความเศร้าของเธอออกไปด้วย เธอไม่ได้พูดอะไร ซูยี่ก็เงียบ หลังจากนั้น ซูยี่ก็ยื่นมือออกมากดปุ่มปิดหน้าต่าง “อากาสเย็น” เถียนจิ้งถอนหายใจออกมาเบาๆ ใบหน้าของเธอยังเต็มไปด้วยความกังวล เธอเอามือมาลูบหน้าตัวเอง และพึมพำว่า “หน้าแพ้แบบนี้ ต้องขี้เหร่มากเลยใช่มั้ย” เธอแค่พูดออกมาลอยๆไม่ได้หวังได้ซูยี่ตอบกลับ แต่ซูยี่ก็ตอบกลับ เขาพูดนิ่งๆว่า “ขี้เหร่มาก” เถียนจิ้งรีบมองบนไปทางเขา “ขี้เหร่แล้วยังจูบอีก แถมยังยูบซะจริงจัง” “ผมไม่ถือ ผมกำลังปกป้องคุณอยู่” เสียงของเขายังคงนิ่งๆ แต่ในแววตาของเขากลับเปล่งประกาย แต่ในใจของเถียนจิ้งฟังดูแล้วกลับรู้สึกอบอุ่น ผู้ชายคนนี้เป็นคนแบบไหนกันนะ ทำไมถึงได้คอยปกป้องเธอ เธอจ้องมองผู้ชายรูปหล่อที่อยู่ในรถด้วยจิตใจที่สับสน ผู้ชายข้างๆเธอยังคงพูดปลอบใจเธอ “ในสถานการณ์แบบนั้น พ่อของคุณคงคิดว่าปัญหาคือไม่ใช่จะเชื่อใครดี แต่เขากำลังรอรถพยาบาลอย่างใจร้อน” เถียนจิ้งงงงวย เธอคิดว่าถึงว่าเรื่องแบบนี้เขาก็ยังจะใส่ใจ และยังเอามุมมองของพ่อเธอมาปลอบเธออีกตางหาก ใจเธอเริ่มดีขึ้นมา “นายเข้าใจจิตวิทยาหรอ” “รู้นิดหน่อย” ซูยี่ตอบกลับแบบนิ่งๆ เถียงจิ้งมองไปที่เขาและยิ้มออกมา แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก และมองไปข้างนอกหน้าต่างอีกครั้ง แต่ซูยี่กลับเป็นคนพยายามหาหัวข้อพูดคุย “ผมเป็นถังขยะให้คุณได้นะ” เถียงจิ้งยังมีเรื่องเศร้าเก็บไว้ในใจอีกมากมาย เธอหันหน้าไปมองเขา “นายพูดจริงหรอ” “แน่นอน” ซูยี่พยักหน้า นิสัยของเถียนจิ้งนั้นเป็นคนทีชอบแสดงออกอยู่แล้ว ดังนั้นเธอเลยเอาเรื่องที่เธอไม่สบายใจทั้งหมดพูดออกมา “ฉันเดาว่าบนเสื้อสูทของพ่อฉันจะต้องมีเกสรดอกลิลลี่ที่เหอลี่หย่าเป็นบนเอามาทาลงไป ยังไงเธอก็แน่ใจว่าเธอเป็นคนทำ และยังรู้อีกว่า ยังไงเธอก็คงหาหลักฐานไม่พบ และยังรู้อีกว่า ถ้าหากว่าหาหลักฐานเจอก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดี เพราะว่าพ่อของฉันรักเธอมาก เขาเอาของที่เขารักทุกอย่างยกให้เธอ ฉันรู้ว่าทุกคนมีหน้าที่ของตัวเอง พ่อของฉันไม่ได้เป็นแค่พ่อของฉันเท่านั้น เขายังเป็นสามีของเหอลี่หย่าอีกด้วย เขารักฉันและเขาก็รักเหอลี่หย่าเหมือนกัน บ่อยครั้งที่ฉันยอมเศร้าเพื่อไม่ให้พ่อฉันลำบากใจ” “คุณรู้อะไรมั้ย ความเศร้าพวกนั้นถ้าเก็บไว้มันก็จะหายไปเอง ฉันไม่สามารถพูดกับพ่อฉันได้ และก็พูดกับป้าไม่ได้ ฉันอยากให้บ้านฉันมีแต่เรื่องดีๆฉันไม่อยากให้พ่อฉันลำบากใจ บางที บางทีฉันก็ขอบคุณการมองโลกในแง่ดีของฉัน เพราะการมองโลกในแง่ดีของฉันมันทำให้ฉัน สูงขึ้น และความเศร้าก็จะไม่สามารถมาทำอะไรฉันได้” เธอพูดไปพลางเอาหัวพิงไปที่กระจกหน้าต่างรถ และท่าทางเหี่ยวแห้ง วินาทีต่อจากนั้น มือเล็กๆของเธอก็ถูกโอบอุ้มด้วยมือที่ทรงพลังคู่นึง 
已经是最新一章了
加载中