บทที่ 32 ควบคุมไม่อยู่
1/
บทที่ 32 ควบคุมไม่อยู่
อุบัติรักเหนือลิขิต
(
)
已经是第一章了
บทที่ 32 ควบคุมไม่อยู่
บ๗ที่ 32 ควบคุมไม่อยู่ เถียนจิ้งกำลังเดินทางกลับบ้าน เพราะการแสดงออกของซูยี่ ทำให้อารมณ์นั้นสับสนปนเปกันไปหมด เห็นใบหน้าของซูเที๋ยนเที๋ยนที่เยาะเย้ยเธอ เธอก็ไม่สนใจ แต่หลังจากที่ซูเที๋ยนเที๋ยนได้เห็นรายงานผลการแพ้ทางผิวหน้าของเถียนจิ้งที่พาดหัวข่าวในเว่ยป๋อ ก็นั่งบนโซฟาเพื่อรอโอกาสนี้มาตลอด คิดว่าตรงไหนที่เป็นจุดที่ทำให้ตายได้ง่ายนะ เอายกมือกอดอก ทำตรงไหนดีนะ บนหรือล่าง หน้าหรือหลัง ซ้ายหรือขวาของเถียนจิ้งดี หลังจากนั้นจู่ๆก็หัวเราะออกมา “เถียนจิ้งคนสวย คุณรู้ไหมว่าคุณเป็นแบบนี้ มันทำให้ฉันนึกถึงตัวละครตัวหนึ่งอยู่เลย” เถียนจิ้งไม่พูดตอบ คนข้างๆจึงช่วยตอบแทนเธอ “เรียกพี่สะใภ้ เธอคือพี่สะใภ้รอง” ซูเที๋ยนเที๋ยนเผยยิ้มบนใบหน้า และยู่ปากเบาๆ แสดงออกมาอย่างกับเด็กต่อหน้าซูยี่ “คนในบ้านไม่คุ้นชิน เรียกไม่ถนัดปากสักเท่าไหร่ค่ะ” ซูยี่ขมวดคิ้วขึ้น พูดเสียงเรียบนิ่งว่า “งั้นก็เริ่มทำความคุ้นชินตั้งแต่ตอนนี้สิ” ซูเที๋ยนเที๋ยนแสดงออกอย่างไม่พอใจ “มันคุ้นชินไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกค่ะ” “เรียกพี่สะใภ้รอง” น้ำเสียงของซูยี่ถึงจะเรียบนิ่ง แต่สายตาของเขาจ้องมองไปที่ซูเที๋ยนเที๋ยนด้วยความไม่พอใจ สิ่งที่เธอกลัวคือซูยี่ ดังนั้นเธอจึงพึมพำอย่างไม่เต็มใจว่า “เรียกก็เรียก ทำไมต้องดุด้วย” เธอจึงหันไปมองเถียนจิ้งแล้วพูดว่า “พี่สะใภ้รองที่น่ารักของฉัน เรามาคุยกันต่อจากเมื่อครู่เถอะ คุณเดาได้ไหมว่าคุณที่เป็นแบบนี้ทำให้ฉันคิดถึงตัวละครไหนอยู่” เถียนจิ้งหายใจเข้าลึกๆ แล้วพูดว่า “ดึกแล้ว รีบไปอาบน้ำแล้วนอนเถอะ” ซูเที๋ยนเที๋ยนตั้งใจหยิบกระจกออกมา “คุณไม่อยากเดา ฉันก็จะบอกคุณเอง เหมือนตือโป๊ยก่ายไง หน้าตาคุณเหมือนพี่ชายคนที่สองในเรื่องไซอิ๋วเลย คุณดูสิ” แม้ว่าเถียนจิ้งจะเตือนซูเที๋ยนเที๋ยนให้ห่างจากเธอบ่อยๆ แต่ซูเที๋ยนเที๋ยนก็ทำเป็นไม่สนใจ เธอจำเป็นต้องพูดตอกกลับไป แล้วเอามือไปจับผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างๆ เอาตัวแนบชิดกับผู้ชายข้างๆ แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “แล้วเกี่ยวอะไรกับที่เหมือนตือโป๊ยก่าย สามีของฉันเขาไม่ได้รังเกียจฉัน เที๋ยนเที๋ยนฉันว่านะคุณไปดูวิดีโอฉลองครบรอบมา คุณก็น่าเห็นนะว่าพี่ชายรองของคุณจูบฉัน เขาไม่แม้แต่จะรังเกียจ มิหนำซ้ำเขายังรู้สึกเจ็บแทนฉัน เอาใจใส่ฉัน ฉันก็ถือว่าเป็นความโชคดีในความโชคร้ายของฉันแล้วล่ะ” ซึ่งคำพูดทำให้ใบหน้าของซูเที๋ยนเที๋ยนหุบยิ้มลง สายตาของเธอประกายความอิจฉาออกมา พูดออกมาด้วยความตกใจว่า “พี่รองคะ พี่รับคนที่ปากคอเราะรายแบบนี้ได้ยังไง พี่จูบใบหน้าแบบนี้ลงไปได้ยังไง” ซูยี่มีสีหน้าเรียบนิ่ง ไม่ทันได้พูดอะไรออกมา เถียนจิ้งก็พูดต่อว่า “ใช่ค่ะ ฉันก็แปลกใจมากเหมือนกัน แต่อย่างว่านะพี่รองของคุณก็ไม่ได้ใส่ใจมันสักนิด” สีหน้าที่อิจฉาของซูเที๋ยนเที๋ยนก็เปลี่ยนไป มือเล็กนั้นกำมือแน่น สายตามองไปที่เถียนจิ้งด้วยความเกลียดชัง เถียนจิ้งมองเธอกลับด้วยสายตาที่ไร้เดียงสา สายตาเชือดเฉือนกัน “อ้อ ใช่แล้ว พี่รองของคุณที่เจ็บแทนฉัน เราทานมื้อเย็นกันไม่อิ่ม เขาจึงอาสาเข้าครัวทำอาหารให้ฉันทาน คุณอยากทานไหม อยากจะมาทานด้วยกันหน่อยไหม” หลายครั้งที่เผชิญหน้ากัน โดยปกติแล้วเธอรู้นิสัยของคุณหนูคนที่สามของบ้านดี เธอมั่นใจว่าซูเที๋ยนเที๋ยนจะต้องโกรธจนควันออกหูแน่นอน ดังนั้นจึงตั้งใจพูดยั่วโมโหแบบนั้นออกมา ความอิจฉาในแววตาของซูเที๋ยนเที๋ยนได้เริ่มขึ้นอีกครั้ง เธอรู้สึกโกรธจัดจนตัวสั่น และพูดอย่างทนไม่ไหวว่า “ฉันไม่อยากทานข้าวกับคุณ เห็นหน้าคุณแล้วอยากจะอาเจียน” ตอนนี้เองซูยี่ก็พูดออกมาประโยคหนึ่งว่า “อย่ามาทำกิริยาหยาบคายแบบนี้กับพี่สะใภ้รองนะ” ดวงตาของซูเที๋ยนเที๋ยนเปลี่ยนเป็นสีแดง พูดตะคอกใส่เขาว่า “พี่มันแย่ที่สุด ตั้งแต่ที่พี่แต่งงานและเอาเธอเข้ามาในตระกูลทุกอย่างก็เปลี่ยนไปหมด เมื่อก่อนพี่ไม่เคยดุฉันเลย พี่มันน่าเบื่อ และน่ารำคาญที่สุด” พูดจบก็เดินขึ้นข้างบนด้วยความโกรธจัด เถียนจิ้งมองหลังของเด็กนั่น ก็ส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย เด็กคนนี้ไม่มีความเฉลียวฉลาดเลยสักนิด ทุกครั้งมักจะตั้งใจมองหาความผิดพลาด และทุกครั้งก็จะเอาตัวเองโกรธจนควันออกหู นี่คือคุ้มแล้วใช่ไหม รอให้คุณหนูคนที่สามของบ้านมองหาความผิดเสร็จ หมอประจำตระกูลที่อยู่ข้างๆก็พูดขึ้นมาว่า “คุณชายรองครับ ผมขอไปตรวจและรักษาคุณหญิงก่อนนะครับ” ซูยี่พยักหน้า พูดกับเถียนจิ้งว่า “ถ้ามีตรงไหนที่ยังเจ็บก็บอกหมอนะ ผมไปทำอาหารก่อน” มองผู้ชายที่พูดเสร็จเดินเข้าห้องครัวไป เถียนจิ้งกับหมอประจำตระกูลก็มองด้วยความว่างเปล่า สุดท้ายเธอก็หันไปทางหมอ ยิ้มอย่างอายๆแล้วพูดว่า “หมอคะ เชิญทางนี้ค่ะ” หมอประจำตระกูลถอนหายใจออกมา เย็นนี้เขาได้เห็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เขาที่ทำงานอยู่เป็นหมอของตระกูลซูมาก็หลายปี ก็ไม่เคยเห็นคุณชายรองจะเคยเข้าครัว คุณชายรองจะเข้าครัวทำอาหารให้คุณหญิงจริงๆเหรอ นี่มันมหัศจรรย์ใจจริงๆ หมอประจำตระกูลได้เริ่มให้ยาทาเอาไว้ทาให้แก่เถียนจิ้ง สั่งให้เธอต้องพักผ่อนเยอะๆ ให้หลีกเลี่ยงอาหารบางชนิด หลังจากที่เถียนจิ้งล้างหน้า แล้วเอายามาทา ทาเสร็จก็ลงมาข้างล่าง ในห้องครัว ซูยี่ที่กำลังยุ่งอยู่ ร่างกายที่สูงใหญ่ของเขายืนอยู่ในห้องครัว ไม่มีอะไรพิเศษ บรรยากาศดูสบายๆ ทักษะการใช้มีดของเขาไม่เลวเลยทีเดียว มีดที่กำลังหั่นมันฝรั่งนั้นดูชำนาญมาก ภาพลักษณ์ที่ดูจริงจังนั้น ยังมีคนหลงใหลอยู่จริงๆ แสงไฟในห้องครัวสาดส่องไปที่ตัวเขา ทำให้ดูมีรัศมีที่มีเสน่ห์แผ่ออกมา เธอดูอึ้งเล็กน้อย เธอจำได้ว่ามีครั้งหนึ่งที่เชอเหมิงเหมิงเคยพูดไว้ว่าท่านประธานที่ทำอาหารเป็นจะมีเสน่ห์มาก ตอนนั้นเธอไม่ได้ใส่ใจ พอมาตอนนี้เธอยอมรับว่าที่เชอเหมิงเหมิงพูดนั้นถูกต้องที่สุด ซูยี่ที่ไม่เพียงแค่เก่งหั่นผัก การผัดนั้นก็ยังมีความชำนาญมาก แม้ว่าผู้ชายคนนี้กำลังทำอาหารอยู่ แต่ก็ไม่เคอะเขินเลยสักนิด กลับยิ่งมีสง่าและความภูมิใจมาก ลอยอยู่ทั่วในอากาศของห้องครัวตลอดเวลา “มาทานข้าวได้แล้วครับ” เสียงที่ดึงดูดได้หยุดความคิดของเถียนจิ้งลง เธอรู้สึกหน้าแดงอย่างอายๆ “งั้นฉันช่วยคุณยกอาหารเอง” ซูยี่กลับลากเธอมานั่งที่โต๊ะทานข้าว ลากเก้าอี้ออกให้ “คุณนั่งอยู่นี่ ผมไปยกเอง” เร็วมาก อาหารทั้งสามอย่างและแกงหนึ่งถ้วยก็อยู่บนโต๊ะ อาหารที่ทานได้ง่ายๆในบ้าน ก็จะมี มันฝรั่งฝอยทอด ผัดแตงกวา ผัดเปรี้ยวหวานเนื้อ และยังมีซุปไข่มะเขือเทศด้วยอีกอย่าง ซูยี่ตักข้าวให้เธอ “ทานข้าวเถอะ ชิมดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมทำอาหารสำหรับคนตั้งครรภ์ให้ทาน” เถียนจิ้งรู้สึกซาบซึ้งถึงความใส่ใจของเขาอีกครั้ง ชิมหมดทุกจานแล้วก็พยักหน้า แล้วพูดแหย่เล่นว่า “คุณซูคะ คุณนี่น่าทึ่งจริงๆ คิดไม่ถึงว่าคุณจะทำอาหารออกมาได้อร่อยขนาดนี้” สายตาที่อบอุ่นของซูยี่มองไปที่เธอ “ถ้าชอบก็ทานเยอะๆ จากนี้ไปถ้ามีเวลาผมจะทำให้คุณทานอีก” หัวใจของเถียนจิ้งนั้นเต็มไปด้วยความสุขและความหวานชื่น “ฉันพูดจริงนะคะ” “อืม” ตัวซูยี่เองก็ทานข้าวอย่างอิ่มเอมใจ ช่วยเธอหั่นเนื้อ “ทานเยอะๆ ตอนตั้งครรภ์คุณคงลำบากน่าดู” ตอนนั้นเองเถียนจิ้งก็รู้สึกถึงการสั่นของหัวใจ เพื่อเก็บอาการนี้ไว้ เธอจึงก้มหน้าทานข้าวต่อ หลังจากทานข้าวในชามหมด ซูยี่ก็ตักข้าวให้เธออีก “ทานอีกสิ” เถียนจิ้งจู่ๆก็รู้สึกว่าความรู้สึกของเราสองคนที่กำลังทานข้าวอยู่นั้นดูอบอุ่นมาก เธอจึงพูดว่า “คุณซูคะ....คุณดีกับฉันจังเลยค่ะ” สายตาของซูยี่เก็บซ่อนความรู้สึกเอาไว้ เขาส่ายหน้า “ไม่” “งั้นเย็นนี้ฉันควรจะได้รับเกียรติไหมที่ถูกคุณปกป้อง และยังได้ทานอาหารที่คุณทำอีก” เถียนจิ้งชอบบรรยากาศที่ผ่อนคลายแบบนี้ เธอจึงพูดหยอกเล่น ซูยี่กลับมองที่เธออย่างจริงจัง พูดว่า “คุณควรจะเรียนรู้ความเคยชินไว้นะ” อ่า เถียนจิ้งควบคุมใจตัวเองไม่อยู่แล้วจึงได้แต่ก้มหน้าทานข้าว ทานเสร็จเธอก็เตรียมจะกลับห้องของตัวเองไปพักผ่อน ตอนนั้นซูยี่กลับตามเธอเดินเข้าไปในห้อง
已经是最新一章了
加载中
下载 LoveNovel
海量小说享免费阅读
立即下載
需支付:
0.00
บทที่ 32 ควบคุมไม่อยู่
去登录
APP免费观看
自动购买下一章
余额:
0
充值
0
领星星
取消
发布
A
A
A
A
A